ความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25 – ตอนที่ 61 เกือบถูกจับได้

“พี่ชายฉันเบื่อแล้วจะให้ฉันกลับเมื่อไหร่”

เฉินเฟยอวี๋วีดีโอคอลมาหาหลิวไห่ในตอนที่เขาหลี่เจี่ยซินบอกเขาว่าจะออกไปจัดการธุระส่วนตัวที่โรงฝึก เขาคุยโทรศัพท์ไปด้วยดูกล้องวงจรปิดที่ให้ดวงตาสวรรค์แฮ็คข้อกล้องของจราจรเพื่อติดตามหลี่เจี่ยซินด้วยความเป็นห่วง

เขาเห็นเธอจอดรถแล้วและกำลังเดินเข้าไปที่โรงฝึกท่าทางอารมณ์ดีเป็นอย่างยิ่ง

“พี่ชายนายฟังฉันอยู่หรือเปล่า ใจลอยไปถึงไหนแล้ว”

เฉินเฟยอวี๋เตือนสติเขา หลิวไห่รู้ตัวว่าเขาอยู่กับหลี่เจี่ยซินมากเกินไปพอเธอไม่อยู่เขาก็กระวนกระวายแล้ว เขาดึงสติให้กลับมาพร้อมกับตอบน้องชายด้วยเสียงราบเรียบ

“ไม่นานหรอก บริษัทกำลังเข้าที่เข้าทางแล้ว เพียงแต่น้องสาวบุญธรรมของนายคนนั้นจะเอายังไงกับเธอดี”

เฉินเฟยอวี๋ยักไหล่

“ไม่รู้สิ แต่เห็นแก่หน้าคุณแม่ก็เบามือหน่อยแล้วกัน”

หลิวไห่ยิ้ม

“ถ้ายังงั้นให้หลี่เจี่ยซินจัดการเธอ”

เฉินเฟยอวี๋โวยวายเสียงดัง

“ไม่ได้ ๆ หลี่เจี่ยซินผู้หญิงคนนั้นไม่รู้จักคำว่าเบา ถ้าเธอลงมือคงได้เข้าโรงพยาบาลเป็นปีแน่ วิญญาณคุณแม่จะมาเข้าฝันลงโทษฉัน พี่นั่นแหละจัดการเองก็แล้วกัน อย่าให้รุนแรงมาก”

หลิวไห่หัวเราะ

“ยังมีใจเมตตาคนที่พยายามจะถีบนายออกจากบริษัทอีกเหรอ”

เฉินเฟยอวี๋ยิ้มหวาน แต่หลิวไห่กลับรู้สึกขนลุก

“แน่ล่ะ ฉันเป็นคนจิตใจงดงามเหมือนหน้าตา ว่าแต่ว่าที่รับปากฉันจะไม่แตะต้องหลี่เจี่ยซินพี่รักษาสัญญาหรือเปล่า”

หลิวไห่ไม่ตอบ เขายังอ้ำอึ้งเล็กน้อย

“ไม่ได้นะ พี่นอนกับเธอแล้วเหรอ”

หลิวไห่ทำหน้าตาน่าสงสาร

“เป็นหลี่เจี่ยซินที่ปล้ำฉัน ฉันขัดขืนไม่ได้ไม่รู้เป็นอะไรหมู่นี้เธอชอบคึกคักอย่างประหลาด”

เฉินเฟยอวี๋ไม่เชื่อ

“ไม่มีทาง ตอนอยู่กับฉันที่รักของฉันเขาไม่เคยเป็นแบบนั้นอย่ามาใส่ความคนของฉัน ต้องเป็นพี่แน่ ๆ ที่ยุ่งกับเธอก่อน”

หลิวไห่อยากจะบีบคอน้องชายคนนี้เหลือเกิน รู้ทั้งรู้ว่าหลี่เจี่ยซินเรี่ยวแรงเยอะขนาดนั้นคนแบบเขาจะทำอะไรได้

“เอาล่ะ ไร้สาระแล้วถ้าพร้อมแล้วจะให้กลับมาแล้วกัน”

