หลิวไห่นั่งอยู่มุมหนึ่งของร้าน เขาสั่งอาหารไปส่ง ๆ จนเต็มโต๊ะ แต่กลับไม่แตะสักคำ ยิ่งเห็นหลี่เจี่ยซินกำลังดื่มไวน์แล้วหัวเราะอย่างมีความสุขยิ่งนั่งไม่ติด
หูเสี่ยวเทียนยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มชวนเธอกินอาหารออร์เดิรฟแสนอร่อย แล้วเริ่มชวนคุย
“ไม่คิดว่าเธอจะไปแสดงเป็นตัวประกอบด้วยนะ คิดไม่ถึงจริง ๆ”
หลี่เจี่ยซินสำลักไวน์ แทบจะพ่นใส่หน้าของหูเสี่ยวเทียน
“อ้อ คือ เอ่อ….ไม่เลือกงานไม่ยากจนน่ะ”
หูเสี่ยวเทียนหัวเราะลั่น
“กิจการของเธอกำลังไปได้ดีไม่ใช่เหรอ? หรือว่าคู่หมั้นปล่อยให้ลำบาก ถึงต้องมาทำงานเป็นตัวประกอบแบบนี้”
หลี่เจี่ยซินส่ายหน้า
“ไม่ ๆ ใช่แบบนั้น เฉินเฟยอวี๋เขาดูแลฉันดีมากเลยล่ะเพียงแต่ฉันเองอยากจะหาประสบการณ์ใหม่ ๆ บ้าง พอดีรู้จักกับคนในกองเห็นว่าสนุกดีเลยอยากลองดู ไม่เกี่ยวกับที่ว่าเขาดูแลไม่ดีหรอก”
“เข้าใจแล้ว แล้วชื่อเรื่องอะไรล่ะหนังที่เธอเล่น ถ้าหนังออกฉายฉันจะได้ไปเป็นกำลังใจให้”
หลี่เจี่ยซินมึนแล้ว เธอคิดชื่อหนังไม่ออก กระทั่งหูเสี่ยวเทียนเป็นฝ่ายตอบเสียเอง
“หรือเป็นความลับ เขาไม่ให้เธอบอกคนอื่นเหรอ?”
หลี่เจี่ยซินรีบพยักหน้า รอดแล้วเธอไม่ต้องลำบากคิดชื่อเรื่องแล้ว
“อื้อ นั่นแหละ แบบนั้นเลย นายนี่เข้าใจวงการนี้ดีนะ”
หูเสี่ยวเทียนยิ้ม
“ฉันเคยมีเพื่อนเป็นคนในวงการน่ะ”
หลี่เจี่ยซินพูดแซวขำ ๆ
“เพื่อนหรือแฟน”
เธอพูดแบบไม่คิดอะไร แต่กลับทำให้หูเสี่ยวเทียนสำลักได้
“ปิดเธอไม่ได้เลย แต่ไม่ต้องห่วงนะเราเลิกกันไปนานแล้ว”
หลี่เจี่ยซินมองเขายิ้ม ๆ สองสายตาต่างมองกันหวานเชื่อมจนกระทั่งหลี่เจี่ยซินคล้ายจะรับรู้ถึงสายตาอาฆาตมาจากมุมใดสักมุมในร้านอาหารนี้
หลี่เจี่ยซินมองไปรอบ ๆ ทุกโต๊ะดูปกติยกเว้นโต๊ะที่อยู่ห่างจากเธอไปมุมนั้น เขามาคนเดียวแต่สั่งอาหารเต็มโต๊ะ และอาหารโต๊ะนั้นกลับไม่พร่องเลยแม้แต่น้อย
ในตอนที่เธอจ้องไปยังโต๊ะนั้น คน ๆ นั้นที่กำลังยกเมนูบังหน้ายังไม่ยอมลดเมนูลง
พวกแอบติดตาม หึ กล้าลองดีกับฉันเหรอ
หลี่เจี่ยซินหัวเราะในใจ เธอยังทำตัวเป็นปกติไม่ได้แสดงออกว่ารู้แล้วว่าตัวเองกำลังโดนใครบางคนติดตามอยู่
“ลองกินนี่ดูสิ อร่อยมากเลยสลัดหนวดหมึกยักษ์ นี่เป็นเมนูชื่อดังของเชฟกะทะเหล็กเลยนะ”
