และอีกครั้งที่หลี่เจี่ยซินหายไปพร้อมกับข้อความที่เธอเขียนทิ้งเอาไว้
“ที่รักเรื่องนี้ฉันต้องจัดการด้วยตัวฉันเอง ไม่มีหมอคนไหนช่วยฉันได้ ยารักษาอยู่กับคนคนหนึ่ง ฉันกำลังไปเอามันมา ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันเอาตัวรอดได้”
เพียงแค่ข้อความนี้ก็ทำให้หลิวไห่แทบคลั่ง เขารีบโทรติดต่อหาดวงตาสวรรค์อย่างรวดเร็วและพบว่าหลี่เจี่ยซินในตอนนี้กำลังจะขึ้นเครื่องไปฮ่องกง และที่น่าประหลาดใจพบว่าคนที่จองตั๋วเครื่องอย่างเร่งด่วนให้หลี่เจี่ยซินคือคนของกู้เมิ่ง และคนที่กำลังพาหลี่เจี่ยซินไปก็คือกู้เมิ่ง ท่าทางของหลี่เจี่ยซินจากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นคนเต็มใจไปกับกู้เมิ่งเอง อีกทั้งกู้เมิ่งยังแสดงออกกับเธออย่างสุภาพอีกด้วย หลิวไห่ยิ่งสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าทำไมหลี่เจี่ยซินต้องเดินทางไปกับกู้เมิ่ง หรือว่าเรื่องที่เขาคิดเอาไว้ว่าหลี่เจี่ยซินเป็นเด็กทดลองคนหนึ่งจะเป็นเรื่องจริง
หลิวไห่กรอกเสียงต่ำไปตามสาย
“ตามเธออย่าให้คลาดสายตา ฉันกำลังตามเธอไป”
หลี่เจี่ยซินถอดแว่นตาออกขณะยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ตรวจ เธอเดินผ่านเครื่องสแกนร่างกายอย่างใจเย็นก่อนจะเดินมารับกระเป๋าสะพายใบเล็กของเธอ แล้วเดินตรงมาหากู้ไห่ที่รอเธออยู่แล้ว
กู้ไห่ไม่ไว้ใจให้หลี่เจี่ยซินเดินทางกับคนอื่น เขาต้องพาหญิงสาวมาด้วยตัวเอง เมื่อขึ้นมาบนเครื่องหลี่เจี่ยซินผู้อ่อนล้าก็หลับลงอย่างรวดเร็ว เธอในตอนนี้ดูเหมือนจะเหนื่อยง่ายกว่าเดิมมาก ร่างกายของเธอกำลังส่งสัญญาณใกล้ถึงวันสิ่นสุดของเธอแล้ว
ด้านหลิวไห่เองก็จองตั๋วเครื่องกลับฮ่องกงเพื่อตามหลี่เจี่ยซินมาเช่นกัน ยิ่งนึกเขาก็ยิ่งเจ็บปวดมากที่พบว่าหลี่เจี่ยซินนั้นไม่ยอมให้เขาปกป้อง จะมีสิ่งใดที่น่าเจ็บปวดไปมากกว่านี้อีกล่ะ หากไม่ใช่เรื่องที่เขาไม่สามารถปกป้องคนที่เขารักได้
เที่ยวบินของหลิวไห่ห่างจากเที่ยวบินของหลี่เจี่ยซินราวสองชั่วโมง แต่เขาได้สั่งคนของเขาดักคนทั้งสองไว้ตั้งแต่ถึงสนามบินแล้ว หวังว่าจะแยกเธอออกมาได้ทัน
เมื่อมาถึงสนามบินฮ่องกง ด้วยคำสั่งของหลิวไห่อเล็กซ์จึงออกโรงด้วยตัวเองพาลูกน้องเกือบห้าสิบคนมาดักรอหลี่เจี่ยซินและกู้เมิ่ง ด้วยเขาคาดคะเนว่าทางกู้เมิ่งเองย่อมต้องระวังตัวเองเช่นกัน
อย่างไรเสีย อเล็กซ์ก็ต้องช่วยอาซ้อให้ได้
เมื่อคนสองฝ่ายมาพบกัน แน่นอนว่าต่างฝ่ายต่างไม่ถูกกันอยู่แล้ว หลี่เจี่ยซินและกู้เมิ่งยังไม่ออกจากสนามบินด้านนอกก็ปะทะกันจนต้องเรียกตำรวจให้วุ่นวาย อเล็กซ์เองก็ห้ามลูกน้องไม่ได้ ในเมื่อตัวเขาเองก็ถูกเล่นงานจนได้แผล
เพราะแบบนี้จึงไม่สามารถระงับอารมณ์ได้อีกต่อไป อเล็กซ์จัดการกับคนของกู้เมิ่งจนน่วมและคนของเขาก็ได้รับบาดเจ็บไปหลายคน เพื่อให้รัดกุมที่สุดคนของอเล็กซ์จึงกระตัวล้อมสนามบินเอาไว้ ในขณะที่คนของกู้เมิ่งเองก็ประกบพวกเขาตัวต่อตัว
การนำคนมาครั้งนี้จะเรียกว่าสูสีก็เป็นได้ จากการต่อสู้เล็ก ๆ ระหว่างอเล็กซ์และคนของกู้เมิ่งไม่กี่คนตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเกิดการตะลุมบอนขยายกันไปเป็นบริเวณกว้าง มาเฟียในชุดสูทต่างควักอาวุธออกมาห้ำหั่นกันโดยไม่สนใจกฎหมายบ้านเมือง
ชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวต่างวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสนามบินไม่สามารถยุติความวุ่นวายนี้ได้จึงได้เรียกกำลังเสริม ผลคือไซเรนตำรวจดังสนั่นสนามบินอันเกิดจากรถตำรวจที่ล้อมพวกเขาเอาไว้ ด้านนอกต่อสู้กันชนิดเลือดสาดตามแบบฉบับมาเฟียขนานแท้
ในขณะที่หลี่เจี่ยซินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงได้วุ่นวายขนาดนั้น
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาฮ่องกงจึงตื่นตาตื่นใจไม่ใช่น้อย แต่คิดไปคิดมาหลี่เจี่ยซินก็คิดว่า อาจจะไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเธอเป็นเด็กหลอดแก้วที่ถูกทดลองและเติบโตในฮ่องกงแห่งนี้ก่อนที่จะถูกย้ายไปจีนแผ่นดินใหญ่
อันที่จริงเรื่องนี้เธอก็อยากรู้เป็นอย่างมาก คนที่จะช่วยไขข้อข้องใจของเธอได้ก็มีเพียงประธานกู้เพียงคนเดียว ทันทีที่ก้าวออกมาหลี่เจี่ยซินกลับคาดไม่ถึงว่าตัวเองจะได้ยินเสียงแตกตื่นของผู้คน ทั้งยังมีเสียงประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบดังขึ้นเป็นระยะ แต่คนจำนวนมากที่ตีกันเลือดกระจายแบบนั้นในสถาณการณ์นี้จะมีใครที่สงบใจลงบ้างล่ะ
หลี่เจี่ยซินมองออกไปด้านนอก เธอหลบคุณป้าคนหนึ่งที่เกือบจะชนเธอเพราะความตกใจเล็กน้อย และยังผลักผู้ชายคนหนึ่งออกไปจากตัวของเธอในขณะที่เขาวิ่งหนีตายมาทางนี้ สงสัยเป็นเพราะเขาใส่สูทดำเหมือนมาเฟียอีกฝั่งกระมังจึงพลอยถูกเข้าใจผิด
“ข้างนอกวุ่นวายอะไรกัน”
กู้เมิ่งยิ้มเหี้ยมเกรียม
“อย่าสนใจเลย ฮ่องกงก็เป็นแบบนี้แหละ เรารีบไปกันดีกว่า”
กว่าอเล็กซ์จะรู้ว่าอาซ้อของเขาที่เคยเห็นเพียงในรูปได้ขึ้นรถไปพร้อมกับกู้เมิ่งแล้วเขาก็ถูกฟันไปหนึ่งแผล
“ไอ้พวกเซ่อเอ๊ย รีบขับรถตามไปกู้เมิ่งมันพาอาซ้อไปแล้ว”
ลูกน้องสองคนตาลีตาเหลือกไปที่รถ พวกเขาขึ้นรถอย่างรวดเร็วปล่อยให้คนอื่นกันตำรวจเอาไว้ ในขณะที่อเล็กซ์และคนสนิทอีกไม่กี่คนขับรถไล่ตามรถของกู้เมิ่งไปอย่างไม่ยอมแพ้
“พวกเขากำลังตามมา”
หลี่เจี่ยซินเห็นแล้ว กู้เมิ่งเองก็ไม่คิดปิดบัง
“คนของหลิวไห่ คนไม่รู้จักเหรอ”
หลี่เจี่ยซินส่ายหน้า
“ฉันไม่ได้สนิทกับเขาขนาดนั้น”
แน่นอนว่าเพื่อความปลอดภัยของหลิวไห่เธอย่อมไม่ให้กู้เมิ่งรู้ว่าหลิวไห่มีความสำคัญกับเธอแค่ไหน
“แต่ผมกลับคิดว่าคุณยิ่งกว่าสนิทกับเขาอีก ไม่งั้นไม่กล้าอ้างตัวเองว่าเป็นคู่หมั้นของเขาหรอก”
“ฉันก็แค่พูดไปเรื่อย อะไรที่จะดึงความสนใจจากคุณได้ฉันก็พูดได้ทั้งนั้น”
อเล็กซ์จับมือเล็กนุ่นนิ่มของหลี่เจี่ยซินไปจับเอาไว้
“ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณ ไม่ต้องเอาหลิวไห่มาอ้างก็เรียกความสนใจจากผมได้ทั้งนั้น”
หลี่เจี่ยซินยิ้มเย็น เธอระงับจิตใจตนเองจนแทบบ้าเพื่อไม่ให้เผลอไปหักมือของกู้เมิ่งเข้า และแน่นอนว่าหญิงสาวดึงมือออกแทบจะทันที แรงมหาศาลนั่นทำให้กู้เมิ่งปล่อยมือของเธอและแขนของเขาแทบจะหลุดออกมา
กู้เมิ่งชักสงสัยแล้ว
“ผมถามสักคำได้หรือเปล่า”
หลี่เจี่ยซินยักไหล่
“เอาสิ”
“คุณไปพบพ่อผมด้วยเรื่องอะไร”
หลี่เจี่ยซินทำหน้าลำบากใจมาก
“หากเขาบังคับคุณ ผมจะช่วยคุณเองแค่ยอมเป็นผู้หญิงของผมพ่อก็ไม่แตะคุณแล้ว”
เขายอมรับว่าถูกใจคุณจริง ๆ หลี่เจี่ยซินแทบจะหัวเราะให้ฟันร่วง กู้เมิ่งสมองหมูคนนี้นอกจากจะโง่แล้วยังมองโลกแค่เรื่องผู้หญิงหรือนางบำเรออะไรพวกนี้ เขาไม่คิดหรือสงสัยเรื่องอื่นบ้างเหรอ
คิดแล้วก็สงสารประธานกู้ที่มีลูกแบบเขาจริง ๆ
“ขอบคุณมาก แต่ฉันเลือกพ่อของคุณดีกว่า”
อย่างน้อยฉันก็ยังมีโอกาสรอด หลี่เจี่ยซินคิดต่อในใจ
กู้เมิ่งกลับมองว่าหลี่เจี่ยซินรักเงินและอิทธิพลของพ่อไปเสียแล้ว เขาหัวเสียเป็นอย่างยิ่ง
“หลี่เจี่ยซิน เธอมันหิวเงินจริง ๆ และสภาพแบบนี้ไม่คิดเหรอว่าจะถูกพ่อตะเพิดออกจากห้องโดยไม่ไยดี”
หลีเจี่ยซินทำท่าไม่สนใจคำพูดของเขา ทั้งยังท่าทางเหมือนมั่นใจตนเองเป็นอย่างมาก
“นายก็รอดูแล้วกัน ว่าจะเป็นฉันหรือนายที่ถูกไล่ตะเพิด”
ก่อนที่คนทั้งคู่จะพูดอะไรได้ต่อ รถของหลี่เจี่ยซินก็ถูกรถของอเล็กซ์ไล่ชนจากด้านหลัง กู้เมิ่งหน้าคะมำขณะที่หลี่เจี่ยซินคิดว่าคนของหลิวไห่ถูกใจเธอมาก กัดไม่ปล่อยจริง ๆ เธอจึงสั่งคนของกู้เมิ่งให้หยุดรถ
“ทำไมล่ะ”
“ฉันจะคุยกับเขาดี ๆ รับรองเขาไม่ตามมาแน่”
กู้เมิ่งหัวเราะ
“ไม่มีทาง ฆ่ามันซะ”
หลี่เจี่ยซินตกใจมาก เธอถามเขาเสียงรัวเร็ว
“คนขับของคุณรู้เส้นทางไปพบประธานกู้หรือเปล่า”
กู้เมิ่งไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถามแบบนี้แต่กระนั้นก็ยังตอบเธอไป
“รู้สิ”
“โอเค ถ้างั้นจอดรถ”
“ไม่ต้องจอด เอาปืนมาฉันจะฆ่ามันเอง”
ปืนที่ว่าคือจรวดอาร์พีจีพาดบ่า ที่หลี่เจี่ยซินเองเพิ่งเคยเห็นของจริงเป็นครั้งแรก กู้เมิ่งเล็งปืนไปที่รถของอเล็กซ์แล้ว หลี่เจี่ยซินยิ่งตกใจมากเธอตะโกนดังลั่น
“หยุดอย่ายิงเขา”
แต่กู้เมิ่งไม่สนใจ เขายกอาร์พีจีขึ้นพาดบ่าและเล็งไปที่รถคนที่ตามมา ตอนนี้หลี่เจี่ยซินจนใจแล้วเธอจึงใช้สันมือฟาดกู้เมิ่งไปอย่างแรงจนหมอนั่นสลบลงไปก่อนที่จะได้ยิงใคร
“แกทำอะไรนายไ
คนของกู้เมิ่งเล็งปืนมาที่หลี่เจี่ยซิน แต่เธอว่องไวกว่ามากแย่งปืนจากมือของบอดี้การ์ดคนนั้นมาอย่างรวดเร็วโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว ทั้งยังหักมือของเขาจนร้องโอดโอย
“ฉันขอโทษไม่ได้ตั้งใจ แค่จะตีเบา ๆ ”
“แก นังบ้าหักมือฉัน นังบ้าสารเลวเอ๊ย”
หลี่เจี่ยซินเลือดขึ้นหน้า ในขณะที่รถขับอย่างรวดเร็วนั้นเธอก็ได้เลาะฟันของลูกน้องกู้เมิ่งออกจนหมดปาก
“คนสุดท้ายที่ด่าฉันว่าสารเลวลงหลุมไปแล้ว แต่แกยังโชคดีที่แค่ฟันร่วงและมือหัก”
ในนาที่นี้ไม่มีแม้กระทั่งเสียงร้องของคนคนนั้นที่หลุดออกมา เมื่อเห็นสายตาพิฆาตของหลี่เจี่ยซิน เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าผู้หญิงคนนี้จะเก่งกาจและโหดเหี้ยมขนาดนี้ สิ่งที่เขาคิดเองก็ไม่ต่างจากกู้เมิ่ง คือเธอคือคนที่นายใหญ่ถูกใจต้องการให้เป็นนางบำเรอเท่านั้น
“หยุดรถ”
หลี่เจี่ยซินเล็งปืนไปที่หัวของคนขับแล้วพูดเสียงเย็น คนขับรถคนนั้นเหงื่อชื่นเต็มฝ่ามือ มีปืนมาจ่อหัว เจ้านายถูกตีจนสลบและเพื่อนก็ถูกหักมือเลาะฟันจนร่วงแทบจะหมดปากเขามีหรือจะกล้าหืออีก
“ครับ”
เขาจอดรถอย่างรวดเร็ว หลี่เจี่ยซินตบไหล่เขาแล้วบอกเบา ๆ
“รออยู่ที่นี่ฉันจะคุยกับคนของหลิวไห่สักหน่อย อย่าเพิ่งไปไหนฉันต้องการพบประธานกู้เข้าใจหรือเปล่า ถ้านายตุกติกฉันไล่ถล่มรถแกแน่”
ในมือของหลี่เจี่ยซินมีอาร์พีจีของกู้เมิ่งอยู่ หากคนขับออกรถคงได้ถล่มสมใจแน่เขาจึงตอบเสียงสั่น
“ผมไม่กล้าแน่นอนครับ”
“ดี ถ้างั้นนายเอากุญแจรถให้ฉัน ฉันไม่ไว้ใจ และก็ลงจากรถและคุกเข่านอนก้มหน้าแนบพื้นจนกว่าฉันจะกลับมา”
“ครับ ได้ครับ”
คนขับทำตามด้วยร่างกายสั่นเทา หลี่เจี่ยซินยิ้มสมใจแล้วลงจากรถ หลังจากนั้นก็โบกมือให้คนของหลิวไห่แล้วตะโกนเสียงดัง
“ฉันชื่อหลี่เจี่ยซินเป็นคู่หมั้นของหลิวไห่ ฉันสบายดีพวกนายไม่ต้องเล็งปืนมาหาฉัน”
คนที่อยู่ด้านโน้มโบกผ้าเช็ดหน้าสีขาว หลี่เจี่ยซินก้าวเท้าเร็ว เธอซ่อนอาร์พีจีไว้ด้านหลังกลัวคนของหลิวไห่ตกใจ อเล็กซ์สั่งให้คนจอดรถอยู่ด้านหลังไม่ห่าง ด้วยความสงสัยว่าข้างหน้าจะทำอะไรกันแน่ หลี่เจี่ยซินเดินมาหาเขา ไม่มีกู้เมิ่งหรือบอดี้การ์ดคอยประกบ ทั้งคนขับรถจู่ ๆ ก็เปิดประตูลงไปนอนแนบพื้นในรถคันนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรจริง ๆ เขาจึงค่อย ๆ เดินไปหาเธอ
“สวัสดีครับอาซ้อ เรามารับอาซ้อครับ อาซ้อเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
หลี่เจี่ยซินกลับยื่นอาร์พีจีให้เขาแล้วบอกด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“นายชื่ออะไร”
“อเล็กซ์ครับ”
“อืม อเล็กซ์บอกหลิวไห่ว่าฉันจะกลับไปอย่างปลอดภัยไม่ต้องห่วง หากเขาตามมาจะทำให้ฉันเป็นห่วงและแผนของฉันเสียเข้าใจหรือเปล่า พวกนายก็กลับบ้านนอนเถอะ อย่าตามฉันอีก”