ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 98: ทำให้เขาพิการซะ

“ฮ่า…อ๊า!”
 
เฉินเฉินหาวและตื่นขึ้นมาจากการงีบ เขาพึ่งจะเห็นว่ากลุ่มของผู้สืบทอดจ้องมาที่เขา เขาพูดอะไรไม่ออก
 
“พวกเจ้ามองมาที่ข้าทำไมกัน? วันนี้จบแล้วเหรอ?”
 
ผู้สืบทอดพูดไม่ออก ‘เขาพยายามที่จะเตือนเจ้า เจ้าสนใจมากกว่านี้ได้อีกไหม?’
 
“ศิษย์พี่เฉินเฉิน… ฉีปู่ฝานกำลังคุกคามพี่อยู่”
 
โยวหลานซินที่อยู่ด้านข้างพูดไม่ออก ‘ข้าเอาแต่กังวลกับศิษย์พี่เฉิน แต่เขาเอาแต่นอนเนี่ยนะ!’
 
“เขาจะคุกคามข้าทำไม?”
 
เฉินเฉินมองไปที่ฉีปู่ฝานที่กำลังเดือดดาลตรงใจกลางสังเวียน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล
 
ฉีปู่ฝานโกรธเคืองกับการแสดงออกของเขามากจนแทบจะกระอักเลือดออกมา ตอนแรกเขานั้นดูองอาจอย่างมาก เมื่อเขาได้ใช้โอกาสนี้หลังจากจัดการหลินจินไปเพื่อพูดคำเหล่านี้ออกมา แต่คำพูดของเขาดูไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร
 
ถ้าเขาพูดออกมาอีกครั้งหนึ่ง มันจะดูโง่เง่ามาก
 
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เขาจ้องไปที่เฉินเฉินอย่างอาฆาตแค้นและเดินออกมาจากสังเวียนโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ยังไงก็ตามในส่วนลึกในใจของเขาแล้ว เขาได้ตัดสินใจไว้แล้วว่าพรุ่งนี้เขาจะไม่เพียงแต่ทำให้แขนขาของเฉินเฉินพิการ แต่เขาจะทำให้เฉินเฉินได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย!
 

 
ตอนขากลับ โยวหลานซินพูดออกมาด้วยความอับอาย “พี่เฉิน ความอ่อนแอของข้าทำให้ท่านโดนคนอื่นรังเกียจ ฉีปู่ฝานได้เตือนว่าเขาจะโจมตีพี่ในวันรุ่งขึ้น ทำไมท่านไม่ไปยอมแพ้ก่อนที่จะไปสู้กับคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอกว่า ก่อนที่จะไปแย่งที่นั่งคืนกันคะ?”
 
“เจ้ากำลังดูถูกข้าอยู่หรือยังไง? หื้ม?” เฉินเฉินพูดและหัวเราะออกมา ก่อนที่จะเดินออกไป
 
“ฉีปู่ฝานจัดการหลินจินและทำให้เขาเจ็บหนักอีก ถ้าไม่มีสมบัติสวรรค์แล้ว ข้าเกรงว่าสำนักมังกรมรกตจะถูกไล่ออกไปจาก 36 สำนักเนี่ยสิคะ” โยวหลานซินพูดออกมาอย่างกังวลใจ เธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวสลักไว้บนใบหน้า
 
อันดับสองได้พิการไปแล้ว นี่มันโหดเหี้ยมมากเกินไป
 
แน่นอนว่าหลังจากสองวันของการประลองจัดอันดับ อันดับผู้สืบทอดก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ฉีปู่ฝานได้แทนที่หลินจินเป็นอันดับสองในรายชื่อ
 
“เขาจัดการหลินจิน? เขาทรงพลังขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย?”
 
การแสดงออกของเฉินเฉินเปลี่ยนเป็นจริงจังทันที เขานั้นงีบหลับไปเพราะว่าเขาเหนื่อยล้ากับการตรวจดูสมบัติที่เขาได้รับมาจากผู้สืบทอดคนอื่นและทำให้ตัวเองเลือดไหลเมื่อคืนนี้
 
“ใช่เลยค่ะ!” โยวหลานซินตะโกนออกมา เธอดูมีชีวิตชีวามากขึ้นเมื่อเห็นเฉินเฉินดูจริงจังมากขึ้นแล้ว
 
‘ศิษย์พี่ได้ตระหนักแล้วว่ามันเป็นเรื่องจริงจังมากแค่ไหน’
 
“โอ้?”
 
เฉินเฉินตอบกลับอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไร
 
เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับฉีปู่ฝาน เขานั้นกังวลเกี่ยวกับหยวนฉิงเทียนที่สามารถเอาชนะฉีปู่ฝานได้และยังนั่งอยู่บนเก้าอี้อันดับหนึ่งของสำนักอีก
 
‘เขากำลังทำอะไรกันอยู่เนี่ย?’
 
‘ฉีปู่ฝานได้จัดการหลินจินไปและชายคนนี้สามารถเอาชนะฉีปู่ฝานได้ เขาน่าจะอยู่ระดับเดียวกันกับฉงเย่ใช่ไหม?’
 
‘คนที่ทรงพลังแบบเขามัวแต่นั่งอยู่เฉยแบบนั้นทำไมกัน?’
 
‘เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน มันจะต้องมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้’
 
‘มันมีอะไรผิดปกติกัน?
 
เฉินเฉินไม่สามารถที่จะเข้าใจได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่พรุ่งนี้มันเป็นวันสุดท้ายของการประลองจัดอันดับและถ้ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากลแล้ว มันคงน่าจะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
 
เมื่อเห็นเฉินเฉินเหม่อลอยไปอีกครั้งหนึ่ง โยวหลานซินรู้สึกท้อแท้ แม้ว่าเขาจะเป็นคนจะต้องไปต่อสู้กับฉีปู่ฝาน แต่เธอกลับเป็นคนที่กังวลมากกว่าเขาเสียนี่
 
เพียงแค่ทั้งสองคนกำลังเดินกลับไป เสียงนี้ก็ดังขึ้นจากร้านพิเศษที่อยู่ห่างออกไป
 
“มันเกิดขึ้นแล้ว วันพรุ่งนี้ฉีปู่ฝานที่อยู่อันดับสองจะเผชิญหน้ากับเฉินเฉินที่อยู่อันดับเจ็ด คนที่พนันว่าฉีปู่ฝานชนะจะได้รับเงิน 1.2 เท่า ส่วนคนที่พนันว่าเฉินเฉินจะชนะจะได้รับเงินมากกว่า 5 เท่า!”
 
เมื่อได้ยินดังนี้แล้ว ตาของโยวหลานซินโตขึ้น เธอพึมพำออกมา “ศิษย์พี่เฉิน ถ้าข้าพนันหนึ่งหมื่นหินวิญญาณกับชัยชนะของฉีปู่ฝานแล้ว ไม่ใช่ว่าข้าจะได้รับหินวิญญาณสองพันก้อนพรุ่งนี้เหรอคะ?”
 
“ก็แย่ละ ถ้าเจ้าทำแบบนั้นเจ้าจะเสียหนึ่งหมื่นหินวิญญาณไปเนี่ยสิ” เฉินเฉินพูดออกมาอย่างไม่พอใจ
 
ยังไงก็ตาม รอยยิ้มอันชั่วร้ายก็ประดับขึ้นมาบนใบหน้าของเขา
 
“แต่ว่าเจ้าสามารถไปพนันสักร้อยหินวิญญาณก็ได้นะ บางทีข้าอาจจะยอมแพ้ก็ได้”
 
“ศิษย์พี่เฉินเฉิน ในที่สุดท่านก็พูดออกมาสักที ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกกับการยอมรับความพ่ายแพ้ ดูเย่หวู่เชิงและคนอื่นสิ พวกเขาต่างเลือกที่จะยอมแพ้เหมือนกัน”
 
เมื่อเห็นเฉินเฉินตระหนักได้แล้ว โยวหลานซินก็ลงพนันทันที
 
ยังไงก็ตาม เธอไม่ได้พนัน 100 หินวิญญาณ แต่แอบพนันไป 200 หินวิญญาณต่างหาก
 
‘มีแค่คนโง่เท่านั้นแหละที่ไม่เลือกจะได้รับหินวิญญาณแบบนี้’
 
….
 
ยังไงก็ตาม เจ้าของร้านพนันและนักพนันต่างไม่ได้เป็นคนโง่ เมื่อพวกเขาได้ยินว่าผู้สืบทอดของสำนักโยวฉุยที่เป็นคนสนิทกับเฉินเฉินเลือกพนัน 200 หินวิญญาณกับฉีปู่ฝานแล้ว พวกเขาก็รู้สึกว่ามันมีอะไรซ่อนเร้นอยู่อย่างแน่นอน
 
‘นี่จะเป็นข่าวลับ!’
 
ด้วยเหตุนี้นี่เอง ผู้คนมากมายจึงถาโถมพนันกับชัยชนะของฉีปู่ฝาน เพียงเวลาไม่นาน นักพนันก็ให้รางวัลของฉีปู่ฝานเป็น 1 ต่อ 1 ในขณะที่เฉินเฉินจะได้รับเป็น 1 ต่อ 10
 
เมื่อถึงเวลาที่เฉินเฉินกลับมาถึงโรงเตี๊ยมหยีหลานแล้ว ราคาพนันก็เป็น 1 ต่อ 15 แล้ว
 
“อ๊า นี่มันเป็นความดีความชอบมากมายแน่เลยที่จะทำให้คนอื่นเลิกพนันได้เนี่ย”
 
เมื่อเห็นการต่อรองของสำนักพนันในเมืองหลวง ใบหน้าของเฉินเฉินดูสว่างสดใสมากขึ้นทันที
 
เขาเดินไปเรียนจางจีมา
 
“จางจี เจ้ารู้จักสำนักพนันที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไหม?”
 
จางตีตะโกนออกมา “พี่ใหญ่ ข้ารู้ ข้าไปพนันเงินทั้งหมดของข้ากับท่าน! จำนวนตั้ง 30 หินวิญญาณแหนะ!”
 
ยังไงก็ตาม มันไม่มีร่องรอยความเจ็บปวดในดวงตาของเขาเลยสักนิด กลับกันเขากลับมีความสุขแทน
 
เขามีความสุขมาก เพราะว่าเขาจะได้รับหินวิญญาณหลายร้อยก้อนกลับมา
 
เขาไม่เคยสงสัยในตัวพี่ใหญ่เฉินเฉินของเขาเลย
 
เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับอันดับและอัตราการต่อรองเลยสักนิด เมื่อพวกมันต่างเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับเขากันทั้งนั้น
 
เฉินเฉินตื้นตันใจด้วยเช่นกัน นับตั้งแต่เริ่มแรก จางจีที่ออกมาฝึกตนพร้อมกับเขานั้นเป็นเพียงคนเดียวที่เข้าใจเขา
 
‘แต่หินวิญญาณ 30 ก้อนเนี่ยนะ…จางจีจนเกินไปหรือเปล่าเนี่ย’
 
ถึงแม้ว่าจางจะถูกว่าเป็นคนรวยเมื่อเทียบกับลูกศิษย์คนอื่นแล้ว เขาก็นับว่าเป็นคนจนเลยเมื่อเทียบกับเป็นลูกน้องคนรวยอย่างเฉินเฉิน
 
เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เขาอดที่จะรู้สึกผิดไม่ได้
 
“จางจีเอาหินวิญญาณนี่ไปและไปพนันพวกมันให้หมดกับข้า มาแบ่งเงินรางวัลที่ได้มากันสองคนเถอะ”
 
จางจีรับกระเป๋าเก็บของไปและตรวจสอบจำนวนหินวิญญาณด้านใน ตาของเขากระตุกทันที
 
‘หินวิญญาณหนึ่งหมื่นก้อน…’
 
‘ถ้าพี่ใหญ่ชนะ เงินรางวัลที่จะได้มามันคือสิบห้าเท่าของหนึ่งหมื่น…นี่มันจะทำให้นักพนันทั่วทั้งเมืองล้มละลายได้เลยนะเนี่ย!’
 
