หลังจากจัดการเรื่องในบริษัทจนเรียบร้อยแล้ว ดูเหมือนว่าหลิวไห่จะสามารถผูกมิตรกับนายตำรวจชั้นสูงคนนั้นได้อีกด้วย เดิมทีหลิวไห่ก็ไม่ได้ดำเนินกิจการอะไรที่ขัดต่อกฎหมายอยู่แล้ว ในขณะที่ทางฝั่งของกู้เมิ่งเองกลับทำธุรกิจผิดกฎหมายหลายชนิด ทั้งยังใช้บริษัที่จดทะเบียนถูกต้องเพื่อฟอกเงิน
เขาซึ่งเป็นผู้บัญชาการระดับสูงจึงไม่สามารถละเลยได้ เพียงแต่ฝั่งของสกุลกู้กำลังผูกมิตรกับนักการเมืองระดับสูงหลายคน อีกทั้งหลักฐานของเขาก็ไม่แน่นพอที่จะเอาผิดจึงทำให้เขาไม่สามารถแตะต้องกู้เมิ่งได้ในตอนนี้
การมาของหลิวไห่ซึ่งแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าเป็นฝั่งตรงข้ามกับสกุลกู้จึงทำให้ผู้บัญชาการตำรวจแอบเปิดไฟเขียวให้หลิวไห่อย่างเต็มที่
หลังจากนั้นไม่นานเรื่องของหญิงสาวอัจฉริยะก็หลุดออกมาเข้าหูของคนของกู้เมิ่ง
“นายครับคนนี้ของจริงครับ ประวัติทางครอบครัวไม่แน่ชัดอีกทั้งยังเป็นมันสมองของนาซ่าตอนนี้เธอกลับมาพักร้อนครับ”
กู้เมิ่งดูคลิปที่ลูกน้องส่งมาให้ พร้อมทั้งรายละเอียดของผู้หญิงคนนั้น
“หลี่เจินอย่างนั้นเหรอ สวยไม่ใช่เล่นนี่ชักอยากจะพบตัวจริงแล้วสิ”
“ครับนายตอนนี้กำลังสืบที่อยู่ของเธอครับ ทุกอย่างของเธอดูเหมือนจะเป็นความลับครับกระทั่งเที่ยวบินกลับของเธอก็ยังเป็นความลับ ดูเหมือนว่าเธอจะใช้ชื่ออื่นในพาสปอร์ตด้วย”
กู้เมิ่งกลับมั่นใจในความเก่งของคนของเขา
“ยิ่งเป็นความลับยิ่งน่าสนใจ ไม่แน่ว่าจะเป็นคนนี้ที่พ่อของฉันกำลังตามหา รีบหาตัวผู้หญิงคนนี้ให้พบคราวนี้พ่อจะได้ยอมรับฉันซะที”
โจอินตงรับคำ ก่อนที่จะหันไปสั่งการให้ลูกน้องรีบติดตามผู้หญิงคนนั้นมา
กู้เมิ่งยกเท้าขึ้นมาพาดที่โต๊ะทำงานเอนหลังอย่างสบายหรี่ตามองโจอินตง
“เรื่องของหลี่เจี่ยซินเมื่อไหร่จะจัดการ”
โจอินตงประสานมือเข้าด้วยกันแล้วตอบเสียงเรียบ
“ที่ผ่านมาหลี่เจี่ยซินอยู่กับหลิวไห่ตลอดเวลา ทั้งยังมีพวกตำรวจอีกที่มาดูแลทำให้ค่อนข้างลำบากที่จะดึงหลี่เจี่ยซินออกมาครับ”
กู้เมิ่งนึกสงสัย
“ทำไมตำรวจมายุ่งเรื่องนี้ครับ”
“ผมเองก็ไม่แน่ใจครับ ดูเหมือนว่าหลี่เจี่ยซินจะมีแฟนเก่าเป็นตำรวจครับ ผู้ชายคนนั้นช่วงนี้จึงป้วนเปี้ยนกับเธอไม่ห่าง”
กู้เมิ่งหัวเราะ
“แค่ตำรวจชั้นต่ำกลัวอะไรวะ จัดการมันสิ”
“ตำรวจคนนั้นเป็นหลายของอธิบดีตำรวจและยังเป็นลูกชายของคุณหูนักธุรกิจใหญ่ที่นายอยากร่วมทุนด้วยคนนั้นครับ ฝีมือของเขาก็นับว่าดีมากเด็ก ๆ ของเราเลยหาโอกาสลงมือไม่ได้”
กู้เมิ่งลุกขึ้นถีบเข้าไปที่เก้าอี้ที่เขานั่งอย่างแรงจนเก้าอี้เกระเด็น
“โถ่โว๊ย นี่มึงไม่เข้าใจหรือยังไงกูไม่ต้องการข้ออ้างกู้ต้องการตัวนังนั่น กู้ต้องได้สั่งสอนไอ้หลิวไห่ให้มันรู้ว่ากูเป็นใคร มึงเข้าใจหรือเปล่าไปจับมันมาให้กูเดี๋ยวนี้”
“ครับนาย”
โจอินตงค้อมตัวให้กู้เมิ่งแล้วเดินออกมา เขาเองก็อิดหนาระอาใจกับกู้เมิ่งเป็นอย่างมาก
ความจริงแล้วหลิวไห่คนนั้นก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับแผนการที่นายใหญ่วางไว้ แต่กู้เมิ่งวัน ๆ ก็เอาแต่วิ่งไล่ตามหลิวไห่โดยไร้ประโยชน์และยังพยายามจะเอาชนะจนไม่สนใจเรื่องที่นายใหญ่ให้ทำเท่าที่ควร
ตอนนี้ยังอยากให้เขาเข้าไปยุ่งกับคนใหญ่คนโตของถิ่นนี้อีก แม้ว่านายใหญ่จะมีอิทธิพลมากแค่ไหนแต่หากล่วงเกินหลายคนเข้าก็ย่อมทำให้งานที่ทำอยู่สะดุดได้ ทั้งลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนั้นวัน ๆ เอาแต่ทำตัวอันธพาลฉุดคร่าผู้หญิงที่ไม่เกี่ยวข้องเขาจึงเหนื่อยใจเป็นอย่างยิ่ง
แต่โจอินตงเองกลับไม่กล้าเอาเรื่องนี้บอกกับประธานกู้ เขารู้ดีว่าประธานกู้รักและตามใจลูกชายมากแค่ไหนจึงปล่อยให้เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างพ่อลูกซึ่งเขาไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว
ข่าวปลอมของผู้หญิงอัจฉริยะถูกปล่อยออกไปแล้ว หลิวไห่ในตอนนี้จึงค่อนข้างห่วงหลี่เจี่ยซิน แม้เรื่องจะเดินมาถึงตอนนี้เขากลับลังเลใจ
“เธอแน่ใจนะว่าเธอจะไม่เป็นอะไร”
หลี่เจี่ยซินตบหลังมือของเขาเบา ๆ
“แน่ใจสิ เธอก็รู้ว่าฉันแข็งแรงแค่ไหน”
หลิวไห่ถอนหายใจ
“รู้น่ะรู้ แต่พวกมันเจ้าเล่ห์มันอาจวางยาเธอก็ได้ใครจะรู้”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไม่ปล่อยให้พวกมันทำถึงขนาดนั้นหรอก”
หลี่เจี่ยซินกำลังกินหม้อไฟอย่างอร่อยที่ร้านโปรด ในขณะที่ลากหลิวไห่ออกมาด้วย ท่าทางของเธอก็สบาย ๆ เป็นอย่างยิ่ง
หลิวไห่มองหญิงสาวแล้วถามสิ่งที่คาใจออกไป
“หลี่เจี่ยซินเธอบอกฉัน เรื่องนั้นได้หรือเปล่า”
หญิงสาวเคี้ยวของในปากจนหมด มองเขาตาแป๋วแล้วถามว่า
“เรื่องอะไรล่ะ”
“เธอไม่กลัวท้องเหรอ”
หลี่เจี่ยซินหัวเราะเสียงดัง ในขณะที่หลิวไห่ถามเรื่องนี้ออกมาเองแล้วหน้าแดงเอง
“ไม่กลัวหรอก”
หลิวไห่คิ้วชนกัน
“ทำไมล่ะ ชอบเด็กเหรอ”
หลี่เจี่ยซินส่ายหน้า
“ไม่ใช่แบบนั้น ฉันน่ะไปตรวจมาแล้ว”
“ตรวจอะไร”
กู้เมิ่งรินเหล้าใส่แก้วตัวเองแล้วยกดื่ม เขาไม่อนุญาตให้หลี่เจี่ยซินดื่มด้วยเพราะหญิงสาวต้องเป็นคนขับรถ
“ก็ตรวจร่างกาย นี่ฉันจะเล่าให้ฟังนะเรื่องบางอย่างที่ฉันทำบ้า ๆ ลงไป”
หลี่เจี่ยซินกระซิบ หลิวไห่ใจเต้นตึกตักโดยไม่มีสามเหตุ หน้าตาของเขาในตอนนี้ทำให้หลี่เจี่ยซินถึงกับหัวเราะ มันกำลังบอกเธอว่า เขาอยากรู้อยากเห็นแค่ไหน
นี่สิถึงจะเป็นเพื่อนสาวที่รู้ใจของเธอ หญิงสาวจ้องหลิวไห่พร้อมกับรอยยิ้มสดใส
“มีอะไรถึงจ้องฉันขนาดนั้น รีบพูดสิฉันอยากรู้แล้ว”
หลี่เจี่ยซินขยับเก้าอี้ไปใกล้เขา แล้วพูดเสียงเบา
“ฉันน่ะไปตรวจมาแล้ว ฉันเป็นหมันมีลูกไม่ได้หรอกเพราะฉะนั้นเรื่องท้องไม่ต้องห่วง ฉันยังทำกับเธอได้เรื่อย ๆ”
กู้เมิ่งตกใจหน้าแดงลามไปจนถึงใบหู
“เธอเขินอะไรกัน แน่นอนว่าต้องขอเธอก่อนไม่ต้องกลัว”
ถึงหลี่เจี่ยซินจะพูดแบบนั้น เขาก็ไม่เคยเห็นว่าเธอจะขอเขาเลยสักครั้งเดียว เมื่อเธอต้องการไม่ว่าที่ไหนหลี่เจี่ยซินก็พร้อมที่จะขืนใจเขา และแน่นอนว่าเขาไม่สามารถห้ามตัวเองได้เช่นกัน
“ยังมีเรื่องอื่นอีกหรือเปล่า”
หลิวไห่ไม่แยแส เขาไม่สนใจว่าเธอจะเป็นหมันสักหน่อย ถ้าสมมุติว่าแต่งงานกับเธอเขาก็ไม่รังเกียจที่จะรับเด็กมาเลี้ยงเหมือนที่พ่อของเขารับเขามาเลี้ยงนั่นแหละ
“มีสิ เรื่องนี้ลับสุดยอดที่ฉันเองก็อยากจะขอร้องเธอด้วย”
หลิวไห่ก้มลง คราวนี้ตั้งใจฟังยิ่งกว่าเดิม
หลี่เจี่ยซินเริ่มเล่า
“ความจริงฉันน่ะมีเรื่องที่ติดค้างอยู่ในใจเรื่องหนึ่ง”
หลิวไห่มองหน้าเธอ ผู้หญิงคนนี้ยังมีเรื่องอะไรอีก
“เล่ามา”
น้ำเสียงของหลิวไห่กระตือรือร้นเหมือนเป็นสาวขาเม้ามอยของหลี่เจี่ยซิน หญิงสาวจึงอดหัวเราะไม่ได้ สายตาของหลิวไห่ไม่ธรรมดามันบ่งบอกถึงความอยากรู้อยากเห็น หลี่เจี่ยซินกระแอมก่อนจะเริ่มเล่า
“ฟังให้ดีนะ คือฉันน่ะเคยขืนใจผู้ชายคนหนึ่งที่บังเอิญเจอกัน จนป่านนี้ฉันยังไม่รู้ว่าเขาคือใครและอยากเจอเขาเพื่อขอโทษเรื่องวันนั้นจริง ๆ ฉันทำร้ายเขายังทำร้ายคนของเขาอีกไม่รู้ป่านนี้พวกนั้นมีใครตายหรือเปล่า เธอพอจะให้ดวงตาสวรรค์ช่วยฉันได้หรือเปล่า ฉันจำโรงแรมได้ฉันว่าพวกเขาต้องมีกล้องวงจรปิด ฉันอยากรู้ว่าเขาเป็นใครหน้าตาเป็นยังไง”
หลิวไห่ถึงกับนิ่งอึ้ง เขาคิดไม่ถึงว่าหลี่เจี่ยซินจะจำเรื่องนั้นได้
“เธอจำได้ด้วยเหรอ แล้วจำหน้าเขาไม่ได้เหรอ”
หลี่เจี่ยซินส่ายหน้า
“วันนั้นฉันโดนวางยา จำหน้าใครไม่ได้รู้แต่ว่าเขาเป็นผู้ชาย”
หลิวไห่จู่ ๆ ก็รู้สึกโกรธขึ้นมา นั่นเป็นความทรงจำที่เขาไม่มีวันลืมแต่ยัยนี่กลับจำได้เพียงแต่ว่าคนที่เธอขืนใจเขาอย่างทุกข์ทรมานนั้นเป็นผู้ชาย
ใช่สิ จะให้เป็นผู้หญิงได้ยังไง
“ที่รัก ฉันขอร้องให้ดวงตาสวรรค์ช่วยฉันหน่อยได้หรือเปล่า”
ท่าทางของหลี่เจี่ยซินที่อยากรู้อยากเห็นยิ่งทำให้กู้เมิ่งคิดอยากจะแกล้งเธอ อีกทั้งเขายังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยตัวตนของตัวเองในตอนนี้ ในคืนนั้นนอกจากหลี่เจี่ยซินจะข่มขืนเขาแล้ว เธอยังได้เจอกับเฉินเฟยอวี๋เป็นครั้งแรกด้วยเช่นกัน
ถ้าเธอเห็นวิดีโอพวกนั้นหลี่เจี่ยซินต้องสงสัยและคาดคั้นเขาแน่นอน
“เอาไว้ให้เสร็จงานใหญ่ หลังจากนั้นค่อยว่ากันได้หรือเปล่า”
หลี่เจี่ยซินดีใจจนลืมตัว แน่นอนว่าเธอดึงหลิวไห่มาจูบเพื่อตอบแทน หลิวไห่ถอนหายใจแล้วดันตัวเองออก คนกำลังมองมาทางนี้แต่หลี่เจี่ยซินติดใจเสียแล้ว เธอกดท้ายทอยของเขาเอาไว้ แทรกลิ้นเข้ามาดอมดมความหอมของกลิ่นแอลกอฮอร์ที่หลิวไห่เพิ่งดื่มเข้าไปจนเต็มปอด
กว่าเธอจะยอมปล่อยหลิวไห่ก็หอบหายใจเมื่อถูกสูดลมหายใจจนเหนื่อยหอบ
“เธอมันคนบ้า”
“อย่าถือสาฉันเลยที่รัก เธอควรจะชินได้แล้วนะอยู่กับเธอแล้วอดใจไม่อยู่ทุกทีเลย ก็เธอมันคนงามของฉันนี่”
หลี่เจี่ยซินมีความสุข เธอคีบเนื้อให้เขาอย่างเอาใจทั้งยังป้อนเขาอีก
“ยังไงฉันก็ยืนยันว่าเธอน่ะเป็นคนบ้า”
หลิวไห่ทำท่าทางโกรธไปอย่างนั้น ทั้งที่ในใจหลงระเริ่งในรสจูบของเธอเป็นอย่างยิ่ง