เธอลุกพรวดขึ้นนั่งทันทีจนคุณแม่บ้านตกใจ
“ เป็นอะไรคะคุณแก้ว ตกใจหมด ! ”
เธอเดินไปหยิบกระเป๋าแล้วเก็บข้าวของที่มีอยู่น้อยนิดโยนลงไปในนั้นอย่างเร่งรีบ
“ หนูไม่อยู่ที่นี่แล้วค่ะ อยู่ไม่ได้ ”
“ ทำไมคะ เกิดอะไรขึ้น แล้วคุณจะไปไหน ”
“ หนูจะกลับบ้าน คุณหมอของคุณแม่บ้านลวนลามหนู ทุเรศที่สุด ! ” เธอพูดเสียงสั่นอย่างโมโห
“ ลวนลามงั้นเหรอ ? ” คุณแม่บ้านทวนคำราวกับไม่เชื่อหู นั่นยิ่งทำให้เด็กสาวโมโหหนัก
“ คุณคิดว่าหนูโกหกเหรอ หนูจะโกหกให้ได้อะไร นี่หนูเป็นเหยื่อนะ ! ”
“ ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย ”
“ แต่แววตากับน้ำเสียงคุณบอกออกมาหมดแล้ว คุณเข้าข้างนายของคุณ ”
“ คุณแก้ว… ”
“ หนูจะไปหมอชิต หนูอยากกลับบ้าน ” เธอพูดตัดบททั้งน้ำตา ไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น
“ ถ้าจะไปจริง ๆ ฉันขอให้คุณรอตอนเช้าก่อนเถอะค่ะ นะคะ มืดค่ำแบบนี้ออกไปคนเดียวอันตรายมาก นี่มันเมืองหลวงนะคะ อันตรายกว่าบ้านของคุณค่ะ ”
“ อันตรายงั้นเหรอคะ แล้วที่นี่มันปลอดภัยกว่าตรงไหนกัน คุณหมอพึ่งจะ… ”
ลวนลามหนู จับหนู จูบหนู…
แต่เธอไม่ได้พูดออกไปหรอก มันน่าอาย
โกรธนะ แต่เมื่อนึกถึงกลับมีความรุ่มร้อนหวามวาบแปลก ๆ ตรงที่โดนสัมผัส
ไม่เอาสิ ต้องไม่รู้สึกแบบนั้น แก้วกานดา…
“ คุณหมอท่านไม่รังแกใครก่อนหรอกค่ะ ถ้าหากคุณไม่ไปขัดใจหรือทำให้ท่านไม่พอใจก่อน คุณแก้วไปทำอะไรเข้าล่ะคะ บอกฉันได้ไหม ”
สายตาของคุณแม่บ้านคาดคั้น แก้วกานดาหลบวูบอย่างคนมีชนักติดหลัง
จะบอกออกไปได้อย่างไรเธอแอบออกไปเดินในสวนช่วงเวลาที่ถูกห้าม แถมยังแอบมองคุณหมอเริงรักกับคู่ขา
“ หนู.. เปล่า คือหนูอาจจะเผลอพูดอะไรที่ไม่เข้าหูท่านโดยที่ไม่รู้ ” สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะโกหก
“ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว ฉันอยู่กับคุณหมอมาตั้งแต่ท่านยังไม่เกิดจนกระทั่งตอนนี้ ทราบดีว่าท่านเป็นคนอย่างไร ครั้งต่อไปที่พบท่านคุณควรจะระวังการกระทำและคำพูดให้มากกว่านี้ ฉันบอกคุณแล้วว่าอย่าขัดใจคุณซัน ”
คดีพลิก กลับกลายเป็นเขาถูก เธอผิดอย่างนั้นเหรอ ?
ขณะเด็กสาวกำลังสับสน คุณแม่บ้านก็กดไหล่เธอให้นั่งลงบนเตียง
“ ใจเย็น ๆ แล้วนั่งลงก่อนนะคะ ”
เธอยอมนั่ง แต่ก็ยังตกใจไม่หยุด
“ ไม่นึกเลยว่าคุณหมอจะทำกับหนูแบบนี้ ”
“ คุณหมอท่านต้องการคุณแก้ว ” น้ำเสียงราบเรียบ แต่กลับทำให้แก้วกานดาชะงักพร้อมกับหันมาทางคุณแม่บ้านอย่างไม่เชื่อหู
“ อะไรนะคะ ? ”
“ คุณหมอดุจตะวัน ท่านต้องการคุณ คุณแก้วกานดา ”
“ หมายความว่ายังไงคะ ต้องการ ? ”
“ แบบที่ผู้ชายต้องการผู้หญิง ”
น้ำตาใสไหลพรากอาบแก้ม สุดแท้จะบอกออกไปได้ว่าเกิดจากอารมณ์ใดมากกว่ากัน ผิดหวัง เสียใจ ขุ่นเคือง เศร้าสลด
หมดแล้ว คุณหมอ ผู้ชายอบอุ่นในฝันที่เธอเทิดทูน แท้จริงเขาก็แค่หลอกเธอมาล่วงละเมิดแค่นั้นเอง !
“ ทุเรศที่สุด ! ” เธอตอบกลับคุณแม่บ้านด้วยน้ำตานองหน้า อีกฝ่ายถอนใจเบา ๆ
“ ท่านเป็นผู้มีพระคุณของคุณนะคะ ”
“ ถูกต้องค่ะ เขาเป็นผู้มีพระคุณของหนู แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้มีพระคุณจะทำอะไรกับผู้รับก็ได้ หนูไม่ใช่สิ่งของนะคะ มีเลือดเนื้อ มีหัวใจ ถึงจะจนแต่ก็มีศักดิ์ศรี ”
“ ใช้ว่าท่านจะใช้คุณเฉย ๆ นะคะ มีเงิน ข้าวของ ตอบแทนคุณจนสุขสบายเชียวค่ะ ”
“ แล้วไงคะ ถึงเงินนั่นจะมากมายมหาศาลเหลือเกินสำหรับหนู แต่คงเป็นเศษเงินสำหรับเขา ที่คิดจะหว่านเอาชีวิตคนมาปรนเปรอเป็นของเล่นได้ง่าย ๆ อย่างนั้นหรือคะ ฝากบอกเขาด้วยนะคะว่าหนูขอบคุณมากสำหรับสิ่งที่ผ่านมา แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปไหน หนูจะไม่ขอรับข้าวของเงินทองจากเขาแม้แต่ชิ้นเดียว หากรู้ว่ามันต้องใช้ตัวเข้าแลก หากรู้ว่าเขาเป็นคนโรคจิตแบบนี้ ไม่อยากแม้แต่จะพบหน้า ! ”
“ หยุดกล่าวหาคุณซันเดี๋ยวนี้ ! ท่านไม่ได้เป็นโรคจิต ” คุณแม่บ้านตวาดเสียงแข็งจนเด็กสาวชะงัก น้ำเสียงจึงค่อยอ่อนลง
“ คุณหมอท่านปกติดีค่ะ ก็แค่… ” เสียงขาดหาย ดวงตาเหม่อมองไปในอากาศก่อนเลี่ยงไปพูดอย่างอื่น
“ ท่านต้องการคุณมากกว่าคนไหน ๆ ”