คนของด็อกเตอร์ยังไม่ทันขยับตัวคล้ายกับมีลมพัดผ่านใบหน้าพวกเขาก็ถูกหักคอเสียแล้ว ด็อกเตอร์ที่กำลังจ้องมองจากกระจกใสแม้จะมองไม่ทันว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เธอก็รู้แล้วว่าหลี่เจี่ยซินแอบอยู่บนฝ้าเพดาน กระทั้งก๊าซพิษก็ยังทำอะไรเธอไม่ได้ ในใจหนึ่งด็อกเตอร์เกิดความรู้สึกหวาดกลัวแต่อีกใจกลับนึกพอใจที่หลี่เจี่ยซินเก่งกาจเกินต้านทานเช่นนี้
ทั้งหมดเป็นเธอเองที่สร้างอัจฉริยะที่เก่งกาจและพร้อมทั้งร่างกายและสมอง ผิดกับมนุษย์ทดลองคนอื่นที่มีเพียงแต่แรงสมองนั้นกลับไม่ทำงาน ไม่รู้จักพลิกสถานการณ์เมื่อส่งออกไปให้ลูกค้าจึงกลายเป็นสินค้ามีตำหนิ เพราะพวกเขาโง่เกินไปและยากที่จะควบคุมคนโง่ให้ทำงานได้สำเร็จ
แม้ว่าในภายหลังเธอจะหาทางกำจัดข้อบกพร่องนี้ แต่คนพวกนี้ก็สู้หลี่เจี่ยซินไม่ได้แม้แต่คนเดียว เธอต้องได้ตัวหลี่เจี่ยซินและรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำให้เธอสามารถพัฒนาการด้วยตัวเองได้เช่นนี้
ในขณะที่หลี่เจี่ยซินดวงตาแดงก่ำในตอนนี้สัญชาตญาณสัตว์ป่าเข้าครอบงำ ทำให้เธอฆ่าคนของด็อกเตอร์ไปเกือบหมด จะเหลือก็เพียงมนุษย์ทดลองอีกสามคนที่ด็อกเตอร์ส่งเข้าไป
ด็อกเตอร์ปิดประตูเหล็กนั่นแล้ว เหล็กนั่นเป็นเหล็กหนาหลายชั้นหนักยิ่งกว่าภูเขาทั้งลูกไม่มีทางที่หลี่เจี่ยซินจะทำลายได้ด้วยตัวเอง
เมื่อประตูถูกปิด ในตอนนี้ด็อกเตอร์ก็เริ่มนั่งลง ผลงานการวิจัยของเธอทั้งสี่คนที่อยู่ในนั้นกำลังสู้กันเอง ช่างเป็นเรื่องที่เธอต้องการอยากรู้อยู่พอดีว่าใครกันแน่ที่จะเหนือกว่า สูตรใหม่ของเธอหรือสูตรเก่าของด็อกเตอร์หลิวที่มีข้อเสียเต็มไปหมด
“เด็ก ๆ จัดการเธออย่าออมมือ”
ด็อกเตอร์ส่งเสียงออกไป เด็กของเธอที่รอจัดการหลี่เจี่ยซินอยู่เริ่มตั้งท่าเตรียมต่อสู้ หลี่เจี่ยซินหัวเราะ
“นี่คือความรักที่คุณแสดงออกต่อฉันสินะ”
“ใช่ ฉันอยากรู้ว่าเธอและน้อง ๆ ใครจะเก่งกว่า”
หลี่เจี่ยซินหลี่ตามองเด็กหญิงสามคนที่อายุไม่น่าเกินสิบห้าปีแล้วหัวเราะ
“ยังอ่อนหัด อีกอย่างฉันเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อแม่”
“เธอมันแก่แล้ว เป็นรุ่นป้าที่มือไม้อ่อนแบบนี้อย่าคิดว่าจะชนะเลย”
เด็กแก่แดดพวกนั้นกลับพูดแบบนี้ หลี่เจี่ยซินเลือดขึ้นหน้า
“ใครป้ามึง หน็อยแบบนี้ต้องตบสั่งสอน”
“มาเลยป้า”
เด็กพวกนั้นไม่รอช้า พวกเขาพุ่งเข้ามาโจมตีอย่างรวดเร็วหลี่เจี่ยซินหลบหลีกว่องไว ความไวของพวกเขายังช้ากว่าหลี่เจี่ยซินมากแม้จะสู้กันสามต่อหนึ่งก็ตาม หลี่เจี่ยซินตวัดเท้าซัดไปที่คนที่หนึ่ง สอง และ สาม โดยที่พวกเขายังไม่กะพริบตาและร่างของเด็กสามคนก็ลอยปลิวไปปะทะผนังกำแพง เลือดสด ๆ ทะลักออกมาจากปากของพวกเขา หลี่เจี่ยซินเอียงคอไปมาเมื่อเห็นคนทั้งสามยังสามารถลุกขึ้นมาได้อีก
หลี่เจี่ยซินหมุนตัวอย่างรวดเร็ว คราวนี้ฝ่ามือของเธอตบเข้าที่ใบหน้าของเด็กทั้งสามจนฟันหลุด แต่เด็กพวกนั้นกลับหัวเราะชอบใจ และไม่มีทีท่าว่าจะบาดเจ็บ
“ทน ๆ แบบนี้ ฉันชอบ ไม่ได้เจอแบบนี้มานานมากแล้วตั้งแต่หนีออกจากที่นี่”
หลี่เจี่ยซินปัดมือ นึกสนุก คนทั้งสามกระโดดมารุมเธอ แรงของหลี่เจี่ยซินเริ่มน้อยลงแต่เด็กสามคนก็ยังสู้เธอไม่ได้ โชคดีที่ห้องนั้นแข็งแรงมากพลังของคนที่สู้กันในนั้นจึงไม่สามารถพังห้องนี้ได้
แม้ว่าพวกเด็กจะถูกเธอซัดไปกี่ครั้ง เลือดเต็มหน้า ปากเบี้ยว แต่พวกมันยังลุกขึ้นมาได้อีก
“พันธ์อึดสินะ แต่ฉันอึดกว่า เข้ามา”
เสียงด็อกเตอร์ดังขึ้นพร้อมทั้งเสียงหัวเราะ เธอรู้ว่าเด็กพวกนี้ยังไงก็สู้หลี่เจี่ยซินไม่ได้ แต่ยังมีเรื่องที่มากกว่านั้น
“เด็กสามคนของฉันขึ้นชื่อเรื่องความอึด ไม่ว่าจะถูกฟาดกี่ครั้งก็ลุกขึ้นมาอย่างว่องไว แต่เธอ หลี่เจี่ยซินเธอเป็นรุ่นเก่าแล้วยิ่งใช้แรงมากกว่ายิ่งเหนื่อย ในตอนนั้นเธอก็สู้คนพวกนี้ไม่ได้แล้ว ว่ายังไงจะสู้อีกหรือเปล่า”
หลี่เจี่ยซินไม่ฟังเสียงของด็อกเตอร์ด้วยซ้ำ แม้ว่าจะเป็นอย่างที่ด็อกเตอร์พูด เธอต่อยเตะพวกเขาคล้ายจะปางตายไปหลายรอบแต่คนพวกนั้นยังลุกขึ้นมาได้ แต่กำลังพุ่งเข้ามาเล่นงานเธอ
หลี่เจี่ยซินเริ่มอ่อนแรง เธอหลบคนที่หนึ่ง คนที่สอง แต่กลับหลบไม่พ้นหมัดของคนที่สาม หลี่เจี่ยซินจึงถูกซัดไปอัดที่กำแพง ร่างของเธอร่วงลงมากองอยู่ที่พื้น และทันใดนั้นเสียงของด็อกเตอร์ก็ดังขึ้น
“ฉันเตือนเธอแล้ว เด็ก ๆ ทำยังไงก็ได้อย่าเพิ่งให้เธอตายตอนนี้ แค่ให้เธอหมอบลงฉันต้องผ่าสมองของเธอในตอนที่หลี่เจี่ยซินยังมีชีวิตอยู่”
เด็กทั้งสามคนที่เป็นมนุษย์ทดลองเช่นกันกับหลี่เจี่ยซินต่างมีความคิดที่แตกต่าง แต่สิ่งเดียวที่มีเหมือนกันคือหากด็อกเตอร์สั่งให้ฆ่าแล้วพวกเขาจะร่วมมือร่วมใจกันเป็นอย่างมาก หลี่เจี่ยซินหลบหมัดของเด็กคนหนึ่งแล้วเสยหมัดคืนไป กระทั่งคางของเด็กคนนั้นหัก ดูเหมือนว่าคราวนี้เด็กคนนั้นจะลุกได้ช้ากว่าเดิมไปเกือบหนึ่งนาที
สมองของหลี่เจี่ยซินพิจารณาอย่างรวดเร็ว
และเป็นอย่างที่หลี่เจี่ยซินคิด ในที่สุดเธอก็จัดการคนพวกนั้นสำเร็จ แต่ละคนหัวขาดกระเด็นลงไปที่พื้น หลี่เจี่ยซินเหยียบศีรษะของพวกเขาจนเลือดพุ่งกระจาย เพียงครั้งเดียวที่กระทืบลงไปสมองของคนทั้งสามก็ค่อย ๆ ไหลออกมา
หลี่เจี่ยซินหัวเราะด้วยความสะใจ
“อยากได้สมองใช่หรือเปล่า จะเอาของใครดีน๊า”
ท่ามกลางความตกตะลึงกับเหตุการและความว่องไวที่เกิดขึ้น ด็อกเตอร์ได้ยืนตัวแข็งค้างไปแล้ว เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาทำให้เธอได้สติ เป็นประธานกู้ที่โทรหาเธอ
ประธานกู้ : การทดลองไปถึงไหนแล้ว
ด็อกเตอร์ : ฉันคิดว่ามีบางอย่างที่ด็อกเตอร์หลิวไม่ได้บอกกับเราค่ะ ต้องมีอะไรที่พิเศษที่เขาได้ใส่เข้าไปในการทดลองหลี่เจี่ยซินแน่ ๆ
ประธานกู้ : คุณในตอนนี้อยู่ในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดในงานวิจัย ด็อกเตอร์หลิวเป็นคนทรยศและเราได้ฆ่าเขาไปแล้ว ในตอนนั้นคุณบอกผมเองไม่ใช่เหรอว่าคุณทำได้ และทำได้ดีกว่าเขา ในเมื่อพูดออกมาแล้วก็ต้องรับผิดชอบ เราเหลือเวลาไม่มากแล้วตอนนี้เรากำลังถูกจับตาอย่างหนักจากรัฐบาล และยังมีลูกค้าที่รอของล็อตต่อไปอีก หากเราส่งมอบไม่ทันในต้นปีหน้า ผมไม่ไว้หน้าคุณแน่”
ด็อกเตอร์ไม่ได้เล่าเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นให้ประธานกู้ฟัง หลี่เจี่ยซินยังคงเดินวนไปวนมาในห้องราวกับคนเสียสติ เลือดสาดกระจายแทบไม่เห็นสีขาวของพื้น หากคนที่ไม่เคยชินกับการฆ่าก็ย่อมไม่สามารถทนดูภาพสยดสยองนี้ได้
ด็อกเตอร์ : ฉันเข้าใจแล้วค่ะ วางใจเถอะค่ะหลี่เจี่ยซินต้องการยาจากเรา เธอต้องยินยอมให้ความร่วมมือแน่
ประธานกู้ : เราช้าไม่ได้เสียเวลามามากแล้ว
พูดจบเขาก็วางสายไป ด็อกเตอร์เกิดความกังวลใจเป็นอย่างมาก ในตอนนี้เธอคงต้องทำวิธีการสุดท้ายแล้ว ฆ่าหลี่เจี่ยซินและรีบผ่าเขาสมองของเธอออกมาทันที คงพอมีวิธีนี้ที่จะรักษาสมองของเธอเอาไว้ได้
“หลี่เจี่ยซิน ฉันจะคอยดูว่าเธอยังจะรอดไปได้อีกหรือเปล่า”
ในคราวนี้ด็อกเตอร์กดปุ่มแก๊สพิษอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับเป็นแก๊สพิษที่ทำลายระบบประสาทที่มีฤทธิ์โดยตรงกับเด็กทดลองโดยเฉพาะ
หลี่เจี่ยซินมองควันที่ถูกปล่อยออกมา เธอไม่ได้หวาดกลัวไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามเธอก็พร้อมที่จะต่อสู้ ในเมื่อตอนนี้ไม่ว่าทางใดสิ่งที่รอเธออยู่ล้วนคือความตาย หลี่เจี่ยซินคิดจะปีนขึ้นเพดานอีกรอบ แต่ในตอนนี้ด็อกเตอร์รู้แผนเธอแล้ว ไม่ว่าหลี่เจี่ยซินจะหลบอยู่ตรงจุดไหน แก๊สพิษก็จะตามร่างของเธอไปที่นั่น
หลี่เจี่ยซินไม่มีทางหนีรอด
“อย่าคิดหนีเลย ยังไงเธอก็ต้องตายอยู่ดี เธอเป็นลูกสาวฉันนะ มีลูกสาวที่ไหนเขาเอาชนะแม่ได้กันล่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่เรียกว่าอกตัญญูหรอกเหรอ”
หลี่เจี่ยซินยิ้มเย็น
“ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ยอมตาย ถ้าจะตายก็จะลากคุณให้ตายไปด้วยกัน”
“แล้วจะทำยังไงล่ะ ในเมื่อฉันยังมีความสุขดีไม่ได้ถูกรมควันพิษไปพร้อมกับเธอ ฉันรู้ดีว่าร่างกายของพวกเธอแพ้สารตัวไหน แม้ว่าเธอจะออกจากห้องนี้ได้เธอก็หนีไม่พ้น สารพวกนี้ไม่เป็นอันตรายต่อฉันเสียด้วย ว๊า แย่จัง”
หลี่เจี่ยซินคล้ายจะหายใจไม่ออกแล้ว ควันพิษกำลังทำลายเนื้อเยื่อของเธอ ในที่สุดเธอก็ยันตัวเองให้ยืนต่อไปไม่ไหว เข่าของเธอทรุดลงไปกับพื้น หลี่เจี่ยซินหลับตา พยายามมีสติเธอจะทำยังไงถึงจะรอดออกไปได้
เธอสัญญากับหลิวไห่แล้วว่าเธอจะกลับไปหาเขา
ควันพิษถูกพ่นเข้าไปจนเต็มห้องมองไม่เห็นร่างของหลี่เจี่ยซินอีก แต่ในตอนนี้เธอทรุดลงจริง ๆ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงและลมหายใจเบาบางลงไปทุกที
“น่าเสียดาย แต่ฉันก็ต้องฆ่า”
ด็อกเตอร์พึมพำคนเดียวอย่างเสียดาย กระทั่งมีสัญญาณขอเข้ามาภายในเขตวิจัย ด็อกเตอร์กดปุ่มเห็นว่าเป็นลูกน้องคนสนิทของเธอเอง
“มีอะไร”
“นายใหญ่ให้เข้ามาดูคุณแล้วกลับไปรายงานครับ”
หากด็อกเตอร์ไม่อนุญาตไม่มีทางที่ใครจะเข้ามาในส่วนของการวิจัยได้ เมื่อสักครู่เธอเพิ่งวางสายจากประธานกู้ไปคิดไม่ถึงว่าเขาไม่ไว้ใจจนต้องส่งคนมาดู ถึงเธอจะสงสัยว่าหลายปีนี้เขาเคยรักเธอบ้างหรือเปล่า หรือเป็นเธอคนเดียวที่ทุ่มเทให้เขาแต่เธอก็ไม่เคยคิดที่จะหยุดรับใช้เขา
“เข้ามา”
ด็อกเตอร์กดปุ่มเปิดประตู ผู้ชายคนนั้นก้าวเข้ามา ด็อกเตอร์หันกลับมามองหลี่เจี่ยซินดูเหมือนว่าเธอจะทนกว่าที่คิด หลี่เจี่ยซินยังไม่ตายหรือร่างกายของเธอจะปรับสภาพไปแล้ว
“ดี ฉันจะเพิ่มแก๊สพิษเข้าไปอีก ดูสิว่าเธอจะทำย้งไง”
ด็อกเตอร์หัวเราะ แต่ก่อนที่เธอจะกดปุ่มเพิ่มแก๊สพิษ วัตถุบางอย่างก็จ่ออยู่ที่หัวของเธอเสียแล้ว
“ปล่อยหลี่เจี่ยซินหากคุณไม่อยากสมองกระจาย”