หลิวไห่กดวางสายทันที เขาส่งวีแชทหาหลี่เจี่ยซินถามว่าเธออยู่ไหนแล้ว หญิงสาวตอบว่าแวะมาดูโรงฝึกสักหน่อยกำลังจะกลับ

หลิวไห่วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ แล้วนั่งทำงานต่อ นักสืบส่งรายงานเกี่ยวกับเรื่องน้องสาวบุญธรรมของเฉินเฟยอวี๋มาให้เขาจำนวนหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นเอกสารเรื่องที่เธอเผยความลับบริษัทให้บริษัทคู่แข่งรู้ และยังมีเรื่องแอบยักยอกเงินอีกหลายครั้ง

“ฉันไม่อยากทำร้ายผู้หญิงหรอกนะ แต่ฉันก็ปล่อยเธอไว้ไม่ได้”

หลี่เจี่ยซินออกมาจากโรงฝึกแล้ว นักเรียนยังคงลงเรียนจนเต็มและยังมีที่จองคิวเพราะว่าที่โรงเรียนกำลังมีชื่อเสียง เพราะแช้มป์กีฬาโอลิมปิกคนล่าสุดที่เพิ่งผ่านพ้นไปมีเด็กที่ได้เหรียญทองโอลิมปิกให้สัมภาษณ์ว่าเพราะมาเรียนที่โรงเรียนของเธอจึงติดทีมชาติ ทำให้เธอมีวันนี้คว้าเหรียญระดับโลกมาได้

เพราะเป็นแบบนี้ชื่อเสียงของโรงเรียนศิลปะการต่อสู้หลี่จึงยิ่งดังขึ้น ยังพบว่าที่นี่ยังสร้างคนมีฝีมืออีกหลายคนที่กำลังแข่งระดับโลก คนที่เดินมาส่งเธอคือครูฝึกเก่าแก่ที่ตอนนี้ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการ เขากำลังปรึกษาหลี่เจี่ยซินว่าจะขยายอีกสักสาขาดีหรือเปล่าเพราะนักเรียนมาเข้าเรียนเป็นจำนวนมาก

“ลองพิจารณาดูค่ะ ถ้าคุณลุงเห็นว่าควรเปิดและเรามีครูที่มีความสามารถพอก็เปิดได้ค่ะ เงินเก็บเราก็มีพอ”

ครูฝึกเดินมาส่งหลี่เจี่ยซินถึงลานจอดรถ พูดคุยเรื่องธุรกิจกันอีกไม่กีคำก็เกิดเรื่อง

มีคนเข้ามาล้อมหลี่เจี่ยซินและครูฝึกไว้ ท่าทางเป็นนักเลงโต หลี่เจี่ยซินถามเสียงแข็ง

“พวกแกต้องการอะไร”

“น้องสาวไปกับพวกพี่เถอะ อย่าขัดขืนเลยเจ้านายของพี่กำลังรออยู่”

หลี่เจี่ยซินยกมุมปาก

“ไม่ไปไม่ว่าง”

เธอบอกให้คุณลุงกลับไปก่อน คุณลุงหัวเราะแล้วบอกว่า

“เอาอีกแล้วพอมีเรื่องสนุกก็ไล่ทุกทีเลย”

หลี่เจี่ยซินจับมือของเขาดึงเข้ามาใกล้ ๆ

“คุณลุงเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนฝึก ถ้ามีเรื่องจะมีคนพาลมาปิดโรงเรียนของเราได้กลับไปก่อนนะคะฉันจัดการเอง”

“ถ้างั้นลุงดูอยู่ห่าง ๆ นะเผื่อเสี่ยวเจี่ยต้องการให้ช่วย”

หลี่เจี่ยซินเห็นว่าเขายังห่วงเธอจึงพยักหน้า

“ตามใจค่ะ”

หญิงสาวบอกกับคนพวกนั้น

“ฉันยอมไปด้วย แต่ปล่อยคุณลุงของฉันไปนะคะ”

คนพวกนั้นดูสุภาพขึ้น เมื่อเห็นว่าหลี่เจี่ยซินไม่ขัดขืน จึงหลีกทางให้คุณลุงแต่โดยดี

เมื่อคุณลุงเดินไปลับตาแล้ว หลี่เจี่ยซินจึงเปลี่ยนน้ำเสียง

“ไม่ไปแล้วเปลี่ยนใจ ทางใครทางมันเถอะ บอกกู้เมิ่งว่าฉันไม่ว่างถ้าอยากเจอก็เจอกันที่บริษัทมาพบได้ในเวลาทำงาน เสาร์อาทิตย์วันหยุด แต่ให้นัดล่วงหน้าก่อน”

หลี่เจี่ยซินร่ายยาวเหยียด ก่อนจะเปิดประตูรถ เธอรู้อยู่แล้วจากสายตาของกู้เมิ่งวันนั้น ยังไงเขาก็ไม่ปล่อยเธอเอาไว้แน่

หลี่เจี่ยซินกำลังก้าวขึ้นรถ แต่ถูกผู้ชายตัวใหญ่คนหนึ่งดึงประตูเอาไว้ หลี่เจี่ยซินมองตาเขียว

“ปล่อยก่อนที่นิ้วของนายจะหัก”

เธอไม่อยากใช้กำลัง คุยกันก็น่าจะรู้เรื่อง

“ไม่ปล่อย ทำไมน้องสาวกลัวเหรอจ้ะ ถ้ากลัวก็ไปกับเราดี ๆ เถอะ”

หลี่เจี่ยซินหัวเราะเยาะ

“กลัวบ้านป้ามึงน่ะสิ บอกให้ปล่อย”

ผู้ชายร่างยักษ์กลับหัวเราะด้วยความถูกใจ

“ดุซะด้วย สวย ดุ แบบนี้ไม่น่าล่ะเจ้านายชอบ”

หลี่เจี่ยซินคิดให้โอกาสครั้งสุดท้าย

“ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าไม่ปล่อยนิ้วนายจะขาด”

“เอาสิจ้ะ”

เขายังท้าทาย หลี่เจี่ยซินจึงเริ่มนับ

“สาม”

หลี่เจี่ยซินนับเร็วรัวก่อนจะปิดประตูด้วยแรงมหาศาล ผู้ชายคนนั้นยิ้มหวานให้เธอเขาไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด จนกระทั่งลูกน้องของเขาอีกสองคนที่มาด้วยมองเขาตาค้าง

“ละลูกพี่ นะ นิ้ว”

ในจังหวะนั้นเองที่เขารู้สึกปวดแปลบตรงนิ้วมือ เมื่อหันไปดูก็พบว่าประตูรถของหลี่เจี่ยซินปิดสนิทงับมือของเขาจนแนวหลุด ที่เขาไม่รู้สึกเพราะมันเกิดขึ้นว่องไวมาก

หลี่เจี่ยซินหัวเราะลั่น เธอเห็นเลือดแล้วรู้สึกของขึ้น

“แกนังชั่ว”

ผู้ชายคนนั้นร้องโอดโอย

“จัดการมันสิวะยืนเซ่ออยู่ได้”

เดิมทีหลี่เจี่ยซินคิดว่าพวกมันมากันแค่สามคน แต่ที่ไหนได้ยังมีคนเข้ามาเพิ่มตอนนี้เธอไม่มีเวลานับแล้วเมื่อถูกพวกมันกรูกันเข้ามาจับตัวเธอ

ในตอนแรกหลี่เจี่ยซินยืนนิ่ง ๆ นึกในใจว่าจะจัดการพวกมันยังไงดี จนกระทั่งเธอถูกจับไว้ด้วยผู้ชายสองคน

หลี่เจี่ยซินไม่สะทกสะท้านเมื่อหัวหน้าของพวกมันที่ตอนนี้นิ้วหลุดออกมาเดินมาหยุดต่อหน้าเธอ

“กูจะฆ่ามึงก่อนกูไปโรงพยาบาล”

หลี่เจี่ยซินหัวเราะจนเจ็บท้อง

“ไอ้ห่ายังมีหน้าจะฆ่าก่อนไปโรงพยาบาลอีก ไอ้ตุ๊ดเอ๊ย”

หลี่เจี่ยซินตกใจคำพูดของตัวเอง เวลาเธอโกรธและเลือดขึ้นหน้านับวันยิ่งจะหยาบคายขึ้น

“อีเวรนี่”

ผู้ชายคนนั้นยกเท้าขึ้นตั้งใจถีบหลี่เจี่ยซินจนสุดแรง แต่กลับกลายเป็นถีบอากาศ เธอสลัดคนที่จับเธอทิ้งแล้วหมุนตัวเร็วยิ่งกว่าพายุ ซัดพวกเขาคนละไม่กี่ทีคนทั้งสิบคนก็ร่วงลงกับพื้น

หลี่เจี่ยซินปัดมือ เดินไปเหยียบนิ้วผู้ชายคนนั้นที่ขาดอย่างไม่ตั้งใจ

เสียงร้องแหบโหยดังขึ้น ก่อนที่สัญญาณไซเรนรถตำรวจจะมาจอดที่ถนน ที่แท้ในตอนแรกมีคนเห็นหลี่เจี่ยซินกำลังโดนรุมจึงรีบแจ้งความให้ตำรวจมาจัดการ ที่ไหนได้พอเธอหันหลังไปคุยกับตำรวจหันมาอีกทีผู้ชายพวกนั้นก็ทรุกลงกับพื้นเหลือเพียงผู้หญิงตัวเล็กบอบบางคนนั้น

“หลี่เจี่ยซิน เธอเป็นยังไงบ้าง”

คนที่มาถึงที่แท้เป็นผู้กองหูเสี่ยวเทียน เพื่อนวัยเด็กที่หลี่เจี่ยซินตกหลุมรัก เธอตกใจเป็นอย่างมากที่เห็นเขา

“เสี่ยวเทียนนายมาได้ยังไง”

เขาสำรวจร่างกายของเธออย่างตื่นตระหนก และขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่ามีผู้ชายเป็นสิบคนนอนกองบาดเจ็บเลือดสาดอยู่ที่พื้น

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเขาเป็นแบบนี้กัน ใครทำพวกเขา”

เหตุการณ์กลับแย่ลงเมื่อมีพยานเห็นเหตุการณ์เข้ามาให้ปากคำ

“ฉันเห็นค่ะ ผู้หญิงคนนี้ซัดผู้ชายพวกนี้จนสลบไป แบบนี้ เฟี้ยว ฟุบ ผลั่ก อั๊ก”

พยานคนนั้นดูจะให้ข้อมูลที่ไม่น่าเป็นไปได้ ผู้กองหูเสี่ยวเทียนถึงกับทำหน้าประหลาด เมื่อพยานคนนั้นยืนยันและผู้ชายใจเสาะที่อยู่บนพื้นก็ร้องโอดโอยจนเธออยากจะกระทืบให้สลบเพื่อไม่ให้เป็นพิรุธ

หลี่เจี่ยซินหน้าเสียร้องในใจว่า ตายห่า จะแก้ตัวยังไงดี

เธอมองไปรอบ ๆ เห็นโปสเตอร์โฆษณาหนังของต่อสู้ของเฉินหลงติดอยู่กลางตึกใหญ่ หลี่เจี่ยซินฉลาดเป็นอย่างยิ่ง เธอจึงทำท่าโวยวายใหญ่โต

“นี่คุณฉันกำลังถ่ายหนังกัน คุณมาทำให้เสียเวลาแล้ว เห็นหรือเปล่านั่นก็กล้อง นี่ก็กล้องที่ซ่อนอยู่ ฉันแค่รับจ๊อปมาเป็นตัวประกอบหญิงเหล็ก คุณไม่ดูตาม้าตาเรือไปแจ้งความทำให้คุณตำรวจเสียเวลา”

หลี่เจี่ยซินแก้ตัวเป็นพัลวัน หูเสี่ยวเทียนมองไปรอบ ๆ หลี่เจี่ยซินชี้ให้เขาดูจุดดำ ๆ ที่อยู่มุมถนนแบบส่ง ๆ

“เห็นหรือเปล่านั่นกล้อง พวกเขาซ่อนกล้องกัน นั่นก็กล้อง นี่ก็กล้อง”

