เฉินเฟยอวี๋ในชุดออกกำลังกายกำลังยกตัวเองขึ้นจากบาร์โหนตั้งพื้นที่ฟิตเนสหรูในฮ่องกง ถึงหลิวไห่จะย้ำกับเขาว่าอย่าได้เถลไถลออกไปที่ไหนเฉินเฟยอวี๋ก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
เขามาอยู่ที่นี่หลายเดือนแล้วในขณะที่ปล่อยให้พี่ชายช่วยกอบกู้กิจการจากน้องสาวตัวร้ายที่จ้องจะขายกิจการของแม่ที่ทิ้งเอาไว้ให้คนอื่น
ยัยน้องเลวคนนั้นป่านนี้ไม่รู้สำนึกหรือเปล่าหลังจากถูกหลิวไห่ปลดออกจากตำแหน่งทุกอย่างโทษฐานที่เธอปล่อยให้เกิดการทุจริตภายในบริษัทโดยที่รู้เห็นเรื่องพวกนั้น
เมื่อเช้าเฉินเฟยอวี๋เพิ่งได้รับโทรศัพท์จากหลิวไห่เรื่องที่อีกไม่กี่วันจะให้เขาบินกลับไปแผ่นดินใหญ่ในอีกไม่กี่วัน
เฉินเฟยอวี๋ดีใจเป็นอย่างยิ่ง อันที่จริงเขาโคตรจะเบื่อเมื่ออยู่ที่นี่ สำหรับเฉินเฟยอวี๋แล้วถึงที่นี่จะมีแสงสีเสียงอันตื่นตาตื่นใจ แต่ระยะหลังมานี้เกิดการประท้วงรัฐบาลบ่อยครั้ง ยังมีระเบิดพลีชีพพวกนั้นอีก เฉินเฟยอวี๋ก็หวาดกลัวไม่น้อย
เพราะแบบนี้ทำให้เขาไม่กล้าจะออกไปไหน วัน ๆ จึงเอาแต่ขลุกอยู่ที่บ้าน โชคดีที่บ้านของหลิวไห่ตั้งอยู่ในเขตของคนรวย ทำเลนับว่าดีมากและกว้างขวางทั้งมีวิวที่สวยงามจึงไม่ทำให้เขาเบื่อมากนัก
และเลขาที่หลิวไห่ให้คอยดูแลเขาคนนั้น เฉินเฟยอวี๋ในตอนนี้ก็เอาเขามาเป็นผัวเรียบร้อยโรงเรียนเฉินเฟยอวี๋เรียบร้อย จึงทำให้คืนวันของเขาที่ฮ่องกงกลายเป็นคืนวันอันแสนหวานราวกับคู่แต่งงานใหม่
แต่คิดไปคิดมาแล้วก็น่าสงสาร
เฉินเฟยอวี๋คนนี้กลับเห็นผู้ชายคนนั้นเป็นเพียงของเล่น เขาเริ่มเบื่อแล้วและเมื่อหลิวไห่โทรมาเขาจึงมีข้ออ้างที่จะห่างจากผู้ชายคนนั้นได้เสียที
โล่งอกเป็นอย่างมาก
วันนี้เป็นวันแรกที่เฉินเฟยอวี๋มาใช้บริการออกกำลังกายของโรงยิมระดับสูงที่มีชื่อเสียงที่สุดในฮ่องกง เพราะว่าเขาใกล้กลับแล้วจึงคิดจะมาเปิดหูเปิดตาสักหน่อย การมาคราวนี้ก็ไม่ได้พาใครมาคุ้มกันมากนัก
ที่นี่คงไม่มีใครสนใจเขาเป็นแน่ การป้องกันจึงเกิดการหละหลวมไม่เหมือนเช่นในตอนที่เขามาที่นี่ใหม่ ๆ
เฉินเฟยอวี๋เดินมาวิ่งต่อที่ลู่วิ่ง เพราะสายตาดันไปแสกนเจอผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกสเปคเข้าอย่างจัง ถึงจะชอบแค่ไหนเขาก็ยังวางฟอร์ม เดินไปด้วยท่วงท่าที่สง่างามที่สุด เมื่อไปถึงลู่วิ่ง เฉินเฟยอวี๋มองผู้ชายคนนั้นผ่าน ๆ คล้ายไม่สนใจ
แต่แล้วสายตาของคนทั้งคู่ก็ประสานกัน เฉินเฟยอวี๋รู้สึกเหมือนถูกกระแสแม่เหล็กดึงดูดอย่างรุนแรง เขาอึ้งไปเล็กน้อยจนกระทั่งผู้ติดตามสงสัย
“คุณหลิวครับ”
แน่นอนบอดี้การ์ดในชุดออกกำลังกายของเขาไม่รู้ว่าเขาไม่ใช่หลิวไห่ เขายังอยู่ที่นี่ในฐานะของหลิวไห่ เฉินเฟยอวี๋ได้สติ คำพูดของพี่ชายทำให้เขาขนลุก
“ถ้าฉันรู้ว่าแกทำภาพพจน์ของฉันเสียหาย ฉันจะทำลายทุกอย่างของแกซะ”
แน่นอนว่าเฉินเฟยอวี๋รู้ว่าหลิวไห่พูดจริง ดังนั้นในเมื่อทุกอย่างกำลังเข้าที่เข้าทางเขาจะทำให้เรื่องเสียไม่ได้ เฉินเฟยอวี๋จึงกระแอม ทำแสงมาดแมนออกไปทั้งที่อยากหวีดผู้ชายข้าง ๆ จนเต็มแก่
“อืม ฉันแค่ร้อนน่ะ”
ใช่แล้ว เขายังไม่ลืมที่จะอ่อยผู้ชายคนนั้น เฉินเฟยอวี๋ถอดเสื้อของตัวเองออกเผยให้เห็นมัดกล้ามอันสวยงาม เขาไม่เล่นกล้ามให้ใหญ่ไปและไม่ให้เล็กลีบ ร่างกายของเฉินเฟยอวี๋จึงสมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก
เฉินเฟยอวี๋ชอบรูปร่างของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง ความสูงของเขาระดับร้อยแปดสิบกว่า หุ่นดียิ่งกว่านายแบบในนิตยสารเสียอีก เขามักจะชื่นชมรูปร่างตัวเองบ่อย ๆ แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้ความมาดแมนนี้ จิตใจของเฉินเฟยอวี๋ผู้นี้บอบบางราวกับผีเสื้อตัวน้อย
ผู้ชายคนนั้นมองเขาอย่างชื่นชม พร้อมกับยิ้มให้ ด้วยมารยาทเฉินเฟยอวี๋ย่อมยิ้มตอบ แต่ในใจของเขานั้นร้องกรี๊ด กรีดร้องไปจนถึงแผ่นดินใหญ่ด้วยความดีใจ
ในใจพลันคิดถึงเพื่อนซี้ หลี่เจี่ยซิน
ยัยนั่นถึงจะเฉิ่มไปบ้าง แต่เรื่องหวีดผู้ชายนี่เฉินเฟยอวี๋และหลี่เจี่ยซินมีฝีมือล้ำเลิศไม่ต่างกัน บางทีแค่เจอเป้าหมายก็เข้าใจกันโดยไม่ต้องมองหน้ากันแล้ว
ยัยนั่นอยู่กับหลิวไห่จะเป็นยังไงบ้างนะ คงไม่ถูกหลิวไห่รังแก
แต่แล้วเฉินเฟยอวี๋ก็หัวเราะ
นั่นมันหลี่เจี่ยซินนะ จะถูกรังแกได้ยังไง
เอาล่ะ สลัดความคิดถึงยัยนั่นออกแล้วเริ่มล่อผู้ชายได้แล้ว
คนอย่างเฉินเฟยอวี๋ย่อมดูออกเพียงพริบตา ว่าใครที่มีรสนิยมเหมือนตัวเอง ความรักและเซ็กส์แน่นอนว่าย่อมไม่มีพรมแดน เขาคือเขาและจะเยกับใครก็ได้ขอเพียงมีหัวใจตรงกัน
และในวันนี้เฉินเฟยอวี๋กำลังท้าทายตนเองที่จะฟาดหนุ่มหล่อตรงสเปคคนที่แม้แต่ขนตายังเซ็กซี่คนนี้ให้จงได้
เขายิ้มให้คน ๆ นั้นอย่างเป็นมิตร กระทั่งเสียงอันไพเราะของผู้ชายคนนั้นดังขึ้น
“ผมชอบกล้ามคุณมากเลยครับ พอจะแนะนำวิธีดูแลรูปร่างได้หรือเปล่าครับ”
เอาล่ะสิ เจอสายรุกเข้าแล้ว
เฉินเฟยอวี๋ตีปีกพั่บ ๆ ในใจ แต่เขาก็สงวนท่าทีเอาไว้อย่างเป็นมืออาชีพ เขาจะไม่ทำให้กระต่ายตัวนี้ตื่นตูมง่าย ๆ เป็นอันขาด
เฉินเฟยอวี๋เลิกคิ้วทำเสียงเข้มแต่ดูสุภาพและเป็นมิตร
“ไม่ทราบว่าคุณคือ”
ผู้ชายคนนั้นยื่นมือให้เขาจับ พร้อมกับพูดว่า
“ผมหยางเจิงครับ”
เขายิ้มหล่อเหลาจนใจของเฉินเฟยอวี๋แทบละลายกลายเป็นน้ำไปหมดแล้ว ชายหนุ่มหน้าแดงเล็กน้อย คนที่รู้กันย่อมไม่พูดมาก หยางเจิงคนนี้แสดงออกทางสีหน้าและการกระทำอย่างชัดเจนมือเฉินเฟยอวี๋ยื่นมือไปจับเขา
“ผมเฉิน..เอ๊ย หลิวไห่ครับ”
เฉินเฟยอวี๋ถูกหยางเจิงคนนั้นจับมือแล้วยังบีบไม่ปล่อย นิ้วของเฉินเฟยอวี๋เรียวยาวและหากเทียบกันแล้วจะเล็กกว่าของหลิวไห่เล็กน้อย นั่นแสดงว่ามือของเขาเล็กกว่ามือของผู้ชายมาตรฐานเดียวกับหลิวไห่เช่นหยางเจิงคนนี้
เขาบีบมือของเฉินเฟยอวี๋ไม่ปล่อย และแน่นอนว่าเฉินเฟยอวี๋ก็ไม่ปล่อยมือของเขาเช่นกัน
แม้จะถูกขู่ฆ่าจากผู้เป็นพี่ชายในตอนนี้เฉินเฟยอวี๋ก็คิดว่าเขาจะดื้อรั้น ในใจเอาแต่ขอโทษขอโพยหลิวไห่ที่ไม่รักษาสัญญา
พี่จ๋า หนูจะมีผัวเป็นตัวตน หนูเจอเนื้อคู่แล้ว อย่าดุหนูเลย
เฉินเฟยอวี๋คิดอย่างน่ารักอีกทั้งตัวเขาเองได้คิดท่าทางออดอ้อน (ตีน) ของหลิวไห่เอาไว้แล้ว
บอดี้การ์ดของเฉินเฟยออวี๋กระแอม สองคนนั้นจึงยอมปล่อยมือ แต่ท่าทางก็เสียดายไม่ใช่น้อย เฉินเฟยอวี๋ถูกเขาชวนคุยต่อ น้ำเสียงของผู้ชายคนนี้เพราะมากและดูอ่อนโยน เขาถามเกี่ยวกับหลักการออกกำลังกายของเฉินเฟยอวี๋ ชายหนุ่มก็ตอบอย่างเป็นจังหวะ และยังชวนเขาไปนั่งคุยต่อ
เอาล่ะ เฉินเฟยอวี๋ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะยอมเสียเหงื่อให้กับผู้ชายคนนี้แทนการเสียเหงื่อจากการออกกำลังกายซะ แน่นอนว่าการเสืยน้ำเอ๊ยเหงื่อให้ผู้ชายย่อมทั้งได้สุขภาพและได้ความฟินเป็นที่สุด
สองคนจากเดิมนั่งพูดคุยอย่างเป็นทางการ และด้วยเหตุใดไม่รู้ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงพวกเขาก็นั่งขาติดกันแล้ว เฉินเฟยอวี๋หลายครั้งที่อดใจไม่ไหวถึงขนาดแสร้งมือตกไปลูบขาของผู้ชายคนนั้น
และเขาเองก็ไม่น้อยหน้า
กรี๊ด ผู้ชายคนนี้ที่ตรงสเปค ยิ่งกว่าแม่เหล็กขั้วบวกขั้วลบที่ดึงดูดกันอย่างแรงเสียอีก ทุกอย่างลงตัว ทุกอย่างใช่แล้ว
ที่ผ่านมาเฉินเฟยอวี๋มักจะถูกหลี่เจี่ยซินตำหนิว่าเขาเป็นคนใจง่าย ใครในโลกนี้ขอให้ตรงกับไทป์ที่เขาชอบกลายเป็นเนื้อคู่ของเขาไปเสียหมด เฉินเฟยอวี๋เถียงใจจะขาด เขาไม่ใช่คนแบบนั้นอย่างแน่นอน
และตอนนี้เขาก็คิดเช่นนั้น ผู้ชายคนนี้ย่อมคือเนื้อคู่แน่นอน
ไวยิ่งกว่าลูกปืนก็คือเฉินเฟยอวี๋นี่แหละ เย็นนี้พวกเขานัดพบกันที่ผับแห่งหนึ่ง แน่นอนว่าเฉินเฟยอวี๋ยังคงสงวนท่าทีไม่ได้เปิดตัวว่าตัวเองเป็นฝ่ายรุกหรือรับ แต่ผีย่อมมองเห็นผี ผู้ชายคนนั้นย่อมต้องเป็นผัวอย่างแน่นอน
เฉินเฟยอวี๋ฉีดน้ำหอมทั่วร่าง เขาคงฉีดมากไปคนขับรถของเขาจึงทั้งสำลักทั้งไออยู่นาน ดีที่นายเลขาของเขาไม่ตามมาเพราะหลิวไห่มีเรื่องด่วนให้ผู้ชายคนนั้นทำ เอาล่ะ เฉินเฟยอวี๋ค่อยสบายใจ เพราะตัวเองก็คิดเทผู้ชายคนนั้นอยู่แล้ว
เมื่อมาถึงผับดัง เฉินเฟยอวี๋พร้อมบอดี้การ์ดหลายคนเดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผย แน่นอนว่าผู้ชายคนนั้นมาคนเดียว เขาใส่ชุดสูทสีขาวยืนหล่อเหลาโดดเด่นอยู่ท่ามกลางสาว ๆ ในผับแห่งนี้
เฉินเฟยอวี๋เองก็หล่อเหลาไม่เบา เมื่อเขาเดินเข้ามาก็ได้รับความสนใจไม่ใช่น้อยเช่นกัน ทุกคนต่างจ้องมองเขามีผู้หญิงหลายคนใช้สายตาอ่อยเขา เฉินเฟยอวี๋จึงทำตัวเป็นหลิวไห่ยิ้มให้กับผู้หญิงพวกนั้น แม้ว่าใจอยากพุ่งไปหาพ่อหนุ่มรูปงามว่าที่สามีของเขาในค่ำคืนนี้
หลิวไห่เองก็มีชื่อเสียงอยู่มาก หลายคนจึงรู้จึกเขา สาว ๆ ต่างกรี๊ดกร๊าดแต่ไม่มีใครเข้าถึงตัวเขาได้สักคนเพราะมีคนคอยคุ้มกันแน่นหนา หลิวไห่ในตอนที่อยู่ฮ่องกงมีแบ็คใหญ่โตอย่างลุงเฉิง มาเฟียตัวพ่อที่ทำกิจการสีเทาหลายอย่าง ทั้งบ่อนและติดสินบนนักการเมืองเพื่อให้ได้สัมปทานการเดินรถเขาจึงนับเป็นคนสนิทของลุงเฉิงที่ใคร ๆ ต่างก็เกรงใจและหวาดกลัว ด้วยฝีมือของหลิวไห่เองนั้นก็ไม่ใช่ธรรมดา
เฉินเฟยอวี๋ในร่างของหลิวไห่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นจึงวางฟอร์มได้ค่อนข้างดี เขาเข้าห้องวีไอพีไปกับพ่อหนุ่มรูปงามนามเพราะหยางเจิงคนนั้น
ทั้งดื่มทั้งเต้นเสียดสีกันไปมาอยู่จนกระทั่งดึก เฉินเฟยอวี๋ก็เมาแล้ว แน่นอนว่าการเมาคือส่วนหนึ่งของแผนการที่เฉินเฟยอวี๋วางเอาไว้ เขาคิดจะจับหนุ่มในเสปคเอาไว้ให้แน่น
พ่อหนุ่มคนนั้นในที่สุดก็ได้ขึ้นรถของเฉินเฟยอวี๋ ยังถูกเฉินเฟยอวี๋ลวนลามอยู่หลายครั้ง เฉินเฟยอวี๋ในรถลิมูซีนคันโตตอนนี้กำลังนั่งคล่อมหนุ่มรูปงามเอาไว้ ปากของเขาคลอเคลียกับพ่อหนุ่มคนนั้น อารมณ์กระเจิดกระเจิงและเร่าร้อน
“ผมจะพาคุณขึ้นสวรรค์”
น้ำเสียงของหยางเจิงอ่อนนุ่ม เหมือนหนุ่มในฝันที่สาว ๆ ทั้งโลกต้องการ กระทั่งบางอย่างแข็ง ๆ ดันที่ท้องของเฉินเฟยอวี๋ เขาจึงร้องอุ๊ยออกมา
“ให้ตายเถอะ ทำไมคุณใจร้อนแบบนี้ แข็งง่ายจังเลยนะ”
หยางเจิงหัวเราะ ยังกดของแข็งแนบท้องของเขา เฉินเฟยอวี๋แสร้งเขินใบหน้าแดงซ่าน เขาใช้มือคลำของแข็งนั้นฉับพลันนัยน์ตาแสดงความฉงน
เอ๊ะ รูปร่างของแข็งช่างแปลกประหลาด
เฉินเฟยอวี๋กำรอบของแข็งอีกครั้ง และแล้วเขาก็เริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว เขาก้มลงมองและเห็นของแข็งเข้าเต็มตา เฉินเฟยอวี๋ผู้จิตใจอ่อนไหวแทบเป็นลม เขากรีดร้องแสดงตัวตนราวกับผู้หญิงเห็นแมลงสาบ
“บอกคนขับรถให้ขับไปตามทางที่ผมบอก และให้บอดี้การ์ดทั้งหมดที่ตามมาออกห่างเราให้มากที่สุด”
เฉินเฟยอวี๋น้ำตาตกแล้ว เขาได้แต่คิดในใจว่า
พี่จ๋าช่วยหนูด้วย หนูถูกลักพาตัว
เวลาเที่ยงคืน แผ่นดินใหญ่
หลิวไห่ได้รับโทรศัพท์สายลึกลับสายหนึ่ง เขาแทบจะยกเท้าก่ายหน้าผากด้วยความกลัดกลุ้มและเป็นห่วงน้องชายตัวดี
เขาบอกให้อยู่บ้านเฉย ๆ อย่าเที่ยวออกไปวุ่นวายตามท้องถนนไม่ใช่หรือ ทำไมถึงพลาดท่าถูกคนของประธานกู้จับตัวไปได้ เขารู้ว่ากู้เมิ่งเจ็บแค้นเขาที่แพ้เขาในเรื่องบริษัท แต่กู้เมิ่งไม่รู้ว่าเขาร่วมมือกับตำรวจรวมทั้งหลี่เจี่ยซินทำลายศูนย์ปฏิบัติการลับของสกุลกู้อย่างแน่นอน
คิดไม่ถึงว่ากู้เมิ่งจะลงมือกับเฉินเฟยอวี๋ได้
ไอ้สารเลวนั่นคงไม่อยากตายดีแล้ว แต่ในตอนนี้หลิวไห่ต้องรีบกลับไปที่ฮ่องกงให้เร็วที่สุดเพื่อช่วยเฉินเฟยอวี๋ออกมาให้ได้
“เตรียมเงินพันล้านเหรียญสหรัฐเอาไว้ พวกมันต้องการให้เราแลกบิทคอยน์แล้วโอนเข้ากระเป๋าบิทของพวกมัน”
หลิวไห่สั่งการอย่างเงียบขรึม เขาไตร่ตรองบางอย่างก่อนให้เลขารีบจองตั๋วเครื่อง หลังจากนั้นโทรศัพท์ให้กลุ่มดวงตาสวรรค์สืบให้ได้ว่าเฉินเฟยอวี๋ถูกจับกุมตัวอยู่ที่ไหน
“คิดจะทำร้ายน้องชายฉัน แกก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา”
หลิวไห่ทุบกำปั้นลงบนโต๊ะเสียงดังสนั่น