หลิวไห่สะดุ้งตื่นกลางดึกโดยมีสายตาใสแจ๋วคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเขาอยู่ ใบหน้าของเธอก็ตื่นตระหนกไม่น้อยไปกว่าเขา
“ที่รักเป็นอะไรคะ ฝันร้ายเหรอ”
หลิวไห่ลูบหน้าของตัวเองแล้วยิ้ม
“ฝันเรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะ นอนเถอะ”
หลี่เจี่ยซินใช้แขนของหลิวไห่หนุนแทนหมอนเธอโอบแขนตัวเอาไว้ แต่หลังจากที่ฝันร้ายเขาก็นอนไม่หลับอีกเลย
เช้าวันต่อมาหลี่เจี่ยซินก็พร้อมที่จะออกจากโรงพยาบาลแล้วท่ามกลางอาการตกตะลึงของหมอที่ดูแล แผลของเธอประสานกันสนิทผมเธอยาวสลวยลงมาปิดร่องรอยที่เหมือนไม่เคยเกิดสิ่งใดขึ้น ก่อนหลิวไห่พาหลี่เจี่ยซินออกจากโรงพยาบาลเขาทิ้งคำพูดประโยคหนึ่งเอาไว้
“ผมรู้ว่าตามกฎของโรงพยาบาลยังไงคุณหมอก็ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลคนไข้ได้ แต่เพราะหลี่เจี่ยซินร่างกายไม่เหมือนคนทั่วไปบางทีอาจมีคนต้องการรู้เรื่องของเธอ ผมหวังว่าในตอนนั้นคุณหมอจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับนะครับ เพราะผมไม่อยากฆ่าหมอดี ๆ คนหนึ่งด้วยมือของผมเอง”
ดวงตาของเขาแข็งกร้าวแม้ว่าใบหน้าของเขาจะราบเรียบ หมอคนนั้นกลืนน้ำลายลงคอ เขารู้ว่าร่างกายของหลี่เจี่ยซินพิเศษกว่าคนอื่นมีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองดีเป็นอย่างยิ่ง ทำให้เขาเองก็สนใจในตัวของหญิงสาว และคนอื่นอาจจะรู้เรื่องนี้เช่นกัน คุณหมอจึงพยักหน้าตอบรับคำขอของหลิวไห่
“ครับ ด้วยเกียรติของหมอเรื่องของคนไข้ย่อมตายไปพร้อมกับผมครับ”
“ขอบคุณครับ”
เมื่อออกจากโรงพยาบาลหลิวไห่ก็ได้รู้ว่ายาที่ช่วยรักษาหลี่เจี่ยซินนั้นอยู่ในมือของประธานกู้ เขาเองก็ไม่ต้องการให้เธอเสี่ยงอีก เขาจะไปเอายาของเธอด้วยตัวเอง ในขณะที่หลี่เจี่ยซินเองไม่ยินยอม
“คุณเพิ่งได้พลังของคุณกลับมา ยาที่คุณฉีดเข้าไปก็ไม่รู้ถึงผลข้างเคียงกับร่างกาย เกิดคุณเป็นอะไรไปในระหว่างนั้นจะทำยังไง”
“ผมไม่คิดว่าผมเป็นอะไร ผมจะรีบจัดการและกลับมา”
หลี่เจี่ยซินส่ายหน้า
“การที่พ่อคุณพยายามปกปิดคุณจากประธานกู้มานานขนาดนี้ จู่ ๆ คุณจะโผล่ไปให้เขารู้ว่าคุณมีตัวตนและกลับมาไล่ล่าคุณอีกแบบนี้เหรอ มันยุติธรรมสำหรับพ่อของคุณที่อยากจะให้คุณมีชีวิตแบบคนทั่วไปเหรอ”
“ยังไงสักวันผมก็ต้องเผชิญหน้ากับเขาไม่สู้ลุยให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ”
ในเมื่อชีวิตของหลี่เจี่ยซินอยู่ในกำมือของประธานกู้ เขาเองก็พร้อมที่จะลุยไปพร้อมกับเธอและเขาก็คิดว่าผลข้างเคียงจากการใช้ยานี้ย่อมเกิดขึ้นกับเขา ไม่แน่ว่าอาจจะไม่ต่างจากหลี่เจี่ยซินและเขายังสงสัยว่าตัวเองนั้นมีเวลาหรืออยู่เท่าไหร่กันแน่