หูเสี่ยวเทียนยังสับสน ถ้าจะบอกว่าไม่ได้ถ่ายหนังก็คงไม่ใช่ หลี่เจี่ยซินจะล้มผู้ชายตัวโตพวกนี้ได้ยังไง มันเป็นไปไม่ได้

หลี่เจี่ยซินไล่เขาให้รีบไปแต่เขายังลังเล ทำยังไงก็ยังยืนอยู่ตรงนี้ หลี่เจี่ยซินต้องหาพยาน เธอแตะเข้าที่ร่างของผู้ชายที่เธอใช้ประตูรถหนีบจนนิ้วขาดให้เขาลุกขึ้นมาช่วยยืนยัน

“คัทแล้วลุกขึ้นมาเถอะ”

ผู้ชายคนนั้นไม่มีแรงที่จะยืนแล้ว หลี่เจี่ยซินเตะเขาเบา ๆ ไปอีกครั้ง คิดในใจว่าทำไมยังไม่ยืนขึ้นอีก เธอจึงคว้าเสื้อเขาด้วยมือเดียว ยกผู้ชายร่างโตเป็นกระสอบนุ่นให้ยืนขึ้น ทำท่าจับแขนเขาอย่างคุ้นเคย

“นี่พวก ๆ กัน แสดงด้วยกันตลอด เอ่อ รับจ๊อบพิเศษน่ะ เงินไม่พอใช้”

เหตุผลของหลี่เจี่ยซินมีมากมาย ทั้งพยายามให้ผู้ชายคนนั้นยืนนิ่ง ๆ สายตามองเขาอย่างกินเลือดกินเนื้อ บังคับให้เขาพูดตามที่เธอสั่ง

“บอกเขาไปว่านายเป็นตัวประกอบ ใช่หรือเปล่า”

ผู้ชายคนนั้นพ่นเลือดออกมาจากปาก หลี่เจี่ยซินหน้าเสีย เธอรีบพูดทันที

“นี่ไง ตัวประกอบ นี่เลือดของปลอม นี่นิ้วขาดของปลอมใครจะไปทำนิ้วเขาขาดได้”

“คะครับ อ๊อก พวกเรากำลัง อ๊อก ถะถ่ายหนังกันครับคุณตำรวจ”

หลี่เจี่ยซินยิ้มหวานอย่างเสแสร้ง พอใจที่ผู้ชายคนนั้นพูดออกมาเสียที หัวเราะแห้ง ๆ หูเสี่ยวเทียนจะจับนิ้วของผู้ชายคนนั้นดูแต่เธอกระชากไปข้างหลังเสียก่อน

เธอเตะไปที่ผู้ชาอีกคนที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้น พูดเสียงเย็น

“บอกเขาว่าเรากำลังถ่ายละคร พวกนายลุกขึ้นมาบอกคุณตำรวจไปว่าเขากำลังทำให้เราเสียเวลา”

ทุกคน ที่มาต่างก็ลุกไม่ขึ้นแล้ว พวกเขาจะมาฉุดผู้หญิงแต่ถูกผู้หญิงตีปางตาย ตำรวจยังมาอีกถ้าตำรวจรู้พวกเขาก็เดือดร้อน ทุกคนจึงยืนยันว่ากำลังถ่ายหนังกันอยู่

“พวกเรากำลังถ่ายหนังกันครับ คุณตำรวจ อย่าทำให้ผมเสียเวลาเลย ผมอยากกลับบ้านแล้ว”

ผู้ชายคนหนึ่งพูดทั้งร้องไห้ เขาเจ็บไปทั้งตัวเหมือนว่ากระดูกจะหัก เขาอยากจะไปโรงพยาบาลแล้ว ฮือ ฮือ ฮือ

“เห็นหรือเปล่า ไปออกไปเดี๋ยวผู้กำกับจะมาดุ หักค่าตัวพวกเรา นายรีบไปเถอะ”

ก่อนที่เรื่องจะมากไปกว่านี้ เสียงจากลำโพงสาธารณะตัวหนึ่งก็ดังขึ้น

“คุณตำรวจที่อยู่ตรงสนามน่ะครับ ช่วยขับรถออกไปหน่อย นี่เป็นการถ่ายหนังขออนุญาตเจ้าของสถานที่เรียบร้อยแล้ว พวกคนกำลังทำให้งานเราเสียเวลา โปรดออกไปจากบริเวณนี้ด้วยครับ”

หลี่เจี่ยซินจ้องลำโพงตัวนั้น เสียงคนที่พูดก็ดูฟังแล้วคุ้น ๆ เป็นอย่างมาก เธอยิ้มแล้วไล่เขาอีก

“เห็นหรือเปล่าว่านายกำลังทำให้งานเสีย ไปเถอะเสร็จงานแล้วฉันจะโทรหานะ วันนี้เย็นว่างหรือเปล่าไปกินข้าวกัน”

ถึงจะยังงงอยู่บ้าง หูเสี่ยวเทียนก็เชื่อแล้วเขาจึงยิ้มอย่างดีใจ ทำท่าขอโทษไปที่กล้องตัวหนึ่งสีดำ ๆ ที่หลี่เจี่ยซินชี้ให้ดู พร้อมทั้งพูดเสียงดัง

“ขอโทษครับที่รบกวน” แล้วหันมาบอกหลี่เจี่ยซินว่า “วันนี้เลยได้หรือเปล่า เธอเสร็จงานแล้วไปกินข้าวกัน”

หลี่เจี่ยซินดีใจมาก เธอรีบพูด

“ได้สิ หนึ่งทุ่มเจอกันนะนายจองร้านอาหารได้เลย ฉันจะตามไป”

หูเสี่ยวเทียนดีใจมาก เขารับปากแล้วขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว

รถตำรวจไปแล้ว หลี่เจี่ยซินปล่อยร่างใหญ่โตของผู้ชายคนนั้นลงบนพื้น ลูกน้องของพวกเขาต่างกระเสือกกระสนหนีตาย เธอหันไปที่มุมกล้องบนถนนแล้วตะโกนสุดเสียง

“ขอบคุณนะที่รัก ฉันรู้ว่าเป็นเธอที่ให้ดวงตาสวรรค์ช่วยเหลือ รักเธอที่สุดเลย”

หลี่เจี่ยซินถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอเกือบถูกชายในดวงใจจับได้เสียแล้ว คราวหน้าต้องระวังให้มากขึ้นกว่านี้อีก แต่ว่าวันนี้เธอจะใส่อะไรดี ไปปรึกษาเฉินเฟยอวี๋ดีกว่า

ความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25

ความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25

ความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25
Status: Completed
อ่านความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25สภาพของโรงฝึกที่ถูกรื้อค้นจนเละตุ้มเป๊ะ คนของเธอสามคนถูกทำร้ายและยังถูกบังคับให้คุกเข่าอยู่ต่อหน้าผู้ชายคนหนึ่ง ในมือของผู้ชายคนนั้นมีปืนที่กำลังจ่อเข้าไปที่หัวของครูฝึกของเธอ หลี่เจี่ยซินกลืนน้ำลายลงคอ พวกเขามองหน้าเธอแล้วบอกเธอให้หนีไป หลี่เจี่ยซินน้ำตาคลอเบ้า เธอกำมือแน่นปล่อยถุงผักผลไม้ที่เพิ่งซื้อมาลงไปกองกับพื้น ส้มลูกหนึ่งกลิ้งไปหยุดที่หน้าของชายคนหนึ่งที่หนึ่งอยู่บนเก้าอี้ ม้นก้มลงเก็บส้มที่หยุดเมื่อกลิ้งมาโดนขาของมันขึ้นมา ใบหน้าที่เป็นรอยนั้นแลดูน่ากลัว มันหยิบส้มขึ้นมาดมแล้วแสยะยิ้มพร้อมกับปอกส้มช้า ๆ  "ถ้าเงินไม่มีก็ขายตัวให้ฉัน เข้าซ่องสักปีสองปีแป๊บเดียวก็ใช้หนี้หมดตอนนั้นอยากได้ตึกคืนก็ไม่สาย"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset