ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 22: สัญญาณแก้วแตก

‘โชคดีที่ฉันปิดหน้าของเขาเอาไว้ น้ำเสียงของเขาฟังดูเหมือนกับว่าการแต่งงานของน้องสาวเป็นเรื่องร้ายแรงเลย’
 
เฉินเฉินรู้สึกค่อนข้างสิ้นหวังข้างในใจแต่ก็ต้องทำหน้าให้ดูประหลาดใจ
 
“แน่นอนว่าไม่ได้อยู่แล้ว!”
 
ก่อนที่เฉินเฉินจะได้ปฏิเสธ เสียงปฏิเสธนึงก็ดังก้องไปทั่วห้องรับแขก ทุกคนมองไปยังต้นเสียง ด้วยความประหลาดใจกับสิ่งที่พวกเขาเห็น
 
ส่วนคนพูดนั้นก็คือลูกพี่ลูกน้องของจางจี อู๋เหว่ย
 
เฉินเฉินขมวดคิ้วแต่ไม่ได้พูดอะไร แล้วเย้ยหยันอยู่ในใจ อู๋เหว่ยคนนี้ค่อนข้างอ่อนประสบการณ์นะ โดนกระตุ้นแค่นิดหน่อยก็เผยแผนการหลักของตัวเองออกมาแล้ว แถมยังพูดก่อนเขาด้วย
 
อู๋เหว่ยตระหนักได้ว่าคำพูดของเขามันดูไม่ดี แล้วปรับแต่งพวกมันใหม่ “ข้าหมายถึง การแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญและควรจะจัดการด้วยการปรึกษาพูดคุยที่มากกว่านี้ มันไม่ควรตัดสินใจง่ายๆแบบนั้นนะครับ”
 
ในขณะที่เขากลบเกลื่อนได้อย่างดี เฉินเฉินก็มองเห็นร่องรอยของความเกลียดชังฝังลึกอยู่ในดวงตาของเขา
 
“เสี่ยวหยาเจ้าคิดว่ายังไง?”
 
ด้วยความที่จางเต๋อคิดว่าเรื่องนี้มันดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย เขาจึงยังไม่ได้ทำการตัดสินใจ แล้วมองลูกสาวที่กำลังเขินอายของเขาแทน
 
จางเสี่ยวหยาก้มหน้าลง และชำเลืองมองเฉินเฉิน เธอยังคงเงียบอยู่สักพัก และในที่สุดเธอก็พูดออกมาด้วยความดังระดับเสียงยุง “ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของท่านพ่อกับท่านแม่ก็แล้วกันค่ะ…”
 
การเป็นเด็กผู้หญิงในโลกนี้ เธอถูกปลูกฝังแนวคิดมาว่าเรื่องใหญ่ๆอย่างการแต่งงานนั้นควรตัดสินโดยได้รับคำแนะนำจากพ่อแม่
 
บวกกับความจริงที่ว่าเฉินเฉินถึงจะสวมเสื้อผ้าโทรมๆ แต่ก็มีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งทำให้เขาแตกต่างจากพ่อและพวกพี่ชายที่ค่อนข้างหยาบกร้านกว่าและเชี่ยวชาญในการต่อสู้ ถ้าการแต่งงานเกิดขึ้นจริงๆ…เธอก็ไม่มีปัญหากับมัน
 
“เอ่อ ว่าไงนะ?”
 
ในขณะที่มองใบหน้าเขินอายของจางเสี่ยวหยา เฉินเฉินก็รู้สึกประหลาดใจมากและอดถามคำถามกับระบบไม่ได้
 
“ระบบ ใครเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มากที่สุดในรัศมี 15 เมตร?”
 
“ท่านเจ้าของค่ะ”
 
เฉินเฉินจัดผมของตัวเองโดยไม่รู้ตัวในตอนที่ได้ฟังคำตอบ
 
ก็นะ ถ้าไม่คำนึงถึงเสื้อผ้าและอำนาจ เสน่ห์ของเขาก็โดดเด่นเหมือนกับหิงห้อยในความมืดที่อยู่ในตระกูลจาง
 
มันเป็นเรื่องปกติที่เด็กสาวธรรมดาจะทนเสน่ห์ของเขาไม่ได้
 
“แล้วคนที่มีเสน่ห์น้อยที่สุดในรัศมี 15 เมตรหล่ะ?” เฉินเฉินมองผู้ชายสามคนจากตระกูลจาง แล้วถามด้วยความเสียดสีระดับนึง
 
“ชายคนที่อยู่ข้างหลังกำแพง สามเมตรข้างหลังท่านค่ะ”
 
เฉินเฉินอึ้งกับคำตอบเล็กน้อย จากสัมผัสของเขา เขาไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีคนอยู่หลังกำแพงด้วย
 
นี่อาจจะเป็นความบังเอิญที่มากเกินไปก็ได้
 
“ระบบ มีคนอยู่กี่คนในรัศมี 15 เมตร?”
 
“สิบห้าคนค่ะ ตำแหน่งคือ…”
 
ในตอนที่ระบบพูดจบ สีหน้าของเฉินเฉินก็แข็งทื่อ ความคิดขบขันของเขาหลุดหายไปหมดแล้ว
 
ข้างในห้องรับแขก มีคนจากตระกูลจางอยู่ห้าคน บวกกับคนรับใช้หนึ่งคน ซึ่งถ้านับเขาด้วยรวมทั้งหมดก็ 7 คน
 
ส่วนอีกแปดคนกำลังซุ่มอยู่ใกล้ๆห้องรับแขก และนี่ยังไม่พูดถึงความจริงที่ว่าเขาไม่รู้สึกถึงร่องรอยของพวกเขาด้วย
 
ต่อให้เขาถูกบอกว่านี่ไม่ใช่การลอบโจมตี เขาก็คงไม่เชื่อหรอก
 
ใครจะไปปกป้องตระกูลในลักษณะนี้ได้หล่ะ?
 
เขาถามระบบต่อว่ามีคนจากตระกูลจางอยู่แถวนี้กี่คน และระบบก็บอกว่าไม่นับรวมอีกแปดคนและอู๋เหว่ย
 
เฉินเฉินถอนหายใจอยู่ข้างในเมื่อได้ฟังคำตอบ
 
เห็นได้ชัดเลยว่าแปดคนที่ว่านี้อู๋เหว่ยเป็นคนจัดมาทั้งหมด
 
เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ต้องซับซ้อนเหมือนที่น่าจะเป็นแล้ว
 
เขารวบรวมพลังปราณอย่างเงียบๆเพื่อตรวจสอบชาที่เขาพึ่งดื่มไป และก็ไม่น่าประหลาดใจเลย เฉินเฉินสัมผัสได้ว่ามียาอยู่ข้างในน้ำชา
 
อย่างไรก็ตาม นี่มันไม่มีประโยชน์กับร่างเซียนอย่างเขา เขาสามารถชำระล้างพวกมันด้วยพลังปราณได้อย่างสบายๆ
 
‘ถ้าเราไม่อยู่ด้วย ตระกูลจางก็ไม่น่าจะรอดนะ’
 
เขาไม่ได้ห่วงจางจีจนเกินไป คนๆนี้มันดวงดีที่สุดแล้ว—พูดอีกนัยนึงก็คือ เขาดวงดีมากจนไม่สามารถตายได้ต่อให้เขาอยากก็ตาม
 

 
“เสี่ยวหยา ลองพิจารณาดูให้ดีนะ มองดูเขาสิ เขาดูไม่มีอะไรเลยนอกจากหน้าตา การแต่งงานอาจจะทำให้เจ้าลำบากไปทั้งชีวิตก็ได้นะ!”
 
อู๋เหว่ยลุกขึ้นแล้วชี้ไปที่เฉินเฉิน คำพูดของเขานั้นไม่มีการไว้หน้ากันเลย
 
ณ จุดนี้เอง สีหน้าของเขาบึ้งตึงอย่างถึงที่สุด และหัวใจของเขาก็กำลังลุกไหม้ด้วยความอิจฉา
 
เขาเป็นคนที่ดูแลลูกพี่ลูกน้องของเขามาตั้งแต่ยังเด็ก แต่เขากลับพ่ายแพ้ให้เจ้าหนุ่มจนๆที่มาจากไหนก็ไม่รู้หรอ?
 
แค่เพราะความหล่อเหลาและเสน่ห์ของเขารึไง?
 
จางจีรู้สึกหงุดหงิดกับคำกล่าวหานี้ เขาลุกขึ้นแล้วพูดอย่างไม่พอใจ “พี่เฉินก็แค่ไม่สนใจเรื่องเงินเท่านั้นแหล่ะ ไม่อย่างนั้นตอนนี้เขาคงจะกลายเป็นคนที่รวยที่สุดในที่นี้แล้ว!”
 
คำกล่าวของจางจีนั้นมาจากใจจริง หลังจากกำจัดตระกูลหวัง เฉินเฉินก็ไม่ได้แตะต้องทรัพย์สมบัติของพวกเขาด้วยซ้ำ แล้วรีบมาช่วยเขาแทน
 
เขารู้ว่าเขาไม่สามารถเทียบเคียงกับศีลธรรมที่สูงส่งขนาดนี้ได้เลย
 
ดังนั้นพอได้ฟังความคิดเห็นของอู๋เหว่ยที่มีต่อเฉินเฉิน ความโกรธของเขาจึงปะทุขึ้นในทันที
 
เมื่อได้ฟังดังนี้ อู๋เหว่ยก็นั่งลง ใบหน้าที่ดูหนุ่มของเขาบูดบึ้ง
 
“รวยที่สุดหรอ? เหอะ! ข้าไม่ได้จะว่าเจ้านะ แต่เจ้ามันโดนหลอกง่ายเกินไปจริงๆ
 
“ถ้าเขาเป็นคนที่รวยที่สุดในที่นี้ได้อย่างง่ายดาย ทำไมเขาถึงสวมเสื้อผ้าโทรมๆแบบนั้นหล่ะ?
 
“ข้าจะบอกความจริงให้ฟังนะ ไม่มีคนสติดีที่ไหนในโลกนี้มาทรมานตัวเองหรอก ถ้าคนเราสามารถหาผ้าไหมดีๆมาสวมได้ ก็คงจะไม่สวมเสื้อกระสอบ หรือถ้าคนเราสามารถกินอาหารดีๆได้ ก็คงจะไม่กินขยะหรอก”
 
เฉินเฉินยกนิ้วให้กับคำพูดของเขาในขณะที่นั่งอยู่กับที่
 
สำหรับคนไม่ดีอย่างอู๋เหว่ย เขาได้มาถึงแก่นของปัญหานี้แล้ว
 
ถ้าเขามีเงินทำไมถึงสวมเสื้อผ้าแบบนี้หล่ะ? ผ้าไหมมันสบายกว่าไม่ใช่หรอ?
 
ซึ่งก็เกินความคาดหมาย จางจีมีแต่จะโกรธขึ้นเมื่อฟังคำพูดเหล่านี้ เขาชี้ไปที่เฉินเฉิน ความชื่นชมในสายตาของเขานั้นไม่อาจเทียบเคียงได้
 
“พี่เฉินหน่ะ! เขาต่างตรงไหนกัน? เจ้ารู้ไหมว่าพี่เขาเป็นคนที่ทุ่มเทขนาดไหน?”
 
คำกล่าวนี้ทั้งดังและเปี่ยมไปด้วยพลัง ทำให้แม้แต่เฉินเฉินเองยังรู้สึกเขิน
 
ก่อนที่เขาจะรู้ตัว จางจีก็ได้กลายเป็นแฟนคลับของเขาไปซะแล้ว
 
“เคยเห็นคนกระโดดจากหน้าผาลมทมิฬที่สูงเป็นพันเมตรไหม? เอาเถอะ อย่างเจ้าคงไม่รู้หรอก” จางจีพยายามจะพูดอีกแต่เขาก็กลับไปนั่งแทน
 
เขาตั้งใจจะถ่ายทอดเรื่องราวการฝึกตนของเฉินเฉินด้วยการกระโดดหน้าผา จากนั้นก็จะเล่าเรื่องราวของลูกนกอินทรีย์ แต่หลังจากคิดไปได้ซักพัก เขาก็เข้าใจว่าคำพูดของเขามันไม่เพียงพอที่จะบรรยายตัวตนและจริยธรรมที่สูงส่งของเฉินเฉิน ดังนั้นเขาจึงกลืนคำพูดกลับไป
 
“อู๋เหว่ย คำกล่าวของเจ้ามันก็เกินไปหน่อยนะ ข้าจางเสี่ยวหยาไม่ใช่คนประเภทที่สนใจแต่เรื่องเงิน”
 
จางเสี่ยวหยาที่เงียบมานานพูดขึ้นมาอย่างกระทันหัน สำหรับเสียงเล็กๆของเธอนั้น ความไม่พอใจก็ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ
 
หลังจากได้ฟังเช่นนี้ อู๋เหว่ยก็หัวเราะออกมาอย่างกระทันหัน และเสียงก็ยิ่งดังขึ้นทุกวินาทีที่ผ่านไป
 
“ฮ่าฮ่า! นี่เจ้าหมายความว่าข้า อู๋เหว่ยผู้นี้กลายเป็นคนร้ายไปแล้วหรอ!?”
 
คุณท่านและคุณนายจางขมวดคิ้วให้กับคำพูดบ้าๆที่ออกมาจากปากของอู๋เหว่ย
 
จางเต๋อหันไปหาคนใช้แล้วแจ้งกับเธอ “เสี่ยวหลาน พานายน้อยเหว่ยไปพักที่ห้องซักหน่อยเถอะ”
 
คนใช้รีบตอบสนองในทันที แต่ก่อนที่เธอจะได้เคลื่อนไหว อู๋เหว่ยก็ทุบโต๊ะแล้วหยิบแก้วชาตรงหน้าเขา
 
“ท่านลุง ข้ารักเสี่ยวหยา! ข้าขอถามท่าน ท่านจะยอมยกเสี่ยวหยาให้ข้าไหม?”
 
สีหน้าของทุกคนในห้องเปลี่ยนไปเมื่อได้ฟังคำพูดพวกนี้
 
จางเต๋อตะคอก “เจ้าลูกไม่รักดี ออกไปจากห้องเดี๋ยวนี้!”
 
แม้แต่จางเต๋อก็นึกไม่ถึงว่าอู๋เหว่ยจะคุกคามตระกูลจาง
 
คุณนายจางที่นั่งข้างๆถอนหายใจแล้วพูดออกมา “ลูกเหว่ย พวกเราทุกคนรู้ความคิดของเจ้าดี แต่เสี่ยวหยาเคยบอกพวกเรามานานแล้วว่าเธอไม่ได้รักเจ้า”
 
สีหน้าของอู๋เหว่ยซีดไปพักนึง จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นความโกรธในทันที
 
“ไม่รักข้าหรอ? เหอะ ข้ารู้ว่าพวกตระกูลจางไม่เคยสนใจข้าอยู่แล้ว!
 
“ในสายตาของพวกเจ้า ข้าก็เป็นแค่หมาที่ตระกูลจางเลี้ยงเอาไว้!”
 
“เจ้าลูกสามหาว! ตลอดหลายปีมานี้ข้าเลี้ยงดูเจ้าแตกต่างจากลูกจีตรงไหน? ข้าตั้งใจจะยกตระกูลให้เจ้าดูแลหลังจากที่ลูกจีเข้าสู่หนทางแห่งการฝึกตนแล้วด้วยซ้ำ ดูเหมือนว่าข้าควรจะส่งเจ้าไปรบเพื่อสั่งสมประสบการณ์แทนสินะ!” จางเต๋อตะคอก เขาพยายามลุกขึ้นยืน แต่ด้วยเหตุผลบางประการร่างกายของเขานั้นอ่อนยวบ และบังคับให้เขากลับไปนั่งลง
 
อู๋เหว่ยเย้ยหยันคำพูดของเขา มือของเขาจับแก้วเอาไว้แน่น
 
“เจ้าก็แค่เสแสร้งเท่านั้นแหล่ะ ข้าจะแสดงให้ดูเองว่าการไม่ใส่ใจข้านั้นผลที่ตามมาจะเป็นยังไง! แล้วก็ ยัยผู้หญิงชั้นต่ำ! รอไปก่อนเถอะแล้วจะได้เห็นว่าข้าจะทำอะไรกับเจ้า!”
 
หลังจากนั้น อู๋เหว่ยก็โยนแก้วไปที่ตรงหน้าจางเสี่ยวหยาอย่างรุนแรง
 
“เพล๊ง!”
 
ด้วยเสียงแก้วแตก ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นรอบห้องรับแขกอย่างกระทันหัน
 
 

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset