เธอลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งพุ่งเข้าหาอ้อมอกกว้างที่อ้าแขนรออยู่แล้ว กอดเขาแน่นแล้วร่ำไห้สะอึกสะอื้นเพราะคิดถึงเขาใจแทบขาด
นี่ใช่ไหมที่เคยได้ยินเขาพูดกันว่า ยอมตั้งแต่หน้าประตู…
ดุจตะวันนั้นแม้มือหนึ่งจะถือกล่องคุ้กกี้แต่ก็สวมกอดเธอเอาไว้แนบแน่น คางเกยศีรษะของเธอ มือหนึ่งลูบหลังเธอเบา ๆ อย่างปลอบโยนก่อนจะดันเธอออกมาจากอ้อมอก ประคองใบหน้าหวานเอาไว้แล้วค่อยจูบซับน้ำตา
“ ที่หนีมาเพราะโกรธฉันที่ตวาดเธอคืนนั้นใช่ไหม ฉันขอโทษนะ ” แก้วกานดาไม่ได้ตอบแต่มองเขากลับอย่างประหลาดใจ วันนี้ใบหน้าหล่อเหลาดูไม่สดใส ผมบนศีรษะดูยุ่ง ๆ ไม่ได้เซ็ทไว้เนี้ยบอย่างทุกทีที่เจอ ดวงตาคมคู่นั้นแดงก่ำ ได้กลิ่นคล้ายแอลกอฮอล์จาง ๆ ออกมาจากตัวเขา
“ คุณหมอดื่มเหล้ามาเหรอคะ ”
“ อืม ก็ฉันโมโหที่เธอหายไป ”
“ แต่คุณหมอรักสุขภาพมาก ”
“ ไม่มากไปกว่าเธอหรอก ”
ดวงตากลมนั้นเบิกกว้างอย่างแปลกใจ
ไม่มากไปกว่าเธอหรอก เขารักเธออย่างนั้นเหรอ ?
ใจดวงน้อยเบิกบานเหลือเกิน ในที่สุดเธอก็สมหวัง เขารักเธอเหมือนอย่างที่เธอรักเขา แต่ฉับพลันมันก็รู้สึกราวลูกโป่งที่ถูกเจาะให้เหี่ยวแฟบ เพราะนึกขึ้นได้ว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว
“ แต่คุณหมอมีคนรักอยู่แล้ว นี่คือเหตุผลที่หนูไม่อยากอยู่ที่นั่น ” คิ้วเข้มถูกเลิกขึ้นอย่างแปลกใจ
“ คนรัก ? ฉันไม่เคยรักใครสักคน ไปฟังที่ไหนมา ”
“ ก็เย็นเมื่อวานหนูไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาล ตั้งใจว่าจะไปขอโทษ แต่ก็พบคุณหมอคนสวยคนหนึ่งที่หน้าลิฟท์ หนูบังเอิญได้ยินที่เธอคุยโทรศัพท์กับคุณหมอซัน เธอพูดว่า… ” เธอเงียบไป ราวกับไม่อยากพูดคำพูดที่เสียดแทงในหัวใจออกมา แต่เขาเร่งเร้า
“ ว่าอะไร ”
“ ว่าคุณหมอมีนัดนอนหลับกับเธอ ”
คำพูดนั้นทำให้คุณหมอค่อยกระจ่างชัด
“ เธอก็เลยทึกทักเอาว่าฉันไปนอนกับหมอป่าน แล้วก็หึง เพราะทีกับเธอทำไมไม่ยอมนอนค้างคืน ใช่ไหม ”
“ นะ… หนูเปล่าหึงนะคะ ” เด็กสาวปฏิเสธพร้อมทำหน้าเลิ่กลั่ก
“ เธอรักฉันแก้วกานดา เธอหึงก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ”
“ หนูยังไม่เคยพูดสักคำ ”
“ ฉันรู้ก็แล้วกันว่าเธอรักฉัน เหมือนกับที่ฉัน… รักเธอ ”
คำรัก กับดวงตาคมที่จ้องลึกลงมาเล่นเอาหัวใจพองโตและเต้นแรงเหลือเกิน เลือดสาวฉีดพล่าน แก้มนวลซับสีระเรื่อ
“ คุณหมอรักหนูเหรอคะ ”
“ ใช่ ฉันรักเธอ แล้วที่ฉันไปนอนหลับกับหมอป่านก็เพราะฉันรักเธอ ”
“ หนูไม่เข้าใจค่ะ รักหนูแต่ไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นเนี่ยนะ ”
“ หมอป่านเป็นจิตแพทย์ ฉันมีปัญหาชีวิตที่เป็นแผลลึกมาตั้งแต่เด็ก ทำให้กลางคืนจะละเมอร้องไห้ออกมา ฉันก็เลยเริ่มต้นเข้ากระบวนการให้หมอป่านรักษา ฉันอยากหายเพื่อเธอ เริ่มต้นที่การคุยเคลียร์เรื่องที่อัดอั้นอยู่ภายในทั้งหมดก่อน แล้วต้องลองไปนอนหลับในห้องทดลองด้วย ” คำอธิบายนั้นทำให้เธอหน้าเจื่อน
“ แบบนั้นเหรอคะ หนูขอโทษที่เข้าใจคุณหมอผิด คิดอะไรไปเองแล้วทำอะไรโง่ ๆ ”
“ เด็กน้อย ชีวิตฉันมีอะไรอีกเยอะที่ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอเห็น ”
“ คุณหมอรักหนูจริง ๆ ใช่ไหมคะ ”
“ ทำไมถามแบบนั้น ”
“ ถ้าคุณหมอรักหนูจริง เล่าเรื่องคุณหมอให้หนูฟังบ้างได้ไหมคะ หนูรักคุณหมอ และต้องการจะแชร์เรื่องราวในชีวิตทุกอย่าง คุณหมอรู้จักหนูหมดแล้ว แต่เหมือนหนูไม่เคยรู้จักคุณหมอเลยแม้แต่นิด ” เขาจ้องมองเธออยู่เนิ่นนานก่อนจะตวัดสายตาไปยังความว่างเปล่าในอากาศ
“ ถ้าฉันไม่ได้สมบูรณ์แบบ เธอจะยังรักฉันไหม จะผิดหวังในตัวฉันหรือเปล่า ”
“ บอกตามตรงหนูช็อคตั้งแต่เห็นคุณกดหัวแล้วยัดไอ้นั่นใส่ปากผู้หญิงคนนั้นกลางแจ้งแล้วล่ะค่ะ ไหนจะมาดูดติ่งหูหนูตั้งแต่ครั้งแรกที่เจออีก ” เธอพูดยิ้ม ๆ นั่นทำให้เขาหัวเราะออกมา
“ ถ้างั้นมันมีเรื่องให้เธอช็อคมากกว่านั้นอีก ”
“ หนูพร้อมช็อคค่ะ เพราะถ้าหนูหัวใจวายก็มีคุณหมออยู่ข้าง ๆ ทำ CPR ให้หนูฟื้นได้อยู่แล้ว ” เขายีหัวเธออย่างเอ็นดู
“ เรื่องมันยาวนะ ”
“ ยาวแค่ไหนก็จะฟัง ไปนั่งก่อนนะคะ ”
เธอจูงเขาไปนั่งที่แคร่ข้างเปลญวน หันไปมองใบหน้าหล่อเหลาของคุณหมอดุจตะวันผู้มาดมั่นแต่ตอนนี้กลับดูราวกับเด็กหลงทาง เขาจ้องเธอด้วยสายตาเป็นกังวล
เธอจะรับได้ไหมหนอ…