ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 67: ไปซะ! ไปยกกระถางได้แล้ว!

ตึง…ตึง..
 
เมื่อหูเซียงเอ๋อระบายความหงุดหงิดออกมา เจ้าเหลืองน้อยยังคงเอาหัวกระแทกกับขอบโต๊ะอย่างต่อเนื่อง
 
เมื่อเห็นดังนี้ หูเซียงเอ๋อยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ เธอด่าออกมา “เจ้าเหลืองน้อย หยุดได้แล้ว เจ้าช่วยข้าไม่ได้หรอก แม้ว่าเจ้าจะพ่นน้ำโสมของเจ้าออกมา สุดท้ายแล้วเจ้าก็จะทำให้เจ้าเด็กเวรนี้ได้ผลประโยชน์แบบฟรีๆ ให้ข้าบอกเจ้านะ เจ้าเด็กเวรนี่มันเป็นคนแย่มากเลยละ! สิ่งที่เขาทำก็แค่โกงคนอื่นไปทั่วนั่นแหละ เจ้าหาโอกาสที่จะหนีไปจะดีกว่านะ ไม่อย่างงั้นแล้วสักวันหนึ่งเจ้าก็อาจจะถูกจับไปต้ม…”
 
ก่อนที่หูเซียงเอ๋อจะพูดจบ หยดน้ำก็ไหลลงเข้ามาในปากของเธอ หลังจากนั้นร่างกายของเธอสั่นสะท้านอย่างรุนแรง วินาทีต่อมา คลื่นพลังชีวิตบริสุทธิ์ก็ระเบิดออกในร่างกายของเธอ
 
“นี่มัน..”
 
หูเซียงเอ๋อประหลาดใจอย่างมาก เธอหันกลับไปมองเฉินเฉินอย่างตกใจ
 
เมื่อเธอหันกลับไป เธอสังเกตเห็นเฉินเฉินมองมาเธอพร้อมกับรอยยิ้ม เขาดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
 
หลังจากถูกจ้องโดยเฉินเฉินแล้ว หูเซียงเอ๋อรีบก้มหัวเธอหลบทันที ในเวลาเดียวกันเธอรู้สึกได้ว่าร่างกายภายในของเธอกำลังฟื้นตัวด้วยความรวดเร็วและเธอรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจของเธออีกครั้งหนึ่ง หัวใจที่โดนเผาไปอย่างร้ายแรง
 
นอกจากอาการเจ็บปวดแล้ว ขนสีดำที่ไหม้เกรียมก็เริ่มหล่นลง ก่อนที่ขนใหม่จะงอกขึ้นมาด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
 
‘ข้าจะยังมีชีวิตรอดอยู่ต่อไปได้งั้นหรือเนี่ย? เจ้าเด็กนี่ให้อะไรข้ากินกัน?’
 
หูเซียงเอ๋ออุทานออกมาในหัวตัวเอง เธอมองไปที่เฉินเฉินด้วยสีหน้าแหยๆ
 
ทรงผมของเฉินเฉินดูแปลกประหลาดไปจากเดิม ผมยาวของเขาถูกรวบไว้ด้านหลัง เมื่อเทียบกับหน้าตาที่หล่อเหลาของเขาก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้เขาดูป่าเถื่อนมากกว่าเดิม
 
เมื่อมองไปที่เฉินเฉิน หูเซียงเอ๋ออดที่จะตัวสั่นไม่ได้
 
‘เจ้าเด็กนี่ไม่ใช่คนใจกว้าง ข้าพึ่งจะด่าเขาแรงขนาดนั้น ในตอนนี้ข้าคงจะไม่ตายแล้ว ข้าจะทำยังไงดี…’
 
‘เขาจะต้องคิดบัญชีกับข้าแน่เลย!’
 
เฉินเฉินมองไปที่หูเซียงเอ๋อที่กำลังตื่นตระหนก แน่นอนว่าเขาพึ่งจะป้อนน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์ให้เธอไป ซึ่งมันนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าเห็นหลินจือม่วงอย่างมาก
 
เห็ดหลินจือม่วงสามารถที่จะรักษาอาการบาดเจ็บภายในได้ แต่ว่าเจ้าน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์มันทรงพลังยิ่งกว่านั้นมาก
 
ตราบเท่าที่อีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่แล้ว พวกเขาก็จะถูกช่วยไว้ได้
 
“เป็นยังไง? รู้สึกยังไงบ้าง?”
 
เฉินเฉินถามออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
 
เมื่อเห็นรอยยิ้มของเฉินเฉินแล้ว หูเซียงเอ๋อตอบกลับเบาๆ “ข้า..สบายดีค่ะ….ข้าว่าข้าน่าจะต้องพักอีกสักหน่อย..”
 
