ก่อนที่กู่ฉินเจิ้งจะทำการยืดเส้นยืดสายตอนเช้าเสร็จ บ้านดอกไม้พระจันทร์ก็ตกอยู่ในความวุ่นวายแล้ว
ในตอนนี้ มีหญิงสาวมากมายที่มองไปทางโรงเตี๊ยมหยี่หลานด้วยความปรารถนาในดวงตาของพวกเธอโดยไม่รู้ตัว
“นายหญิง… ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าผู้สืบทอดของสำนักเทียนหยุนจะเป็นที่นิยมมากจนมีผู้หญิงสองคนมาต่อสู้แย่งชิงเขา”
พนักงานรู้สึกอิจฉาอย่างมากและเขารู้สึกเหมือนกับว่าเฉินเฉินประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว
“เจ้ารู้อะไรบ้าง!?!”
ดวงตาของกู่ฉินเจิ้งเย็นยะเยือกในขณะที่เธอเดินลงบันไดไปในทันทีแล้วรีบมุ่งหน้าไปที่โรงเตี๊ยมหยี่หลาน
ในตอนนี้ เธอมีความรู้สึกลางๆว่าละครการต่อสู้แย่งชิงผู้สืบทอดของสองสาวนั้นมีคนจงใจทำให้มันเกิดขึ้น
และถ้าเป็นอย่างนั้น… มันก็คงจะน่ากลัวจริงๆ!
ในขณะที่เธอเดิน สีหน้าของเธอก็ค่อยๆเครียดหนักขึ้น ในขณะที่มีผู้คนบนท้องถนนมากขึ้นเรื่อย ๆ แทบจะทุกคนกำลังวิ่งไปทางเดียวกัน
มีแม้กระทั่งยามประจำเมืองที่มาเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย!
หลังจากนั้นสักพัก ในที่สุดเธอก็ใกล้จะถึงโรงเตี๊ยมหยี่หลานแล้ว อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถเข้าไปได้มากกว่านี้เพราะถนนด้านหน้าโรงเตี๊ยมหยี่หลานเนืองแน่นไปด้วยผู้คน
ทุกคนกำลังมองไปยังจุดหมายเดียวกันจากที่ไกลๆ ที่ซึ่งบ้านเก่าโกโรโกโสหลังนึงได้พังลงมาแล้ว มีร่องรอยการต่อสู้อย่างชัดเจน!
“ข้าได้ยินมาว่าเซียนหญิงดอกบัวแดงกับเซียนของสำนักโยวฉุยได้ต่อสู้กันมากว่าหนึ่งร้อยยกแล้ว แต่ว่า เซียนหญิงดอกบัวแดงเป็นฝ่ายแพ้!”
(*ขอเปลี่ยนจากนักบุญเป็นเซียนหญิงครับ)
“อย่างงั้นหรอ? ดุเดือดกันจริงๆ! มันเป็นเพราะผู้สืบทอดสำนักเทียนหยุนจริงๆใช่ไหม?”
กู่ฉินเจิ้งกำลังฟังผู้คนรอบข้างที่กำลังพูดคุยกันอย่างดุเดือด
“ใช่เลย เซียนดอกบัวแดงยืนกรานว่าจะฝึกตนด้วยกันกับผู้สืบทอดของสำนักเทียนหยุนสองต่อสองแต่เซียนของสำนักโยวฉุยไม่พอใจกับความคิดนั้นพวกเธอก็เลยต่อสู้กัน
“น่าตื่นเต้นดีนี่!”
“มีที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นด้วยนะ มีข่าวลือว่าเซียนดอกบัวแดงกำลังฝึกฝนวิชาลับที่ต้องให้เธอฝึกตนกับผู้ชายแค่สองต่อสอง ไม่อย่างนั้นเธอจะถูกวิชาครอบงำแล้วตายได้!”
“หนอย! เธอน่าจะมาขอให้เข้าร่วมกับเธอนะ! ข้าอาจจะแก่แต่ข้ายังต่อสู้ได้อยู่!”
“ข้าก็จะไปด้วย!”
“ฝันไปเถอะ เธอเป็นเซียน!”
เมื่อได้ฟังบทสนทนาพวกนี้ ใบหน้าของกู่ฉินเจิ้งก็หดหู่อย่างเหลือเชื่อ
เธอแทบจะมั่นใจว่ามีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ถึงยังไง มันจะไปมีเซียนไร้สาระแบบนั้นได้ยังไงกัน?
‘เป็นใครกันแน่นะ? เฉินเฉินผู้สืบทอดของสำนักเทียนหยุนหรอ?’
‘เป็นไปไม่ได้ ผู้สืบทอดคนนั้นจะเจ้าเล่ห์ขนาดนั้นได้ยังไง?’
อย่างไรก็ตาม นอกจากผู้สืบทอดแล้ว เธอนึกถึงคนอื่นไม่ออกเลย เนื่องจากผู้สืบทอดของสำนักโยวฉุยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
‘ไอ้คนน่าไม่อายนั่นน่าจะเป็นคนที่ทำให้เซียนสองคนนั้นมองข้ามภาพลักษณ์ของพวกเธอและทำเรื่องแบบนั้น…’
ด้วยความคิดเช่นนี้ กู่ฉินเจิ้งก็รู้สึกได้ถึงวิกฤตอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เธอไม่สามารถคิดวิธีแบบนี้ได้และต่อให้เธอคิดได้ เธอก็ไม่มีทรัพยากรที่จะดำเนินการ
“ต่ำช้าที่สุด!”
ด้วยการเดินกระแทกเท้าอย่างเกรี้ยวกราด กู่ฉินเจิ้งก็เดินกลับไปยังเส้นทางที่เธอมา เธอพึ่งจะระบายความโกรธไปเมื่อวานแต่เขาก็แก้แค้นอีกครั้งจริงๆ และทำให้เธอรู้สึกโกรธอย่างเหลือเชื่อ
ในอีกด้านนึง ขุนนางมากมายได้ส่งคนของพวกเขามาที่โรงเตี๊ยมหยี่หลานเพื่อหาวิธีช่วยเซียนดอกบัวแดง
พวกเขาพูดซ้ำๆไม่ยอมหยุดว่าเซียนหญิงตกอยู่ในอันตรายและในฐานะคนหนุ่มนิสัยดีของเมืองหลวง พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้เธอล้มเหลวโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือได้…
…
ในวันต่อมา ลูกค้าที่สัญจรเข้าออกโรงเตี๊ยมหยี่หลานก็มากกว่าปกติถึงสิบเท่า
สภาพแวดล้อมที่เหมือนกับสำนักในโรงเตี๊ยมหยี่หลานนั้นได้มอบประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างเหลือเชื่อให้กับพวกเขา
ในโรงเตี๊ยมหยี่หลานมีอยู่ทั้งหมดห้าชั้นและแต่ละชั้นก็มีการตกแต่งไม่เหมือนกัน และผู้หญิงในแต่ละชั้นก็มีสไตล์ไม่เหมือนกันด้วย
ชื่อของพวกเธอถูกเปลี่ยน และคุณค่าของพวกเธอก็เพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า ในเวลาแค่วันเดียว โรงเตี๊ยมหยี่หลานก็ได้เงินเท่ากับรายได้ของปีที่แล้วรวมกัน
ในตอนที่พวกเธอว่าง หญิงสาวมากมายก็เต็มไปด้วยความร่าเริงและเข้ามาขอบคุณเฉินเฉินอย่างเต็มที่
พวกเธอไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนึงที่พวกเธอจะสามารถมีความสุขกับการปรนนิบัติที่แม้แต่ยิ่งที่สวยที่สุดก็ไม่สามารถเพลิดเพลินได้
…
เวลาค่ำ
อันจิ่วเหนียงโค้งคำนับเบื้องหน้าป้ายเคารพหลุมศพของแม่เธอ
ถ้าแม่ของเธอยังอยู่และเห็นสถานการณ์ในโรงเตี๊ยมหยี่หลานในวันนี้ เธออาจจะยิ้มอยู่ในหลุมศพของเธอก็ได้
หลังจากที่ออกมาจากที่เคารพ อันจิ่วเหนียงก็เดินเข้าไปในสวนและเธอก็อดตกใจไม่ได้
มันจะถึงวันต่อสู้ของ 36 สำนักแล้ว แต่ผู้สืบทอดกลับเลือกที่จะพักผ่อนแทนเนี่ยนะ?
เมื่อคิดแบบนี้ อันจิ่วเหนียงก็เดินเข้าไปใกล้แล้วกระซิบ “ท่านผู้สืบทอด ท่านกำลังกังวลเรื่องการต่อสู้วันพรุ่งนี้อยู่หรอคะ?”
“ไม่ใช่หรอก” เฉินเฉินไม่ได้หันกลับมาแต่เขาเงยหน้ามองพระจันทร์อย่างเงียบๆแทน
“ถ้างั้นทำไมหล่ะคะ? ข้าอาจจะอ่อนต่อโลกและอาจจะไม่สามารถแบ่งเบาภาระให้ท่านได้แต่ข้ายินดีเป็นผู้ฟังอย่างเงียบๆค่ะ”
น้ำเสียงของอันจิ่วเหนียงอ่อนโยน เฉินเฉินได้ช่วยให้โรงเตี๊ยมหยี่หลานพัฒนาขึ้นเป็นอย่างดีในเวลาแค่ไม่กี่วัน แนวคิดที่น่าเหลือเชื่อของเขาสร้างความตกตะลึงให้เธอจริงๆ
ตอนนี้ในเมื่อจู่ ๆเขาก็แสดงความเศร้าโศกออกมาอย่างกะทันหัน เธอจึงหักห้ามใจไม่ให้ได้รับผลกระทบและตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของเขาไม่ได้ ความสุขที่เธอรู้สึกจากความเปลี่ยนแปลงในโรงเตี๊ยมหยี่หลานได้หายไปกว่าครึ่งนึง
เมื่อได้ฟังเช่นนี้ เฉินเฉินก็หันกลับมาแล้วพูดอย่างนุ่มนวล “แผนการดั้งเดิมที่ให้เกณฑ์ผู้หญิงมาเพิ่มอีกในวันพรุ่งนี้เอาเป็นว่าขอยกเลิกแล้วกัน”
“เอ๊ะ? ทำไมหรอคะ?”
อันจิ่วเหนียงตกใจเล็กน้อย
เฉินเฉินถอนหายใจด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน หลังจากผ่านไปพักใหญ่ๆ เขาก็พูด “ในบางอุตสาหกรรม ข้าอาจจะไม่รู้สึกถึงความสำเร็จต่อให้ข้าไปถึงจุดสูงสุดแล้วก็ตาม”
หลังจากได้ฟังคำพูดของเขา สีหน้าของอันจิ่วเหนียงก็หดหู่ขึ้นมา
มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ อุตสาหกรรมนี้มันไม่น่านับถือเลย
“ท่านพูดถูกแล้วหล่ะค่ะ ท่านผู้สืบทอด ไม่มีใครเต็มใจเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ก็แค่ถูกสถานการณ์บังคับเท่านั้น”
เฉินเฉินตกอยู่ในความเงียบในขณะที่เขานึกถึงหน้าตาหื่นกระหายของแขกและวิธีที่เด็กสาวทำตัวให้ดูเคร่งขรึมตามคำแนะนำของเขา
ในตอนนี้ เขารู้สึกเหมือนเป็นคนที่ชั่วร้าย
“สุดท้ายแล้ว ข้าก็เป็นแค่เด็กหนุ่มที่มีจิตใจดีและสดใส ข้าไม่สามารถทำงานในอุตสาหกรรมแบบนี้ได้เพราะข้าจะรู้สึกผิด”
หลังจากที่ใจเย็นลงแล้ว เฉินเฉินก็ได้ข้อตกลงกับตัวเอง
การตรวจสอบหอโสเภณีหรือการพัฒนาโรงเตี๊ยมหยี่หลานนั้น เขาทำลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบล้วน ๆ
หลังจากที่ความโกรธของเขาหายไป ในที่สุดเขาก็รู้สึกตัวว่าเขาไม่ชอบอุตสาหกรรมแบบนี้เลย
เขาจะรู้สึกแย่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่เขาเห็นพวกผู้หญิงที่ค่อยๆเข้าไปใกล้ และพยายามที่จะโปรยเสน่ห์และยั่วยวนคนอื่นด้วยเสน่ห์ของพวกเธอ
มันเป็นเพราะเขาเห็นด้านที่แท้จริงของผู้หญิงเหล่านี้ที่มีความอ่อนไหวเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ คงจะไม่มีใครเต็มใจเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้ด้วยความตั้งใจของตัวเอง
“ท่านผู้สืบทอด ท่านคิดว่าพวกเราควรทำยังไงดีคะ?” อันจิ่วเหนียงถาม
“จิ่วเหนียง เจ้าชอบทำงานในอุตสาหกรรมนี้รึเปล่า?” เฉินเฉินถาม
“ถ้าให้พูดตามตรง… ข้าเองก็ไม่ชอบค่ะ ตอนนั้น ข้าคิดว่าถ้าโรงเตี๊ยมหยี่หลานเจ๊ง ข้าก็จะได้เป็นอิสระ”
อันจิ่วเหนียงพึมพำ หลังจากได้ฟังคำพูดในคืนนี้ของเฉินเฉิน เธอก็นึกถึงสาเหตุที่เธอยอมจ่ายหินวิญญาณ 300 ก้อนด้วยอารมณ์ชั่ววูบเพื่อเชื้อเชิญผู้สืบทอดคนนึง…
มันเป็นเพราะจิตใต้สำนึกของเธออยากจะทำให้โรงเตี๊ยมหยี่หลานปิดตัวลงจริงๆ
“ถ้าอย่างนั้น โรงเตี๊ยมหยี่หลานก็ควรจะคงอยู่ในสภาพแบบตอนนี้ อย่าขยับขยายไปมากกว่านี้อีก หลังจากผ่านไปซักพัก พวกเราจะเปิดร้านที่แตกต่างออกไปใกล้ๆโรงเตี๊ยมหยี่หลาน และพวกผู้หญิงก็จะได้ทำตามที่พวกเธอต้องการ”
เมื่อได้ฟังคำพูดของเฉินเฉิน อันจิ่วเหนียงก็ตกอยู่ในห้วงความคิด
เธอสามารถบอกได้เลยว่าเขาให้เกียรติพวกเธอ
เขาไม่ได้บังคับพวกผู้หญิงให้เปลี่ยนเส้นทางอาชีพและให้ทำการตัดสินใจ แต่เขาแค่เสนอตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับชีวิตของพวกเธอ
ผู้สืบทอดที่สูงส่งคนอื่นๆจะเป็นคนช่างคิดและมีจิตใจดีขนาดนี้ได้รึเปล่า? แน่นอนว่า คนพวกนั้นคงไม่คิดจะแสดงความเห็นใจกับผู้หญิงพวกนี้หรอก อันที่จริง พวกเขาค่อนข้างสมเพชมนุษย์ด้วยซ้ำ
ชายที่เธอกำลังเผชิญหน้าอยู่ในตอนนี้เป็นคนที่พิเศษมากจริงๆ
เขาเป็นยอดฝีมืออย่างเห็นได้ชัดแต่เขาก็เคารพมนุษย์ด้วย
ในตอนที่เธอตกอยู่ในความสับสน เฉินเฉินก็เดินไปที่ห้องของเขาแล้ว
ในตอนนี้เอง อันจิ่วเหนียงก็ตะโกนออกมาโดยไม่รู้ตัว “ท่านผู้สืบทอด! รอเดี๋ยวก่อนค่ะ!”
“มีอะไรล่ะ?” เฉินเฉินหยุดฝีเท้าของเขา
ในตอนที่มองแผ่นหลังของเฉินเฉิน อันจิ่วเหนียงก็พูดไม่ออกไปพักนึง หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็โค้งคำนับแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “การได้มาพบกับท่านผู้สืบทอดนั้นถือเป็นพรสำหรับข้า จากก้นบึ้งของหัวใจข้านั้น ข้าอยากให้ท่านทุ่มเต็มที่ในวันพรุ่งนี้และข้าหวังว่าท่านจะได้รับชัยชนะ และมีอนาคตที่ยิ่งใหญ่ในหนทางแห่งการฝึกตนค่ะ!”
ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 90: ทำไม่ได้
Posted by ? Views, Released on September 26, 2021
, I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!”
เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา
เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที
“ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?”
“ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!”
เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย
ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา
แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว!
เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ!
การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ!
‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง
“มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!”
หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา
เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย
ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน?
ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน
แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า
เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ
เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน
ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข
เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน
เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’
“อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง”
นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้
“ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ”
อะไรนะ?!
เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา
เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง
‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม
ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา
“ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่”
เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม
หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย
‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา
เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน?
นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้!
ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา
“รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ”
เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้
ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน…
“เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!”
เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที
ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน
Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since.
Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.”
Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”