‘พี่ใหญ่บอกว่าเขาจะแบ่งกับข้า ถ้าเขาชนะ นั่นหมายความว่าข้าจะได้รับเจ็ดหมื่นห้าพันก้อนเลยเหรอเนี่ย!?’
 
จางจีหายใจเข้าลึก
 
จางจีหน้ามืด โชคดีที่เขาไม่ได้เป็นลมและรีบส่ายหัว “พี่ชาย ข้าไม่ต้องการหินวิญญาณมากขนาดนั้นครับ ด้วยความสามารถของข้าแล้ว หินวิญญาณหนึ่งก้อนก็มากพอที่จะทำให้ข้าฝึกตนได้ทั้งวันแล้ว ถ้าข้าเก็บหินวิญญาณมากขนาดนั้นไว้ติดตัว มันจะกลายเป็นหายนะมากกว่าครับ”
 
เมื่อได้ยินดังนี้แล้ว เฉินเฉินพูดไม่ออก แต่เขาก็ยอมรับว่าจางจีพูดได้ตรงจุด
 
ถึงแม้ว่าจางจีจะกินสมบัติสวรรค์ไปบ้างแล้ว ระดับการฝึกตนของเขาก็ยังจำกัดอยู่และเขาก็อยู่เพียงแค่ขั้นฝึกปราณระดับสามเท่านั้นเอง
 
มันจะเป็นหายนะแทน ถ้ามีคนรู้ว่าเขามีหินวิญญาณติดตัวกว่าหมื่นก้อนฃ
 
“พี่ใหญ่ เลิกคิดถึงเรื่องนี้ไปเถอะ ข้าจะไปโรงพนันแล้วนะครับ”
 
เมื่อจางจีพูดออกมา เขาเก็บกระเป๋าเก็บของลงไปและเดินออกไปจากโรงเตี๊ยมหยีหลาน
 
เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของเขา เฉินเฉินยิ้มและส่ายหัว
 
ถึงแม้ว่าจางจีดูใสซื่อ เขาก็ชาญฉลาดในช่วงเวลาที่ถูกต้อง ตั้งแต่ที่เขาได้มาถึงเมืองหลวงแล้ว เขาไม่เคยก่อความวุ่นวายเลยสักนิด
 

 
เขาได้มาถึงโรงพนันอันเลืองชื่อ
 
มันเป็นโรงพนันที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงซึ่งมันเป็นตึกขนาดใหญ่ยักษ์ที่ไม่ได้เล็กไปกว่าหอโสเภณีชั้นสูงที่สุดในเมืองเลยสักนิด บ้านแดงเมามาย
 
หลังจากที่เริ่มการประลองจัดอันดับขึ้นมาเมื่อไม่กี่วันก่อนแล้ว พวกเขาก็ได้รับหินวิญญาณกว่าหมื่นก้อน โรงพนันกำลังมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น
 
ถึงแม้ว่ามันจะดึกแล้ว โรงพนันก็ยังอัดแน่นไปด้วยผู้คนและก็มีใครบางคนที่เริ่มลงพนัน ในขณะที่บางคนกำลังเล่นทอยลูกเต๋ากันอยู่
 
“หัวหน้า สำหรับการประลองจัดอันดับวันพรุ่งนี้ ข้าขอพนันหนึ่งหมื่นหินวิญญาณกับเฉินเฉิน ผู้สืบทอดของสำนักเทียนหยุน”
 
ในเวลานี้เอง จางจีที่สวมชุดจีนก็เดินเข้ามา ชุดเขาก็ดูพริ้วไสว เขาดูไม่ได้เหมือนกับลูกน้องของคนอื่นเลยสักนิด เขากลับดูหล่อเหลามากกว่าแทน
 
“หนึ่งหมื่นหินวิญญาณ?”
 
