ในตอนที่หลี่เจี่ยซินฟื้นขึ้นมาเธอก็พบว่าตัวเองได้นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่งแล้ว แขนสองข้างของเธอถูกล็อคไว้ด้วยห่วงเหล็กแข็งแรงและลำตัวก็ยังถูกมัดติดกับเก้าอี้นั้น ด้านบนศีรษะของเธอมีไฟดวงใหญ่ส่องมา อาการปวดศีรษะของเธอทุเลาลงไปมากแต่ก็ยังคงรู้สึกปวดอยู่บ้าง หลี่เจี่ยซินพบว่าเรี่ยวแรงของเธอหายไปเธอไม่สามารถที่จะขยับเขยื้อนได้เลย สายตาของเธอกำลังพร่ามัวมองเห็นไม่ค่อยชัดไม่สามารถปรับโฟกัสได้
“บ้าเอ๊ย”
เธอสบทออกมาเมื่อพยายามมองไปรอบ ๆ ห้องแต่ทุกอย่างก็ยังคงไม่ชัดเจน ฉับพลันเธอรู้สึกได้ถึงของเหลวที่ไหลออกมาจากจมูกและเธอก็ไอ ของเหลวนั้นไหลออกจากปากของเธอ รสชาติเค็มของโลหิตทำให้เธอรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกาย
มันกำลังส่งสัญญาณเตือนว่าเวลาของเธอใกล้หมดแล้ว
“สวัสดีลูกสาว ในที่สุดก็ยอมมาโดยดีสินะ”
หลี่เจี่ยซินหรี่ตา พยายามหาทิศทางของเสียงจนกระทั่งเธอจับได้ว่ามันส่งมาจากมุมหนึ่งของห้อง
“คุณเป็นใครกันแน่”
หลี่เจี่ยซินส่งเสียงเย็นถามออกไป ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะลั่น
“ฉันคือผู้สร้างเธอขึ้นมายังไงล่ะ สุดยอดเลยว่ามั๊ย ทั้ง ๆ ที่เคยคิดว่าเธอตายไปแล้วแต่เธอกลับยังมีชีวิตรอด ไม่เสียแรงที่ฉันเฝ้าตามหาเธอมานานหลายปี ใช่แล้ว เธอคือความภูมิใจของฉัน ลูกสาวคนเก่งของฉันที่ฉันสร้างเธอมาเองกับมือ”
“ฉันไม่ใช่ลูกแก ฉันคือหลี่เจี่ยซิน ฉันไม่ใช่คนที่แกสร้างขึ้นมา”
หลี่เจี่ยซินส่ายหน้าไม่ยอมรับ
“หลี่เจี่ยซินตัวจริงได้ตายไปแล้ว เธอไม่มีชีวิตอยู่แล้วเธอก็แค่คนที่มีใบหน้าที่คล้ายหลี่เจี่ยซิน และมีอวัยวะบางอย่างที่เราปลูกถ่ายมาไม่น่าเชื่อว่ามันจะสำเร็จ ตอนนั้นเธอกำลังจะตายแล้ว ฉันต้องเสาะหาเด็กที่มีเนื้อเยื่อตรงกันกับเธอ จนกระทั่งเจอเด็กผู้หญิงคนหนึ่เข้าก็คือหลี่เจี่ยซินยังไงล่ะ ตอนนั้นฉันแค่ให้เธอทดลองใช้ชีวิตแบบมนุษย์ธรรมดา ไม่คิดว่าเธอจะตบตาฉันและทำให้ฉันเข้าใจผิดจฉริยะแบบนี้สิสมแล้วที่เป็นลูกสาวคนโปรดของฉัน ฉันคิดว่าเธอตายในกองไฟไปแล้วในตอนนั้นทั้ง ๆ ที่พวกเราเห็นศพของเธอแล้วแต่ใครจะคาดคิดว่าเป็นศพปลอม คิดดูสิเธออายุแค่สี่ขวบแต่กลับสามารถคิดเรื่องพวกนี้มาได้ ไม่เรียกว่าอัจฉริยะแล้วจะเรียกว่าอะไร”
หลี่เจี่ยซินยอมรับความจริงไม่ได้ เธอส่ายหน้าอย่างแรง
“ไม่จริง ไม่จริง ฉันคือหลี่เจี่ยซินตัวจริง แกโกหก แกโกหก”
หลี่เจี่ยซินพยายามที่จะกระชากแขนของตัวเองให้หลุดจากการถูกรัด แต่เรี่ยวแรงของเธอกลับไม่มีเหลือเลยสักนิด เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่
“จำไม่ได้เลยสิ คงสะเทือนใจมากเลยใช่หรือเปล่าที่ฆ่าเพื่อนของตัวเอง เพื่อนที่โตมาด้วยกันและให้เด็กคนนั้นมาเป็นตัวแทนของเธอ เธอคงรู้สึกผิดจนไม่อยากจดจำมันอีก ฉันเข้าใจดีว่าเธอรู้สึกยังไง วันนั้นมันช่างหนักหนาสำหรับเธอใช่หรือเปล่า ไม่ต้องห่วงความทรงจำของเธอฉันจะฟื้นมันให้เอง”
หลี่เจี่ยซินคล้ายจะจดจำบางอย่างได้ราง ๆ เธอในตอนนั้นกำลังฆ่าเด็กคนหนึ่งแล้วทิ้งร่างนั้นเข้าไปในกองไฟ หญิงสาวกรีดร้องเมื่อความรู้สึกเจ็บปวดวิ่งไปจนทั่วร่าง เป็นเธอที่ฆ่าเด็กคนนั้นเอง เป็นเธอที่ให้เด็กอีกคนมาเป็นตัวแทนของเธอเพื่อหนีจากสถานที่แห่งนี้
เรื่องนี้เป็นความจริงหรือมันเป็นเพียงแค่ความฝันหลี่เจี่ยซินถูกฉีดยากระตุ้นความทรงจำเข้าที่ลำคอ เธอรู้สึกเหมือนมีความร้อนวิ่งพล่านไปทั่วร่างกายและคล้ายจะถูกไฟฟ้าช็อต เธอนิ่งไปครู่หนึ่งและแล้วเธอก็เริ่มจำได้
ความทรงจำที่ขาดหายกลับคืนมาแทบทั้งหมด เธอคือเด็กอัจฉริยะที่ถูกสร้างขึ้น เธอแข็งแกร่ง ว่องไว และฉลาด อีกทั้งยังเหี้ยมเกรียม พวกเขาฝึกให้เธอฆ่าสุนัขตั้งแต่เธอเริ่มคลาน และหลังจากนั้นพวกเขาก็ฝึกกับเธออย่างหนัก เธอถูกส่งให้ไปทำเรื่องเลวร้ายมากมายโดยที่เธอไม่รู้ตัว
ร่างกายของหลี่เจี่ยซินสั่นเทาเมื่อเธอรับรู้ถึงความโหดร้ายป่าเถื่อนในวัยเด็ก และหลังจากที่พ่อของเธอรับเลี้ยงเธอไม่รู้ว่าจะด้วยความสงสารหรือคิดถึงหลี่เจี่ยซินตัวจริง เธอก็ทำให้เขาหวาดผวา เขาเคยพาเธอหนีไปอยู่ในที่แสนไกลในชนบทแห่งหนึ่ง ในเวลาที่เธอคุ้มคลั่งเธอกลับฆ่าสัตว์ในบ้านที่เขาเลี้ยงไว้จนตายหมด ไม่ว่าจะเป็นหมาแมวหรือวัวที่เขาเลี้ยงเอาไว้
เพราะแบบนี้เขาจึงพาเธอให้ออกห่างจากย่า กว่าหลี่เจี่ยซินจะกลายเป็นคนเหมือนคนทั่วไปได้พ่อของเธอต้องใช้ความอดทนเป็นปี สุดท้ายเพราะเขารู้ว่าเธอต้องได้รับการปลดปล่อยพลังที่อัดอั้นอยู่ในร่างกาย เขาจึงพาเธอกลับมาที่โรงเรียนสอนศิลปะการป้องกันตัว และฝึกเธอให้ควบคุมพลังของตัวเองมาตั้งแต่นั้น
การที่เธอแข็งแกร่งไม่ได้เกิดจากการฝึกฝน แต่การฝึกฝนทำให้เธอควบคุมอาการคลั่งของตัวเองได้ต่างหาก ในตอนนี้ดูเหมือนว่าความทรงจำของเธอจะกลับมาทั้งหมดแล้ว เธอเงยหน้าขึ้นมองไปรอบ ๆ ห้อง อาการตาพร่าของเธอกลับดีขึ้น หลี่เจี่ยซินสามารถมองเห็นอย่างชัดเจนแล้ว
ตอนนี้เธออยู่ในห้องสีขาว นอนอยู่บนเตียงและถูกมัดเอาไว้อย่างแน่นหนา เธอคงถูกฉีดบางสิ่งบางอย่างเข้าร่างกายทำให้แรงของเธอหายไป ในห้องนี้มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ครบครัน ที่ข้อมือของเธอมีสายระโยงระยาง ด้านข้างเป็นจอมอนิเตอร์ที่แสดงถึงอัตราการเต้นของหัวใจของเธอ หลี่เจี่ยซินพบว่าในตอนนี้หัวใจของเธอเต้นแรงเป็นอย่างมาก เธอยังเห็นอุปกรณ์หลายอย่าง ดูแล้วห้องนี้คล้ายว่าจะเป็นห้องผ่าตัดห้องหนึ่ง เพียงแค่นี้เธอก็เดาไม่ยาก
พวกเขาต้องการบางสิ่งบางอย่างจากร่างกายของเธอ
แต่แล้วหลี่เจี่ยซินก็รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย แต่เดิมเธอเพียงแต่ปวดหัวเท่านั้น แต่ตอนนี้ความเจ็บปวดนี้ไหลวนไปทั่วร่าง กระทั่งเลือดไหลทะลักออกมาจากปากและจมูก ดวงตาของหลี่เจี่ยซินแดงฉาน เธอปวดหัวจนแทบระเบิด เสียงของผู้หญิงคนนั้นคล้ายจะตกใจ
“เธอกำลังจะตาย สมองของเธอกำลังจะระเบิด มันเร็วกว่าที่คิดยังไม่ถึงวันเกิดของเธอเลย”
หลี่เจี่ยซินร้องด้วยความเจ็บปวด เลือดเปื้อนเสื้อของเธอจนชุ่ม ปวดที่ศีรษะจนรู้สึกชา
“ฉีดยาให้เธอ จะปล่อยให้ตายตอนนี้ไม่ได้เรายังไม่ได้ เรายังต้องการเธอ เธอคือของล้ำค่าขององค๋กร”
น้ำเสียงของผู้หญิงคนนั้นดูหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง อาการของหลี่เจี่ยซินสาหัสมากในตอนนี้ เธอกำลังเข้าสู่ช่วงภาวะสุดท้าย หลี่เจี่ยซินรับรู้ถึงเข็มที่ทิ่มเข้ามาที่ลำคอของเธอ แต่อาการของเธอกลับไม่ดีขึ้น หลี่เจี่ยซินเริ่มชักดวงตาแข็งค้าง เสียงของผู้หญิงคนนั้นดังขึ้นอีก
“ฉีดเข็มที่สองให้เธอ”
“แต่ด็อกเตอร์คะ ไม่ได้นะคะ ถ้าร่างกายของเธอไม่รับเราจะสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ เข็มนี้มีราคาหนึ่งร้อยล้านหยวนนะคะ”
ผู้หญิงคนนั้นไม่ยินยอม
“ฉีดให้เธอ หมายเลข1มีค่าที่เราไม่สามารถตีเป็นเงินได้ ฉีดเดี๋ยวนี้นี่คือคำสั่ง”
และแล้วยาเข็มที่สองก็ถูกฉีดเข้าที่ร่างของหลี่เจี่ยซิน ทันทีที่ยาวิ่งไปตามเส้นเลือดของเธอหลี่เจี่ยซินถึงกับชักอย่างรุนแรงจนเก้าอี้สะเทือน ในตอนนั้นหลี่เจี่ยซินดวงตาแดงก่ำเลือดของเธอค่อย ๆ หยุดไหล หญิงสาวร้องคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวดคล้ายสัตว์ป่าตัวหนึ่ง
ด็อกเตอร์คนนั้นกำลังดูเธอที่ด้านบนในห้องกระจกกำลังลุ้นระทึกกับยาที่ฉีดให้เธอ เสียงของผู้ช่วยที่อยู่ด้านล่างดังขึ้น
“ด็อกเตอร์คะ ตอนนี้อัตราการเต้นของหัวใจเธอค่อย ๆ ลดลงค่ะ”
“ไม่มีทาง ร่างกายของเธอฉันรู้ดี หมายเลขศูนย์จะต้องไม่เป็นอะไร”
หัวใจของหลี่เจี่ยซินเต้นช้าลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งคนในห้องเริ่มกระวนกระวาย
“เราจะทำยังไงดีคะด็อกเตอร์ เธอจะไม่รอดแล้ว”
“เตรียมเครื่องกระตุ้นหัวใจ หมอสุ่ยเตรียมพร้อมทำการกระตุ้นหัวใจของเธอ”
ภายในห้องจัดเตรียมอุปกรณ์อย่างรวดเร็ว หมอคนหนึ่งที่เตรียมความพร้อมไว้อยู่แล้วเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว จวบจนสุดท้ายหัวใจของหลี่เจี่ยซินกำลังจะหยุดเต้นแล้ว