บทที่ 1 เขยสวะ
เย่ถันหมิงแห่งตระกูลเย่ขออวยพรให้ท่านย่ามีความสุขในวันเกิด ขอมอบแหวนเพชรหยกหนึ่งวงให้เป็นของขวัญครับ
ประธานกรรมการหวางฝูซานแห่งเฉียนหยวนขอให้ท่านย่าอายุมั่นขวัญยืน ขอมอบภาพวาดที่มีชื่อเสียงแห่งยุคกลางหนึ่งภาพครับ
ประธานบริษัทเฟิงไห่ขอให้ท่านย่ามีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ขอมอบพระทองคำแท้1รูปครับ
วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ60ปีของท่านย่าหลิวเฟิ่งจื้อ ตั้งแต่ที่ท่านปู่ตระกูลเย่ป่วยหนักมานั้น กงการในตระกูลเย่ ก็มีท่านย่าล้วนเป็นคนตัดสินทั้นหมด
วันนี้มาเหล่าผู้มาร่วมอวยพร ล้วนเป็นผู้มีชื่อเสียงในหยินโจว
แขกเหรื่อเต็มงาน แต่ละคนล้วนเตรียมของขวัญมูลค่าสูงทั้งนั้น ช่างน่าอิจฉายิ่งนัก ของขวัญเหล่านี้รวมกัน คงมูลค่าสูงกว่าห้าร้อยล้าน
แต่เสียงต่อไปนี้ กลับทำให้แขกทั้งงานตะลึงงัน
เขยตระกูลเย่เซียวหยาง ขอให้ท่านย่าอายุยืนยาว ขอมอบ กาทองแดง1กา
พอคำพูดนี้กล่าวออกไป เหล่าแขกภายในงานต่างมองหน้ากันไปมา ทันใดนั้นก็เกิดเสียงเย้ยหยันขึ้นมา
“นี่คือเซียวหยางเขยสวะแต่งเข้าตระกูลเย่เมื่อสามปีก่อนนั้นใช่ไหม”
“เป็นเขานั้นแหละ ฉันก็ไม่รู้ว่าท่านปู่เย่คิดยังไง แม้ว่าพ่อของเย่หยุนซูจะมีความสามารถงูๆปลาๆ แต่เย่หยุนซูก็เป็นถึงคุณหนูพันช่างแห่งตระกูลเย่ จะไปคู่ควรกับไอ้สวะได้ยังไงกัน”
“สามปีที่ผ่านมาท่านย่า ไม่เคยให้เขาเหยียบเข้าตระกูลจริงเลยสักครั้ง ก็ไม่พอใจในตัวเขาน่ะสิ วันนี้เป็นวันเกิดท่านย่าเย่ทั้งที เขากับมอบกาทองแดงที่เกาะสนิมให้ มันช่างทำอะไรไม่คิดเลย”
เย่หยุนซูเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง หุ่นไม่แพ้ให้กับซุปเปอร์โมเดล ใบหน้าเข้ารูป ช่างเป็นรูปหน้าที่สวยสดงดงามสุดเกินจะบรรยาย
แต่ในเวลานี้ใบหน้าเกิดอึมครึมขึ้นมา
เธอดึงเซียวหยางที่ยืนอยู่ข้างๆไปที่มุม
“คุณ … หยุนซู เป็นอะไรหรือเปล่า?” เซียวหยางถามอย่างงงงวย
เย่หยุนซูกล่าวด้วยความโกรธ: “ถามว่าฉันเป็นอะไรงั้นเหรอ เงินห้าหมื่นหยวนที่ฉันให้คุณไปซื้อของขวัญอยู่ไหนแล้ว?”
เซียวหยางชี้ไปที่กาต้มน้ำทองแดงที่วางอยู่บนโต๊ะสีแดงอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว “นี่ไง”
“ห้าหมื่นหยวน คุณซื้อได้แค่กาทองแดงอันหนึ่งงั้นเหรอ วันนี้เป็นวันเกิดของคุณย่านะ คุณทำแบบนี้ได้ยังไง?”
หลังจากพูดแบบนี้ เย่หยุนซูก็เต็มไปด้วยความน้อยใจ เป็นเวลาสามปีแล้วที่เจ้าขยะนี้วันวันไม่ทำอะไรเอาแต่เกียจคร้าน ปกติซื้อกับข้าวทำกับข้าว ฝีมือการทำอาหารก็ไม่เลวอยู่ แต่นั้นจะไปมีประโยชน์อะไร?
ลูกผู้ชายตัวจริง ก็ต้องสำเร็จในงานการของตัวเอง ให้มันมีชื่อเสียงเกียรติยศขึ้นมาบ้าง ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ชาย
แต่เมื่อมองย้อนกลับไปมองที่เซียวหยาง ท่าทางเฉยเมยแต่ไหนแต่ไรของเขา ทำให้ผู้คนโกรธและเกลียดชัง
ถ้าเอาเรื่องในวันนี้มาพูด เงินห้าหมื่นหยวน ถึงแม้จะไม่มาก แต่ก็มากพอที่จะซื้อของขวัญที่มีหน้ามีตาได้บ้าง แต่เขากลับซื้อกาต้มน้ำทองแดงเน่าๆมา ทำขายหน้าในงานวันเกิดของคุณย่า
“หยุนซู แม้ว่ากาทองแดงกานี้ดูไม่ดี แต่มันเป็นของโบราณชิ้นหนึ่ง มีอายุมานานเกินกว่า2000ปี มูลค่ามากกว่าห้าสิบล้าน”
“โอ๋ย ห้าสิบล้าน ? คงไม่ได้ไปเลือกมาจากตลาดของโบราณหรอกนะ” เย่ถันหมิงเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มขัน
เย่ถันหมิงเป็นหลานที่ท่านย่าโปรดปรานที่สุด ถ้าไม่มีเหตุการณ์คับขัน วันข้างหน้าตระกูลเย่ก็จะอยู่ในอำนาจของเย่ถันหมิง
เซียวหยางมองไปที่เขาแวบหนึ่งอย่างนิ่งๆและพูดออกมาตามจริงว่า “ซื้อมาจากตลาดของโบราณจริงๆนั้นแหละ”
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา แขกที่มาร่วมงานก็ส่งเสียงหัวเราะกันให้ลั่นทันที
“ใคร ๆจะไม่รู้ว่า 80% ถึง 90% เป็นของปลอมที่ขายในตลาดของโบราณ คุณซื้อของปลอมก็ช่างมันเถอะ อย่างน้อยก็ควรเลือกที่ดูดีหน่อย คุณดูของขวัญที่ผมเตรียมไว้ให้คุณย่าดีๆนะ!”
เย่ถันหมิงมาตรงหน้าของแหวนเพชรหยกของเขา พูดอย่างได้ใจ
แท้จริงแล้วของขวัญของเซียวหยางไม่มีอะไรเทียบได้กับของขวัญของเขาเลย และ ของขวัญของเซียวหยางไม่มีค่าให้พูดถึง
ในเวลานี้ท่านย่าเดินค้ำไม้เท้าหัวมังกรเข้ามา กลุ่มญาติและแขกต่างยืนขึ้นด้วยท่าทีเคารพ
“ คุณย่า เซียวหยางไม่ได้เรื่อง ท่านอย่าได้โทษเขาเลยนะคะ รอให้หนูกลับไปก่อน แล้วจะเตรียมของขวัญดีๆให้นะคะ”
เย่หยุนซูรีบเดินขึ้นหน้าไป และให้ของขวัญท่านย่าไปก่อนหนึ่งชิ้น แม้ว่าเธอกับเซียวหยางจะเป็นแค่สามีภรรยาในนาม แต่ยังไงก็ต้องปกป้องด้วยหน่อย
ท่านย่ามองไปที่กาทองแดงนั้น และแสดงท่าทางรังเกียจ และส่งเสียงไม่พอใจดังออกมาจากรูจมูกของเขา
“ช่างเถอะ ครอบครัวของพวกเธอก็ไม่ได้มีเงินเท่าไหร่ ดังนั้นควรเก็บเอาไว้ใช้ชีวิตเถอะ หลานรัก งานเลี้ยงจะเริ่มแล้ว มาประคองย่าเข้าไปหน่อย”
เย่ถันหมิงทำเสียงตอบรับ รีบเข้าไปประคองเหล่าไท่จวิน และไม่ลืมที่จะหันกลับไปทำสายตาได้ใจใส่เย่หยุนซู
เย่หยุนซูกัดฟันด้วยความโกรธเกลียด เดิมทีอยากจะใช้โอกาสในงานเลี้ยงนี้ สร้างความประทับใจต่อท่านย่า แต่ดูเหมือนว่าทั้งหมดจะเสียเปล่าแล้ว
เมื่อเธอกำลังจะเดิมตามเข้าไป ก็ได้ยินเสียงเรียบๆของท่านย่าพูดออกมาว่า “โต๊ะหลักเต็มแล้ว พวกเธอไม่ต้องตามขึ้นไปแล้ว”
เย่หยุนซูหยุดชะงัก ความรู้สึกอับอายก่อเกิดขึ้นในใจไปหลายต่อหลายโครต
นี่มันแสดงถึงการดูถูกเหยียดหยามเย่หยุนซูต่อหน้าแขกเหรื่อมากมายชัดๆ ให้ความรู้สึกถึงการมีหลายสายตาที่มองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น เย่หยุนซูแทบอยากจะจากไปอย่างทนไม่ไหว
คุณพ่อไม่มีความสามารถอะไรไม่ว่า ถึงอย่างไรพ่อก็ใช้นามสกุลเย่ บวกกับการที่เขยแต่งเข้าเป็นคนไร้ค่า ในสายตาของท่านย่าก็มองไปถึงทั้งโครตของเย่หยุนซูใช้ไม่ได้ทั้งบ้าน
“หยุนซูอิจฉาไหม?” เซียวหยางถามด้วยรอยยิ้ม
เย่หยุนซูพูดอยากทนรำคาญไม่ได้ว่า “อิจฉาแล้วจะมีประโยชน์อะไร นั้นเป็นที่หลัก มีแค่คนสำคัญในตระกูลเย่เท่านั้นถึงจะนั่งได้ ฉันจะนับว่าเป็นอะไรได้”
“หลังจากที่ท่านปู่ป่วยหนัก ทั้งตระกูลเราก็ย้ายออกมา ใช้ชีวิตไปวันวัน “
“ทีแรกว่าจะใช้โอกาสเอาใจท่านย่า ให้ตระกูลเย่แบ่งทรัพย์สินมาให้บ้าง แต่ตอนนี้ล่ะ”
“ช่างเถอะ พูดกับคุณไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร เพราะคุณไม่เข้าใจ”
เย่หยุนซูพูดไปเรื่อยๆพลางน้ำตาไหล
เซียวหยางตกใจ ผมไม่เข้าใจงั้นเหรอ?
ผู้ชายมีความทะเยอทะยาน ดังหงส์สะท้านฟ้า
เขาไม่เคยคิดจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับเรื่องของตระกูลเย่เลย ไม่ใช่ว่าไม่อยาก แต่เพราะไม่คู่ควร
เซียวหยางคือผู้ก่อตั้งสำนักดราก้อน องค์กรลึกลับอันดับหนึ่ง นามว่าคิงดราก้อน ภายใต้ที่นั่งของเขามี ทูตสวรรค์เสราฟิม4คน และทูตสวรรค์หกปีก12คน ควบคุมอำนาจและความมั่งคั่งของครึ่งโลกไว้
นับได้ว่า ประโยคเดียวของเซียวหยาง ไม่เพียงแต่ตระกูลเย่ ต่อให้เป็นตระกูลระดับท็อปทั้งหมดในเมืองหยินโจว ก็ล้วนแต่ถูกครอบงำอยู่ในอำนาจแห่งความเป็นความตายทั้งนั้น
เขาไม่เข้าใจงั้นเหรอ?
เขาเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านมาสามปี ก็เพียงเพื่อเติมเต็มความปรารถนาในปีนั้น
หลายปีผ่านไป เซียวหยางหลงรักเย่หยุนซูอย่างหมดใจ ถือว่าเย่หยุนซูเป็นภรรยาของตัวเองแล้วจริงๆ
ทุกครั้งที่เย่หยุนซูกลับมาจากตระกูลเย่ ใบหน้าก็มักจะยิ้มเสมอ เซียวหยางเดิมทีคิดว่าเย่หยุนซูต้องมีฐานะที่ดีในตระกูลเย่แน่
แต่วันนี้ที่เห็น กลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เซียวหยางพูดอย่างใจเย็นว่า “หยุนซู ถ้าหากคุณชอบ ผมก็จะทำให้คุณได้นั่งอยู่บนที่นั่งนั่น”