เซียวหยางเลิกคิ้ว มองออกว่าหมอนี่ไม่ค่อยเหมือนคนทั่วไป มีความดุร้ายแฝงอยู่ในตัว
“ให้เรียกว่าไงดีครับ?” เซียวหยางยิ้มเรียบ ๆ พลางเอ่ยพูด
“ซองหลัน เป็นเจ้าของบ่อนแห่งนี้ ฉันเห็นวันนี้น้องชายดวงดีใช้ได้ เลยอยากเล่นกับน้องชายสักหน่อย ไม่รู้ว่าน้องชายจะเห็นแก่หน้าฉันหรือเปล่า?”
เซียวหยางยิ้มมุมปาก ที่แท้ก็เป็น boss ผู้อยู่เบื้องหลังนี่เอง เพิ่งชนะได้ไม่เท่าไหร่เอง ก็เรียกเจ้าของออกมาแล้วเหรอ
“ได้สิครับ คุณคิดจะเล่นยังไง?” เซียวหยางคิดว่าอุตส่าห์มาถึงที่แล้วก็ไม่ควรปฏิเสธ
“ง่ายมาก เล่นไฮโลนี่แหละ ฉันเป็นคนเขย่า นายทาย ทายสูงต่ำก็พอ”
“ขอให้นายวางเดิมพันทั้งหมด ฉันจะลงชิปเป็นสองเท่า ถ้านายชนะ เงินเป็นของนาย ถ้านายแพ้ เงินเป็นของฉัน ยุติธรรมไหม?”
เซียวหยางหัวเราะเหอะเหอะ “ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด ผมเอาเปรียบคุณชัด ๆ”
ซองหลันยิ้มอย่างมั่นใจ “งั้นนายต้องชนะก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
บรรยากาศมาคุเป็นอย่างมาก
“เอาแบบนี้แล้วกัน ผมจะไม่ชนะให้มากนักหรอก ในนี้มีอยู่หนึ่งล้าน ถ้าหาผมชนะคุณให้ผมสองล้าน ส่วนที่เกินมาผมไม่ต้องการ ไม่มีปัญหาใช่ไหม”
ทุกคนอึ้งกันอีกครั้ง ไอ้คนนี้สมองมันมีปัญหาหรือเปล่า ใครไม่อยากได้เงินเยอะ ๆ บ้างน่ะ ที่จริงสามารถชนะได้ถึงสามล้าน แต่เขากลับต้องการแค่สองล้าน?
เซียวหยางไม่ได้ขาดแคลนเงิน เขาพูดแค่คำเดียว สำนักดราก้อนก็สามารถหอบเงินใส่กล่องหลายกล่องส่งมาให้เขาได้เลย เพียงแต่เขาไม่ชอบไปคลุกคลีกับคนตามท้องถนน
“ดูท่าทางนายคิดว่านายต้องชนะแน่นอน?” ซองหลันดวงตาเป็นประกายขึ้นมา
“ผมต้องชนะแน่นอน คนที่สามารถเอาชนะผมได้ก็มี แต่เห็นได้ชัดว่าคุณไม่ใช่หนึ่งในนั้น” เซียวหยางพูดอย่างเอาแต่ใจมาก
“แม่ง ไอ้นี่ มึงอวดดีเกินไปแล้วมั้ง?”
“มึงเป็นใคร ถึงได้กล้ามาพูดแบบนี้กับลูกพี่ของพวกกู?”
“มึงลองกล้าอวดเก่งอีกสิ กูจะจัดการมึงซะเดี๋ยวนี้เลย!”
ลูกน้องสวมสูทสองสามคนเป็นเดือดเป็นร้อนแทนลูกพี่ตัวเองขึ้นมา
ซองหลันโบกปัดมือ ห้ามลูกน้องด้านหลังเอาไว้
“น้องชายคนนี้ ดูท่าทางนายยังไม่รู้จักฉันดีพอ ฉันมั่นใจในฝีมือการพนันของฉันมาก นายพูดแบบนี้ ทำให้ฉันรู้สึกอับอายมากเลยนะ”
เซียวหยางยกมุมปาก แล้วเอ่ยพูด “เอาแบบนี้แล้วกัน ผมจะให้คุณแพ้จนยอมผมทั้งใจเลย คุณเขย่าลูกเต๋า ผมทายแต้มลูกเต๋า!”
เมื่อคำพูดนี้ดังขึ้น ทุกคนก็ฮือฮากันขึ้นมาทันที
“ทายแต้มลูกเต๋า ไอ้หนุ่มนี่มันบ้าหรือเปล่าเนี่ย แม่งเอ้ยใครจะไปทำได้วะ?”
“นายอย่าเพิ่งไม่เชื่อไปก่อน ยอดฝีมือจริง ๆ สามารถทายแต้มได้แม่นยำเลยล่ะ”
“นั่นมันไว้แสดงในทีวี กูไม่เชื่อหรอก ลูกเต๋านี้ก็เหมือนกัน จะฟังจนรู้แต้มลูกเต๋าได้ยังไง?”
