หลี่เจี่ยซินไม่ได้ฆ่าโจรทั้งสามคน พวกมันไม่สามารถหนีไปไหนได้เพราะถูกเธอยิงเข้าที่ข้อเท้าอย่างแม่นยำจนพวกมันต้องนอนกองกันที่พื้น
หลี่เจี่ยซินช่วยผู้หญิงคนนั้นออกจากกองขยะ ตัวเขาเหม็นไปทั้งตัวและตอนนี้ผมของเขาก็ถูกกระชากหายไปแล้ว
“พี่สาว…ผมพี่”
หลี่เจี่ยซินตาค้าง มองผู้หญิงที่ไม่เหมือนผู้หญิงมีผมที่สั้นเกรียนทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังมีผมยาวสลวยเต็มหัว ผู้หญิงคนนั้นจับผมแล้วทำท่าเหนียมอาย ใบหน้าของเธอถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนแน่น ยังมีขนตายาวเฟื้อยนั่นอีกแม้จะเป็นแสงไฟอันสลัวจากท้องถนนก็ยังสามารถเห็นมันได้ชัดเจน
“วิกผมน่ะ ความจริงฉันไม่ใช่หญิงแท้”
เธอเอ๊ยเขายังบิดมือเล็กน้อย หลี่เจี่ยซินกะพริบตาหลายครั้งเธอเข้าใจแล้ว เธอเริ่มเดาไปมั่ว หรือว่านี่คือคุณชายจากตระกูลใหญ่ที่มีใจเป็นหญิงเลยถูกพ่อแม่ไม่พอใจจนต้องสั่งฆ่า
และแล้วเธอก็ส่ายหน้าเมื่อคิดว่าตัวเองฟุ้งซ่านเกินไปแล้ว
“ขอบคุณพี่สาวมากนะคะที่ช่วยฉัน ไม่คิดว่าพี่จะเก่งขนาดนี้สุดยอดเลย”
“รีบไปกันเถอะก่อนที่พวกมันจะตามมา”
หลังจากหายตกตะลึงหลี่เจี่ยซินก็นึกได้ เธอจับมือของเขาแล้วทั้งสองคนก็ออกวิ่งจนในที่สุดหลี่เจี่ยซินก็พาเขาคนนั้นกลับมาที่บ้านของเธอได้อย่างปลอดภัย
“พี่สาวฉันขอใช้โทรศัพท์หน่อย”
มือถือของเธอก็หายไปแล้ว หลี่เจี่ยซินจึงต้องเดินขึ้นไปที่ชั้นสองในตอนนี้เป็นเวลาตีห้าห้านาที อาจารย์เฉียนหรืออาเฉียนของหลี่เจี่ยซินคงตื่นแล้ว อาเฉียนตกใจเมื่อเห็นสภาพของหลี่เจี่ยซิน
“ออกไปเที่ยวทำไมกลับมาในสภาพนี้ มีใครมาหาเรื่องเหรอ”
“เดี๋ยวฉันเล่าให้อาฟังค่ะ ยังได้ช่วยคนไว้อีกด้วยขอร้องอาช่วยมาดูหน่อยค่ะ เขาได้รับบาดเจ็บด้วย”
“ได้สิ เดี๋ยวอาให้อาหญิงลงไปดูให้เขารอสักครู่”
“ขอบคุณค่ะ”
หลี่เจี่ยซินถือโทรศัพท์ลงไปด้านล่างพร้อมผ้าสะอาดผืนโต หญิงสาวยื่นทั้งผ้าทั้งโทรศัพท์ให้เขา ผู้ชายคนนั้นกระแอมกดโทรศัพท์ถึงคนคนหนึ่ง ส่งเสียงห้าวแบบผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์ออกไป
“ผมเอง ถนนซิวหัวสุดถนนตรงมุมถังขยะมีคนช่วยผมไว้พวกมันถูกยิงสามคนไม่รู้ยังอยู่หรือเปล่าส่งคนไปดูหน่อย แล้วมารับผมที่นี่”
พูดจบเขาก็ถือโทรศัพท์ออกห่าง ถามเสียงหวานเล็กกับหลี่เจี่ยซิน
“ที่นี่ที่ไหนคะ”
หลี่เจี่ยซินตามยังไม่ทัน เธออึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะบอกที่อยู่ของตัวเองให้เขาไป
อาจารย์เฉียนลงมาแล้วพร้อมอาหญิง หลี่เจี่ยซินแนะนำคนทั้งสองในขณะที่ถามเขา
“นี่อาเฉียนของฉันและภรรยาไม่ต้องกลัวนะคะ อาหญิงจะทำแผลให้คุณเธอเป็นพยาบาลค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ชายหนุ่มในชุดผู้หญิงคนนั้นตอบเสียงเล็กอย่างนอบน้อมและซาบซึ้งใจ โชคดีแผลที่เขาได้รับเป็นแค่แผลกระสุนที่ถากออกไป ไม่มีกระสุนฝังในแต่ทุกครั้งที่ถูกแอลกอฮอร์ล้างแผล
ผู้ชายตัวโตสูงร้อยแปดสิบกว่าเซ็นติเมตร ทั้งยังมีกล้ามแน่นไปทั้งตัวกลับร้องราวกับเด็กน้อยคนหนึ่ง
“คุณอาขาเบา ๆ ค่ะ ฉันเจ็บค่ะ โอ๊ย ฮือ ดูเลือดสิคะ เลือด”
หลี่เจี่ยซินกอดอกมองเขาอย่างนึกเอ็นดู ตั้งแต่เกิดมาผู้ชายที่อยู่รอบตัวเธอก็ล้วนแข็งแรง ถึงจะถูกตีถูกฟันแทบตายก็ไม่มีใครร้องสักแอะ
“ความจริงพวกเราไม่อยากยุ่ง แต่ในเมื่อมีวาสนาได้ช่วยชีวิตกันแล้วยังไงก็ควรรู้เรื่องสักหน่อย”
อาเฉียนพูดขึ้น
ผู้ชายคนนั้นเช็ดหน้าเช็ดตา แต่เครื่องสำอางเป็นของอย่างดีกันน้ำและทนทานเป็นอย่างยิ่ง ถึงจะถูหน้าแรง ๆ แบบนั้นก็ยังไม่หลุด หลี่เจี่ยซินจึงไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา แต่ดูจากท่าทางแล้วคงต้องหล่อเหลาเป็นอย่างมาก ผิวพรรณของเขาเกลี้ยงใสมือนุ่มนิ่มยิ่งกว่ามือของเธอคงไม่เคยลำบากมาก่อนในชีวิตนี้
รูปร่างของเขาสูงโปร่ง จนเธอต้องแหงนศีรษะมอง สัดส่วนนั้นก็สูงน่าจะพอ ๆ กับผู้ชายคนนั้น คนที่เธอเพิ่งจะยัดเงินห้าสิบหยวนใส่มือแล้วต่อยเขาจนสลบก่อนจะออกมา
หลี่เจี่ยซินจู่ ๆ ก็หน้าแดงขึ้นมา เพราะฤทธิ์ยาทำให้เธอเบลอจนจำเขาได้ไม่ชัดเจน รู้แต่ว่าแค่เห็นก็ชอบเขามากแล้วตรงสเป็กเธอเป็นอย่างยิ่ง แต่กลับจดจำรายละเอียดปลีกย่อยไม่ได้ รู้เพียงดวงตาของเขานั้นสวยมาก สวยเหมือนดวงตาของคนคนนี้
กระทั่งคนคนนี้ที่นั่งอยู่ต่อหน้าเธอพูดแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ
“สวัสดีค่ะ ไม่ปิดบังนะคะในเมื่อพวกคุณเห็นฉันในสภาพนี้แล้ว ฉันชื่อเฉินเฟยอวี๋ค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นคงเป็นเพราะฉันกำลังจะขึ้นเป็นประธานบริษัทเลยมีคนไม่ชอบใจ ความจริงเรื่องที่ฉันมีใจเป็นผู้หญิงไม่มีใครรู้ วันนี้เกิดนึกอยากออกมาเที่ยวไม่คิดว่าพวกมันจะตามมา เพราะมีแต่คนที่ไว้ใจได้ที่รู้เรื่องความชอบของฉันเลยพาบอดี้การ์ดมาไม่กี่คน ผลที่ได้คือต้องหนีตายแบบนี้ ถ้าไม่เจอพี่สาวคนสวยเข้าคงได้ตายข้างถังขยะไปแล้วค่ะ”
อาเฉียนยกมือปิดปาก ท่าทางตกใจเป็นอย่างมาก
“คุณคงไม่ใช่คุณชายใหญ่เฉินคนนั้นหรอกนะ ข่าวใหญ่ของเมืองเราผมเพิ่งดูก่อนเข้านอนเมื่อคืน ว่าคุณกำลังจะรับตำแหน่งประธานบริษัทต่อจากแม่ของคุณและกำลังจะเข้าพิธีหมั้นกับคุณหนูสกุลใหญ่คนหนึ่งไม่ใช่เหรอ”
เขาพยักหน้า ดูจะเป็นเรื่องเศร้าสำหรับเขากรีดนิ้วเช็ดน้ำตาทีไหลลงมาตามร่องแก้ม เหมือนผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งดูน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง
“ฉันไม่ได้ชอบผู้หญิงจะแต่งงานได้ยังไงคะ ทั้งหมดเพราะถูกคุณแม่บังคับท่านกำลังป่วยฉันก็ไม่อยากขัดใจ เรื่องนี้ก็ขอร้องพวกคุณช่วยเก็บเป็นความลับ เห็นพวกคุณมีน้ำใจช่วยคนแบบนี้ท่าทางจะเป็นคนดีจริง ๆ”
ความจริงข่าวลือของเฉินเฟยอวี๋มีมาไม่น้อย เขาเป็นพวกลูกคุณหนูรักสบาย แม่ของเขากำลังป่วยหนักอยากให้เขาแต่งงานและรับช่วงกิจการ เฉินเฟยอวี๋มีน้องสาวคนหนึ่งเป็นนักธุรกิจที่เก่งกาจ ตรงกันข้ามกับเฉินเฟยอวี๋ที่วัน ๆ เอาแต่กินเที่ยวชื่อเสียงของเขาฉาวโฉ่ถึงจะมีข่าวว่าเขาเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกันแต่ก็มีข่าวว่าเขาควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเช่นกัน
เมื่อได้เห็นกับตาในวันนี้หลี่เจี่ยซินก็รู้แล้วว่าข่าวไหนเป็นข่าวปลอม
“แล้วพี่สาวคนสวยชื่ออะไรคะ บุญคุณครั้งนี้เฟยอวี๋ต้องตอบแทนให้เหมาะสมพี่สาวต้องการอะไรบอกฉันได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ”
หลี่เจี่ยซินยิ้มแล้วยื่นมือออกไป
“ฉันชื่อหลี่เจี่ยซินค่ะ เป็นเจ้าของโรงเรียนสอนต่อสู้ถ้าจะตอบแทนฉันขอยืมเงินคุณสักก้อนได้หรือเปล่าคะ ตอนนี้โรงเรียนของฉันกำลังจะถูกยึด”