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอแล้ว เฉินเฉินก็ยิ้มกลับ ก่อนที่จะจับไปที่เจ้าเหลืองน้อยที่ยังคงเอาตัวชนเข้ากับขอบโต๊ะ
 
“ไปขุดดินที่สวนสมุนไพรไปเถอะ มันไม่มีอะไรที่เจ้าทำได้แล้วละ”
 
หลังจากได้ยินคำพูดของเฉินเฉินแล้ว เจ้าเหลืองน้อยมองมาที่เขา ก่อนที่จะดมไปที่หูเซียงเอ๋อและมันก็เดินกลับไปที่สวนสมุนไพร
 
ห้านาทีต่อมา ขนสีดำที่ปกคลุมของหูเซียงเอ๋อก็หายไป ขนใหม่ได้งอกขึ้นมาทั้งตัว ในความเป็นจริงแล้ว ขนใหม่ของมันยังยาวและสวยกว่าแต่ก่อนอีก
 
นอกจากนี้แล้ว เธอยังงอกหางที่สามออกมาอีก
 
“เจ้าเป็นไงบ้าง?” เฉินเฉินถามออกมาอีกครั้ง
 
หูเซียงเอ๋อที่นอนกองอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าที่ซีดขาวส่ายหัวเล็กน้อย มันเหมือนกับว่าเธอไม่มีแรงจะพูดออกมา
 
ใบหน้าของเฉินเฉินตึงขึ้นทันทีที่เขาเห็นการกระทำของเธอ
 
สองในสามหางของเธอกำลังตกลง แต่เจ้าหางใหม่ที่พึ่งงอกขึ้นมาดูสะบัดไปมาอย่างสนุกสนาน มันดูมีชีวิตชีวามากและหูเซียงเอ๋อก็คงยังไม่รู้ตัวว่าเธองอกหางที่สามแล้ว เธอไม่สามารถซ่อนความมีชีวิตชีวาของมันเอาไว้ได้!
 
‘แสร้งป่วยต่อไปนะ! แสร้งให้ถึงที่สุดละ!’
 
เฉินเฉินด่าออกมา ก่อนที่จะจับหางที่สามของหูเซียงเอ๋อและยกเธอขึ้น
 
“เจ้างอกหางที่สามและสะบัดไปมาราวกับหมาปั๊กแบบนี้แล้วยังแกล้งทำตัวอ่อนแอต่อหน้าข้าอีกนะ!”
 
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเฉินแล้วหูเซียงเอ๋อที่มีหน้าตาซีดเซียวก็เปลี่ยนไปทันที มันเหมือนกับว่าเธอกำลังพยายามที่จะอ้อนวอนเขา
 
“เจ้านายคะ~”
 
“ไม่ใช่เจ้าไม่สบายใจงั้นหรือ?”
 
“ไม่ ไม่เลยค่ะ มันเป็นเพราะว่าข้ากลัวว่าท่านจะเศร้า ถ้าข้าตายลงไป นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมข้าถึงได้พูดคำพูดย่ำแย่เหล่านั้นออกไปค่ะ!”
 
“เจ้าขโมยอาหารไปสามส่วนในทุกๆมื้อ?”
 
“ข้ากลัวว่าจะมีคนลอบใส่ยาพิษให้ท่านยังไง! ข้าจึงลองชิมมันก่อนค่ะ! ข้าไม่ได้ขโมยมันนะ!”
 
“ไม่ใช่เจ้าไม่ต้องการเรียนแล้ว? เจ้าไม่ต้องการทำอาหารแล้วใช่ไหม? เจ้าไม่พอใจมากเลยสินะ?”
 
“ไม่ ไม่ ไม่เลยค่ะ เวลาที่ได้ใช้อยู่ร่วมกับเจ้านายมันคือช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของข้าเลยค่ะ!”
 
“หื้ม เจ้าหัวเร็วดีนี่นา” เฉินเฉินเยาะเย้ย พร้อมกับยกหูเซียงเอ๋อไปด้วย
 
“ข้าเรียนรู้ทั้งหมดมาจากท่านค่ะ เจ้านาย! ในด้านความยอดเยี่ยมแล้ว ข้าไม่ได้เก่งกาจเท่ากับท่านเลยค่ะ เจ้านาย!” หูเซียงเอ๋อตะโกนออกมาด้วยตัวที่สั่นเครือ เธอพึ่งจะกลืนน้ำแปลกๆนั่นลงไปและสถานะการฝึกตนของเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ยังไงก็ตามเธอก็ไม่กล้าที่จะต่อต้านเฉินเฉินอยู่ดี
 
“ฮึ่ม! มันไม่มีประโยชน์แล้ว แม้ว่าเจ้าจะกะล่อนปลิ้นปล้อนยังไงมันก็สายไปแล้ว! ไป! ไปยกกระถางไป!”
 
เฉินเฉินพูดออกมาอย่างเย็นชา ก่อนที่จะเดินไปยังสวนพร้อมกับหูเซียงเอ๋อในกำมือ
 
“เจ้านายคะ! ไว้ชีวิตข้าด้วยเถอะนะค่ะ!”
 
หูเซียงเอ๋อกรีดร้องออกมาสุดเสียง ในขณะที่เจ้าผักบุ้งน้อยในสวนสมุนไพรตะโกนเลียนแบบตามหูเซียงเอ๋อ สองอสูรต่างกรีดร้องผสานกันออกมา มันทำให้เสียงที่ดูน่าสงสารออกมาดูขบขันแทน
 
ไม่กี่ชั่วขณะต่อมา เฉินเฉินก็ได้มุ่งตรงไปถึงที่พำนักของเจ้าสำนัก
 
สิ่งแรกที่เขาคิด เมื่อเขาพบว่าร่างกายของเขาผิดปกติคือการมาหาเซี่ยวอู่โยว
 
ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องโถงแล้ว เซี่ยวอู่โยวก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าเฉินเฉินทันที
 
“ลูกศิษย์? เจ้าต้องการอะไรหรือเปล่า?”
 
หลังจากได้ยินคำพูดของเขาแล้ว มันทำให้เฉินเฉินอับอายมาก เขาไม่ได้ปฏิบัติกับอาจารย์ของเขาเหมือนกับตู้เอทีเอ็ม แต่อาจารย์ของเขากลับคิดแบบนั้นเสียเองเสียนี่!
 
‘ฮึ่ม! ข้าดูเหมือนเป็นคนที่เอาแต่ได้ โดยไม่คิดที่จะมอบของตอบแทนหรือไง!?’
 
‘วันนี้ ข้าจะทำให้อาจารย์รู้ว่าคนรวยเป็นยังไง!’
 
เมื่อมีความคิดในหัวนี้แล้ว เฉินเฉินหยิบขวดออกมาในช่องเก็บของ ซึ่งมันได้มีน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์จำนวนมากออกมา
 
“อาจารย์ครับ ท่านอาจจะไม่รู้ แต่ว่าเจ้าอสูรจิ้งจอกที่ข้าเลี้ยงนี้ได้เกิดมาพร้อมกับสัมผัสที่ยอดเยี่ยม มันสามารถที่จะสัมผัสได้ถึงสมบัติสวรรค์ เมื่อคืนเธอบอกข้าว่าเธอได้กลิ่นสมบัติสวรรค์และยืนยันที่จะลากข้าไปด้วย สุดท้ายแล้วพวกเราก็ไปพบกับสมบัติบางส่วน ข้าไม่กล้าที่จะเพลิดเพลินไปกับมันด้วยตัวของข้าเพียงคนเดียวได้ ดังนั้นข้าจึงแบ่งมันออกมาครึ่งหนึ่งและมอบมันให้กับท่านครับ ท่านอาจารย์!”
 
หูเซียงเอ๋อที่อยู่บนไหล่ของเฉินเฉินหันหน้าหนีทันทีที่ได้ยิน เธอกลัวว่าเซี่ยวอู่โยวจะเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจในตาของเธอ
 
“โอ้ มันหายากนะเนี่ย ที่เจ้าเป็นแบบนี้นะ” เซี่ยวอู่โยวยิ้มออกมาแล้วเขาก็รับขวดไป
 
ในความเป็นจริงแล้ว เขาไม่ได้คาดคิดว่าเฉินเฉินจะมอบของที่ล้ำค่าเช่นนี้ให้ เมื่อคนส่วนใหญ่บนโลกนี้ต่างเป็นคนที่เห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น
 
มันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่จะเก็บสมบัติที่พวกเขารักไว้ใช้กับตัวเองคนเดียว
 
หลังจากที่รับขวดไปแล้ว เซี่ยวอู่โยวก็เปิดฝาขวดและมือของเขาก็แข็งค้างทันที อาการตกตะลึงก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
 
“นี่มัน…ขวดน้ำที่บรรจุน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์หนึ่งแสนปี?!”
 
“อาจารย์ ท่านเข้าใจถูกแล้วครับ ของชิ้นนี้มันมีค่าแค่ไม่กี่หินวิญญาณหรอก ท่านอาจารย์ครับ ข้าขอโทษที่ทำให้ท่านอับอายครับกับความด้อยค่าของมันครับ! ข้าละอายใจเสียจริงที่มอบของไม่มีค่าเช่นนี้ให้กับท่าน!” เฉินเฉินพูดออกมาด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ
 
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเฉินแล้ว เซี่ยวอู่โยวตากระตุก น้ำระฆังวิญญาณสวรรค์หนึ่งแสนปีก็มีค่ามากแล้วกับแค่หนึ่งหยด แต่ลูกศิษย์ของเขามอบมาให้ถึงครึ่งขวด เขายังบอกว่ามีค่าแค่ไม่กี่หินวิญญาณอีก!
 
หนึ่งหยดมันก็หาค่าไม่ได้แล้ว เข้าใจไหม? แต่นี่มัน ครึ่งขวด….เขาไม่น่าจะจ่ายไหวด้วยซ้ำ แม้ว่าสำนักเทียนหยุนจะจ่ายไปจนสำนักล้มละลาย!
 
‘เจ้าปีศาจขี้เล่นนี่มัน เขากล้าที่จะล้อเล่นอาจารย์ตัวเองเนี่ยนะ…’
 
เมื่อรับรู้ถึงต้นกำเนิดของขวดนี้แล้ว เซี่ยวอู่โยวหันไปมองหูเซียงเอ๋อที่เกาะอยู่บนไหล่ของเฉินเฉิน
 
“สัตว์เลี้ยงเจ้ามีความสามารถพิเศษมาก เจ้าห้ามไปบอกคนอื่นละ เข้าใจไหม?”
 
“ครับ!” เฉินเฉินตอบกลับด้วยสีหน้าที่จริงจัง
 
 
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเฉินแล้ว เซี่ยวอู่โยวพยักหน้าก่อนที่จะเก็บขวดน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์ลงไป มันทำให้เขารู้สึกอับอายเล็กน้อย
 
เขากำลังจะก้าวเข้าสู่ขั้นก่อกำเนิดวิญญาณและเจ้าน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์นี้มันก็มีประโยชน์กับเขามาก แต่เขาไม่สามารถที่จะหาของที่มีค่าเท่าเทียมกันมอบให้กับเฉินเฉินได้เลย เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจดจำบุญคุณนี้ไว้ในหัวใจของตัวเอง
 
เฉินเฉินเห็นอาจารย์รับไป เขาก็รู้ว่ามันถึงเวลาที่จะต้องเข้าเรื่องหลักกันแล้ว เขารีบถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความนับถือ “อาจารย์ครับ ข้าได้ใช้เจ้าน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์ไปบางส่วนและสถานะการฝึกตนของข้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ท่านสามารถดูระดับการฝึกตนของข้าได้ไหมครับ?”
 
“แน่นอน ได้สิ!” เซี่ยวอู่โยวตกลงพร้อมกับรอยยิ้ม
 
“ท่านอาจารย์ ระดับการฝึกตนของข้าอาจจะพิเศษไปเล็กน้อย อย่าประหลาดใจไปละครับ!”
 
รอยยิ้มของเซี่ยวอู่โยวกว้างขึ้นกว่าเดิม
 
‘มันจะน่าประหลาดใจอะไรอีกกัน? เจ้าลูกศิษย์คนนี้คิดว่าจะทำให้ข้า เจ้าสำนักของเทียนหยุนตกใจได้เนี่ยนะ?’
 
เขาจะไม่ประหลาดใจเลยสักนิด ถ้าเฉินเฉินที่มีร่างกายต้นกำเนิดนั้นอยู่ในขั้นสร้างรากฐานแล้ว โดยการพึ่งพาน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์
 
ยังไงก็ตาม เขาได้ตกใจเล็กน้อยไปกับสมบัติสวรรค์ระดับสุดยอดเช่นนั้นที่ได้รับมอบมาจากเฉินเฉินแล้ว ถ้าเขาตกใจกับสถานะฝึกตนของเฉินเฉินอีก เขาจะแตกต่างอะไรไปจากผู้ฝึกตนธรรมดาทั่วไปที่มีมุมมองแคบอีกกัน?
 
‘ลูกศิษย์คนนี้ได้ดูถูกข้ามากเลยนะ ข้าคือเจ้าสำนักเลยนะ’
 
“ฮ่า เจ้าจะทำให้ข้าประหลาดใจ? ข้าจะประหลาดใจ ถ้าเจ้าเลื่อนมาถึงขั้นแก่นทองคำแล้วเท่านั้นแหละ!”
 
เซี่ยวอู่โยวยิ้มออกมาก่อนที่จะเอื้อมไปจับข้อมือของเฉินเฉิน
 

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset