บทที่ 20 การปรากฏตัวของนักฆ่า
เมื่อเซียวหยางเห็นใบหน้าที่แดงก่ำด้วยความโกรธของเย่หยุนซู เขาหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “เธอปกติงานหนักจะตาย อยากให้เธอผ่อนคลายสักหน่อย”
เย่หยุนซูพูดไม่ออก “ฉันไม่ผ่อนคลายเลยสักนิด”
“สงสัยยังตื่นเต้นไม่พอ”
เซียวหยางหัวเราะออกมา ก่อนที่จะเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็ว พุ่มทะยานราวจรวดออกจากอุโมค์ กลับสู่เส้นทางหลัก
กฎจราจรไม่อยู่ในหัวชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อย ภายในเวลาอันสั้นเขาทำผิดทุกข้อ
“นายขับรถยังไง บ้าไปแล้วหรือ?”
“เกิดประกายไฟแล้ว รีบไปตายหรือไง”
รถยนต์บริเวณโดยรอบต่างลดความเร็ว เลื่อนกระจกรถลง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทุกคนต่างตกตะลึงกับความสามารถในการบังคับรถของเขา
เขาไม่ได้โอ้อวดแต่อย่างใด ที่เขาต้องทำเช่นนี้ เพื่อหลบหลีกอันตรายที่จะเกิดขึ้นอีกครั้ง
ศัตรูอยู่ที่ลับ ตนอยู่ที่แจ้ง
เซียวหยางไม่รู้เลยบนถนนสองข้างทาง ยังมีนักฆ่าอื่นอีกหรือไม่ รถยนต์คันอื่นๆบนท้องถนน มีศัตรูอื่นแอบแฝงอยู่ด้วยหรือไม่
ทั้งหมด ไม่สามารถหยั่งรู้ได้เลย
ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะสลับเลนท์ซ้ายขวาราวฟันปลา เพื่อปิดโอกาสที่ศัตรูอื่นคิดจะลงมือปฏิบัติการ
แปดนาฬิกาสี่สิบห้านาที เครื่องยนต์ถึงที่หมายเป็นที่เรียบร้อย เซียวหยางจึงเดินลงมาจากรถ
เย่หยุนซูวิงเวียนศีรษะ จนแทบเป็นลมล้มพับไปกองกับพื้น
“เซียวหยาง ไอ้บ้า เป็นคนขับรถวันแรก ก็ทำแบบนี้กับฉันแล้ว!”
“แหวะ…..”
เย่หยุนซูเปิดประตูรถออก อาหารเช้าที่ทานเข้าไปแทบทะลักออกมาจนหมด
นี่มันเดินทางมาทำงานที่ไหนกัน เดินทางลงนรกชัดๆ หากต้องเจอเหตุการณ์เช่นนี้ทุกวัน เธอคงหัวใจวายเสียก่อน
ไร้คำพูดใดหลุดออกจากปากเซียวหยาง เขาเอื้อมมือโอบเอวบางของเย่หยุนซูเอาไว้ ก่อนดึงเธอลงจากรถ
“เห้ ทำอะไรของนาย ปล่อยฉัน!”
“เซียวหยาง นายจะเกินไปแล้วนะ กล้าดียังไงมาแตะต้องตัวฉัน”
เย่หยุนซูรู้สึกได้ถึงสัมผัสของมือหนา ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทุกทิศ เลือดในกายสูบฉีดพรุ่งพร่าน
เธอกำลังปฏิเสธ
“อย่าดื้อ เลิกโหวกเหวกได้แล้ว อยู่นิ่งๆ ฉันจะพาเธอขึ้นไปข้างบน”
เสียงของเซียวหยางกึกก้องในแก้วหูของเธอ ก่อนที่เธอจะตระหนกกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เซียวหยางยกเธอขึ้นพาดบ่า มุ่งไปยังทิศทางที่ลิฟท์ตั้งอยู่
หญิงสาวร้องเสียงหลง ใบหน้าแดงก่ำ
หยาบกระด้าง ป่าเถื่อน
วันนี้เธอสวมกระโปรงสั้นกับถุงน่อง ต้องโป๊ะแน่ๆเลย นายนี่มันสมควรตายที่สุด!
“เซียวหยาง นายจะทำอะไรกันแน่ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้”
เธอคิดว่าเซียวหยางเป็นคนซื่อมาโดยตลอด สามปีมานี้ เขาไม่เคยทำอะไรเกินเลยต่อเธอเลย
ใครจะไปคิด หลังจากที่น้องสาวเธอเข้าใจเขาผิดในวันนั้น เขากลับเปลี่ยนไปราวคนละคน กล้าแตะต้องตัวเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
หรือว่าเรื่องในวันนี้กระทบต่อจิตใจเขา ทำให้นายนี่เข้าใจความหมาย ของการชิงสุกก่อนห่าม?
นึกได้ดังนั้น เย่หยุนซูแทบร้องไห้ออกมา
ให้ตาย เธอไม่ยอมเสียตัวให้กับเซียวหยางแน่
เมื่อเทียบกับเย่หยุนซูที่ดิ้นทุรนเตะเขาอย่างบ้าคลั่ง เซียวหยางยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย พร้อมส่งไปตากวาดไปทั่วอย่างระแวดระวัง
ชายหนุ่มสาวเท้าก้าวยาว มาถึงหน้าลิฟท์ ก่อนที่จะวางหญิงสาวลง
“ไปที่ห้องทำงานเลย ช่วงนี้อย่าไปเพ่นพ่านที่ไหน”
เซียวหยางยังคงความนิ่งเฉย ไร้ความตื่นตระหนกแม้แต่น้อย
เมื่อเย่หยุนซูเท้าแตะถึงพื้นเธอถดถอยหลบอยู่ที่มุมหนึ่ง เสมือนกระต่ายน้อยตื่นตูม เตรียมปะทุอารมณ์ แต่กลับพบใบหน้าเซียวหยางที่ไร้คารมณ์ ไม่เหมือนอย่างที่เธอคาดคะเน
โดยเฉพาะดวงตาแน่วแน่คู่นั้น ที่ฉายแววกังวลอะไรบางอย่าง
เมื่อครู่ยังป่าเถื่อนมากแท้ๆ แต่ตอนนี้…..
ขณะที่เธอตกอยู่ในภวังค์ ถึงชั้นที่เธออยู่เสียก่อน เย่หยุนซูออกจากลิฟท์อย่างเร่งรีบ แต่เซียวหยางกลับไม่ออกมาด้วย ตรงกันข้ามเขากลับกดตัวเลขลงชั้นล่าง
“เซียวหยาง นายจะไปไหน ไม่เข้างานหรือ?”
“เห้ กลับมาเดี๋ยวนี้ ฉันจะหักเงินเดือนนาย!”
เย่หยุนซูส่งเสียงร้องอย่างหัวเสียอยู่ด้านนอกลิฟท์
ยามรักษาความปลอดภัยของบริษัทหยุนซูถือว่าใช้ได้ เย่หยุนซูอยู่ในบริษัทไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ตอนนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับบุคคลที่ปล่อยลูกกระสุนเสียหน่อย
เซียวหยางกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา เขาเดินมาที่รถ ก่อนเร่งเครื่องพุ่งทะยานออกไปยังถนนใหญ่
เสมือนไฟฟ้า ที่ทะลุไปยังถนนสายหลัก ด้วยความเร็วที่มากกว่าเมื่อสักครู่อยู่ไม่น้อย
เซียวหยางคาดเดาได้ในทันที มีนักฆ่าคนหนึ่งซ่อนตัวอยู่ที่อพาร์ทเม้นที่เพิ่งสร้างเสร็จข้างหน้า
ปกติแล้ว หากสไนเปอร์ยิงไม่โดนเป้าหมายในสามนัด ก็จะเปลี่ยนทิศทางทันที เขาเร่งความเร็วหน่อย คงยังทัน
หลายนาทีผ่านไป เซียวหยางลงจากรถ เดินเข้าไปยังอพาร์ทเม้น
หากแต่ถูกยามเฝ้าประตูรั้งเอาไว้
ยามหนุ่มวัยรุ่นอายุราว20ต้นๆ
เซียวหยางรู้ดี อพาร์ทเม้นนี้ไม่มีผู้อยู่อาศัย ยามรักษาความปลอดภัยค่อนข้างว่างนัก หาข้ออ้างอะไรสักอย่างก็คงเข้าไปได้แล้ว
“ขอโทษด้วยครับ คนนอกห้ามเข้า”
“น้องชาย ผมมาจากแผนกพิเศษ จะเข้าไปตรวจกล้องวงจรปิดสักหน่อย”
เซียวหยางล้วงกระเป๋ากางเกงควักใบรับรองพิเศษของสำนักดราก้อนออกมา
เมื่อได้เห็นใบรับรองนี้ สามารถได้รับสิทธิพิเศษทุกที่
ยามรักษาความปลอดภัยไม่รู้ถึงความสำคัญนี้อยู่แล้ว เซียวหยางเปิดใบรับรองออก หน้าแรกปรากฎประโยค : ใบอนุญาตพิเศษ
พร้อมด้านล่านที่มีตราประทับของแผนกลับพิเศษ
“ให้ความร่วมมือด้วยครับ มีนักฆ่าหลบซ่อนอยู่ด้านใน”
ยามหนุ่มตกตะลึง พร้อมเอ่ยขึ้นด้วยความลำบากใจ “เข้าไปได้ แต่กล้องวงจรปิดจะดูตามอำเภอใจไม่ได้ นี่เป็นกฎระเบียบของที่นี่”
เซียวหยางไม่มีเวลามากพอที่จะเสียอีกแล้ว เขาเร่งฝีเท้ามายังห้องควบคุม พร้อมเปิดกล้องวงจรปิดดู
แต่สิ่งที่ทำให้เซียวหยางหัวเสีย ในห้องนี้ มีเพียงกล้องวงจรปิดของตึกที่อยู่ละแวกใกล้เคียง หากนักฆ่าหลบหนีไปทางประตูอื่น ที่นี่ไม่สามารถสืบหาได้เลย
ไม่มีเวลาแล้ว
นักฆ่าคนนี้ถือว่าอยู่ในระดับกลาง ไม่สามารถลบหลักฐานทั้งหมดออกไปได้ จึงทำได้เพียงปกปิดตัวตนท่ามกลางฝูงชน
หากเขาออกจากตึก อยู่ท่ามกลางฝูงชน คงยากที่จะจับตัวได้
เซียวหยางควักโทรศัพท์ออกมา ต่อสายหาใครบางคน
“ฮัลโหล กุ่ยเหย่น ค้นหาโลเคชั่นในโทรศัพท์ฉัน หากล้องวงจรปิดทั้งหมดในอพาร์ทเม้นนี้ ภายในครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา ให้เวลานายสองนาที”
“ครับ นายท่าน”
เซียวหยางตัดสายทิ้งพร้อมรออย่างอดทน ยามรักษาความปลอดภัยข้างๆ คิดจะเข้ามาช่วยเหลือ หากแต่ถูกพลังแห่งความดุดันที่แผ่ซ่านไปทั่วทุกทิศของเซียวหยางหักห้ามเอาไว้เสียก่อน
สักครู่ ภาพวงจรปิดทั้งหมดปรากฏขึ้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์
ยามรักษาความปลอดภัยที่ยืนดูสถานการณ์อยู่อีกมุม นิ่งอึ้งไปเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
ชายหนุ่มล็อคเป้าหมาย นิ้วเรียวดีดเด้งไปมาบนแป้นพิมพ์ราวเต้นระบำ ภาพบนหน้าจอสลับสับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ยามหนุ่มมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างหัวหมุน
ต่างจากเซียวหยาง ที่บันทึกภาพทั้งหมดในหัวอย่างแม่นยำ
ในเวลานี้เอง ชายหนุ่มโฟกัสเป้าหมาย
หยุด!
ตรงนี้แหละ!