ในวันนั้นตำรวจเข้ามาช่วยพวกเขาพ่อลูกเอาไว้ได้ทัน หลายวันต่อมาเขาก็ฟื้นขึ้นมาพร้อมกับข่าวร้ายเกี่ยวกับพ่อของเขา กระสุนปืนฝังเข้าที่ส่วนหลังของพ่อจนทำให้พ่อกลายเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงเอวลงมา
“แล้วพ่อของผมมีทางจะรักษาหรือเปล่าครับ”
หลิวไห่ถามหมอเสียงสั่น
“อาการยังต้องประเมินอีกครั้งครับ แต่เบื้องต้นตอนนี้คนไข้ได้สูญเสียความรู้สึกช่วงล่างไปแล้ว ทางหมอจะพยายามจนถึงที่สุดครับ”
“หมอครับ พ่อผมอยู่ไหน พ่อของผมอยู่ไหนครับ”
คุณหมอตอบคำถามอย่างใจเย็น พยายามให้หลิวไห่ควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
“ตอนนี้คุณพ่อของคุณยังอยู่ห้องไอซียูครับ คุณพ่อของคุณยังปลอดภัยดีครับไม่ต้องห่วงนะครับ เพียงแต่เราต้องเฝ้าดูอาการจนกว่าจะแน่ใจถึงจะให้ออกจากไอซียูได้ครับ”
เขาผวาลงจากเตียงต้องการไปหาพ่อของเขาในตอนนั้น แต่เขาเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ขยับตัว หลิวไห่เกิดคุ้มคลั่งบุรุษพยาบาลต่างเข้ามาช่วยกันจับตัวของเขา
จนสุดท้ายแพทย์ต้องตัดสินใจฉีดยานอนหลับให้หลิวไห่เขาจึงสงบลงได้
เมื่อตื่นขึ้นมาหลิวไห่พบว่าตัวเองถูกมัดเอาไว้กับเตียง เขาร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่งรู้สึกเจ็บปวดและคล้ายกำลังจะสูญเสียบางอย่าง ได้แต่อ้อนวอนหมอให้เขาได้พบพ่อสักครั้งแต่ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตเช่นเดิม หลิวไห่จึงได้แต่ร้องไห้คร่ำครวญอยู่ข้างนอกอย่างน่าสงสาร
เขาโกรธแค้นกู้เมิ่ง อยากฆ่าไอ้เลวคนนั้นให้ตายต้องการให้กู้เมิ่งชดใช้ให้แก่พ่อของเขา เขาจะลากมันเข้าคุกให้มันไปชดใช้กรรมในนั้น
ตำรวจมาหาเขาสองครั้งถามหลายเรื่องแล้วจดบันทึก หลิวไห่มองพวกเขาอย่างมีความหวังเขาเล่าเรื่องทุกอย่างให้ตำรวจฟัง เขาต้องการให้กู้เมิ่งและพวกของมันชดใช้กรรมและตำรวจก็เอาแต่ก้มลงจดบางสิ่งบางอย่างลงในกระดาษ ทั้งยังไม่ได้รับปากเขาเรื่องตามจับคนร้ายและออกไปอย่างเงียบเชียบ
ตั้งแต่นั้นมาตำรวจก็ไม่มาหาเขาอีกเลย
หนึ่งเดือนต่อมาหลิวไห่ก็ออกจากโรงพยาบาล หลิวไห่ในตอนนี้ไม่ได้เป็นตำรวจอย่างที่หวังแล้วเป็นเพราะวันนั้นที่เขาถูกทำร้ายทำให้เขาไม่สามารถไปรายงานตัวเข้ารับราชการตำรวจได้ทัน อีกทั้งไม่มีญาติมาอุทรณ์จนกระทั่งหมดเวลาผ่อนผันในที่สุด
หลิวไห่ต้องพลาดหวังจากการเข้ารับราชการตำรวจอย่างที่ตัวเองตั้งใจในที่สุด โลกของเขาคล้ายจะถล่มลงมาแล้ว การเป็นตำรวจเป็นสิ่งที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดชีวิตในตอนนี้เพราะกู้เมิ่งคนนั้นทำให้ชีวิตของเขาพังลงมา ยังมีพ่อของเขาที่ต้องเป็นแบบนี้อีก
หลิวไห่พยายามถามพ่อของเขาหลายครั้งว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วแฟรชไดร์ฟที่ผู้ชายคนนั้นพูดถึงคืออะไร พ่อของเขาเพียงแต่พูดว่าเพราะเรื่องนี้ทำให้พ่อกลายเป็นอัมพาต เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ยอมให้หลิวไห่รู้เรื่องสกปรกที่พ่อทำจนต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ทำไปด้วย
ในวันนั้นเป็นครั้งแรกที่หลิวไห่คิดว่าเขาไม่ได้รู้จักพ่อของเขาเลยสักนิด
หลังหลิวไห่ออกจากโรงพยาบาลเขาก็ไปตามเรื่องที่สถานีตำรวจ ดูเหมือนว่าเรื่องที่พวกเขาสองพ่อลูกถูกทำร้ายจะกลายเป็นเพียงเรื่องทะเลาะตบตีกันของวัยรุ่น และตำรวจก็ไม่ใส่ใจ
เมื่อไปถึงโรงพักเพื่อติดตามเรื่อง กลับไม่มีใครสักคนเลยที่สนใจเขา
หลิวไห่กลับมาด้วยความผิดหวัง การที่เขาบอกว่ากู้เมิ่งเป็นคนยิงเขาในวันนี้ทำให้ตำรวจพวกนั้นเอาแต่หัวเราะ
“นายอย่ามาล้อเล่น ลูกชายคนเดียวที่จะสืบทอดตำแหน่งประธานในเครือธุรกิจตระกูลกู้คนนั้นคงไม่ลดตัวมายิงคนที่ไร้หัวนอนปลายเท้าแบบนายหรอก”
หลิวไห่พยายามอธิบาย ดูเหมือนว่าตำรวจไม่มีทางเชื่อเขาและไม่คิดจะสืบเรื่องอะไรเลย
“แต่เป็นเขาจริง ๆ นะครับ เขาและคนของเขาเป็นคนยิงผมและพ่อ วันนั้นก็เป็นคนของเขาที่โทรเรียกรถพยาบาล”
นายตำรวจคนนั้นจึงตอบเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ไม่ใช่หรอก คนโทรเรียกเขาบังเอิญได้ยินเสียงอันธพาลแถวนั้นตีคน เขามีน้ำใจเขาก็เลยโทรเรียก นายอย่ามาใส่ความคนอื่นเลยหลักฐานไม่มีพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อหรอก อย่าทำให้ตำรวจปวดหัวเลยนะเจ้าหนู”
“ไม่ใช่นะครับ ผมพูดจริง ได้โปรดเชื่อผมนะครับ”
ตำรวจคนหนึ่งหัวเราะหยันเขาแล้วยังพูดว่า
“ฉันรู้มาว่านายและรองประธานกู้เคยมีเรื่องบาดหมางกันตอนเป็นวัยรุ่นใช่หรือเปล่า เรื่องนี้คงแค้นจนแต่งเรื่องโกหกน่ะสิ เห็นได้ชัดว่าพวกแกถูกอันธพาลข้างถนนเล่นงานชัด ๆ ยังจะโยงไปถึงท่านรองประธาน อย่าเที่ยวพูดไปให้คนอื่นฟังนะ ไม่งั้นนายอาจจะติดคุกในข้อกล่าวหาใส่ร้ายและล่วงเกินคนอื่นแทน”
ในวันนั้นหลิวไห่โกรธจัด เขาเพิ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าตัวเองกับกู้เมิ่งช่างห่างชั้นกันเหลือเกิน นี่จะไม่มีทางที่เขาจะดึงคนเลวนั่นเข้าคุกได้เลยเหรอ หลิวไห่ในตอนนั้นได้แต่เก็บความเจ็บแค้นเอาไว้ในใจ