เซิ่นเทียนปีนขึ้นจากเตียงและตะโกนว่า“ ลุงกุ่ย! ข้าต้องการอาบน้ำตอนนี้! ข้าจะไปเดินเล่น!”
“ ฝ่าบาท ข้าจะไปเตรียมน้ำให้”
ขันทีกุ้ยก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน องค์ชานนอนบนเตียงตลอดทั้งเดือนและเขาก็รู้สึกเสียใจเช่นกัน
ในอดีตองค์ชาย 13 จะเจ็บปวดมากเมื่ออาการเส้นลมปราณเบี่ยงเบน
ทันทีที่เขาฟื้นพลังได้เล็กน้อย เขาก็หาวิชาอื่นเพื่อฝึกฝนเสมอ
คราวนี้องค์ชาย 13 นอนอยู่บนเตียงและประพฤติดี นั้นขันทีกุ้ยจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งในตอนแรก
องค์ชาย 13 ได้เรียนรู้ที่จะดูแลร่างกายของตัวเองแล้ว ในที่สุดสนมหลานจักได้พักผ่อนอย่างสลบสุข
แต่ ขันทีกุ้ยค่อยๆรู้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด
ฝ่าบาทระวังเกินไป!
เขานอนอยู่บนเตียงและไม่ขยับไปมานั้นเป็นสิ่งที่ดี
แต่เขากลับไม่ลุกออกจากเตียงเลย? แม้แต่ไปเข้าห้องน้ำ?
มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา? เขามีรากฝั่งอยู่บนเตียงหรือ?
ตลอดทั้งเดือน องค์ชายก็ระมัดระวังตัวมากเกินไป มันผิดปกติมาก
แต่ในที่สุด เซิ่นเทียนตัดสินใจอาบน้ำและออกไปข้างนอก ขันทีกุ้ยก็วางแผนที่จะเชิญหมอในราชวงศ์มาก เขาสงสัยว่าการเบี่ยงเบนของเส้นลมปราณ ในครั้งนี้อาจทำให้สมองขององค์ชาย 13 ได้รับบาดเจ็บ
…
ในไม่ช้า เซิ่นเทียนก็อาบน้ำและสวมเสื้อผ้าเสร็จ เขามัดผมเป็นบันและสวมเสื้อคลุมหนังงูสีขาวปักและรองเท้าบูทสีทอง
เซิ่นเทียนรู้สึกงุนงงกับเงาสะท้อนของเขาในกระจก – รูปลักษณ์ของเขาหล่อมาก!
ถ้าเขายังอยู่ในศตวรรษที่ 21 อย่างน้อยก็สามาถทำงานได้ไปอีก 20 ปี!
ปัญหาเดียวคือมีมวลพลังงานสีดำอยู่เหนือหัวของเขา
ใบหน้าที่หล่อเหลามืดลง
ข้าต้องหาทางกำจัดรัศมีสีดำนี้ให้ได้ เซิ่นเทียนคิด สีจะแย่เท่าสีดำ!
…
ในขณะที่เขายังคงครุ่นคิดถึงปัญหาของเขาในที่สุด เซิ่นเทียนก็ออกจากวังเลม
เมื่อ เซิ่นเทียนกำลังเดินอยู่ในพระราชวังไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้เขาภายในรัศมี 10 เมตร แม้แต่ขันทีและสาวใช้ในวังก็วิ่งหนีไปเมื่อเห็นองค์ชาย 13
เซิ่นเทียนไม่พอใจกับปฏิกิริยาเหล่านี้
ชายคนนี้อยู่ยังไงเป็น 16 ปี?
เซิ่นเทียนเริ่มเห็นใจองค์ชาย 13
ผ่านไปไม่กี่นาทีหลังจากที่เขาออกจากวังเลมและเขาก็รู้สึกหายใจไม่ออกเมื่อทุกคนมองมาที่เขา องค์ชายคนที่ 13 อดทนมาตลอด 16 ปีได้ยังไงกัน!?
ในท้ายที่สุดแทนที่จะยอมแพ้ต่อโชตชะตา องค์ชายกลับยืนหยัดต่อสู้กับชะตากรรมของเขาจนถึงวันที่เขาตาย และเขาแทบจะไม่สิ้นหวังหรือจะเข้าสู่ด้านมืดเลย
เขาคล้ายกับนารูโตะมาก!
…
ขณะที่เขาเดินไปรอบ ๆ ในพระราชวัง เซิ่นเทียนสังเกตเห็นว่าคนอื่น ๆ ก็มีรัศมีอยู่บนหัวของพวกเขาเช่นกัน
ขันทีและสาวใช้ในวังส่วนใหญ่มีรัศมีสีขาวเปล่งประกายอ่อน ๆ มันดูธรรมดาและอาจไม่มีโชคที่เป็นพิเศษเกิดขึ้นกับพวกเขา
แสงของขันทีและสาวใช้ในวังที่มีตำแหน่งสูงกว่าจะมีแสงเปล่งประกายมากกว่าเกน้แย สำหรับขันทีที่ได้รับตำแหน่งเช่น หัวหน้าฝ่ายครัว, หัวหน้าฝ่ายเครื่องแต่งกาย, และหัวหน้าฝ่ายดูและคอกม้า รัศมีของพวกเขาจะมีสีเขียวเล็กน้อย เช่นเดียวกับขันทีกุ้ย
ดังนั้นสีดำหมายถึงโชคร้ายสี ขาวหมายถึงสามัญชนและสีเขียวหมายถึงความโชคดี?
การกำหนดสีแบบนี้หมายวความว่าอย่างไร?
สีเขียวหมายถึงโคฟเวอร์ 4 แฉก? (โคฟเวอร์ 4 แฉก หมายถึงความโชคดี)
การกำหนดสีโชค ทำให้ เซิ่นเทียนพูดไม่ออก
มันห่วย,kd
…
ทันใดนั้น เซิ่นเทียนได้เห็นตยที่แปลกประหลาดมาก
มันเป็นขันทีหนุ่มธรรมดา ๆ เสื้อผ้าของเขาบ่งบอกว่าเขาเป็นเพียงขันทีช่างซ่อมบำรุงซึ่งมีสถานะในวังต่ำที่สุดในบรรดาขันทีทั้งหมด เขาดูซีดเซียวน่าสงสารและสิ้นหวัง
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ เซิ่นเทียนไม่พอใจก็คือรัศมีบนศีรษะของขันทีหนุ่มคนนี้ไม่ใช่สีดำสีขาวหรือสีเขียว
มันแดง! แสงจ้าของมันส่อประกายรอบตัวราวกับดวงอาทิตย์ขนาดเล็ก
ในสายตาของเซิ่นเทียน ราวกับในโลกนี้มีเพียงขันทีหนุ่ม
เมื่อเทียบกับเขาที่มีรัศมีสีดำของเซิ่นเทียนที่ดูน่ากลัว มันแตกต่างดังฟ้ากับเหว
เหตุใดขันทีผู้ต่ำต้อยจึงมีรัศมีที่สง่างามเช่นนี้!?
เพราะเขาได้รับพรจากโชคชะตาหรือไม่?
การจ้องมองของ เซิ่นเทียนทำให้ขนของขันทีหนุ่มลุกชัน
แม้ว่าเขาจะค่อนข้างเป็นเด็กใหม่ที่นี่ แต่เขาก็เคยได้ยินข่าวลือที่ไม่ดีเกี่ยวกับองค์ชาย 13
องค์ชาย 13 ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นบุคคลที่โชคร้ายที่สุดในอาณาจักรแห่งเพลิง ขอแนะนำให้อยู่ห่างจากเขาให้มากที่สุด ถ้าไม่งั้นเจ้าอาจต้องตาย!
1
“ สวัสดีตอนเช้าพะยะคะ องค์ชาย ” ขันทีหนุ่มรีบทักทายเซิ่นเทียนและพยายามหาทางหนี
อย่างไรก็ตาม เซิ่นเทียนไม่อนุญาตให้เขาหนี
“เจ้า! มานี่สิ.”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นขันทีหนุ่มก็กลัวเป็นอย่างมาก
จริงจัง?
องค์ชาย 13giupd-hk?
ช่วยด้วย!
ข้าเป็นแค่ขันทีธรรมดา ข้าทำอะไรผิด?
ข้าได้ยินมาว่าโชคร้ายขององค์ชายเป็นโรคติดต่อถ้าอยู่ในรัศมี 10 เมตร
ผู้คนจะเริ่มรังเกียจข้าและชีวิตของข้าจะตกอยู่ในอันตราย
ข้าจะตายถ้าเข้าไปใกล้เขามากเกินไป!
แต่ถ้าข้าไม่ยอมทำตามบางทีข้าอาจจะตายเร็วขึ้น?
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดข้าก็ตาย …
ขันทีหนุ่มน้ำตาไหลพราก