โจอินตงส่งลูกน้องคอยติดตามหลิวไห่และหลี่เจี่ยซินอย่างใกล้ชิด คืนนี้ตั้งใจว่ายังไงต้องส่งหลี่เจี่ยซินไปถึงมือของกู้เมิ่งให้ได้ เขามองหลิวไห่และหลี่เจี่ยซินที่กำลังจูบกันอย่างดูดดื่มอย่างใจเย็น ร้านหม้อไฟของพวกเขาเป็นร้านแบบเปิดโล่งเหมือนร้านแบบวัยรุ่นทั่วไป โจอินตงจึงสามารถมองเข้าไปในร้านได้อย่างสบาย
เขาเห็นว่าหลิวไห่ชอบเด็กผู้หญิงคนนั้นขนาดไหน คนเย็นชาแบบหลิวไห่กลับมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะดังออกมาไม่หยุด
เห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันโจอินตงกลับคิดในใจว่าพวกเขาเป็นคู่ที่เหมาะสมกันเป็นอย่างยิ่ง
โจอินตงหวนคิดถึงวันนั้นที่เขาจับหลิวไห่โยนลงในบ่อจรเข้นั่น ถึงจะถูกเขาทำร้ายแต่หลิวไห่กลับไม่แม้แต่จะร้องขอชีวิต อีกทั้งยังตะเกียกตะกายดิ้นรนต่อสู้ด้วยตัวเองอย่างเดือดดาล
เด็กคนนั้นที่ไม่ยอมแพ้ดวยสายตาที่แข็งกร้าวและต่อมาเมื่อถูกสกุลกู้โยนเข้าเข้าไปในมุมที่มืดที่สุดในชีวิตกลับสามารถผงาดขึ้นมาแข่งกับกู้เมิ่งได้
เขาเองก็นับถือหลิวไห่เป็นอย่างยิ่ง และจากสายตาของเขาในวันนี้ก็ยังมองว่าไม่แน่ผู้ชายคนนั้นอาจจะผงาดขึ้นมาก้าวนำสกุลกู้ในสักวันหนึ่งหากหลิวไห่ไม่ตายเสียก่อน ถึงหลายคนจะมองว่าเป็นไปไม่ได้ที่หลิวไห่จะมีวันนั้นแต่โจอินตงกลับไม่คิดเช่นนั้น
หลิวไห่คนนั้นมีวิญญาณของนักสู้อยู่เต็มเปี่ยม เขาเหมือนหมาจนตรอกที่ไม่ยอมแพ้ใคร
โจอินตงพิจารณาหลี่เจี่ยซินโดยละเอียด หลี่เจี่ยซินคนนั้นรูปร่างบอบบางใบหน้างดงามเป็นอย่างยิ่ง แม้เธอจะดูรั้น ๆ บ้างแต่ก็ยังมีความอ่อนหวานอยู่ในที เขายิ่งมองก็ยิ่งเข้าใจว่าทำไมกู้เมิ่งถึงชอบเธอนัก นอกจากว่าหลี่เจี่ยซินจะเป็นคนที่หลิวไห่ชอบและกู้เมิ่งก็ต้องการทำลาย เขาคิดว่ากู้เมิ่งเองก็ชอบหลี่เจี่ยซินเช่นกัน
โจอินตงในตอนนี้รู้สึกสลดใจเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมาฉุดคร่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่เธอคนนั้นไม่มีความผิดเพียงแต่อยู่ในตำแหน่งที่ผิดที่ผิดเวลาก็เท่านั้น
โจอินตงรู้สึกสงสารหลี่เจี่ยซินแต่เขามีหน้าที่รับใช้สกุลกู้ ไม่ว่าผู้เป็นนายจะสั่งอย่างไรเขาก็คงได้แต่ต้องทำตามเท่านั้น
ในขณะที่โจอินตงกำลังทอดถอนใจอยู่นั้น เบื้องหน้าของเขาก็ไม่เห็นหลี่เจี่ยซินเสียแล้ว เขาพบว่าหลิวไห่อยู่ภายในร้านคนเดียว เขาจึงพึมพำออกมา
“หรือว่าเธอจะไปเข้าห้องน้ำ ไปตอนไหนทำไมไวขนาดนั้น”
และแล้วโจอินตงก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงหวีดร้องขึ้น เมื่อพบว่ามีคนนอนจมกองเลือดอยู่ในมุมตึก โจอินตงมึนงงเป็นอย่างมาก ผู้ชายหลายคนนั่นคือลูกน้องที่เขาตั้งใจพามาฉุดหลี่เจี่ยซิน นี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือพวกเขาจะบังเอิญไปมีเรื่องกับใคร
จู่ ๆ ก็มีคนคนหนึ่งสะกิดหลังของเขา โจอินตงหันไปสายตาของเขาพลันพล่าเลือนและล้มฟุบลงไปกองที่พื้นทันที
หลี่เจี่ยซินใช้เท้าเขี่ยโจอินตงอย่างแรงจนจะนับว่าเตะก็ได้
“โจอินตงฉันจำนายได้หรอกน่า”
เธอบอกเขาทั้งใช้เท้าสะกิดจนแน่ใจว่าหมอนั่นไม่ได้สติแล้ว
“แก่มากแล้วนี่ทำไมยังมาทำเรื่องเลว ๆ อีก แบบนี้ตายไปสวรรค์ไม่เอานรกไม่รับต้องเป็นผีเร่ร่อนนะ”
หลี่เจี่ยซินทำเสียง จิ๊ จ๊ะ ในลำคอพร้อมกับส่ายหน้า
ในมือของเธอมีไอศครีมโบราณถั่วดำแบบแท่งก่อนจะยัดเข้าไปเลียไปทีหนึ่งแล้วดึงออกมา หลังจากนั้นหลี่เจี่ยซินก็เดินกระโดดโลดเต้นเข้าไปในร้านหม้อไฟร้านนั้นอย่างรวดเร็ว
“ไปไหนมา”
หลิวไห่มองเธอด้วยสายตาเป็นห่วง หลี่เจี่ยซินบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำแต่เธอก็หายไปเลยราวสิบนาที
หลี่เจี่ยซินยักไหล่แล้วบอกว่า
“ก็มีคนตามฉันเข้าไปในห้องน้ำ เลยกระทืบมันแล้วถามว่ามีใครอีกจนมันสารภาพก็เลยออกไปจัดการหน่อย”
หลิวไห่ส่ายหน้า
“ทีหลังให้บอกฉันก่อน ห้ามทำอะไรโดยพละการ”
หลี่เจี่ยซินไม่สนใจ
“ก็ถ้าบอกพวกมันอาจจะหนีไปก่อน นี่ฉันบอกเธอว่าฉันอัดโจอินตงคนนั้นแล้วล่ะ หมัดเดียวสลบเลยนี่มือยังแดงไม่หาย”
เธอยกมือให้เขาดู หลิวไห่เลิกลั่ก
“มันอยู่ไหน”
หลี่เจี่ยซินชี้ไปที่มุมถนน
“ตรงมุมโน้น แต่เหมือนจะมีคนมาเก็บพวกมันไปแล้วไม่รู้พวกไหน”
หลิวไห่ไม่ไว้ใจเขาจึงโทรหาดวงตาสวรรค์
“พวกนายลบภาพในกล้องวงจรปิดบริเวณนี้ที่หลี่เจี่ยซินต่อยคนออกให้หมด แล้วเช็คดูว่าเป็นใครที่มาช่วยพวกมันไป”
ดวงตาสวรรค์รับคำ ไม่นานหลิวไห่ก็ได้รับรูปคนที่มาช่วยแบกร่างของคนพวกนั้นขึ้นรถตู้ไป
“คนของสกุลเมิ่งแน่นอน คงมีใครขอความช่วยเหลือ”
หลิวไห่เริ่มรู้สึกว่าเรื่องจะลุกลามแล้ว ความจริงเขาไม่ได้มากันแค่สองคนแต่ยังมีบอดี้การ์ดอีกหลายคนที่ดูแลความปลอดภัยให้พวกเขา หากคนพวกนั้นลงมือย่อมไม่พ้นสายตาบอดี้การ์ดไปได้
แต่หลี่เจี่ยซินของเขานี่สิ มือไวใจเร็วมักจะจัดการก่อนเสมอ หากพวกมันรู้ว่าหลี่เจี่ยซินมีความสามารถพิเศษ กลัวว่าพวกมันจะอยากได้เธอ
จากการที่หลิวไห่สันนิษฐานพบว่า ประธานกู้อาจกำลังทดลองบางอย่าง โดยใช้ยีนส์หรือดีเอ็นเอของผู้หญิงเก่ง ๆ ที่เขาจับตัวไปมาทดลอง และหลี่เจี่ยซินถึงแม้ว่าสมองของเธอจะไม่ใช่อัจฉริยะแต่ฝีมือการต่อสู้และแรงมหาศาลของเธอเรียกได้ว่ามีมากเกินมนุษย์ ดังนั้นอาจเรียกความสนใจจากประธานกู้จนต้องหาวิธีจับตัวเธอก็เป็นได้
ดังนั้นหลังจากแผนเหยื่อล่อที่พวกเขาให้หลี่เจี่ยซินปลอมตัวนี้สำเร็จ เขาจะกันเธอออกมาไม่ให้หลี่เจี่ยซินกลายเป็นที่สนใจอีกต่อไป อิทธิพลของประธานกู้เองก็มีมากจนเขาไม่สามารถประเมินได้
ที่เขายังต่อกรได้ในตอนนี้เพราะคนที่เดินเกมคือกู้เมิ่งที่ไร้ปัญญาคนนั้น จึงพลาดท่าเสียทีเขาได้ง่าย แต่หากว่าเรื่องนี้ประธานกู้เข้ามาเล่นด้วยตัวเองเรื่องคงไม่ง่ายเป็นแน่ ดังนั้นเขาต้องรีบเปิดโปงสิ่งที่คนพวกนั้นกำลังทำก่อนที่ประธานกู้จะเข้ามาขัดขวางเขาด้วยตัวเอง
โจอินตงฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว เขามึนงงเป็นอย่างยิ่ง คนที่ทำร้ายเขาคือใคร ลูกน้องคนหนึ่งของเขาที่กำลังเฝ้าเขาอยู่มารายงานทันทีที่เขาฟื้น
“พวกเรารู้แต่ว่ามันมากันหลายคนครับ ยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกฟาดจนสลบแล้ว”
แน่นอนว่าไม่มีใครเห็นตัวคนที่ทำร้ายพวกเขา รวมทั้งโจอินตงเอง ดังนั้นความเชื่อในตอนนี้ของพวกเขาคือ ถูกหลิวไห่จับได้และคนพวกนั้นก็แอบซุ่มตีพวกเขาจนสลบ
“กล้องวงจรปิดแถวนั้นบังเอิญเสียทุกตัวครับ ไม่มีใครจับภาพพวกเราได้สักคน แต่ก่อนหน้านั้นรอบบริเวณร้านหม้อไฟนั่นก็มีคนของหลิวไห่กระจายกำลังกันอยู่เต็มไปหมด ก็น่าจะเป็นคนพวกนั้นที่ตีเราจนสลบครับ”
โจอินตงกำมือแน่น พูดออกมาอย่างแค้นเคือง
“ไอ้สารเลวหลิวไห่ บังอาจมากไปแล้ว”