หลี่เจี่ยซินเห็นจานสลัดตรงหน้าแล้วแทบจะอ้วกออกมา เธอไม่ชอบกินผักที่สุดเลย แต่ดูท่าทางของหูเสี่ยวเทียนจะชอบผู้หญิงสุขภาพดี หญิงสาวจึงฝืนใจกินเข้าไป เพียงสัมผัสกับกลิ่นเหม็นเขียวของผักนั่นทำให้เธอแทบจะคายออกมา แต่เห็นสายตาของหูเสี่ยวเทียนแล้วทำให้จำใจกลืนเข้าไปแล้วฝืนยิ้มฝืด ๆ ให้เขา
“ทำไมไม่อร่อยเหรอ”
หลี่เจี่ยซินแทบจะไม่เคี้ยวเลย เธอรีบกลืนจนผักติดคอต้องรีบดื่มน้ำตาม
“อร่อยมาก แต่ฉันคิดถึงเฉินเฟยอวี๋น่ะเขาชอบกินผักพวกนี้มาก ๆ เลย เมนูนี้เขาน่าจะชอบ”
ใบหน้าของหูเสี่ยวเที่ยนหม่นหมองเล็กน้อย
“เธอกับคู่หมั้นดูเข้าใจกันดีนะ”
“อื้มเข้าใจดีมากเลย เขากับฉันน่ะรู้ใจกันเขายังเป็นคนขี้เล่นคุยสนุกด้วยนะ อยู่กับเขาแล้วไม่เบื่อเลย”
หลังจากนั้นหลี่เจี่ยซินก็นั่งร่ายความดีงามของเฉินเฟยอวี๋ให้หูเสี่ยวเทียนฟังเป็นชั่วโมง จนกระทั่งนาฬิกาบอกเวลาสามทุ่มกว่าหลี่เจี่ยซินยังเห็นว่าคนที่แอบติดตามเธอยังนั่งอยู่ตรงนั้น เธอมองผ่านไปทางนั้นเขาต้องยกเมนูขึ้นมาปิดหน้าทุกครั้ง
หลี่เจี่ยซินคิดในใจ
ไม่เนียนไปเรียนมาใหม่นะน้อง
หญิงสาวแอบหักนิ้วรอ ดีใจที่วันนี้จะได้ยืดเส้นยืดสายสักที
“วันนี้เราสองคนคุยสนุกมากเลยนะ เธอว่าหรือเปล่า”
เมื่อเห็นว่าหูเสี่ยวเทียนดูเงียบไปจึงสงสัย
“เป็นอะไรเมาแล้วเหรอ”
หูเสี่ยวเทียนส่ายหน้า
“รู้สึกเศร้าน่ะ ความจริงคิดว่าจะคุยกับเธอหลายเรื่องเลย แต่เธอกลับเอาแต่คุยถึงคู่หมั้นฉันคนไม่มีแฟนก็เลยอดเหงาไม่ได้”
หลี่เจี่ยซินเบิกตาโต แย่แล้ว นี่เธอพูดเรื่องเฉินเฟยอวี๋มากขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่นะเธอพูดถึงเขานิดเดียว นิดเดียวจริง ๆ
“เธออย่าเข้าใจผิดนะ คือแบบว่า..แบบ”
หลี่เจี่ยซินพยายามจะอธิบายว่าเฉินเฟยอวี๋เป็นเกย์ พวกเธอเลยเข้าใจกันได้ดีเหมือนเพื่อนสาวเท่านั้น เหมือนผู้หญิงกับผู้หญิงน่ะแม้ว่าเธอจะหื่นในบางครั้งที่เห็นเฉินเฟยอวี๋เป็นที่ระบายความใคร่ก็ตามที แต่นั่นเพราะเธอขืนใจเขาต่างหาก
“ไม่ต้องอธิบายแล้ว ฉันเข้าใจดีเห็นเธอเรียกเขาว่าที่รักแล้วก็ยินดีด้วยนะ”
หลี่เจี่ยซินน้ำตาตกใน แทนที่ความสัมพันธ์ของเธอและหูเสี่ยวเทียนจะดีขึ้น กลับดูเหมือนเขาจะเข้าใจไปแล้วว่าเธอรักเฉินเฟยอวี๋ในฐานะคู่หมั้นจริง ๆ
หรือว่าเธอจะขอเลิกกับเฉินเฟยอวี๋เพื่อพิสูจน์ความจริงใจ แล้วค่อยกลับมาจีบเขาใหม่ดี
หลี่เจี่ยซินอยากจะบอกเขาเหลือเกินว่าเฉินเฟยอวี๋เป็นเกย์ แต่เธอพูดไม่ได้ หลี่เจี่ยซินรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองร้อนผ่าว นี่เธอเป็นอะไรไป หญิงสาวจึงขอตัวเข้าห้องน้ำ
หลี่เจี่ยซินชำเลืองตามองคนคนนั้น ก็พบว่าเขายังนั่งอยู่ที่เดิม สายตาของเธอดีเป็นอย่างยิ่ง อาหารไม่พร่องมีเพียงไวน์ที่เขาดื่มไปหลายแก้ว
สายสืบคนนี้ไม่ได้เรื่องเลย ถ้าเป็นลูกน้องของเธอ เธอคงไล่ออกแล้ว มาทำงานยังมีอารมณ์มาจิบไวน์ราคาแพงของที่นี่อีก
หลี่เจี่ยซินส่ายหน้า ยิ่งรู้สึกร้อนขึ้นกว่าเดิม อาการแปลก ๆ เกิดขึ้นกับเธอแต่เธอยังไม่รู้ว่าคืออาการอะไร
หลังจากเข้าห้องเสร็จเธอก็ล้างมือ เมื่อเงยหน้าขึ้นมองกระจกถึงกับผงะออกด้วยความตกใจ
“นี่ฉันแต่งหน้าหนาขนาดนี้เลยเหรอนี่”
หลี่เจี่ยซินในตอนนี้รู้สึกอับอายแบบสุด ๆ เธอใช้ทิชชู่เช็ดคิ้ว เช็ดหน้าของตัวเองออกอย่างแรง แต่เครื่องสำอางค์ก็กันน้ำอีก หลี่เจี่ยซินตัดสินใจใช้สบู่ล้างมือมาล้างหน้าของตัวเอง
เอาล่า หน้าฉันหนาขนาดนี้คงไม่แพ้หรอก
กว่าจะลบคราบเครื่องสำอางค์ออกไปจนเหลือหน้าใสกิ๊กของเธอดังเดิมก็ลำบากไม่น้อย
หลี่เจี่ยซินกรีดร้องในใจ
เฉินเฟยอวี๋คนบ้า เขาบอกว่าจะแต่งหน้าให้เธอบาง ๆ ยังไงล่ะ แต่เธอดูกระจกในห้องของเฉินเฟยอวี๋แล้วนะ ตอนนั้นก็ดูสวยใสดีนี่
แต่ก่อนเธอออกมาเฉินเฟยอวี๋บอกของเติมให้เธอเล็กน้อย เธอเองก็ไม่คิดมากเลยปล่อยเขาทำ ไม่คิดว่าเขาจะแกล้งเธอได้
หมดกัน แต่งหน้าขั้นเทพใสกิ๊กเหมือนไม่ได้แต่งอะไร หลี่เจี่ยซินคำรามลั่น
“นี่มันเหมือนจะไปเล่นงิ้วที่ไหนเลย ฮือ ฮือ ภาพสาวน้อยน่าใสหายไปหมดแล้ว”
หลี่เจี่ยซินโมโหยังโกรธเฉินเฟยอวี๋ไม่หาย เมื่อออกมาจากห้องน้ำเธอกลับเห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังยืนจูบกันหน้าไม่อายอยู่ตรงนั้น
หลี่เจี่ยซินตกตะลึง เมื่อเห็นว่าพวกเขายังแลกลิ้นกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
พวกเขาหันมาเห็นหลี่เจี่ยซินแล้ว สองคนดูตกใจเป็นอย่างมากจึงรีบจับมือกันก้มหน้าเดินหนีไปอย่างละอาย
พวกเขาทิ้งภาพวาบหวิวเอาไว้ให้เธอ หลี่เจี่ยซินยืนแข็งทื่อ อาการนี้มันเกิดขึ้นอีกแล้ว เธอเกิดความต้องการจนแทบคลั่ง
ภาพคนจูบกันทำให้เธอมีอารมณ์ทางเพศอย่างรุนแรง สิ่งแรกที่เธอคิดคือจะมีใครมาช่วยเธอได้ ใช่แล้วเธออยู่กับหูเสี่ยวเทียน
หูเสี่ยวเทียน หูเสี่ยวเทียน
หลี่เจี่ยซินท่องชื่อของเขา ทั้งยังพยายามระงับอารมณ์ของตัวเอง เธอกลับมาที่โต๊ะเรียกว่าแทบจะถลาเข้าไปหาเขาก็ได้
หูเสี่ยวเทียนมองท่าทางประหลาดของเธอพร้อมกับถาม
“ไม่สบายหรือเปล่าหน้าแดงมากเลย”
ตอนนี้หลี่เจี่ยซินคงเห็นสภาพของตัวเองแล้วหูเสี่ยวเทียนเลยคิดว่าหญิงสาวคงตกใจจึงออกมาในสภาพสาวน้อยน่าใสคนเดิมแบบนี้
หลี่เจี่ยซินกลับจ้องเขาดวงตาแทบจะถลนออกจากเบ้า แต่แปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอกลับเห็นใบหน้าของเขาเป็นใบหน้าของเฉินเฟยอวี๋
เธอส่ายหน้าให้สติกลับมา พร้อมกับพูดประโยคที่หูเสี่ยวเทียนไม่เข้าใจ
“แปลกมาก ไม่ได้ ยังไงกับเธอฉันกับเป็นแบบนี้”
ในใจของหลี่เจี่ยซินร่ำร้องหาเพียงเฉินเฟยอวี๋เท่านั้น เฉินเฟยอวี๋คนเดียว
หลี่เจี่ยซินยกมือทาบอก เธอต้องรีบกลับบ้านให้เขาช่วยในตอนนี้ เธอมองแก้วไวน์ที่ตัวเองดื่มจนหมดไปหลายแก้ว จะเรียกว่าหมดไปเป็นขวดแล้วมองหน้าหูเสี่ยวเทียน
“หูเสี่ยวเทียนมันวางยาเสียสาวกับเธอแน่ ๆ”
คำพูดของเฉินเฟยอวี๋ลอยมาอีกครั้ง หลี่เจี่ยซินมองหูเสี่ยวเทียนอย่างไม่ไว้ใจ เธอไม่มีหลักฐานแต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นสองครั้งติดกันแล้ว แต่เขายังดูปกติหลี่เจี่ยซินจึงคิดว่าไม่น่าใช่ เขาเป็นคนดีมาก ๆ คนหนึ่ง ต้องมีอะไรที่ผิดปกติ
“หลี่เจี่ยซินเธอเป็นอะไร”
หลี่เจี่ยซินส่ายหน้าแรง ๆ แล้วบอกเขาว่า
“ฉันจะกลับบ้านแล้ว ขอบคุณสำหรับอาหาร สวัสดี”
หูเสี่ยวเทียนกำลังจะลุกขึ้นบอกจะไปส่ง หลี่เจี่ยซินดันเขาให้นั่งลงอย่างลืมตัว หูเสี่ยวเทียนในตอนนี้ไม่สามารถขยับได้เขาตกใจไม่น้อย
“ไม่ต้อง ฉันกลับเองไว้ฉันจะโทรหา”
หูเสี่ยวเทียนยังตกตะลึงในกำลังของหลี่เจี่ยซิน เขานั่งนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น
หลี่เจี่ยซินแทบจะวิ่งออกจากภัตตาคารแห่งนั้น และเธอรู้ว่าตัวเองถูกใครคนหนึ่งติดตามออกมา หลี่เจี่ยซินคิดว่าจะจัดการคนคนนั้นให้รู้สำนึกที่บังอาจมาคอยตามเธอ แทนที่เธอจะเดินตรงไปที่รถกลับเดินมาที่ตรอกเปลี่ยวแห่งหนึ่ง
หลี่เจี่ยซินยืนนิ่งที่ตรอกมืดมิด คนคนนั้นเดินเข้ามาช้า ๆ หลี่เจี่ยซินขยับตัวรวดเร็วต่อยเข้าไปที่ท้องของเขาอย่างแรง
หลิวไห่รู้สึกว่าตับไตไส้พุงของเขากำลังแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ นี่เกิดอะไรขึ้น
“หลี่เจี่ยซิน”
มีเพียงชื่อเธอเท่านั้นที่เขาเปล่งออกมาได้ เขาไม่มีแรงที่จะห้ามเธอแล้ว
หลี่เจี่ยซินยั้งมือทันทีเมื่อรู้ว่าเป็นใคร เธอร้องออกมาด้วยความตกใจ
“ที่รักทำไมเป็นเธอล่ะ ฉันเกือบฆ่าเธอแล้วรู้หรือเปล่า”
หลิวไห่พูดไม่ออก ดีที่หลี่เจี่ยซินยั้งมือเอาไว้ทันไม่งั้นเขาคงล้มพับไปแล้ว
“ฉันเป็นห่วงเลยตามมาดู”
หลี่เจี่ยซินจู่ ๆ ก็น้ำตาไหลพราก เธอซาบซึ้งในความห่วงใยนี้ และ ก็กลิ่นของเขาทำให้เธอรู้สึกดีเป็นอย่างยิ่ง เธอเริ่มลวนลามเขา หลิวไห่ยังเจ็บอยู่เขายังไม่รู้ตัว จนกระทั่งหลี่เจี่ยซินลูบเข้าไปในเสื้อของเขา สัมผัสฝ่ามือกับกล้ามเนื้อเป็นลอนสวยที่ทำเอาเธอน้ำลายสอ
เมื่อสักครู่เธอไม่ได้รู้สึกแบบนี้กับหูเสี่ยวเทียน มีเพียงแต่เขาเท่านั้นที่เธอเกิดอาการคลั่งเซ็กส์แบบนี้
“ละ หลี่เจี่ยซิน อย่าบอกนะว่า”
“ที่รัก ช่วยฉันนะ”
“หลี่เจี่ยซิน เธอเพิ่งต่อยท้องฉันนะ ฉันยังเจ็บอยู่เลย เอาไว้เรากลับบ้านกันก่อนนะ ฉันจะช่วยเธอ ฉันขอร้องตรงนี้ไม่ได้”
“ที่รักไม่ทันแล้ว ฉันอ๊าอยากได้เธอตอนนี้”
หลี่เจี่ยซินไม่ฟังอะไรแล้ว เธอฉีกเสื้อผ้าของหลิวไห่จนขาด โดยที่เขาไม่ทันตั้งตัวหลิวไห่ที่เพิ่งถูกต่อยท้องเจ็บจนน้ำตาเล็ดก็ถูกหลี่เจี่ยซินผลักชิดกำแพงชื้น ถอดกางเกงของเขาแล้วใช้มือย่ำยีงูที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่ในที่ปลอดภัยจนมันผงกหัวขึ้นมา
หลิวไห่ร้องอย่างแค้นเคือง
“หลี่เจี่ยซินนี่เธอถูกวางยาอีกแล้วแน่ ๆ ฉันบอกแล้วว่าอย่ามาเจอเขาอีก”
“ที่รัก อื้อ อย่าพูดเลย ฉันสัญญาว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย อ๊า อื้ม จูบของที่รักหวานที่สุดเลย อื้ม”
หลังจากนั้นที่ตรอกแคบอันมืดมิดที่แสงไฟส่องไม่ถึง แห่งนี้ก็มีเสียงครางแผ่ว ๆ ของคนคู่หนึ่งดังขึ้น