ระหว่างทางกลับบ้านหลิวไห่ตำหนิหลี่เจี่ยซินอย่างไม่พอใจ
“ฉันเตือนเธอแล้วว่าอย่ามาเจอเขาอีก คนดื้อด้านไม่รู้จักเข็ดหลาบ ฉันล่ะอ่อนใจกับเธอจริง ๆ”
“ฉันก็ไม่ได้ไปที่ไหนไกลนี่ มันคาเฟ่ใต้ออฟฟิศถิ่นของเธอเองนะ ใครจะกล้าทำอะไรอีกอย่างเขาเป็นตำรวจนะไม่ทำเรื่องนั้นหรอก”
“เธอนี่มันตาบอดหรือยังไง สองครั้งสองคราวยังไม่ยอมเชื่ออีก”
หลี่เจี่ยซินเถียงไม่ลดละ
“เมื่อกี้เธอก็ให้ฉันไปตรวจร่างกายแล้วนี่ ไม่มีอะไรผิดปกติฉันไม่ได้ถูกวางยาสักหน่อย เธอน่ะคิดมากไป ฉันว่ายังไงก็ไม่ใช่ตามที่ผลตรวจบอกนั่นแหละ”
หลิวไห่ไม่เชื่อ เขาต้องพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลใหม่ให้แน่ใจว่าเธอไม่มีสารอะไรตกค้างในร่างกาย
“ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ ถ้าเธอเป็นแบบนั้นอีกแล้วฉันไม่อยู่เธอจะทำยังไง”
หลี่เจี่ยซินยักไหล่อย่างไม่แคร์
“คงต้องให้เขาช่วยแก้ขัด”
หลิวไห่โมโหจนหน้าแดง ผู้หญิงคนนี้คิดจะนอนกับคนอื่นนอกจากเขาได้ยังไง ทำไมไม่มีหัวใจกันบ้าง เขาตะคอกเธอเสียงดัง
“หลี่เจี่ยซินนี่เธอสามารถนอนกับคนอื่นได้ง่าย ๆ เหรอ”
หลี่เจี่ยซินเบ้ปาก ทั้งทำหน้าสลด
“ถ้าง่าย ๆ ก็ดีสิ ทำไมต้องเป็นเธอด้วย เธอไม่ชอบผู้หญิงนะฉันไม่ได้อยากต้องการพึ่งพาเธออีกแล้ว ฉันสงสารเธอฉันไม่อยากขืนใจเธอ ฮือ ฮือ ฮือ มันทรมานรู้มั๊ย มันทรมาน ”
หลิวไห่หัวเราะไม่ออกแล้ว คนที่โวยวายตอนนี้กลายเป็นหลี่เจี่ยซินไปแล้ว เขาตบไหล่เธอเบา ๆ พยายามที่จะปลอบใจเธอ กลัวว่าหญิงสาวจะขับรถกลับไม่ถึงบ้าน
“ไม่เป็นไร ฉันเต็มใจบอกแล้ว”
หลี่เจี่ยซินเหมือนจะร้องไห้ นับวันเธอยิ่งคิดกับเขามากขึ้นเธอต้องรีบหาคนอื่นมาแทนเขา เธอสงสารเฉินเฟยอวี๋ที่ต้องมาเป็นที่รองรับอารมณ์ของเธอ
หลี่เจี่ยซินรู้ดีว่าร่างกายของเธอไม่ปกติ หนึ่งปีมานี้ที่ใกล้จะครบรอบวันเกิดของเธอเข้าทุกวัน เธอยิ่งรู้สึกถึงความแปลกประหลาด
ปีนี้เป็นปีที่เธอจะมีอายุยี่สิบห้าปีเต็ม
“หูเสี่ยวเทียนกำลังสืบคดีสาว ๆ ที่หายตัวไปเหรอ?”
“ใช่เธอคิดว่าเป็นกลุ่มคนพวกนั้นหรือเปล่า”
“น่าจะเป็นไปได้”
หลิวไห่พยักหน้า
หลี่เจี่ยซินจึงพูดว่า
“ถ้าใช่นายตำรวจนั่นก็รู้ดีที่สุด”
“ฉันคิดว่าต้องเป็นสกุลกู้แน่ ฉันกำลังให้ลูกน้องลากตำรวจคนนั้นมาสอนสวน”
หลี่เจี่ยซินสงสัย
“ที่รักเธอกับสกุลกู้ไม่ใช่มีแค่เรื่องบริษัทใช่หรือเปล่า ยังมีเรื่องที่ไม่ได้บอกฉันใช่มั๊ย”
หลิวไห่ยิ้ม เขาจับมือของเธอแล้วคลึงเบา ๆ
“ถึงเธอจะแข็งแรงแต่ฉันก็ไม่อยากให้เธอมาเสี่ยงชีวิตไปกับฉัน เพราะฉะนั้นรู้เท่าที่ฉันอยากให้รู้เถอะ ยังไงเธอก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง”
หลี่เจี่ยซินไม่ยินยอม
“ฉันเป็นบอดี้การ์ดเธอ และยังเป็นคู่หมั้นถึงจะแค่ในนามก็เถอะ ที่รักบอกฉันเถอะฉันอยากรู้จริง ๆ”
หลิวไห่ถอนหายใจ
“ฉันขอเวลาหน่อย ตอนนี้พูดจริง ๆ เลยก็คือข้อมูลที่มีอยู่ในมือของฉันก็ไม่ได้มากไปกว่าที่เธอรู้ ถ้ามันกระจ่างเมื่อไหร่ฉันสัญญาว่าฉันจะบอกเธอ”
เขาเป็นห่วงหลี่เจี่ยซินแต่เธอไม่มีรายชื่ออยู่ในกลุ่มที่พวกนั้นจับตามอง
ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่เป็นเจ้าของบริษัท ก็ทำงานในระดับหัวกะทิขององค์กรต่าง ๆ และข้อมูลของคนที่หายตัวไป ในตอนนี้เขาได้สั่งดวงตาสวรรค์แฮ็กเข้าไปในข้อมูลลับของตำรวจแล้ว
ตามความต้องการของหลิวไห่ ตาสวรรค์ส่งข้อมูลคนที่หายตัวไปให้กับหลิวไห่ในเวลาไม่นาน หลิวไห่ตรวจดูอย่างละเอียด
“นายครับตรงกับข้อมูลที่คนของสกุลกู้จับตาดูครับ ตอนนี้หายไปจะยี่สิบคนแล้ว”
“ยี่สิบคนเลยเหรอ แล้วตำรวจมีข้อมูลอย่างอื่นเพิ่มเติมหรือเปล่า”
หนึ่งใน F4 ของหลี่เจี่ยซินคีย์แป้นคอมรัว ๆ ไม่กี่ทีก็ได้ข้อมูลมา
“รู้สึกว่าพวกเธอจะโสดครับ และเหมือนว่ากำลังอยู่ในช่วงนัดดูตัวในเวลาใกล้ ๆ กัน เรื่องนี้น่าแปลกครับตำรวจกำลังหาผู้ชายที่เป็นคู่ดูตัวของพวกเธออยู่ รู้สึกว่าอยู่ ๆ ข้อมูลของฝั่งผู้ชายก็หายไปครับ”
หลิวไห่จึงพูดขึ้น
“ข้อมูลปลอมทั้งหมด ทั้งคนและข้อมูลพวกนั้นไม่มีอยู่จริง มีเอาไว้เพื่อล่อเหยื่อเท่านั้น”
“ผู้หญิงพวกนี้ฉลาดทุกคน ไม่น่าถูกล่อได้ง่าย ๆ นะครับ”
หลิวไห่หัวเราะ
“รู้จักสกุลกู้น้อยไป คิดว่าพวกเขาคงเตรียมการมาอย่างดีจนไร้ข้อพิรุธให้จับได้เลยล่ะ พวกเขาน่าจะยังมีแผนจับตัวคนอื่นอีก”
หลี่เจี่ยซินคิดเรื่องบางเรื่องขึ้นมา
“เธอจะคิดว่าเป็นยังไง ถ้าฉันจะช่วยเรื่องนี้”
หลิวไห่มองหน้าหวานของหญิงสาว
“เธอคิดจะทำอะไร”
หลี่เจี่ยซินยิ้มซุกซน
“ให้ฉันเป็นคนนั้นสิ เหยื่อที่พวกมันมองหา”
หลิวไห่ส่ายหน้า
“ไม่ได้ฉันไม่ยอมให้เธอเสี่ยงเป็นอันขาด ฉันบอกแล้ว”
หลี่เจี่ยซินเกลี้ยกล่อม
“เธออยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าพวกมันจับผู้หญิงไปทำไม ด้วยฝีมือของฉันและเธอร่วมกันยังไงพวกมันก็ทำอะไรเราไม่ได้หรอก”
หลิวไห่ใคร่ครวญ หลี่เจี่ยซินเกลี้ยงกล่อมอีกหลายประโยคจนกระทั่งเขาเริ่มเห็นด้วย
“ถ้าจะปลอมเป็นผู้หญิงคนนั้นก็มีวิธีอยู่บ้าง แต่เธอต้องทำตามแผนของฉันห้ามคิดเองทำเองโดยพละการโดยเด็ดขาด”
หลี่เจี่ยซินยิ้ม
“ฉันเชื่อเธออยู่แล้ว รับรองว่าจะไม่ทำอะไรโดยที่เธอไม่อนุญาตโดยเด็ดขาด”
“ถ้ายังงั้นขอฉันคิดก่อน”
หลายวันต่อมาแผนการของหลิวไห่ที่จะส่งหลี่เจี่ยซินแฝงตัวเพื่อจับคนร้ายก็เรียบร้อย เขาเล่ารายละเอียดให้หลี่เจี่ยซินฟังอย่างครบถ้วนหลังจากนั้นคนทั้งคู่ก็มายัง ออฟฟิศของสี่หนุ่ม F4 ของหลี่เจี่ยซิน
“นายครับ พร้อมแล้วครับ ผมได้เตรียมข้อมูลและได้สลับข้อมูลที่ตำรวจคนนั้นมีส่งให้กับทางสกุลกู้แล้วครับ”
“ดีมาก ในสังคมออนไลน์ล่ะพร้อมหรือยัง”
“พร้อมครับ ต่อไปชื่อของหลี่เจินจะโด่งดังขึ้นมาในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่ได้เข้าร่วมกับองค์การนาซ่าอย่างลับ ๆ ของอเมริกา ข้อมูลนี้ผมกำลังปล่อยให้รั่วครับ”
“ดีมาก คิดว่าคงจะดึงความสนใจของพวกมันได้แน่ ๆ”
หลิวไห่บอกหลี่เจี่ยซินให้เตรียมพร้อม เขายังหาบ้านให้เธอหลังหนึ่ง และหาช่างแต่งหน้ามือระดับพระกาฬไว้คอยช่วยเธอปลอมตัว
“ต่อไปเธอคือหลี่เจิน เพิ่งเดินทางกลับจากอเมริกาเพื่อพักผ่อน หลังจากร่วมโปรเจ็คกับนาซ่า พวกมันกำลังตามหาตัวคนที่มีมันสมองระดับนี้ ข้อมูลปลอมฉันให้ดวงตาสวรรค์จัดการให้ทั้งหมดแล้ว ต่อไปพวกเขาจะได้รับข้อมูลนี้ คิดว่าต้องตามหาตัวเธอแน่ ฉันจะหาบ้านพักให้และติดกล้องไว้ตลอดไม่ต้องห่วงนะ”
หลี่เจี่ยซินตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ทั้งรู้สึกทึ่งกับเฉินเฟยอวี๋
“ที่รักที่แท้เธอแอบซ่อนความเก่งกาจเอาไว้ เหมือนพระเอกซีรีส์เลย”
ดวงตาของหลี่เจี่ยซินเป็นประกาย ชื่นชมเขาเป็นอย่างมาก หลิวไห่ภูมิใจเป็นอย่างยิ่งเขาจึงอดยิ้มไม่ได้ ท่ามกลางสายตาของหนุ่ม ๆ F4 ที่มองมาอย่างขำ ๆ ทำให้เขาเขินจนหน้าแดง
โทรศัพท์ของหลิวไห่ดังขึ้น ปรากฎว่าเป็นทนายความของบริษัที่เขากำลังส่งเรื่องฟ้องร้องน้องสาวของเฉินเฟยอวี๋อยู่โทรมา
“มีเรื่องด่วนครับ คุณเฉินต้องกลับบริษัทในตอนนี้ สกุลกู้กำลังทำให้เราลำบากแล้ว”