ซองหลันจุดซิการ์สูบด้วยความเคยชินหนึ่งมวน สูบหนึ่งครั้ง แล้วเอ่ยพูด “ตกลง นายมันใจถึงดี ฉันจะเล่นเป็นเพื่อนนายสักครั้ง!”
พูดจบ เขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไป จับถ้วยขึ้นมา เคาะกับโต๊ะหนึ่งครั้ง ลูกเต๋าสามลูกกระดอนเข้าไปอยู่ในถ้วย เสียงก๊อกแก๊ก ๆ ดังอยู่ในถ้วย จากนั้นก็ถูกเขย่าไปมา
ไม่ได้มีท่าทางอะไรมากมาย เพียงแค่เขย่าแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เท่านั้น ความถี่เร็วขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายได้ยินเพียงเสียงที่เหมือนแมลงบิน แยกเสียงลูกเต๋าที่ถูกเขย่าไม่ออกเลยสักนิด
ถ้าหากสามารถฟังจำนวนแต้มได้ แสดงว่าเจอเรื่องเหนือธรรมชาติเข้าแล้วล่ะ
ซองหลันยิ้มอย่างได้ใจ ไอ้นักพนันคนนี้ไม่รู้จักของดีหรอก ที่เขาใช้น่ะเป็นหนึ่งในทักษะพันรูปแบบ ที่เรียกว่ามือพยัคฆ์คำราม!
ซองหลันกล้าเปิดบ่อนการพนัน เขาต้องมีเงินทุนอยู่แล้ว สำหรับทักษะการพนัน เขาศึกษาค้นคว้ามาเป็นอย่างดี ถึงขนาดจ่ายเงินจำนวนมากมายมหาศาลเพื่อให้นักพนันยอดฝีมือระดับปรมาจารย์มาเป็นอาจารย์สอนเขา
การที่เซียวหยางทายแม่นทุกรอบ เขาคิดว่าอีกฝ่ายต้องฟังเสียงลูกเต๋าออกแน่นอน ดังนั้นเขาจึงใช้เทคนิคมือพยัคฆ์คำรามนี้มาทำลายทักษะการฟัง!
ฮ่องกง มาเก๊าและลาสเวกัสที่เป็นแหล่งการพนันขึ้นชื่อของโลก ซองหลันไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม แต่ถ้าหากพูดถึงเมืองหยินโจวเล็ก ๆ แห่งนี้ เขามั่นใจมากว่าไม่มีทางเสียชื่อแน่นอน
การฟังแต้ม สำหรับในแวดวงของนักพนันยอดฝีมือไม่ได้ถือว่าเป็นทักษะที่เก่งกาจอะไร ทำลายทักษะกันฟังได้ ถึงจะเรียกว่ายอดฝีมือ
แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ทักษะพันรูปแบบของซองหลันนั้น สำหรับเซียวหยางแล้วไม่ได้ถือว่าสุดยอดอะไรเลย หลายปีก่อน การพนันเกมนั้นที่เขาเล่นกับเทพโพธิ์แดง A ซึ่งเป็นเทพพนันที่มือชื่อเสียงของโลก แบบนั้นต่างหากถึงเรียกว่าสุดยอดจนใครก็เทียบไม่ติด
ตึง!
ซองหลันวางถ้วยเขย่าลงบนโต๊ะ จากนั้นก็ยิ้มอย่างมั่นใจ แล้วพูดว่า “น้องชาย ทายแต้มดูสิ”
เซียวหยางไม่ได้พูดอะไร ซองหลันยิ่งยิ้มชั่วร้ายออกมา ดูท่าทางไอ้หนุ่มนี่คงฟังไม่ออก ครั้งนี้มันต้องแพ้แน่นอน!
นักพนันทุกคนต่างมีสีหน้าเลิ่กลั่กกันเป็นแถว เทคนิคของซองหลันเมื่อครู่นี้น่าประหลาดมากเกินไปแล้ว ดุเดือดมากเหลือเกิน ฟังอะไรไม่ออกเลยสักนิด เซียวหยางแพ้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
เซียวหยางเอ่ยพูดอย่างไม่ร้อนรนใจ “เมื่อกี้ผมพิจารณาปัญหาอยู่เรื่องหนึ่ง”
“อ้อเหรอ? ปัญหาเรื่องอะไรล่ะ?”
“ถ้าหากลูกเต๋าวางซ้อนกัน เหตุการณ์แบบนี้ ที่นี่พวกคุณนับแต้มกันยังไงเหรอ?”
แต่ละที่มีกฎเกณฑ์ไม่เหมือนกัน เซียวหยางต้องถามเรื่องกฎเกณฑ์ให้เข้าใจก่อนอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้คนพวกนี้หาข้ออ้างไม่จ่ายเงิน
คราวนี้ ในที่สุดซองหลันก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป ไอ้หนุ่มนี่มองเทคนิคของตัวเองออกงั้นเหรอ?
ระหว่างที่เขย่าลูกเต๋าเขาเล่นตุกติกจริง ๆ นั่นแหละ ทำให้ลูกเต๋าวางซ้อนกัน แต่เพียงครู่เดียว เขาก็สงบนิ่งเป็นปกติ
แม้ว่าเขาจะมองออกว่ามีการเล่นตุกติกก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ไม่สามารถทายแต้มที่เกิดจากการเขย่าด้วยเทคนิคมือพยัคฆ์คำรามอยู่ดี!
“หยิบลงมา นับแต้มด้านที่ลูกเต๋าหงายขึ้นทั้งสามลูก”
เซียวหยางยิ้มเล็กน้อย “5 5 6 ทั้งหมดคือ 16 แต้ม”
ซองหลันขมวดคิ้ว หายใจเร็วขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
“นายแน่ใจเหรอ?”
เซียวหยางพยักหน้า “แน่ใจอยู่แล้ว”
ซองหลันกัดฟัน ค่อย ๆ เปิดถ้วยลูกเต๋าออกมาช้า ๆ ทุกคนที่อยู่ในบ่อนต่างจ้องมองจนตาลุกเป็นไฟ
เป็นอย่างที่คาดไว้ไม่มีผิด ลูกเต๋าสามลูกถูกวางซ้อนกัน
ลูกที่อยู่ด้านบนสุดมี 6 แต้ม
จากนั้นเอาลูกเต๋าแต่ละลูกวางลงบนโต๊ะ แต้มที่ปรากฏอยู่ด้านบนแยกเป็น 5 5 และ 6!
เซียวหยางทายถูกจริง ๆ ด้วย!
ทันใดนั้น ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็พาตกตะลึงด้วยความประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ในบ่อนตกอยู่ในความเงียบ แม้แต่เสียงเข็มหล่นก็คงได้ยิน
“ผมชนะแล้ว” เซียวหยางเอ่ยพูดอย่างสบาย ๆ
ซองหลันตัวสั่นไปหมดทั้งตัว รูม่านตาขยายกว้างขึ้นมาในเสี้ยววินาที
เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ ว่าเซียวหยางจะทายแต้มของตัวเองได้ถูกต้อง เขาไม่ได้เสียดายเงินสองล้านนั่นหรอก เขาสนใจเงินเล็กน้อยนั่นเลยด้วยซ้ำ
แต่ที่เขาประหลาดใจก็คือ เขาใช้เทคนิคมือพยัคฆ์คำรามแท้ ๆ พวกนักพนันยอดฝีมืออาศัยทักษะการฟังไม่สามารถฟังจำนวนแต้มออกแน่นอน
แต่ทำไมเซียวหยางกลับสามารถฟังออกล่ะ อาจารย์ของเขาเคยบอกไว้ว่า คนที่สามารถฟังแต้มจากเทคนิคมือพยัคฆ์คำรามได้นั้น อย่างน้อยต้องเป็นยอดฝีมือด้านการพนันระดับปรมาจารย์
หรือว่าไอ้หนุ่มคนนี้จะเป็นระดับปรมาจารย์?
เป็นไปไม่ได้ เขาคอยติดตามวงการพนันทั่วโลกมาตลอด เขาไม่เคยได้ยินว่ามีปรมาจารย์ที่อายุน้อยขนาดนี้มาก่อน!
ซองหลันสงบจิตสงบใจสักครู่ แล้วอดไม่ได้ที่จะถามออกไป :
“น้องชาย ไม่ทราบว่าอาจารย์ของนายคือท่านไหนเหรอ?”
“เซียวหยางยักไหล่ “ผมไม่มีอาจารย์”
ซองหลันไม่เชื่อคำพูดนี้อยู่แล้ว “ในเมื่อน้องชายไม่เต็มใจที่จะบอก ฉันก็ไม่ฝืนใจหรอก ฉันบอกนายอย่างไม่เกรงกลัวเลยนะ ว่าฉันเป็น 18 มงกุฎคนหนึ่ง”
เซียวหยางพูดอย่างเรียบ ๆ ว่า “ผมดูออกตั้งแต่แรกแล้วครับ แต่ก็ไม่เท่าไหร่หรอกนะ”
เมื่อครู่นี้เขาใช้เทคนิคมือพยัคฆ์คำราม ความเร็วของมือยังห่างชั้นกับปรมาจารย์อยู่มาก ถ้าหากเซียวหยางใช้เทคนิคนี้ ความเร็วของมืออย่างน้อยต้องเร็วกว่าเขาสามเท่า
“อะไรนะ? ไอ้นี่มันโอหังเกินไปหน่อยแล้วมั้ง!”
“ชนะแค่ครั้งเดียวมันจะเก่งสักแค่ไหนเชียว ฉันจะเตือนแกไว้นะ อย่ามาพูดจาแบบนี้กับลูกพี่ของพวกฉัน!”
ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังโวยวายขึ้นมาอีกครั้ง
“หุบปากกันให้หมด!” ซองหลันตะคอกเสียงแข็ง
บรรดาลูกน้องต่างพากันเงียบลงทันที
ถึงแม้เซียวหยางจะดูโอหังอวดดีมาก แต่เขาก็มีดีให้อวดให้โอหังจริง ๆ นั่นแหละ
“ฉันนับถือในความสามารถของน้องชาย พวกเรามาเป็นเพื่อนกันดีไหม ว่าไง?”