พนักงานของโรงพนันตกตะลึง มันเป็นจำนวนเงินมหาศาลที่มีคนเพียงไม่กี่คนในเมืองหลวงที่สามารถลงพนันได้
 
การลงพนันจำนวนมากมายแบบนี้นั้นมันหมายความว่ามีอะไรแปลกๆอยู่ด้านหลังมัน
 
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เขาก็ต้องการที่จะไปแจ้งหัวหน้าของเขา
 
แต่ว่าตอนนั้นก็มีกลุ่มคนเดินเข้ามาด้านใน
 
“ข้าขอพนันสองหมื่นหินวิญญาณกับตัวของข้าเอง”
 
เมื่อได้ยินเสียงของเขาแล้ว ผู้คนในโรงพนันต่างตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนต่างหันไปมองยังต้นกำเนิดของเสียงพร้อมกัน
 
พวกเขาเห็นฉีปู่ฝานยืนอยู่ตรงประตูของโรงเตี๊ยมและกำลังพัดตัวเองด้วยสายตาที่ดุดันและผู้สืบทอดของสิบแปดสำนักกำลังเดินตามเขามาจากด้านหลัง
 
“ผู้สืบทอดของสำนักหลัวโยว!”
 
“อันดับสองมาแล้ว!”
 
“อันดับห้าของสำนักซวนปิงก็ด้วย!”
 
หลังจากตกอยู่ในความเงียบอยู่สักพักหนึ่ง นักพนันต่างตะโกนกันออกมา
 
มันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเคยพบเจอกับเรื่องนี้
 
นอกจากนี้แล้วฉีปู่ฝานยังลงพนันกับตัวเองสองหมื่นก้อนอีก!
 
ก่อนหน้านี้พวกเขาเห็นพนันเฉินเฉินไปหนึ่งหมื่นก้อนก่อนหน้านี้ก็พบว่ามันเป็นเรื่องแปลกแล้ว แต่ครั้งนี้มันเหมือนจะมากเกินไป
 
จำนวนของการพนันของเขานั้นเป็นจำนวนถึงหนึ่งหมื่นและสองหมื่นก้อนเลย มันแสดงให้เห็นว่าใครเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมากกว่ากัน
 
เมื่อพนักงานของโรงเตี๊ยมเห็นหินวิญญาณแล้ว พวกเขารับเงินพนันของจางจีและส่งตั๋วพนันให้กับจางจี
 
จางจีรับตั๋วพนันไปและหันกลับเดินออกไปโดยไม่ได้พูดอะไรออกสักคำ
 
เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของจางจีแล้ว มันแสดงให้เห็นถึงร่องรอยของความเย็นชาขึ้นในดวงตาของฉีปู่ฝาน
 
คนหลายคนต่างรวมเงินกันเพื่อพนันสองหมื่นหินวิญญาณ แต่จางจีกลับเอาออกมาคนเดียวได้ถึงหนึ่งหมื่น
 
‘เขาคือลูกน้องของเฉินเฉิน? เขามีความมั่นใจมากขนาดไหนกัน? เขาเลือกที่จะพนันทั้งตัวเนี่ยนะ?’
 
‘ไร้สาระหน่า!’
 
ในเวลานี้เองฉีปู่ฝานรู้สึกโดนดูถูก เขาได้จัดการหลินจินที่เป็นอันดับสองไปแล้ว เขารู้สึกว่าตัวเองเก่งกว่าฉงเย่ด้วยซ้ำ เขาควรได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับฉงเย่!
 
ยังไงก็ตามแม้ว่าแบบนี้ยังคงมีคนที่คิดว่าเขาน่าจะแพ้ต่อเฉินเฉินอยู่อีก!
 
‘โง่เขลา! โอ้อวด! น่ารังเกียจ! น่าสมเพศเสียจริง!’
 
‘เจ้าโง่!’
 
เมื่อเขาคิดแบบนี้แล้ว ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นชั่วร้ายทันที ความสุขของเขาที่มีต่อหลินจินจางหายไป เขาหันกลับไปและพูดอย่างเย็นชากับผู้สืบทอด “ตามเขาไป ถ้าเขาเป็นลูกน้องของเฉินเฉินแล้วทำให้เขาพิการซะ!”

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset