เฉินเฟยอวี๋คนใหม่จึงได้รับความรักอย่างท่วมท้นมาตั้งแต่นั้น กลายเป็นคุณชายสกุลเฉินที่ใคร ๆ เห็นก็เกรงอกเกรงใจ ต่อมาไม่นานมารดาของเขาได้รับเลี้ยงเด็กเพิ่มอีกคนกลายเป็นคุณหนูรอง เฉินอิ่ง ผู้ทั้งสวยและฉลาดเฉลียวความฉลาดของเธอดูเหมือนจะแซงหน้าเฉินเฟยอวี๋แต่ก็ไม่ได้รับความโปรดปรานเท่ากับเฉินเฟยอวี๋ผู้หล่อเหลาและขี้อ้อนคนนั้น
ในสายตาของเฉินอิ่ง เฉินเฟยอวี๋จึงเหมือนตัวน่ารังเกียจที่แอ๊บแมนต่อหน้าพ่อแม่แต่เบื้องหลังแอบทำเรื่องเลวทราม หลังจากเฉินเฟยอวี๋เรียนจบมาจากต่างประเทศพ่อบุญธรรมของพวกเขาก็ตั้งใจจะยกบริษัทให้เฉินเฟยอวี๋แต่จู่ ๆ ก็เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตอย่างไม่คาดฝัน
หลังจากนั้นการบริหารตกอยู่ในมือของคุณนายเฉิน จนกระทั่งคุณนายเฉินล้มป่วยลงมาอีกคนและต้องการให้เฉินเฟยอวี๋แต่งงานก่อนที่เธอจะเสียชีวิต จู่ ๆ วันหนึ่งเฉินเฟยอวี๋ก็พาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในบ้านพร้อมกับแนะนำว่าคือคู่หมั้นของเขาจนตอนนี้เวลาผ่านไปหนึ่งปีแล้วเขาก็ยังคบกับคู่หมั้นและยังย้ายบ้านไปอยู่ด้วยกันอีกด้วย ทั้งหมดก็เพื่อบังหน้าคนในบริษัท
เรื่องราวของเฉินเฟยอวี๋ดูจะราบเรียบเป็นอย่างมาก ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายและเติบโตมาอย่างดี แต่เรื่องราวของหลิวไห่กลับไม่เป็นเช่นนั้น
ครอบครัวอุปถัมภ์ของหลิวไห่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่สูญเสียภรรยาไปจากโรคมะเร็ง เขามาช่วยเหลือเด็กเป็นประจำที่บ้านเด็กกำพร้า และวันหนึ่งได้พบหลิวไห่เข้า เขาชื่นชมความฉลาดของเด็กคนนี้จึงมาหาบ่อยครั้ง จนกระทั่งพบว่าน้องชายฝาแฝดของเขาถูกรับเลี้ยงไปแล้วทำให้เด็กชายซึมเศร้าลง
เมื่อเห็นเด็กชายไม่ร่าเริงเหมือนเดิมคุณหลิวจึงคิดอุปการะเด็กน้อย ไม่นานเด็กคนนี้ก็ได้ออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าพร้อมพ่อบุญธรรมคนใหม่ ยังได้ใช้แซ่หลิวและพ่อของเขายังตั้งชื่อว่าไห่ซึ่งแปลว่ามหาสมุทร เพราะพ่อต้องการให้เขาเป็นคนใจคอกว้างขวางเหมือนชื่อของเขา
หลิวไห่มีครอบครัวใหม่แล้วเขาดีใจเป็นอย่างยิ่ง คุณหลิวดูแลเขาอย่างดี ถึงครอบครัวของเขาจะไม่เทียบเท่าครอบครัวของเฉินเฟยอวี๋แต่เขาก็มีความสุขมาก หลิวไห่เรียนจนมัธยมต้น
ในช่วงมัธยมปลายเขาต้องย้ายตามพ่อบุญธรรมมาที่ฮ่องกงและในตอนนั้นเองที่เขากลับไปที่บ้านเด็กกำพร้าและตามหาที่อยู่น้องชายเพื่อทิ้งจดหมายให้น้องชาย ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาจึงเริ่มติดต่อกันอีกครั้งโดยที่ผู้ใหญ่ทั้งสองครอบครัวไม่มีใครรู้เรื่อง
วันแรกที่เขาเข้าเรียนหนังสือหลิวไห่ผู้มีน้ำใจก็ต้องเจอเรื่องไม่เป็นธรรมในโรงเรียน ด้วยหน้าที่การงานของพ่อบุญธรรมเป็นถึงผู้จัดการบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง เขาจึงได้เข้าเรียนโรงเรียนเอกชนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง
ช่วงพักกลางวันหลิวไห่เจอผู้ชายคนหนึ่งถูกคนกลุ่มหนึ่งรุมแกล้งอย่างหนัก ท่าทางของคนกลุ่มนั้นจะมีอิทธิพลในโรงเรียนอยู่ไม่น้อย แม้กระทั่งในโรงอาหารยังกล้าที่จะระรานคนอื่น
“ไอ้แว่นกินไปสิวะ กลัวไรที่บ้านก็เก็บขยะขายไม่ใช่เหรอถ้าไม่ใช่เพราะทุนโง่ ๆ นั่นจะอยู่โรงเรียนของฉันได้เหรอวะ ถ้าใครรู้เข้าว่าที่นี่มีลูกคนจนอยู่ด้วยคงน่าอายแย่”
พูดจบหนึ่งในคนกลุ่มนั้นก็เทข้าวของผู้ชายผอมใส่แว่นคนนั้นลงพื้น ผู้ชายคนนั้นหลิวไห่เห็นเขาเป็นเด็กเรียนนั่งหน้าและยกมือตอบแทบจะทุกวิชา ไม่คิดว่าจะถูกเพื่อนแกล้งแบบนี้
หลิวไห่กำมือแน่น เดิมทีคิดว่าตัวเองเป็นคนใหม่ไม่คิดที่จะยุ่งเรื่องของใคร แต่คนที่นี่ดูแล้วต่างหวาดกลัวไม่มีใครยื่นมือไปช่วยเด็กคนนั้นเลยแม้แต่คนเดียว เด็กคนนั้นมองข้าวของตนที่ถูกคนพวกนั้นเททิ้งด้วยดวงตาแดงก่ำ เขากำหมัดแน่นอย่างเจ็บปวดแต่ไม่ตอบโต้อะไร
ในขณะที่หลิวไห่กำลังคิดจะไปช่วย ก็ถูกคนคนหนึ่งดึงแขนเอาไว้
“ครูหลิน”