เฉินเฉินไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำกับสิ่งที่เขาเห็นด้านหน้าเขา เขากลับส่งอู๋เว่ยกระเด็นออกเข้าไปในห้องนั่งเล่นโดยการเตะของเขาแทน
คนจากตระกูลจางได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอกอย่างชัดเจน พวกเขายังคงมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
พวกเขาพึ่งจะตั้งสติได้ก็ตอนที่อู๋เว่ยกระเด็นเข้ามาล้มลงต่อหน้าพวกเขา
“ท่านลุง! ข้าถูกฝืนใจโดยพวกเขา! ท่านต้องเชื่อข้านะ!”
อู๋เว่ยล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง แต่สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดของเขามันทำให้เขาคลานไปเกาะขาของจางเต๋อ
จางเต๋อขู่ออกมา แต่เขาไม่ได้พูดอะไร
อู๋เว่ยไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากเกาะขาของจางจีแทน
“จางจี เจ้าจำได้ไหมถึงช่วงเวลาที่พวกเราเล่นกันตอนยังเด็ก? ได้โปรดยกโทษให้ข้าในครั้งนี้ด้วย! เมื่อการคัดตัวครั้งหน้ามาถึง ข้าจะไปเข้าร่วมกับกองทัพและกลายเป็นคนดี!”
ถึงแม้ว่าจางจีจะไม่ใช่คนฉลาดอะไร เขาก็ยังเข้าใจอย่างชัดเจนว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด เมื่อเขาฟังคำพูดของอู๋เว่ยเสร็จ ดวงตาของเขาไม่ได้มีความสงสารอยู่เลย ด้านในนั้นมีแต่เพียงความน่ารังเกียจเท่านั้น
ชั่วครู่ต่อมา เฉินเฉินเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นพร้อมกับคนที่เขาลากมาด้วย มันคือหัวหน้าคนรับใช้ของตระกูลเจาซึ่งถูกจับมาก่อนหน้านี้
“ตาแก่เจา คนของเจ้าได้บังคับให้อู๋เว่ยทรยศตระกูลจางหรือเปล่า?” เฉินเฉินถามอย่างสบายๆ ก่อนที่จะหาที่ไปนั่ง
หัวหน้าคนรับใช้เจาหวาดกลัวกับภาพที่เกิดขึ้น เขาส่ายหัวและตอบกลับ “ไม่ครับ ไม่มีทางแน่นอน หัวหน้าของพวกเราไม่เชื่อเจ้าเด็กนี่ตั้งแต่ต้นด้วยซ้ำ มันเป็นเจ้าเด็กนี่เองแหละที่ได้เปิดเผยตำแหน่งของนายน้อยจางก่อน พวกเราจึงได้ส่งคนออกไปตรวจสอบดูและพวกเราก็พบกับนายน้อยจางจริงๆ มีเพียงแค่หลังจากนั้นที่หัวหน้าของพวกเราถึงได้เชื่อเขา”
เมื่อได้ยินมัน อู๋เว่ยตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าหัวหน้าคนรับใช้เจาที่เป็นคนจัดการดูแลเกี่ยวกับเขาจะถูกจับและถูกลากเข้ามาด้านในบ้านจาง
“เจ้า….เจ้าสร้างเรื่องต่ำทรามให้กับข้า! สิ่งที่เจ้าพูดมามันเป็นเรื่องโกหก!”
หัวหน้าคนรับใช้เจาไม่ได้สนใจกับคำปฏิเสธของอู๋เว่ย เขาพูดต่อ “เช้าวันนี้ เขาได้แจ้งพวกเราว่านายน้อยเจาได้มุ่งตรงไปยังหมู่บ้านรอบข้างเพื่อขอความช่วยเหลือ….เขาได้ขอร้องพวกเราให้หยุดเขาไว้และสังหารนายน้อยจางทิ้ง เขายังขอยาชาจากพวกเราอีกด้วย”
จางจีไม่สามารถที่จะทนฟังต่อได้ เขาปิดตาและมันมีแต่ความเสียใจปรากฏอยู่บนใบหน้า
ใครก็ตามก็สามารถที่จะจินตนาการได้ถึงความรู้สึกที่ถูกทรยศโดยญาติสนิทได้เลย
“เจ้าต้องการให้ข้าจัดการให้เจ้าไหม?” เฉินเฉินถาม
“ไม่จำเป็นครับ!” จางจียืนยันหนักแน่น
ในขณะที่จับเขาไว้ เฉินเฉินได้จัดการยาชาที่เขาดื่มไปทั้งหมดโดยพลังปราณจนเขากลับมาฟื้นตัวเต็มกำลังได้
จางจีมองไปที่อู๋เว่ยและชักดาบออกมา
“จางจี ไว้ชีวิตข้าด้วย!”
…
เฉินเฉินได้ถอนตัวเองออกจากปัญหาในครอบครัวของตระกูลจางและได้พาหัวหน้าคนรับใช้เจาออกมาด้านนอก เมื่อเขาเดินออกไปเขาก็สั่ง “บอกเหตุผลมาสิว่าทำไมข้าจะต้องไม่ฆ่าเจ้าทิ้งไป”
“ท่านเซียน! ข้ารู้ถึงสถานที่เก็บสมบัติของเจาเบียว! ข้าสามารถพาท่านไปที่นั่นได้ครับ!” หัวหน้าคนรับใช้เจาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
เขาได้เตรียมคำพูดเอาชีวิตรอดไว้ในขณะที่ถูกจับกุมโดยพวกจาง ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาอย่างคล่องแคล่ว
“นอกจากเงินและสมบัติแล้ว มันยังมีของล้ำค่าของเจาเบียวอยู่อีก เขาได้ปล้นมันมาจากตระกูลที่ร่ำรวยตอนที่พวกเขาลักพาตัว! สำหรับการลักพาตัวในครั้งนั้น เพื่อสมบัติล้ำค่านี้ พวกเราเสียคนไปถึงร้อยคน!
“หลังจากนั้นเจาเบียวก็ได้มาซ่อนตัวในมณฑลเสฉวนและได้แสดงของที่เขาเก็บมาให้กับเจ้าเมือง นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงหนีมันมาได้”
เมื่อฟังเรื่องราวนี้ เฉินเฉินก็ดูมีท่าทีสนใจ แต่เขาก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร
ถ้าเขาจะไปหาสมบัติแล้ว เขาจะพาคนที่มาพร้อมกับโชคอย่างจางจีไปด้วย พร้อมกับการไปกับเขาแล้ว เรื่องที่น่าประหลาดใจจะเกิดขึ้นไปทั่ว แม้ว่ามันจะไม่มีอะไรอยู่ตั้งแต่แรกก็ตาม
…
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ปัญหาภายในของตระกูลจางก็จบลง อู๋เว่ยถูกฟันตายโดยดาบและยามทั้งหมดต่างถูกเรียกกลับมา
หลังจากเกิดเรื่องที่เกิดขึ้น ยามของพวกเขาต่างจงรักภักดีกันมากกว่าเดิม
จางเต๋อรู้สึกขอบคุณอย่างมากกับเฉินเฉิน ในตอนแรกเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรกับคำพูดของจางจีที่ให้จางเสี่ยวหยาแต่งงานกับเฉินเฉิน แต่ในตอนนี้เขาเริ่มคิดจริงจังแล้ว
คนที่พวกเขาพูดถึงอยู่นั้นคือเซียนเลยนะ!
ถ้าลูกสาวของเขาแต่งงานไปแล้วได้รับผลประโยชน์จากพลังปราณแล้ว มันคงจะเป็นเรื่องที่ดี
เมื่อความคิดนี้เกิดขึ้นในหัวของเขา เขาก็อายเล็กน้อยและพูดออกมา “เอ่อ ลูกสาวของข้า เสี่ยวหยาได้ถึงวัยที่เหมาะสมที่จะแต่งงานแล้ว…”
ก่อนที่จะพูดจบ เสียงตะโกนก็ดังขึ้นจากห้องนั่งเล่น
“ไม่มีทาง!”
มันเป็นคำพูดเดียวกับก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้มันเป็นจางจีที่เป็นคนพูด เขามีใบหน้าที่จริงจังและดูตึงเครียดอย่างมาก
จางเต๋อไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ เขาเป็นคนที่บอกเรื่องเกี่ยวกับการแต่งงานกับน้องสาวของเขา แต่มันกลับเป็นเขาเองที่บอกว่าไม่นี่นะ เขาต้องการอะไรกันแน่? ล้อเล่นงั้นเหรอ?
พร้อมกับสายตาของจางเต๋อที่จ้องเขม็งไปที่จางจี เขายืนขึ้นและสายตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกชื่นชมและขอบคุณต่อเฉินเฉิน
“ในตอนแรก ข้าต้องการให้เขาแต่งงานกับน้องสาวข้าจริงๆ แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนความคิดแล้ว”
“มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระที่จะพูดถึงความยอดเยี่ยมของพี่เฉิน และไม่ต้องพูดถึงพรสวรรค์อันโดดเด่นของพี่เฉินเลย ในอนาคต ข้ามั่นใจว่าเขาจะอาศัยอยู่ในโลกนี้อย่างยาวนาน ในทางกลับกัน น้องสาวของข้าเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไป มนุษย์ธรรมดาทั่วไปที่มีอายุขัยสั้นแบบนั้นจะอยู่ข้างกายพี่เฉินไปตลอดไปได้ยังไงกัน?
“ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่ข้าครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน ข้าคิดว่ามันคงจะแย่สำหรับพี่เฉินถ้าพวกเราให้น้องสาวของข้าแต่งงานกับเขา”
“ข้าคงไม่ประหลาดใจอะไรถ้าคนแบบพี่เฉินแต่งงานกับเซียนที่มาจากสรวงสวรรค์เลย!”
ตาของเฉินเฉินอดจะกระตุกไม่ได้กับคำเยินยอของจางจี ถ้ามันเป็นคนอื่นที่เยินยอเขาแล้ว เขาคงไม่ได้คิดจริงจัง คงคิดแค่ว่าพวกเขาคงพูดยกยอไปแค่นั้น แต่จางจีนั้นพูดออกมาส่วนลึกของจิตใจ มันทำให้เขารู้สึกแปลก
เมื่อมองไปที่จางเสี่ยวหยาที่ดูผิดหวังและเศร้าสร้อยแล้ว เฉินเฉินก็นึกถึงเอ้อหยาที่เป็นเพื่อนร่วมบ้านของเขาแล้ว เฉินเฉินคิดว่ามันคงจะไม่แย่อะไร ถ้าเขาแต่งงานกับจางเสี่ยวหยา
อย่างน้อยพ่อแม่เขาคงจะดีใจ
“ในความเป็นจริง…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ จางจีก็พูดขัดขึ้น
“พี่เฉิน ท่านไม่ต้องสนใจความรู้สึกของน้องสาวข้าหรอก มันคงจะดีกว่าที่จะทำให้เธอตระหนักได้ถึงความจริงอย่างรวดเร็วเช่นนี้”
“ชาย ท่านนี่มันนิสัยเสียจริง!” จางเสี่ยวหยาที่นั่งเงียบอยู่ตลอดอดที่จะพูดแทรกขึ้นมาไม่ได้ เธอกระทืบพื้นอย่างโกรธเคืองก่อนจะวิ่งหนีเข้าไปในห้องนอน
“ลูกจี ลูกพูดแบบนี้กับน้องสาวตัวเองได้ยังไง?” แม่ของจางจีบ่นออกมา ดวงตาของเธอนั้นมีหยาดน้ำตาเหมือนกัน
เมื่อเฉินเฉินมองเสี่ยวหยาที่วิ่งหนีไป เขารู้สึกผิดเช่นกัน เขาพึมพำด้วยน้ำเสียงเบาๆ “น้องชาย มันไม่เป็นไรหรอก ข้ายินดีรับมันไว้…มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย!”
เมื่อได้ยินมัน จางจีถอนหายใจเบาๆออกมา พร้อมกับสีหน้าที่ผิดหวัง “พี่เฉิน ท่านไม่ได้ตระหนักถึงความยอดเยี่ยมของตัวท่านเลย การแต่งงานทุกครั้งนั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อน มันไม่ได้เป็นแค่การพูดปากเปล่า ทุกอย่างมันต่างมีเหตุมีผลของมัน”
เฉินเฉินพูดไม่ออก
เจ้าจางจีนี่ถูกเขาหลอกจนกลายเป็นแฟนคลับตัวจริงของเขาแล้ว
ยังไงก็ตาม จางจีไม่ได้สังเกตเห็นถึงลักษณะนิสัยของเขาที่เปลี่ยนไป เขามองไปที่ห้องนอนที่น้องสาวเขาวิ่งหนีไปก่อนที่จะพูดขึ้น “พี่เฉิน ท่านเคยได้ยินไหมว่าสาวงามนั้นเป็นสิ่งอันตราย”
เฉินเฉินพยักหน้า แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวอะไรกับเขา หรือว่าจางจีกลัวว่าน้องสาวของตัวเองจะทำให้เขาได้รับอันตรายกัน?
มันไม่ได้จริงจังใช่ไหม?
จางจีกลับหันไปตบไหล่เขาอย่างไม่คาดคิด พร้อมกับสีหน้าที่จริงจัง เขาพูดขึ้น “พี่เฉิน ด้วยพรสวรรค์ของพี่แล้ว เมื่อพี่ก้าวเข้าไปสู่โลกของการฝึกตน สาวงามที่ยอดเยี่ยมนับไม่ถ้วนจะรอพี่ไว้ พวกเธอทุกคนจะตกสู่ในกำมือของเธอ”
“มันอาจจะมีปีศาจร้ายที่มีเจตนาชั่วอยู่ท่ามกลางพวกเธอ”
“แล้วพวกเธอจะยอมให้หญิงสาวธรรมดาทั่วไปอย่างน้องสาวของข้ายึดครองท่านไว้ยังไงกัน? ท่านเฉิน?”
“เมื่อพวกเธอมีแผนชั่วร้ายแล้ว ชีวิตของน้องสาวข้าจะตกสู่อันตราย! ดังนั้น พี่เฉิน ได้โปรดท่านทำความเข้าใจด้วย!”
เฉินเฉินนวดหูตัวเอง เขาคิดว่าตัวเองได้ยินผิด
สิ่งที่จางจีพูดว่าสาวงามมันเป็นเรื่องอันตราย มันเป็นการพูดเกินจริงใช่ไหม?
ยังไงก็ตาม จางจีไม่ได้มองไปที่เขา แต่มองไปที่ฟากฟ้าแทน เขาพึมพำกับตัวเอง “ข้ามีความรู้สึกว่ามันจะเกิดหายนะครั้งใหญ่ในโลกฝึกตนแห่งนี้…”
เมื่อได้ยินมัน เฉินเฉินแทบสำลักออกมา
ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 26: ท่านรู้ไหมว่าสาวงามนั้นเป็นสิ่งอันตราย
Posted by ? Views, Released on September 26, 2021
, I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!”
เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา
เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที
“ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?”
“ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!”
เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย
ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา
แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว!
เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ!
การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ!
‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง
“มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!”
หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา
เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย
ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน?
ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน
แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า
เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ
เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน
ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข
เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน
เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’
“อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง”
นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้
“ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ”
อะไรนะ?!
เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา
เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง
‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม
ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา
“ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่”
เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม
หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย
‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา
เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน?
นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้!
ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา
“รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ”
เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้
ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน…
“เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!”
เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที
ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน
Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since.
Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.”
Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”