คืนนี้หลิวไห่นอนไม่หลับทั้งคืน เขาคิดเรื่องต่าง ๆ มากมายในขณะที่หลี่เจี่ยซินนอนกรนเบา ๆ อยู่ข้าง ๆ แม้ว่าเขาจะปฏิเสธไม่ให้เธอร่วมเตียงกับเขาแต่หลี่เจี่ยซินก็เป็นแสดงความห่วงใยที่เกินจริง กลัวว่าเขาจะคิดมากจนฆ่าตัวตายที่ต้องเสียน้ำให้เธอซึ่งเป็นผู้หญิง หลิวไห่ถูกเธอตื้ออย่างหนักสุดท้ายก็ต้องยอมอย่างจำใจ
เขาเกลี่ยผมที่ปรกหน้าออกให้เธอพึมพำเสียงเบา
“หลี่เจี่ยซินผู้หญิงบ้านี่เธอช่างไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้เหรอว่าฉันพยายามห่างเธอแค่ไหน”
เขายิ้มอย่างอ่อนโยน ค่อย ๆ ไล้ไต่นิ้วตามกรอบใบหน้าสวยหวานของเธออย่างหลงใหล ยิ่งเขาได้ใกล้ชิดเธอยิ่งรู้ว่าหลี่เจี่ยซินพิเศษมากเพียงใด
เธอเหมือนไม่ใช่คนจริง ๆ แต่จากประวัติที่เขาสืบมาแล้วผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้มีอะไรที่น่าสงสัย
เป็นเด็กผู้หญิงที่เติบโตขึ้นมาในโรงฝึกศิลปะการต่อสู้ธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้น
“หลี่เจี่ยซินถ้าเธอเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งจะเป็นยังไงนะ ความจริงฉันก็อยากจะเป็นฝ่ายปกป้องเธอบ้างไม่ใช่ให้เธอคอยปกป้องอยู่แบบนี้ มันน่าอายไม่รู้หรือ”
หลี่เจี่ยซินขยับตัวเธอพลิกมากอดเขาไว้ ปากยังงึมงำใบหน้างามยกยิ้มอย่างมีความสุข
หลิวไห่ขยับตัวดึงเธอเข้าอยู่ในอ้อมกอดกระซิบถามเสียงเบา
“เธอฝันหวานเหรอ ที่รัก เธอฝันเห็นอะไรนะ”
และแล้วหลี่เจี่ยซินกลับพูดขึ้น
“ที่รักฉันอยากลองอีกสักน้ำพิสูจน์ว่างูของเธอผงกหัวแล้ว”
หลิวไห่ใบหน้าเห่อร้อน เขาถอนหายใจออกมาแล้วพูดเสียงเบา
“ยัยลามกเอ๊ย เอาเถอะอย่างน้อยก็ยังฝันถึงฉัน”
หลายวันต่อมา หลิวไห่ให้คนตามสืบว่าหลี่เจี่ยซินโดนใครวางยา แต่เธอกลับห้ามเขาและบอกว่าเธอรู้แล้วว่าเป็นใคร แต่เธอจะจัดการเรื่องนี้เองหลิวไห่ถามยังไงหลี่เจี่ยซินก็ไม่ยอมบอกเขาเด็ดขาด
“เอาไว้ฉันจะบอกเธอเองนะ ไม่ต้องห่วงหรอกฉันจัดการมันไปแล้ว”
เมื่อหลี่เจี่ยซินไม่ให้เขายุ่ง หลิวไห่จึงคิดว่าหรือจะเป็นนายตำรวจเพื่อนรักของเธอคนนั้นจริง ๆ และหลี่เจี่ยซินกำลังพยายามปกป้องเขาอยู่ สร้างความเจ็บใจให้หลิวไห่เป็นอย่างมาก
เขาต้องรู้ให้ได้ว่าใครกำลังทำร้ายเธอกันแน่
ต่อมาคนของหลิวไห่ถูกส่งมาจากฮ่องกงเพื่อตรวจเช็คบัญชีที่เขาคิดว่าผิดปกติ และแล้วเขาก็พบจริง ๆ หลิวไห่ตั้งใจเชือดไก่ให้ลิงดูเขาแจ้งข้อหากับผู้ตรวจบัญชีและพนักงานบัญชีที่ปกปิดข้อมูลและสร้างข้อมูลเท็จเรียงตัว หลังจากนั้นแจ้งข้อหาส่งตัวให้ตำรวจและไล่ออกจนตำแหน่งงานในบริษัทครึ่งหนึ่งว่างลง
หลังจากนั้นภายในวันต่อมาเขาจัดการเอาคนของเขาเข้ามานั่งทำงานโดยไม่สนใจความคิดเห็นของผู้ถือหุ้นคนอื่น
ในการประชุมผู้ถือหุ้นหลายคนต่างแย้งเขาว่าทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง หลิวไห่นั่งไขว่ห้างโยนปากกาเล่นแล้วพูดเสียงเย็นพร้อมกับโยนเอกสารให้คนพวกนั้นดู
“นี่มันอะไรครับ”
“นี่คือรายชื่อผู้ถือหุ้นครับ ผู้ถือหุ้นหลักในตอนนี้คือคุณหลิวไห่นักธุรกิจจากห้องกง เขาได้มอบอำนาจให้ผมแล้วมีใครจะแยังอะไรอีกหรือเปล่าครับ”
ทุกคนต่างหน้าเสีย ไม่คิดว่าเฉินเฟยอวี๋จะไปรู้จักสนิทสนมกับหลิวไห่คนลึกลับนั่น เป็นเพราะไม่กี่วันก่อนหุ้นของบริษัทร่วงลงจนแทบจะติดพื้นเพราะข่าวลือว่าบริษันได้ตัดสินใจจะหาผู้ร่วมทุนด้วยไม่อาจยื้อภาวะการขาดทุนเอาไว้ได้
เมื่อข่าวลือถูกปล่อยหุ้นจึงตกลงมาอย่างหนัก ในตอนนั้นเองหลิวไห่ก็กว้านซื้อหุ้นแทบจะทั้งหมดเอามาถือครองเอง ในตอนนี้เขาจึงเป็นต่อคนพวกนั้นและมีอำนาจเต็มอยู่ในมือ
เรื่องกระจอกง่ายดายเพียงนี้ เฉินเฟยอวี๋กลับไม่สามารถจัดการได้ หลิวไห่เองก็อยากจะเคาะกะโหลกน้องชายฝาแฝดออกมาดูนักว่าในนั้นมีสมองหรือไม่ คนพวกนี้ไม่ใช่จะจัดการยากเสียหน่อย
เขากำลังค่อย ๆ พลิกฟื้นกิจการของสกุลเฉินด้วยสองมืออย่างรวดเร็ว ในขณะที่เขาเองก็ตามสืบเรื่องของตำรวจคนนั้นไปด้วย
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหน้าจอแจ้งว่าเป็นหลี่เจี่ยซินที่เขาให้เธอตามดูตำรวจคนนั้น
หลิวไห่ : ได้เรื่องแล้วเหรอ
หลี่เจี่ยซิน : ใช่ค่ะให้จัดการเลยดีหรือเปล่า?
หลิวไห่ : อยู่ที่ไหน
หลี่เจี่ยซิน : ถนนมู่ค่ะ
หลิวไห่ : ไม่ไกลมากไม่เกินสิบนาทีฉันจะไปถึงที่นั่น จับตาดูไว้ให้ดี
หลี่เจี่ยซิน : ได้ค่ะ
หลี่เจี่ยซินนั่งอยู่บนมอไซต์บิ๊กไบค์คันใหญ่ เธอตามตำรวจคนนั้นมาจากสถานีอย่างระมัดระวัง เห็นเขานัดพบผู้ชายหลายคนและสุดท้ายขับรถมาจอดในโรงแรมชานเมืองแห่งหนึ่ง หลี่เจี่ยซินจึงจอดมอเตอร์ไซต์แล้วแอบดูอยู่ห่าง ๆ
เธอขยับเข้าไปไกล้จนได้ยินตำรวจคนนั้นและผู้ชายอีกคนหนึ่งคุยกัน พวกเขากำลังทะเลาะกันหูของหลี่เจี่ยซินดีเป็นอย่างยิ่งเธอได้ยินที่พวกเขาทะเลาะกัน เป็นเรื่องเงินก้อนใหญ่ที่เหมือนว่าตำรวจคนนั้นจะซ่อนเอาไว้
หลี่เจี่ยซินเคี้ยวหมากฝรั่งรอคอยอย่างเงียบ ๆ จนกระทั่งหลิวไห่นั่งแท็กซี่มาถึง เขาอยู่ในเสื้อเชิตสีขาวไม่ได้ใส่สูทแล้ว ร่างสูงก้าวยาว ๆ มาหาเธอแสงแดส่องกระทบร่างนั้นทำให้หลี่เจี่ยซินหลี่ตาเขาดูเท่ห์จนเธออดกรี๊ดในใจไม่ได้
“ที่รักแบบนี้จะไม่ให้ฉันอยากกินเธอได้ยังไง”
หญิงสาวครางอย่างรู้สึกไม่ยุติธรรม ใครใช้ให้ผู้ชายใจหญิงคนหนึ่งเท่ห์ได้ขนาดนี้กัน มันลำบากต่อหัวใจดวงน้อย ๆ ของเธอเสียจริง
เขาขยับเข้ามาใกล้เธอแล้วถามทันทีเมื่อเห็นว่าคนสองคนเริ่มผลักกันไปมาในมุมถนนที่เปลี่ยวคน
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ ทำไมพวกมันมีปากเสียงกัน”
หลี่เจี่ยซินหัวเราะ
“คนชั่วทะเลาะกันเรื่องเงิน ให้จัดการเลยดีหรือเปล่าคะ จะถามให้รู้เรื่องเลยในซองนั้นน่าจะมีของที่เราต้องการ”
หลิวไห่อยู่ที่นี่แล้วเขาจึงปล่อยให้หลี่เจี่ยซินเข้าไปจัดการ
หลี่เจี่ยซินหยิบหมวกกันน็อคแล้วสวมลงที่หัว ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปจัดการถูกหลิวไห่ดึงมือเอาไว้ ทุกครั้งที่เห็นเธอลงมือเขาเองก็รู้สึกห่วงเธอมากแม้รู้ว่าเธอจะไม่เป็นอันตรายอะไร
“อะไรคะ”
“ระวังตัวนะ”
“ที่รักไม่ต้องห่วงค่ะ จะจัดการอย่างรวดเร็วจนที่รักดูไม่ทันเลยล่ะ”