หลี่เจี่ยซินถอนหายใจ
“ไม่น่าเชื่อนะคะว่าเราสองคนจะเป็นแบบนี้ เฉินเฟยอวี๋คุณบอกเรื่องนี้กับเขาหรือยัง”
หลิวไห่ส่ายหน้า
“เขาไม่จำเป็นต้องรู้ ผมอยากให้เขาใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป การที่พ่อของพวกเราพยายามมามากขนาดนี้คงเพราะหวังจะยืดอายุของพวกเราให้นานที่สุด ในตอนนี้เขาร่างกายแข็งแรงดีทุกอย่างไม่ได้มีปัญหาอะไรผมจะให้เขาใช้ชีวิตแบบนั้นต่อไป”
“ตัวคุณเองก็ไม่ควรจะเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ ไม่น่าฉีดยานั่นเลย”
หลิวไห่จูบที่หน้าผากของหลี่เจี่ยซิน เขารู้ว่าเธอกำลังรู้สึกผิด
“อย่าคิดมากเลย ผมไม่ได้ทำเพื่อคุณสักหน่อย”
หลี่เจี่ยซินมองเขา หลิวไห่ยิ้มหล่อเหลา
“ผมเพียงแต่ทำเพื่อตัวเอง ถ้าไม่มีคุณอยู่ผมจะอยู่ได้ยังไงทั้งหมดก็เพื่อตัวเองทั้งนั้น ผมไม่อยากเสียใจ ผมไม่อยากเสียคุณไป หลี่เจี่ยซินคุณคือชีวิตของผมไม่รู้ตัวเลยเหรอ”
หลี่เจี่ยซินน้ำตาคลอ เธอไม่คิดว่าหลิวไห่จะรักเธอมากเช่นนี้
“ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ที่คุณรักฉัน”
หลิวไห่ยิ้ม “ไม่รู้สิอาจจะเป็นตั้งแต่ครั้งแรกที่คุณลากผมขึ้นเตียงก็เป็นได้”
หลี่เจี่ยซินในตอนนี้มีความสุขมาก
“รักแรกพบเหรอคะ”
“อืม จะบอกแบบนั้นก็ได้”
หลิวไห่ยังไม่ได้เล่าให้เธอฟังถึงเรื่องวันนั้น หลี่เจี่ยซินเองก็ลากเขาขึ้นเตียงตั้งแต่เรื่องที่เธอจำได้ เธอจึงไม่ได้สงสัยอะไร พวกเขาตัดสินใจว่าจะบุกเข้าไปหาประธานกู้ด้วยกัน
ด้านประธานกู้ในตอนนี้เหมือนเขาจะรู้บางอย่าง แม้ว่ากล้องวงจรปิดในอาคารทดลองจะถูกหลิวไห่ทำลายจนย่อยยับไม่สามารถจับภาพได้ แต่โทรศัพท์ของด็อกเตอร์คนนั้นยังเปิดอยู่ในตอนนั้น เธอรับสายเขาก่อนที่จะตายเขาจึงได้ยินทั้งหมด
ประธานกู้หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เขารู้ว่าหลิวไห่จะต้องมาหาเขา เขาเองก็อยากจะพิสูจน์ว่าผู้หญิงคนนั้นพูดความจริงหรือเปล่า เขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะบ้าคลั่งเช่นนั้น ที่ผ่านมาที่เขาให้ความรักและคำโกหกต่อเธอก็เพราะต้องการใช้งานเท่านั้น
ไม่คิดว่าเธอจะท้องแล้วคลอดลูกแฝดให้เขาทั้งยังใจเหี้ยมเกรียมนำลูกแฝดมาทดลองเพื่อเขาอีก ประธานกู้ในตอนนี้ไม่ได้โกรธเธอเลยแม้แต่น้อยเขากลับรู้สึกสนุกและรู้สึกถึงความหวังบางอย่าง พระเจ้ายังเข้าข้างเขาที่ไม่ปล่อยให้เขาฆ่าหลิวไห่จนตาย
เมื่อคิดย้อนไปแล้วเขาก็คิดว่าด็อกเตอร์หลิวเองกับด็อกเตอร์เฉินทั้งสองคนต่างตบตาเขาได้อย่างแนบเนียน แสร้งรักกันแสร้งหย่ากันและส่งเด็กสองคนไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ในขณะที่ตัวเขาเองกลับไม่คิดระแวงว่าทั้งหมดจะเป็นเรื่องโกหก
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ในที่สุดสิ่งที่สองคนพยายามทำก็ประสบความสำเร็จทั้งยังสร้างเด็กที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาได้ กองทัพของเขาหากได้ต้นแบบจากหลิวไห่ความฝันนั้นย่อมเป็นจริงเป็นแน่ แม้ว่าด็อกเตอร์หญิงนั่นจะตายแล้วแต่เขายังมีนักวิจัยทั้งนักวิทยาศาสตร์มือดีที่สุดของโลกอยู่ที่ห้องทดลองหนึ่ง
ต่อไปไม่ว่าใครก็ต้องยอมสยบเขา และหากพิสูจน์แล้วว่าหลิวไห่เป็นลูกของเขาจริง ในตอนนี้เขายังยินดีมอบทุกสิ่งทุกอย่างของเขาให้หลิวไห่สืบทอดแทนที่กู้เมิ่งได้โดยไม่ต้องลังเล
ความแตกต่างของกู้เมิ่งและหลิวไห่นั้นย่อมแตกต่างกันมาก ทั้งฝีมือและสมองล้วนเป็นหลิวไห่ที่เหนือชั้น ประธานกู้ในตอนนี้ไม่สงสัยอีกต่อไปว่าหลิวไห่ได้ความเป็นอัจฉริยะมากจากใคร ที่แท้ก็มาจากเขานี่เอง
ในเมื่ออดทนที่จะเจอกับหลิวไห่ไม่ไหวแล้ว ประธานกู้จึงให้คนส่งข้อความไปหาหลิวไห่ทันใด
หลิวไห่อ่านข้อความที่ประธานกู้ส่งมา เขาจึงโทรหาลุงเฉิงด้วยรู้ดีว่าหากเขาเคลื่อนไหวลุงเฉิงย่อมรู้และต้องส่งคนติดตามเขา หลิวไห่ไม่ต้องการให้ลุงเฉิงลำบากไปกับเขาด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องของเขาและหลี่เจี่ยซิน ลุงเฉิงช่วยเขามามากแล้วหลิวไห่ไม่ต้องการให้เขาต้องมาเสียลูกน้องและคนเพื่อเขาอีก
“ผมจัดการได้ครับ ลุงไม่ต้องห่วงแต่หากลุงส่งคนมาช่วยยิ่งทำให้ผมห่วงมากยิ่งขึ้นครับ ผมขอระเบิดสักหลาย ๆ ลูกครับ”
ลุงเฉิงยอมรับในการตัดสินใจของหลิวไห่ ในเมื่อชายหนุ่มไม่ต้องการคนเขาก็ได้แต่ถอนหายใจและยอมรับ
“หากต้องการให้ช่วยเหลือก็ส่งสัญญาณ ลุงพร้อมช่วยแกอยู่ด้านนอก”
“ขอบคุณครับ ผมต้องการแค่ดวงตาสวรรค์เพื่อช่วยนำทาง”
“ได้สิ ดวงตาสวรรค์ยกให้แกไปแล้วใช้งานได้เต็มที่”
“ขอบคุณครับ”
วันต่อมาของที่หลิวไห่ขอจากลุงเฉิงก็ถูกจัดเตรียมให้อย่างพร้อมเพรียงพวกมันเป็นเพียงเสื้อผ้าและอุปกรณ์เล็กน้อยที่คนดูยังไงก็ไม่เหมือนปืน ไม่เหมือนระเบิดเลยแม้แต่น้อย อเล็กซ์ตอนนี้เป็นผู้สาธิตการใช้งานของพวกนี้ ในนาทีนี้เขานับถือหลี่เจี่ยซินเป็นอาซ้อที่เก่งกาจอย่างหมดใจ ไม่ว่าหลี่เจี่ยซินจะเอ่ยปากอะไรเป็นต้องวิ่งเข้าใส่บริการด้วยตัวเองไม่ปล่อยให้คนอื่นรับใช้หลี่เจี่ยซินตัดหน้าตัวเองเป็นอันขาด
หลิวไห่ส่ายหน้าดึงอเล็กซ์ออกห่างเมื่อเขาเข้าใกล้หลี่เจี่ยซินมากเกินไป
“เกินไปแล้วอเล็กซ์นี่อาซ้อของแกนะ”
อเล็กซ์แย้ง
“โถ่ลูกพี่ ผมรู้น่าจะคิดเป็นอื่นได้ยังไง”
เขาทำหน้าซื่อยังพยายามเอาใจหลี่เจี่ยซิน หลิวไห่ไม่พอใจอย่างมากหน้าบึ้งตึงดวงตาคมแข็งกร้าวมองอเล็กซ์อย่างจะกินเลือดกินเนื้อเพียงแค่อเล็กซ์รินน้ำให้หลี่เจี่ยซิน
“นายออกไปฉันจะดูแลผู้หญิงของฉันเอง”
หลี่เจี่ยซินหัวเราะ
“ที่รักฉันรักคุณนะคะ ไม่หลงกลอเล็กซ์หรอก”
หลิวไห่จับมือของเธอเอาไว้ สายตากวาดมองลูกน้องของเขาพร้อมทั้งจ้องอเล็กซ์ตาแทบจะถลนออกจากเบ้า
“ไม่อนุญาตให้ใครเข้าใกล้อาซ้อ เข้าใจหรือเปล่า”
“ครับลูกพี่”
ทุกคนรับคำพร้อมกันมีเพียงอเล็กซ์ที่ทำหน้าเซ็ง ๆ
“ขี้หึงไม่เข้าเรื่อง ออกไปก่อนก็ได้”
จากนั้นอเล็กซ์ก็หันมาทำหน้าระรื่นใส่หลี่เจี่ยซิน
“อาซ้อมีอะไรเรียกใช้ผมได้เลยนะครับ ผมจะรีบมา”
อเล็กซ์ถูกหลิวไห่ถีบไปครั้งหนึ่ง ผู้ชายคนนั้นจึงรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งเสียงบ่นที่ดังมาเป็นระยะ
“ต่อไปก็ระวังตัวด้วย อย่าได้ส่งสายตาให้ใคร”
เขาบอกหลี่เจี่ยซิน
หลิวไห่และหลี่เจี่ยซินเตรียมชุดกันกระสุนและปืนสั้นพร้อมกระสุนให้พร้อมหลายกระบอก พวกเขายังมีมีดซุกซ่อนเอาไว้ใช้งาน ในการไปครั้งนี้สองคนไม่ต้องการไปเจรจาแต่ต้องการบุกไปยังรังของประธานกู้และทำลายให้สิ้นซากเสียไม่ให้เขาทำเรื่องชั่วเช่นนำเด็กมาทดลองอีก
เรื่องที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อประธานกู้ถึงกับส่งคนมารับพวกเขาทั้งสองด้วยตัวเอง และคนขับรถนั่นก็สุภาพมีมารยาทดีราวกับพวกเขาคือเจ้าชายเจ้าหญิงแห่งสกุลกู้ก็มิปาน
“ไม่รู้ว่าประธานกู้กินยาอะไรผิดสำแดงนะคะ ถึงได้ดูแลดีขนาดนี้”
หลิวไห่ยักไหล่ พวกเขาไม่กลัวจึงขึ้นไปนั่งในรถโดยไม่ได้ตรวจสอบด้วยซ้ำ
“เขาคงอยากได้คุณมากจนตัวสั่นเห็นว่าเรายอมไปโดยดีแบบนี้ก็ยิ่งต้องดูแลดี”
ข้อสันนิษฐานของหลิวไห่นั้นไม่ผิด เพียงแต่นอกจากหลี่เจี่ยซินที่ประธานกู้อยากได้แล้วยังมีเขาอีกคนที่ประธานกู้ได้รู้เรื่องหมดแล้ว เพียงแต่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจ
สถานที่แห่งนั้นค่อนข้างที่จะสลับซับซ้อนเหมาะสมแล้วที่ใช้เป็นที่ลับในการทดลองมนุษย์ หลิวไห่สังเกตุบริเวณโดยรอบในขณะที่รถผ่าน สมองของเขาในตอนนี้ไม่ต่างจากหลี่เจี่ยซินสามารถจดจำทุกอย่างได้แม่นยำเป็นอย่างยิ่ง เขาจำเส้นทางได้โดยละเอียดทั้งยังคำนวนทิศทางการหนีเอาไว้ในใจเผื่อฉูกเฉิน
ในตัวของเขาและหลี่เจี่ยซินมีระเบิดหลายลูก แต่ละลูกล้วนเป็นนวัตกรรมใหม่ที่หน้าตาไม่เหมือนระเบิด แต่กลายเป็นกระดุมที่ติดเสื้อสามารถกลืนกับเสื้อผ้าได้ดีไม่มีใครมองออกว่าเจ้ากระดุมเล็ก ๆ พวกนี้คือระเบิดที่มีอานุภาพรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง