ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 90: ทำไม่ได้

ก่อนที่กู่ฉินเจิ้งจะทำการยืดเส้นยืดสายตอนเช้าเสร็จ บ้านดอกไม้พระจันทร์ก็ตกอยู่ในความวุ่นวายแล้ว
 
ในตอนนี้ มีหญิงสาวมากมายที่มองไปทางโรงเตี๊ยมหยี่หลานด้วยความปรารถนาในดวงตาของพวกเธอโดยไม่รู้ตัว
 
“นายหญิง… ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าผู้สืบทอดของสำนักเทียนหยุนจะเป็นที่นิยมมากจนมีผู้หญิงสองคนมาต่อสู้แย่งชิงเขา”
 
พนักงานรู้สึกอิจฉาอย่างมากและเขารู้สึกเหมือนกับว่าเฉินเฉินประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว
 
“เจ้ารู้อะไรบ้าง!?!”
 
ดวงตาของกู่ฉินเจิ้งเย็นยะเยือกในขณะที่เธอเดินลงบันไดไปในทันทีแล้วรีบมุ่งหน้าไปที่โรงเตี๊ยมหยี่หลาน
 
ในตอนนี้ เธอมีความรู้สึกลางๆว่าละครการต่อสู้แย่งชิงผู้สืบทอดของสองสาวนั้นมีคนจงใจทำให้มันเกิดขึ้น
 
และถ้าเป็นอย่างนั้น… มันก็คงจะน่ากลัวจริงๆ!
 
ในขณะที่เธอเดิน สีหน้าของเธอก็ค่อยๆเครียดหนักขึ้น ในขณะที่มีผู้คนบนท้องถนนมากขึ้นเรื่อย ๆ แทบจะทุกคนกำลังวิ่งไปทางเดียวกัน
 
มีแม้กระทั่งยามประจำเมืองที่มาเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย!
 
หลังจากนั้นสักพัก ในที่สุดเธอก็ใกล้จะถึงโรงเตี๊ยมหยี่หลานแล้ว อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถเข้าไปได้มากกว่านี้เพราะถนนด้านหน้าโรงเตี๊ยมหยี่หลานเนืองแน่นไปด้วยผู้คน
 
ทุกคนกำลังมองไปยังจุดหมายเดียวกันจากที่ไกลๆ ที่ซึ่งบ้านเก่าโกโรโกโสหลังนึงได้พังลงมาแล้ว มีร่องรอยการต่อสู้อย่างชัดเจน!
 
“ข้าได้ยินมาว่าเซียนหญิงดอกบัวแดงกับเซียนของสำนักโยวฉุยได้ต่อสู้กันมากว่าหนึ่งร้อยยกแล้ว แต่ว่า เซียนหญิงดอกบัวแดงเป็นฝ่ายแพ้!”
 
(*ขอเปลี่ยนจากนักบุญเป็นเซียนหญิงครับ)
 
“อย่างงั้นหรอ? ดุเดือดกันจริงๆ! มันเป็นเพราะผู้สืบทอดสำนักเทียนหยุนจริงๆใช่ไหม?”
 
กู่ฉินเจิ้งกำลังฟังผู้คนรอบข้างที่กำลังพูดคุยกันอย่างดุเดือด
 
“ใช่เลย เซียนดอกบัวแดงยืนกรานว่าจะฝึกตนด้วยกันกับผู้สืบทอดของสำนักเทียนหยุนสองต่อสองแต่เซียนของสำนักโยวฉุยไม่พอใจกับความคิดนั้นพวกเธอก็เลยต่อสู้กัน
 
“น่าตื่นเต้นดีนี่!”
 
“มีที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นด้วยนะ มีข่าวลือว่าเซียนดอกบัวแดงกำลังฝึกฝนวิชาลับที่ต้องให้เธอฝึกตนกับผู้ชายแค่สองต่อสอง ไม่อย่างนั้นเธอจะถูกวิชาครอบงำแล้วตายได้!”
 
“หนอย! เธอน่าจะมาขอให้เข้าร่วมกับเธอนะ! ข้าอาจจะแก่แต่ข้ายังต่อสู้ได้อยู่!”
 
“ข้าก็จะไปด้วย!”
 
“ฝันไปเถอะ เธอเป็นเซียน!”
 
เมื่อได้ฟังบทสนทนาพวกนี้ ใบหน้าของกู่ฉินเจิ้งก็หดหู่อย่างเหลือเชื่อ
 
เธอแทบจะมั่นใจว่ามีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ถึงยังไง มันจะไปมีเซียนไร้สาระแบบนั้นได้ยังไงกัน?
 
‘เป็นใครกันแน่นะ? เฉินเฉินผู้สืบทอดของสำนักเทียนหยุนหรอ?’
 
‘เป็นไปไม่ได้ ผู้สืบทอดคนนั้นจะเจ้าเล่ห์ขนาดนั้นได้ยังไง?’
 
อย่างไรก็ตาม นอกจากผู้สืบทอดแล้ว เธอนึกถึงคนอื่นไม่ออกเลย เนื่องจากผู้สืบทอดของสำนักโยวฉุยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
 
‘ไอ้คนน่าไม่อายนั่นน่าจะเป็นคนที่ทำให้เซียนสองคนนั้นมองข้ามภาพลักษณ์ของพวกเธอและทำเรื่องแบบนั้น…’
 
ด้วยความคิดเช่นนี้ กู่ฉินเจิ้งก็รู้สึกได้ถึงวิกฤตอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
 
เธอไม่สามารถคิดวิธีแบบนี้ได้และต่อให้เธอคิดได้ เธอก็ไม่มีทรัพยากรที่จะดำเนินการ
 
“ต่ำช้าที่สุด!”
 
ด้วยการเดินกระแทกเท้าอย่างเกรี้ยวกราด กู่ฉินเจิ้งก็เดินกลับไปยังเส้นทางที่เธอมา เธอพึ่งจะระบายความโกรธไปเมื่อวานแต่เขาก็แก้แค้นอีกครั้งจริงๆ และทำให้เธอรู้สึกโกรธอย่างเหลือเชื่อ
 
ในอีกด้านนึง ขุนนางมากมายได้ส่งคนของพวกเขามาที่โรงเตี๊ยมหยี่หลานเพื่อหาวิธีช่วยเซียนดอกบัวแดง
 
พวกเขาพูดซ้ำๆไม่ยอมหยุดว่าเซียนหญิงตกอยู่ในอันตรายและในฐานะคนหนุ่มนิสัยดีของเมืองหลวง พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้เธอล้มเหลวโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือได้…
 

 
ในวันต่อมา ลูกค้าที่สัญจรเข้าออกโรงเตี๊ยมหยี่หลานก็มากกว่าปกติถึงสิบเท่า
 
สภาพแวดล้อมที่เหมือนกับสำนักในโรงเตี๊ยมหยี่หลานนั้นได้มอบประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างเหลือเชื่อให้กับพวกเขา
 
ในโรงเตี๊ยมหยี่หลานมีอยู่ทั้งหมดห้าชั้นและแต่ละชั้นก็มีการตกแต่งไม่เหมือนกัน และผู้หญิงในแต่ละชั้นก็มีสไตล์ไม่เหมือนกันด้วย
 
ชื่อของพวกเธอถูกเปลี่ยน และคุณค่าของพวกเธอก็เพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า ในเวลาแค่วันเดียว โรงเตี๊ยมหยี่หลานก็ได้เงินเท่ากับรายได้ของปีที่แล้วรวมกัน
 
ในตอนที่พวกเธอว่าง หญิงสาวมากมายก็เต็มไปด้วยความร่าเริงและเข้ามาขอบคุณเฉินเฉินอย่างเต็มที่
 
พวกเธอไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนึงที่พวกเธอจะสามารถมีความสุขกับการปรนนิบัติที่แม้แต่ยิ่งที่สวยที่สุดก็ไม่สามารถเพลิดเพลินได้
 

 
เวลาค่ำ
 
อันจิ่วเหนียงโค้งคำนับเบื้องหน้าป้ายเคารพหลุมศพของแม่เธอ
 
ถ้าแม่ของเธอยังอยู่และเห็นสถานการณ์ในโรงเตี๊ยมหยี่หลานในวันนี้ เธออาจจะยิ้มอยู่ในหลุมศพของเธอก็ได้
หลังจากที่ออกมาจากที่เคารพ อันจิ่วเหนียงก็เดินเข้าไปในสวนและเธอก็อดตกใจไม่ได้
 
มันจะถึงวันต่อสู้ของ 36 สำนักแล้ว แต่ผู้สืบทอดกลับเลือกที่จะพักผ่อนแทนเนี่ยนะ?
 
เมื่อคิดแบบนี้ อันจิ่วเหนียงก็เดินเข้าไปใกล้แล้วกระซิบ “ท่านผู้สืบทอด ท่านกำลังกังวลเรื่องการต่อสู้วันพรุ่งนี้อยู่หรอคะ?”
 
“ไม่ใช่หรอก” เฉินเฉินไม่ได้หันกลับมาแต่เขาเงยหน้ามองพระจันทร์อย่างเงียบๆแทน
 
“ถ้างั้นทำไมหล่ะคะ? ข้าอาจจะอ่อนต่อโลกและอาจจะไม่สามารถแบ่งเบาภาระให้ท่านได้แต่ข้ายินดีเป็นผู้ฟังอย่างเงียบๆค่ะ”
 
น้ำเสียงของอันจิ่วเหนียงอ่อนโยน เฉินเฉินได้ช่วยให้โรงเตี๊ยมหยี่หลานพัฒนาขึ้นเป็นอย่างดีในเวลาแค่ไม่กี่วัน แนวคิดที่น่าเหลือเชื่อของเขาสร้างความตกตะลึงให้เธอจริงๆ
 
ตอนนี้ในเมื่อจู่ ๆเขาก็แสดงความเศร้าโศกออกมาอย่างกะทันหัน เธอจึงหักห้ามใจไม่ให้ได้รับผลกระทบและตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของเขาไม่ได้ ความสุขที่เธอรู้สึกจากความเปลี่ยนแปลงในโรงเตี๊ยมหยี่หลานได้หายไปกว่าครึ่งนึง
 
เมื่อได้ฟังเช่นนี้ เฉินเฉินก็หันกลับมาแล้วพูดอย่างนุ่มนวล “แผนการดั้งเดิมที่ให้เกณฑ์ผู้หญิงมาเพิ่มอีกในวันพรุ่งนี้เอาเป็นว่าขอยกเลิกแล้วกัน”
 
“เอ๊ะ? ทำไมหรอคะ?”
 
อันจิ่วเหนียงตกใจเล็กน้อย
 
เฉินเฉินถอนหายใจด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน หลังจากผ่านไปพักใหญ่ๆ เขาก็พูด “ในบางอุตสาหกรรม ข้าอาจจะไม่รู้สึกถึงความสำเร็จต่อให้ข้าไปถึงจุดสูงสุดแล้วก็ตาม”
 
หลังจากได้ฟังคำพูดของเขา สีหน้าของอันจิ่วเหนียงก็หดหู่ขึ้นมา
 
มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ อุตสาหกรรมนี้มันไม่น่านับถือเลย
 
“ท่านพูดถูกแล้วหล่ะค่ะ ท่านผู้สืบทอด ไม่มีใครเต็มใจเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ก็แค่ถูกสถานการณ์บังคับเท่านั้น”
 
เฉินเฉินตกอยู่ในความเงียบในขณะที่เขานึกถึงหน้าตาหื่นกระหายของแขกและวิธีที่เด็กสาวทำตัวให้ดูเคร่งขรึมตามคำแนะนำของเขา
 
ในตอนนี้ เขารู้สึกเหมือนเป็นคนที่ชั่วร้าย
 
“สุดท้ายแล้ว ข้าก็เป็นแค่เด็กหนุ่มที่มีจิตใจดีและสดใส ข้าไม่สามารถทำงานในอุตสาหกรรมแบบนี้ได้เพราะข้าจะรู้สึกผิด”
 
หลังจากที่ใจเย็นลงแล้ว เฉินเฉินก็ได้ข้อตกลงกับตัวเอง
 
การตรวจสอบหอโสเภณีหรือการพัฒนาโรงเตี๊ยมหยี่หลานนั้น เขาทำลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบล้วน ๆ
 
หลังจากที่ความโกรธของเขาหายไป ในที่สุดเขาก็รู้สึกตัวว่าเขาไม่ชอบอุตสาหกรรมแบบนี้เลย
 
เขาจะรู้สึกแย่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่เขาเห็นพวกผู้หญิงที่ค่อยๆเข้าไปใกล้ และพยายามที่จะโปรยเสน่ห์และยั่วยวนคนอื่นด้วยเสน่ห์ของพวกเธอ
 
มันเป็นเพราะเขาเห็นด้านที่แท้จริงของผู้หญิงเหล่านี้ที่มีความอ่อนไหวเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ คงจะไม่มีใครเต็มใจเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้ด้วยความตั้งใจของตัวเอง
 
“ท่านผู้สืบทอด ท่านคิดว่าพวกเราควรทำยังไงดีคะ?” อันจิ่วเหนียงถาม
 
“จิ่วเหนียง เจ้าชอบทำงานในอุตสาหกรรมนี้รึเปล่า?” เฉินเฉินถาม
 
“ถ้าให้พูดตามตรง… ข้าเองก็ไม่ชอบค่ะ ตอนนั้น ข้าคิดว่าถ้าโรงเตี๊ยมหยี่หลานเจ๊ง ข้าก็จะได้เป็นอิสระ”
 
อันจิ่วเหนียงพึมพำ หลังจากได้ฟังคำพูดในคืนนี้ของเฉินเฉิน เธอก็นึกถึงสาเหตุที่เธอยอมจ่ายหินวิญญาณ 300 ก้อนด้วยอารมณ์ชั่ววูบเพื่อเชื้อเชิญผู้สืบทอดคนนึง…
 
มันเป็นเพราะจิตใต้สำนึกของเธออยากจะทำให้โรงเตี๊ยมหยี่หลานปิดตัวลงจริงๆ
 
“ถ้าอย่างนั้น โรงเตี๊ยมหยี่หลานก็ควรจะคงอยู่ในสภาพแบบตอนนี้ อย่าขยับขยายไปมากกว่านี้อีก หลังจากผ่านไปซักพัก พวกเราจะเปิดร้านที่แตกต่างออกไปใกล้ๆโรงเตี๊ยมหยี่หลาน และพวกผู้หญิงก็จะได้ทำตามที่พวกเธอต้องการ”
 
เมื่อได้ฟังคำพูดของเฉินเฉิน อันจิ่วเหนียงก็ตกอยู่ในห้วงความคิด
 
เธอสามารถบอกได้เลยว่าเขาให้เกียรติพวกเธอ
 
เขาไม่ได้บังคับพวกผู้หญิงให้เปลี่ยนเส้นทางอาชีพและให้ทำการตัดสินใจ แต่เขาแค่เสนอตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับชีวิตของพวกเธอ
 
ผู้สืบทอดที่สูงส่งคนอื่นๆจะเป็นคนช่างคิดและมีจิตใจดีขนาดนี้ได้รึเปล่า? แน่นอนว่า คนพวกนั้นคงไม่คิดจะแสดงความเห็นใจกับผู้หญิงพวกนี้หรอก อันที่จริง พวกเขาค่อนข้างสมเพชมนุษย์ด้วยซ้ำ
 
ชายที่เธอกำลังเผชิญหน้าอยู่ในตอนนี้เป็นคนที่พิเศษมากจริงๆ
 
เขาเป็นยอดฝีมืออย่างเห็นได้ชัดแต่เขาก็เคารพมนุษย์ด้วย
 
ในตอนที่เธอตกอยู่ในความสับสน เฉินเฉินก็เดินไปที่ห้องของเขาแล้ว
 
ในตอนนี้เอง อันจิ่วเหนียงก็ตะโกนออกมาโดยไม่รู้ตัว “ท่านผู้สืบทอด! รอเดี๋ยวก่อนค่ะ!”
 
“มีอะไรล่ะ?” เฉินเฉินหยุดฝีเท้าของเขา
 
ในตอนที่มองแผ่นหลังของเฉินเฉิน อันจิ่วเหนียงก็พูดไม่ออกไปพักนึง หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็โค้งคำนับแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “การได้มาพบกับท่านผู้สืบทอดนั้นถือเป็นพรสำหรับข้า จากก้นบึ้งของหัวใจข้านั้น ข้าอยากให้ท่านทุ่มเต็มที่ในวันพรุ่งนี้และข้าหวังว่าท่านจะได้รับชัยชนะ และมีอนาคตที่ยิ่งใหญ่ในหนทางแห่งการฝึกตนค่ะ!”

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset