ข่าวถูกแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว จากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ ว่ามีเงินหนึ่งพันล้านดอลล่าห์สหรัฐถูกเตรียมเอาไว้เพื่อซื้อบิทคอยน์ในเวลาที่เหมาะสม แน่นอนว่าการแปลงเงินจำนวนมากเป็นบิทคอยน์ในคราวนี้จะส่งผลกระทบกับตลาดเป็นอย่างมาก คนที่ถือครองบิทคอยน์ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิตอลอยู่ในตอนนี้ เมื่อมีการนำเงินหนึ่งพันล้านดอลล่าห์เข้าไปซื้อก็จะส่งผลให้คนที่ถือครองบิทคอยน์อยู่ร่ำรวยมหาศาลอันเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในทันที
ราคาบิทคอยน์จะยิ่งพุ่งสูงขึ้น หากใครเทขายในตอนนี้ก็เท่ากับสร้างกำไรได้มหาศาล
ซึ่งแน่นอนว่ากู้เมิ่งย่อมถือครองบิทคอยน์ในมืออยู่ไม่น้อย เงินที่เขาเคยพลาดท่าสูญเสียให้หลิวไห่ในตอนนั้น ได้เวลาที่เขาจะเอาคืนแล้ว เขาได้ทั้งเงินเข้ากระเป๋าได้ทั้งเหรียญอันเกิดจากเงินใหม่ของกู้เมิ่งเข้ามาถือครอง ราคาของบิทที่พุ่งขึ้นไปเป็นร้อยเท่าหลังจากมีการซื้อขายจริงจะทำให้เขาได้กำไรต่อที่สองอีก
หลิวไห่ถ่วงเวลาในการเตรียมเงิน แน่นอนว่ากู้เมิ่งย่อมประเมินเขาต่ำ เขายังคิดว่าเงินจำนวนนี้หลิวไห่อาจไม่มีปัญญาด้วยซ้ำ และตัวเองก็ต้องการเงินนี้เขาจึงตกลงให้เวลาหลิวไห่สามวันในการเตรียมเงิน
ซึ่งเป็นเวลาที่เขาให้ได้มากที่สุด หากหลิวไห่ยังหาเงินไม่ได้ในสามวันนี้เขาจะฆ่าเฉินเฟยอวี๋แล้วส่งศพที่ถูกตัดเป็นชิ้น ๆ ไปคืนให้หลิวไห่
หลิวไห่เองแม้จะวิตกกังวลมาก แต่เขาก็ดูสงบนิ่งเป็นอย่างมาก แต่เพราะคราวนี้กู้เมิ่งประเมินเขาสูงขึ้น เกี่ยวกับดวงตาสวรรค์ทำให้การติดตามหาเฉินเฟยอวี๋ทำได้ยาก
“ลุงเฉิงครับ ผมขออเล็กซ์มาช่วยตามหาน้องชายได้หรือเปล่าครับ”
หลิวไห่ในตอนนี้อยู่ในห้องอาหารส่วนตัวของนายใหญ่เฉิง ด้านหลังเขามีเพียงคนสนิทและพนักงานเสริฟที่ไว้ใจได้สองคนคอยช่วยเหลือแกะก้าง แกะกุ้ง แกะปู ให้พวกเขา
ลุงเฉิงยิ้มพร้อมพยักหน้า
“ได้สิ แต่วันนี้กินให้มากนะ เราไม่ได้พบกันมานานแล้ว”
หลังจากนั้นลุงเฉิงก็ชวนหลิวไห่พูดเรื่องหุ้นในตลาดทั่วโลก ซึ่งทุกครั้งที่เจอหน้าย่อมเป็นแบบนี้เสมอ แม้หลิวไห่จะเป็นเด็กที่เคยเรียนรู้ทุกอย่างมาจากลุงเฉิง แต่หลังจากเขาศึกษาจนชำนาญแล้วเรื่องการวิเคราห์ตลาดในอนาคตลุงเฉิงกลับไม่สามารถเทียบชั้นหลิวไห่ได้
เพราะแบบนี้เด็กหนุ่มคนนี้จึงเติบโตอย่างรวดเร็ว ยิ่งเด็ก ๆ ดวงตาสวรรค์ที่เปรียบเป็นลูกรักของลุงเฉิงยอมคุกเข่าให้หลิวไห่ ลุงเฉิงยิ่งขอบคุณตัวเองที่คิดไม่ผิดที่ช่วยเหลือคนคนนี้
หลิวไห่วิเคราะห์หุ้นใหญ่ในตลาดและทิศทางให้ลุงเฉิงทราบพร้อมกับให้คำแนะนำ เลขาของลุงเฉิงได้ทำการบันทึกคำพูดของหลิวไห่ไว้อย่างละเอียด
การลงทุนในครั้งนี้ ถ้าหลิวไห่วิเคราะห์ได้ถูกต้องเหมือนที่ผ่านมานายใหญ่จะมีทรัพย์สินเพิ่มอย่างมหาศาล แต่หากว่าวิเคราะห์พลาดนายใหญ่ก็แทบจะล้มละลายเช่นกัน แต่เงินที่หายไปนายใหญ่ไม่เคยสนใจ วิธีการหาเงินของพวกเขามีมาก เพียงแต่ค่อนข้างเสี่ยงกับตำรวจก็เท่านั้น
พักหลัง ๆ มากิจการผิดกฎหมายจึงน้อยลงมาก เพราะมีหลิวไห่ให้คำแนะนำเรื่องการเงิน
ลุงเฉิงหรือนายใหญ่เฉิงผู้ที่กว้างขวางและสืบตำแหน่งหัวหน้าแก๊งมาเฟียอันดับหนึ่งของฮ่องกงที่มีมาอย่างยาวนานอนุญาตอย่างไม่ลังเล หลิวไห่ในตอนนี้เป็นเหมือนลูกชายเขา ถึงหลิวไห่จะปฏิเสธงานผิดกฎหมายเช่นงานเกี่ยวกับยาเสพติด
แต่หลังออกจากคุกลุงเฉิงก็ได้ส่งหลิวไห่ไปเจรจากับนักการเมืองหลายคนที่กำลังจะแปรภักดิ์ไปอยู่ฝั่งของประธานกู้
หลิวไห่เป็นคนมีไหวพริบที่หาตัวจับยาก เดิมทีลุงเฉิงอยากให้เขามาเป็นหัวหน้าแก๊งคนต่อไป
เขาเองก็อายุมากแล้วจำเป็นต้องหาคนสืบทอดแต่หลิวไห่คนนี้ไม่ใช่ใครก็จะบังคับได้ง่าย ๆ เขาสามารถทำงานได้บางเรื่อง แต่บางเรื่องที่ขัดกับหลักศีลธรรมแม้จะเอาปืนจ่อเขาหลิวไห่ก็ไม่แสดงความหวาดกลัวออกมา กลับพร้อมที่จะตายได้ทุกเมื่อ
และเพราะหลิวไห่เป็นคนแบบนี้ ไม่ทิ้งเพื่อน ไม่เอาตัวรอด ยึดหมั่นในหลักการของตนเองลุงเฉิงจึงยิ่งถูกใจเขามาก และยินยอมปล่อยเขาไปตามทางในที่สุด
ลุงเฉิงรู้ว่าหลิวไห่เข้ามาอยู่ในเรือนจำด้วยสาเหตุใด เขายื่นมือเข้าช่วยเพราะหลิวไห่ช่วยเหลือตนเองนี่จึงเป็นวิธีการตอบแทนคุณอย่างหนึ่ง แต่เรื่องความบาดหมางระหว่างสกุลกู้กับหลิวไห่ที่ผ่านมาลุงเฉิงไม่เคยยุ่งเกี่ยว
แน่นอนว่าถึงจะมีศัตรูคนเดียวกัน แต่ละคนย่อมมีวิธีการชำระแค้นและหลีกเลี่ยงที่ต่างกัน
หลังจากวิเคราะห์หุ้นทั้งยังกินข้าวกันอย่างสนิทสนม อเล็กซ์ก็มาถึงห้องอาหารพอดี เขาทำความเคารพลุงกู้แล้วกอดหลิวไห่ น้ำตาคลอเบ้าอย่างที่ชอบทำ หลิวไห่ดันตัวอเล็กซ์ออกห่างพร้อมกับพูดเบา ๆ
“ฉันมีเจ้าของแล้วจะมากอดกันแบบนี้ไม่ได้”
อเล็กซ์ตาโต
“เจ้าของเหรอ พี่เจอผู้หญิงทรงพลังคนนั้นแล้วเหรอ”
หลิวไห่หัวเราะเบา ๆ พร้อมกับดึงให้อเล็กซ์นั่งลงข้าง ๆ
“เจอเธอแล้ว และเธอก็ขี้หวงด้วย”
หลิวไห่ไม่รู้ว่าหลี่เจี่ยซินขี้หวงจริง ๆ หรือเปล่า เพราะเขายังไม่เคยพิสูจน์กับผู้หญิงคนอื่น แต่ยังไงเขาก็ไม่ชอบให้อเล็กซ์มากอดเขานาน ๆ แบบนี้ มันอึดอัดเหมือนกับตอนที่เฉินเฟยอวี๋กอดเขานั่นแหละ
อเล็กซ์นั่งลงอย่างสบาย เขาไม่ได้กลัวหรือเกร็งเหมือนลูกน้องคนอื่นเมื่ออยู่ต่อหน้าลุงเฉิงและหลิวไห่ ยังทำตัวเป็นตัวของตัวเองแบบสุด ๆ นั่นเพราะเขาอยู่กับลุงเฉิงมาตั้งแต่เกิด อเล็กซ์ก็เหมือนลูกบุญธรรมของลุงเฉิง เพียงแต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เรียกพ่อก็เท่านั้น
นอกนั้นแล้วอภิสิทธิ์ทุกอย่างอเล็กซ์ย่อมมีเหนือคนอื่น ข้อดีของอเล็กซ์คือเชื่อฟังลุงเฉิง เขาไม่เคยกลัวที่หลิวไห่จะขึ้นเป็นหัวหน้า เพราะตั้งแต่อยู่ในคุกเขาได้รู้อย่างแจ่มแจ้งว่าความสามารถของหลิวไห่นั้นมีมากเพียงใด
อเล็กซ์รู้สึกว่าตัวเองนั้นเหมือนคนโง่ทุกครั้งที่คุยกับหลิวไห่ นอกจากเรื่องการใช้กำลังแล้วเขาก็ไม่รู้อะไรเลย หนังสือที่หลิวไห่เรียนแน่นอนว่าลุงเฉิงเคยพยายามกับเขามาแล้ว แต่เรื่องพวกนี้กลับเหมือนเป็นฝุ่นผงที่พัดเข้าไปในหัวของเขาแล้วก็ต้องรีบสะบัดออกอย่างรวดเร็วไม่งั้นอาจไปเกาะสมองทำให้เขาทึ่มยิ่งไปกว่านี้อีก
แต่เรื่องที่อเล็กซ์เก่งที่สุดคือเรื่องสืบหาคน เขาเก่งยิ่งกว่าโคนันเสียอีก ไม่ว่าอะไรหายเขากลับสามารถตามหาได้อย่างรวดเร็ว
ข้อดีนี่จึงเป็นข้อดีอีกข้อนอกเหนือจากการใช้กำลังที่ลุงเฉิงออกปากชมเขาจนตัวลอยบ่อย ๆ
“เมื่อวันก่อนได้รับโทรศัพท์จากกู้เมิ่ง มันจับอาเฟยไป”
“ว่าแล้วว่าต้องเกิดเรื่องพี่ถึงได้ทิ้งพี่สะใภ้กลับมาเร็วขนาดนี้”
หลิวไห่ไม่มีเวลาบอกเรื่องนี้กับใคร นอกจากขอความช่วยเหลือจากลุงเฉิง
“แกรู้จักฮ่องกงแทบจะมองเห็นหมด คิดว่าอาเฟยจะถูกจับไปไว้ที่ไหน”
“ทำไมไม่ให้ดวงตาสวรรค์เช็คจากกล้องวงจรปิดล่ะ จะไม่ง่ายกว่าเหรอ”
อเล็กซ์ยกซุบสมองหมูขึ้นมาซดอย่างอร่อย หลิวไห่เห็นก้อนสมองที่ลอยอยู่ในน้ำซุบแล้วต้องหันหน้าหนี เขาเป็นคนไม่เลือกกินแต่เครื่องในสัตว์จำเภทของพวกนี้สมองลิง สมองหมู เขาทำใจไม่ได้จริง ๆ
เมื่อเห็นอเล็กซ์กินได้อย่างเอร็ดอร่อยแบบนั้นจึงอดทึ่งเล็กน้อยไม่ได้ เขายกมือปิดปากทั้งตอบอเล็กซ์เสียงอู้อี้
“พวกมันทำลายสัญญาณติดตามตัวที่ฉันติดไว้กับตัวของอาเฟย ตอนนี้ดวงตาสวรรค์ก็ตามไม่ได้ให้คนไปสืบหาบริเวณที่อาเฟยหายตัวไปแล้วแต่ก็อย่างที่รู้ไม่ได้อะไร”
อเล็กซ์พยักหน้าเข้าใจ ลุงเฉิงมองอเล็กซ์ยิ้ม ๆ ยังเลื่อนซุปสมองหมูน้ำซุปสีทองราคาแสนแพงให้อเล็กซ์อีกหนึ่งชาม รวมทั้งหลิวไห่ด้วย ชอบขนาดนี้ก็เชิญกินไปคนเดียว
“อาไห่มีเวลาแค่สามวันแต่ฉันอยากรู้ว่าแม่หนูเฟยตอนนี้อยู่ที่ไหน”
หลิวไห่สำลักน้ำแกงตุ๋นเหยื่อไผ่ของตัวเอง เมื่อได้ยินลุงเฉิงเรียกเฉินเฟยอวี๋ว่าแม่หนู ไอ้ยักษ์น้องชายเขานี่แตกต่างจากคำว่าแม่หนูราวฟ้ากับเหว
หลิวไห่เองก็รู้ว่าถึงจะยังไม่เคยคุยกันแต่เขารู้ว่าลุงเฉิงให้คนติดตามเฉินเฟยอวี๋อยู่จึงรู้นิสัยมาบ้าง และคงจะบังเอิญชอบนิสัยของน้องชายเขาเข้า
อเล็กซ์ยิ้ม เขาดึงชามสมองหมูทั้งสองชามมาไว้ตรงหน้า แล้วเทใส่ชามเดียวกันแน่นอนว่าย่อมไร้มารยาทอย่างที่สุด แต่การไม่ต้องมีพิธีรีตองและไม่ต้องกังวลเรื่องมารยาททำให้คนทั้งหมดบนโต๊ะรู้สึกว่าพวกเขาคือครอบครัวเดียวกันอย่างแท้จริง
“นายใหญ่พูดขนาดนี้ผมต้องทำเต็มที่ครับ พรุ่งนี้ผมจะพา แม่หนูเฟยกลับมาคุกเข่าต่อหน้านายใหญ่ฝากตัวเป็นลูกสาวตัวเล็กให้ได้ครับ”
หลิวไห่อยากจะร้องไห้กับคำพูดของอเล็กซ์นัก แต่เขากลับตบไหล่อเล็กซ์เบา ๆ ด้วยความทราบซึ้งใจ
“ขอบใจมากอเล็กซ์”