แต่ยังไงเสียเธอก็ผิดนะ ผิดที่แหกกฎอยู่ดี
ในใจของเธอสับสน นี่เขามีอำนาจอะไรกับหัวใจเธอนักหนาถึงขนาดที่กลับผิดเป็นถูกได้
เรื่องนี้เธอผิดสินะ…
เขาอาจจะอายที่ละเมอแบบนั้นแล้วคนอื่นเห็น เขาคงไม่ได้ตั้งใจที่จะตวาดเธอลั่นแบบนั้นหรอก อีกอย่างหนึ่งเขาคงไม่ได้เกลียดเธออย่างที่คิด ถ้าเกลียดแล้วจะเป็นห่วงเป็นใย สั่งให้คุณแม่บ้านมาดูแลสิ่งที่ขาดเหลือทำไมกัน
หัวใจที่ร้อนรนในคราวแรกค่อยเย็นลง ในเมื่อทำผิดก็ต้องยอมรับผิด ไว้เขากลับมาเธอจะขอโทษ จะไม่ล่วงล้ำกฎของเขาอีกแล้ว
***
สี่โมงครึ่ง
เสร็จสิ้นภารกิจการไปซื้อของส่วนตัวที่โดยมากก็ไม่มีอะไรแล้ว แต่แก้วกานดาเพียงอยากออกไปนอกบ้านบ้าง ไม่อยากอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน
ช่วงเช้ามีข้อความเข้ามาในมือถือแจ้งว่าบัญชีธนาคารที่เธอพึ่งจะเปิดใหม่มีเงินเข้าจำนวนสองแสนบาท
เด็กสาวยิ้มอย่างชื่นใจ สิ่งที่เธอปรนเปรอให้กับเขามันช่างมีผลตอบแทนที่หอมหวานเหลือเกิน
เขาไม่ได้เกลียดเธอ ไม่เคยลืม แม้จะยุ่งก็ยังห่วงใยอยู่เสมอ…
ความโกรธ ความน้อยใจอะไรต่าง ๆ นานาจึงบรรเทาเบาบางลง คิดว่าคืนนี้จะปรนนิบัติเขาให้ถึงใจที่สุด แต่ก็มีข้อความส่งมาจากเขาถึงคุณแม่บ้านว่าคืนนี้เขาจะไม่กลับบ้านเพราะติดงาน
หัวใจของเด็กสาวไหววูบ เขาติดงานจริงหรือว่าโกรธเธอจนไม่อยากกลับมาเจอหน้ากันแน่นะ
แค่ผิดกฎนิดหน่อยต้องโกรธกันขนาดนั้นเลยเหรอ ?
แม้จะค้านว่าอย่างไรเสียตัวเองก็ทำผิดโดยสุจริตใจ แต่ใจหนึ่งก็อยากจะไปขอโทษ ไปอธิบายว่าเธอไม่ได้ตั้งใจและจะไม่ทำมันอีก
“ คุณแม่บ้านคะ หนูขออนุญาตไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลแป๊บนึงนะคะ ไม่นานหรอกค่ะ ” ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจมันออกไป อีกฝ่ายหันมามองเธออย่างแปลกใจแต่ก็ยิ้มน้อย ๆ
สะใจล่ะสิ ในที่สุดนายเธอก็ชนะ !
“ ได้สิคะ แต่ฉันไม่ทราบว่าจะได้พบคุณหมอหรือเปล่า ถ้าท่านบอกว่างานยุ่ง ”
“ ให้หนูลองก่อน ไม่ได้พบก็ไม่เป็นไรค่ะ ”
“ ได้ค่ะ ” คุณแม่บ้านรับคำพลางยิ้มให้กำลังใจ
คนรถขับไปจอดที่ลานจอดรถ เด็กสาวเดินลงตรงดิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลทันที
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาอยู่ตรงไหนล่ะ ?
เด็กสาวพึ่งนึกได้เมื่อวิ่งเข้าไปด้านใน พอดีกับที่ประชาสัมพันธ์สาวสวยที่ทักทายเธอพอดี
“ สวัสดีค่ะ ”
“ สวัสดีค่ะ คือ… หนู หนูจะมาขอพบคุณหมอ ดุจตะวันน่ะค่ะ ”
“ นัดท่านเอาไว้เหรอคะ แต่นี่มันเลยเวลาลงตรวจแล้วค่ะ ”
“ คือว่า… ” เธออึกอัก ไม่รู้จะพูดยังไงดี
พลันนั้นก็มีคุณหมอสาวสวยคนหนึ่งที่กำลังคุยโทรศัพท์มือถือเดินผ่านไปพอดี แก้วกานดาจะไม่สนใจหรอกหากในบทสนทนานั้นมีชื่อใครคนหนึ่งอยู่ด้วย
“ ค่ะ ป่านกำลังไปค่ะหมอซัน แป๊บนึงนะคะ ”
เด็กสาวจึงรีบหันไปหาคุณประชาสัมพันธ์แล้วโกหกรัว ๆ
“ งั้นไม่ต้องหมอดุจตะวันก็ได้ค่ะ เดี๋ยวตรวจกับหมอคนอื่น ขอบคุณค่ะ ” ประชาสัมพันธ์คนสวยจึงส่งยิ้มให้แต่ก็ยังงง ๆ
“ โตขนาดนี้จะมาตรวจอะไรกับคุณหมอดุจตะวัน คุณหมอเป็นหมอเด็กต่างหากเล่า ” เธอพึมพำเบา ๆ แล้วก้มหน้าทำงานต่อไป
คุณหมอคนสวยคนนั้นกดลิฟท์แล้วยืนรอ แก้วกานดาเองก็ไปยืนเก้ ๆ กัง ๆ ที่ด้านหลังของเธอ ใจหนึ่งกำลังลังเลอยู่ว่าจะขึ้นไปดีไหมนะ เพราะจากบทสนทนาที่แอบได้ยินเมื่อครู่ดูเหมือนว่าคุณหมอดุจตะวันหรือหมอซันจะนัดกับคุณหมอ คนนี้
ลิฟท์กำลังเปิด แพทย์หญิงคนนั้นสาวเท้าเข้าไปในลิฟท์ แก้วกานดาเองก็กำลังจะเดินตามเข้าไปแต่เสียงที่เธอเอ่ยขึ้นทำให้เท้าของเด็กสาวต้องชะงัก
“ ตื่นเต้นไหมคะหมอซัน ที่วันนี้ต้องมานอนหลับกับหมอป่าน ”
อะไรนะ ?
หมอซันมีนัด นอน กับหมอคนสวยคนนี้งั้นเหรอ
ไหนว่ามีธุระสำคัญ ?
ไหนว่าไม่ชอบนอนหลับกับใคร ?
“ คุณคะ จะไปด้วยกันไหมเอ่ย ” เสียงหวาน ๆ ถามขึ้นพร้อมรอยยิ้มทำให้สติของแก้วกานดากลับคืนมา เธอชักเท้ากลับแล้วส่ายศีรษะ
“ ไม่แล้วค่ะ ขอโทษนะคะ ” ก่อนจะหันหลังวิ่งออกมาจากตรงนั้นกลับไปที่รถ