หลิวไห่เก็บของออกจากโรงเรียน น้ำตาของเขายังคงคลอเบ้าไม่มีใครกล้าพูดกับเขาสักคน เขาสะพายกระเป๋าเป้แล้วเดินออกไปหาพ่อที่รออยู่นอกห้อง
พ่อของเขาตบไหล่เขาเบา ๆ พาเขาเดินออกจากโรงเรียนท่ามกลางสายตาของนักเรียนคนอื่น หลิวไห่รู้สึกเสียใจและเสียดาย ทั้งทบทวนความผิดพลาดของตัวเอง พ่อของเขาไม่ว่าเขาสักคำยังยิ้มให้เขาอย่างภาคภูมิใจ นั่นยิ่งทำให้เขาร้องไห้จนสะอื้น
“ผมทำพ่อตกงานแล้ว เราเพิ่งย้ายมาอยู่ฮ่องกงแท้ ๆ”
พ่อของหลิวไห่จึงบอกว่า
“ไม่เป็นไรหรอก พ่อยังมีพวกพ้องอยู่แกทำถูกแล้วพ่อภูมิใจในตัวแก”
“ผมเสียใจครับที่ไม่รู้จักระงับอารมณ์ให้มากกว่านี้ ความจริงถ้าผมใจเย็นลงสักนิดยอมถูกซ้อมก่อนเรื่องมันอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้ เพราะผมลงมือก่อนแท้ ๆ”
“ก็ถือไว้เป็นบทเรียน คราวหลังจำไว้ให้ดีที่ประธานกู้พูดนั้นมีเหตุผล เขาเป็นคนเก่งมากสิ่งที่เขาพูดมักจะถูกเสมอ”
พ่อตบไหล่ของเขา
“ตอนนี้ที่สำคัญคือเรื่องเรียนของแก หาโรงเรียนที่ไม่มีชื่อเสียงหน่อยน่าจะยังพอมีเปิดรับ”
หลิวไห่สงสารพ่อ เมื่อตกงานแล้วไหนจะค่าใช้จ่าย
“ไม่ต้องห่วงพ่อมีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่ง พอสำหรับส่งแกเรียนและทำธุรกิจเล็ก ๆ ของเราได้ พ่อของแกก็เป็นคนเก่งคนหนึ่งนะไม่ตายหรอก”
“ครับพ่อ ผมขอโทษนะครับ”
“เลิกพูดคำนี้เถอะ พ่อพูดจริง ๆ ไม่คิดว่าแกจะเท่ห์ขนาดนี้ ไอ้นี่มันเท่ห์เหมือนพ่อจริง ๆ คิดปกป้องคนอื่นเป็นด้วย”
“ครับ”
“ต่อไปเราพ่อลูกจะได้เริ่มชีวิตใหม่กันจริง ๆ พ่อก็มีเส้นสายมีพรรคพวกอยู่ที่นี่บ้างไม่ต้องห่วงนะ พ่อสัญญาว่าจะเลี้ยงดูแกอย่างเต็มที่ไม่ให้มีอะไรบกพร่อง”
“พ่อครับ”
“อะไรอยากบอกรักพ่อเหรอ”
หลิวไห่หน้าแดง เขาเป็นผู้ชายไม่พูดคำเชย ๆ น่าอายพวกนี้เป็นอันขาด ในขณะที่พ่อของเขาหัวเราะ
“เอาล่ะ ถ้ารักก็แค่บอกพ่อ แต่ถึงแกจะไม่บอกพ่อก็รู้ว่าแกรักพ่อเหมือนที่พ่อรักแก”
หลิวไห่ยิ้มออกแล้ว เขาพยักหน้าแล้วเดินเร็วขึ้นยังถูกพ่อแซวเรื่องบอกรักตามหลังมาติด ๆ
หลิวไห่หวนคิดถึงเรื่องราวตั้งแต่เขายังเด็กและอาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์ เป็นเพราะเขาตัวค่อนข้างผอม จึงมักถูกคนอื่นรังแกอยู่เรื่อย น้องชายของเขาก็ไม่เอาไหนแค่คนเดินผ่านก็ร้องไห้แล้ว
ตอนเด็ก ๆ เขามักจะรำคาญน้องรองเสมอ ลำพังตัวเขาเองก็เอาตัวไม่รอดเด็กคนนั้นยังตามเขาแจคอยให้เขาช่วยเหลืออยู่เรื่อย จนกระทั่งวันหนึ่งในขณะที่พวกเขาสองคนถูกรังแก เขาจำได้ว่าวันนั้นเป็นวันอาทิตย์ สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของเขาอยู่ติดกับโบสถ์คริสต์จึงมีคนมาโบสถ์ค่อนข้างเยอะ
ในขณะที่พวกเขากำลังกอดกันร้องไห้อยู่นั้น เด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็โผล่มาซัดเด็กอัธพาลพวกนั้นจนวิ่งหนี เขาตื่นเต้นมากที่ได้เห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งจะเก่งขนาดนั้น
เด็กผู้หญิงคนนั้นยื่นมือเล็ก ๆ ของเธอมาให้เขาแล้วฉุดให้ลุกขึ้น น้ำเสียงของเธอช่างน่ารักเป็นอย่างยิ่ง
“ไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะปกป้องนายเอง”
คำพูดนี้ดูเหมือนจะสลักเข้าไปในจิตใจของเขา เขาไม่เคยเจอใครที่น่ารักและเท่ห์แบบนี้มาก่อนในชีวิต เธอเป็นเหมือนนางฟ้าตัวน้อยของเขา และ ได้กลายมาเป็น ฮีโร่ในดวงใจของเขาแล้ว
หลังจากนั้นมาทุกวันอาทิตย์เขาจะคอยไปใกล้ ๆ กับโบสถ์นั่นเพื่อหวังจะได้พบเธออีกสักครั้ง
วันอาทิตย์ต่อมาเขาก็ได้พบกับเด็กหญิงคนนั้นอีกพร้อมตะกร้าขนมที่เธอนำมาฝาก เธอเป็นเด็กสาวที่น่ารักและใจดีมาก เธอคาดโทษเด็กคนอื่นที่รังแกพวกเขาว่าหากรู้อีกว่าพวกนั้นรังแกคน จะจับหักขาให้หมด ตั้งแต่นั้นมาจึงไม่มีใครกล้ามารังแกพวกเขาสองคนพี่น้องอีกเลย
และหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาสองพี่น้องก็ได้รับอุปการะต้องออกจากบ้านเด็กกำพร้า เด็กผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มาที่โบสถ์แล้ว เขาจึงไม่มีโอกาสได้บอกลาเธอ เพราะมีเธอเป็นแรงผลักดัน หลิวไห่จึงอยากปกป้องคนอื่นบ้างเขาจึงมีความคิดที่จะเป็นตำรวจ หวังว่าสักวันเขาจะไปยืนต่อหน้าเด็กคนนั้นแล้วบอกเธอว่า
เขาพร้อมแล้วต่อไปไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นเขาจะเป็นคนปกป้องเธอเอง
สองพ่อลูกมาถึงบ้านต่างมองหน้ากัน เมื่อคนของประธานกู้มาที่บ้านและขับไล่เขาออกจากบ้านทันที พวกเขาเพิ่งย้ายมาที่นี่ข้าวของไม่เยอะมากจึงเก็บของที่จำเป็นแล้วออกมาโดยไม่สนใจ
หลิวไห่ยังรู้สึกผิดในขณะที่พ่อของเขายังให้กำลังใจ
“ไม่ต้องห่วงนะ พวกเราไปหาบ้านเช่าเล็ก ๆ อยู่แล้วค่อยคิดว่าจะทำยังไงต่อไป”
หลิวไห่พยักหน้า มองพ่ออย่างซาบซึ้งใจในตอนนี้กระทั่งรถของพ่อก็เป็นรถบริษัทจำเป็นต้องคืนเขาไปทุกอย่าง พวกเขาสองพ่อลูกไม่เหลืออะไรแล้วเพราะคนเลวคนนั้นหรือเพราะเขากันแน่
หลิวไห่ยิ่งรู้สึกผิดในใจ แทบจะไม่เชื่อว่าเพียงแค่ไม่ยอมก้มหัวให้คนคนหนึ่งจะทำให้ชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้
วันนี้กว่าจะหาที่พักได้ก็มืดค่ำ วันนั้นเป็นวันแรกที่พ่อสอนให้เขาดื่มเหล้า เพียงแต่ใบหน้าของพ่อไม่ได้เต็มไปด้วยความทุกข์ กลับมีรอยยิ้มเต็มใบหน้าและขอบคุณที่เขาอยู่เคียงข้างพ่อ
หลิวไห่จึงหัวเราะกับโชคชะตาของตัวเองอีกครั้ง
หลายปีต่อมาหลิวไห่สอบเข้าโรงเรียนนายตำรวจได้ด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง และเขาก็จบมาด้วยคะแนนอันดับหนึ่งเช่นกันอีกไม่กี่วันจะเป็นวันมอบตัวเข้ารับราชการ พ่อของหลิวไห่ทำกิจการทัวร์เล็ก ๆ เพื่อเลี้ยงปากท้องของพวกเขาจึงอยู่รอดมาได้อย่างสงบสุข พวกเขาได้ลืมเรื่องของประธานกู้และลูกชายไปจนหมดสิ้น
เรื่องที่คิดว่ากำลังเป็นไปด้วยดีกลับมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่นั้นมาก็เปลี่ยนแปลงชีวิตของหลิวไห่อย่างสิ้นเชิง ในขณะที่เขากำลังรอพ่อกลับบ้านเพื่ออวดผลสอบอยู่นั้น เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกจนได้