บทที่ 33 เป็นฝ่ายนำ
เถ้าแก่เนี้ยมองดูเซียวหยางและจูเจียนเฉียงถูกตำรวจพาตัวไปแล้ว ในใจก็ร้อนรนอย่างหาที่เปรียบมิได้ แต่ก็ไม่มีหนทางอื่น
ในใจก็มีความรู้สึกละอายอยู่บ้าง ถึงอย่างไรก็เป็นเพราะช่วยตัวเอง ถึงได้ถูกตำรวจพาตัวไป
เธอโยนเรื่องที่เซียวหยางลวนลามตัวเองไปไกลสุดขอบฟ้านานแล้ว เพียงแค่ขอให้เซียวหยางสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัยไม่มีโรคภัยไข้เจ็บใดๆ
รถตำรวจขับเคลื่อนออกไป ประมาณสิบนาที ก็ไปถึงสถานีตำรวจ
เซียวหยางและจูเจียนเฉียงถูกพาตัวไปที่ห้องสอบปากคำ
ห้องสอบปากคำมีขนาดเพียงแค่ไม่กี่ตารางเมตร ข้างกำแพงด้านบนมีหน้าต่างบานเล็กบานหนึ่ง เห็นได้ชัดเจนว่าภายในห้องค่อนข้างมืดสลัว ในมุมหนึ่งมีกล้องวงจรปิด
เพิ่งจะถึงห้องสอบปากคำ จูเจียนเฉียงก็เป็นฝ่ายดึงเก้าอี้ตัวหนึ่งออกมาให้เซียวหยางนั่ง บีบหลังนวดเท้าให้เซียวหยางด้วยความเอาใจใส่ ท่าทางเหมือนสุนัขรับใช้ตัวหนึ่ง
“พี่หยาง วางใจเถอะ ก็แค่บันทึกคำให้การ อีกครู่หนึ่งก็สามารถออกไปได้แล้ว”
เซียวหยางก็ไม่ได้ร้อนใจ ถึงอย่างไรช่วงกลางวันเย่หยุนซูก็ไม่สามารถออกจากบริษัทได้ ขอเพียงแค่กลับไปที่บริษัทหยุนซูก่อนเลิกงานก็ไม่มีปัญหาแล้ว
“ถูกแล้ว พี่หยาง พี่สูบบุหรี่สินะ” จูเจียนเฉียงจำได้ว่าเซียวหยางดูเหมือนจะสูบบุหรี่ มือสองข้างลูบไปที่กระเป๋า สุดท้ายแล้ววันนี้ก็ลืมพกบุหรี่มาด้วยจริงๆ
ดังนั้นจึงเดินโซเซไปที่หน้าประตู เอ่ยประจบสอพลอกับนายตำรวจที่อยู่ด้านข้างคนหนึ่งว่า “สหาย มีบุหรี่ไหม ยืมสูบสักมวนสิ”
นายตำรวจรู้ว่าเซียวหยางเพิ่งจะชกต่อยนักเลงสี่คนนั้นด้วยตัวคนเดียว เพียงแต่ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องขัดแย้งกับผู้บังคับการเล็กน้อย ถึงได้ถูกนำตัวกลับมาด้วย
เพียงแต่จะว่าไปแล้ว สองคนนี้ก็ถือได้ว่าเป็นผู้ที่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง นายตำรวจจึงส่งบุหรี่สองมวนให้เขาอย่างเป็นมิตร
จูเจียนเฉียงเอ่ยขอบคุณ วิ่งเหยาะๆเข้ามาจุดบุหรี่ให้กับเซียวหยาง เพิ่งจะสูบไปได้คำหนึ่ง
เสียงประตูถูกเปิดออกดังปัง เจียงเซิ่งหนานเดินเข้ามาด้วยใบหน้าถือดี ด้านหลังยังมีนายตำรวจจดบันทึกตามมาด้วยคนหนึ่ง
“หัวหน้าทีมเจียง สบายดีไหมครับ พวกเราพบกันอีกแล้วนะ” เซียวหยางยิ้มหยอกล้อ
ในใจเจียงเซิ่งหนานยังคงรู้สึกซาบซึ้งต่อเซียวหยาง ถึงอย่างไรเขาก็ช่วยตัวเองไขคดีความผู้ค้ายาเสพติดนี้ได้
แต่มีหนึ่งก็พูดหนึ่ง ว่ากันไปตามความจริง ยิ่งเซียวหยางแสดงออกว่ามีความสามารถ เธอก็ยิ่งสงสัยว่าเซียวหยางมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนักฆ่า
คนขับรถตัวเล็กๆคนหนึ่ง จะสามารถเก่งขนาดนี้ได้อย่างไรกัน คราวนี้จะต้องจับเอาตัวการใหญ่ออกมาได้อย่างแน่นอน
ความตระหนักในภารกิจและความรู้สึกรับผิดชอบ ทำให้เจียงเซิ่งหนานเกิดความอยากรู้อยากเห็นในตัวเซียวหยางเพิ่มขึ้น
“อย่ามายิ้มหน้าบาน ทำตัวดีๆหน่อย”
เซียวหยางนั้นไม่ได้สนใจ กลับกวาดตามองเรือนร่างงดงามของเธอครั้งหนึ่ง เอ่ยอย่างจริงจังว่า
“เจ้าหน้าที่เจียง ผมขอเตือนคุณว่าอย่าโมโหง่ายๆแบบนี้ ผู้หญิงน่ะ ทุกเดือนล้วนมีสิ่งนั้นหลายวัน มีโทสะบ่อยๆจะปวดท้องประจำเดือนเอาได้ง่ายๆนะ”
อะไรนะ
นายตำรวจสองคนมองหน้ากันไปมา หัวหน้าทีมเจียงประจำเดือนมาหรือ มิน่าสองวันนี้ถึงได้อารมณ์เสียง่ายขนาดนี้
เพียงแต่ว่าพวกเขาก็ค้นพบได้ในทันทีว่าไม่ปกติ เจ้าหมอนี่รู้ได้อย่างไรว่าหัวหน้าทีมเจียงประจำเดือนมา
เจียงเซิ่งหนานชะงักค้าง จากนั้นใบหน้างามก็แดงก่ำขึ้นมาในเสี้ยววินาที
“เซียวหยาง คุณยังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ที่นี่เป็นสถานีตำรวจ ไม่อนุญาตให้พูดเหลวไหล!”
เซียวหยางแบมือออก เอ่ยอย่างเป็นผู้บริสุทธิ์ว่า “ผมไม่ได้พูดเหลวไหล สีหน้าคุณขาวซีด เลือดไม่พอ เห็นได้ว่าปกติทำงานเหนื่อยเกินไป ช่วงประจำเดือนเสียเลือดมากเกินไป ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป คุณจะโลหิตจางเอาได้”
“ยังมีอีก ขาข้างซ้ายของคุณน่าจะได้รับบาดเจ็บ เวลาเดินจึงเป๋ไปเป๋มาอยู่บ้าง ทางที่ดีที่สุดควรจะพักฟื้นเดือนหนึ่ง ไม่อย่างนั้นจะทิ้งผลข้างเคียงในภายหลังได้”
เซียวหยางเอ่ยจริงจัง ไม่เหมือนการล้อเล่นแม้แต่น้อย
ที่จริงแล้วเขาก็พูดถูกจริงๆ นายตำรวจสองคนนี้สามารถเป็นพยานได้ ขาข้างซ้ายของเจียงเซิ่งหนานได้รับบาดเจ็บเมื่อสองวันก่อนตอนที่ปฏิบัติภารกิจ ยังไม่คล่องแคล่วดีนัก
ดูท่าเจ้าหมอนี่จะรู้จักกับหัวหน้าทีมเจียงจริงๆ ไม่อย่างนั้นจะรู้มากขนาดนี้ได้อย่างไร
“คุณหุบปากนะ อย่าพูดถึงเรื่องไร้สาระพวกนี้ รีบพูดเรื่องสำคัญ คุณยังรู้อะไรเกี่ยวกับคดีฆ่าคนอีก รีบสารภาพความจริงออกมาเสีย!”
เจียงเซิ่งหนานมือสองข้างเท้าสะเอว โกรธจนบริเวณทรวงออกกระเพื่อม
เซียวหยางตกใจอยู่เงียบๆ ไม่เลวเลย เจียงเซิ่งหนานมีขนาดใหญ่กว่าเถ้าแก่เนี้ยเสียอีก กระเพื่อมไปมาจนเห็นได้ชัดเกินไปแล้ว
“หัวหน้าทีมเจียง ที่จริงแล้วตรงนั้นของคุณใหญ่ขนาดนี้ ไม่เหมาะสมที่จะทำอาชีพนี้ อย่างแรกคือเพิ่มความเสี่ยง อย่างที่สองคือ ตอนที่คุณเข้าเวรก็ไม่สะดวก”
นายตำรวจสองคนนั้นตะลึงค้างไปอีกรอบ กวาดตามองส่วนนั้นของหัวหน้าทีมเจียงก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าไม่หยุด
พูดได้ถูกต้องเป็นอย่างมาก พวกเขามองออกนานแล้วว่า ตาของเจ้าหมอนี่ยอดเยี่ยม พูดออกมาแต่ละประโยคเป็นข้อมูลเชิงลึกและสายตาที่ลึกซึ้ง
นัยน์ตาเมล็ดอัลมอนด์ของเจียงเซิ่งหนานเบิกโต เดิมอารมณ์ที่กดเอาไว้อยู่บ้างนั้นถูกเซียวหยางทำให้ระเบิดออกมาเรียบร้อยแล้ว
ตั้งแต่ยังเด็ก ความฝันของเธอก็คืออยากเป็นตำรวจที่เต็มไปด้วยความยุติธรรม
แต่เธอพัฒนาได้ดีเยี่ยมเกินไป บางส่วนจึงเด่นชัดเช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นตอนที่จับกุมนักโทษหลบหนี หรือว่าสวมเครื่องแบบตำรวจล้วนไม่สะดวกเป็นอย่างมาก
ผู้หญิงทุกคนล้วนปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง แต่เธอกลับไม่ต้องการมันมากที่สุด
เรื่องนี้เป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับเธอมาโดยตลอด แต่เซียวหยางกลับกระทุ้งส่วนที่เจ็บปวดของเธอ
“ได้เซียวหยาง ต้องการสร้างความลำบากใจให้ฉันให้ได้สินะ วันนี้ฉันจะให้คุณเห็นความเก่งกาจของฉันสักหน่อย”
เจียงเซิ่งหนานกำหมัด พุ่งเข้ามาทางเซียวหยาง
“หัวหน้าทีมเจียง อย่าหุนหันพลันแล่น กล้องวงจรปิดยังเปิดอยู่นะครับ” ตำรวจรีบเอ่ยขึ้น
คราวที่แล้วก็เป็นเพราะเจียงเซิ่งหนานชกต่อยคนในห้องสอบปากคำ และได้รับมาตรการลงโทษไปแล้ว ไม่สามารถให้ผู้บังคับการเกิดความผิดพลาดได้อีก
คิ้วได้รูปของเจียงเซิ่งหนานขมวด ผลักนายตำรวจสองคนนั้นออกไป เดินอ้อมโต๊ะมาอย่างมีโทสะ กำหมัดจะต่อยเซียวหยางด้วยความโมโหสักรอบ
“จูเจียนเฉียงอยู่นี่ ฝันไปเลยว่าจะทำร้ายอาจารย์ของผม”
จูเจียนเฉียงยืดตัวออกมายืนอยู่หน้าเซียวหยาง ท่าทางองอาจผึ่งผาย
นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในการปฏิบัติตัว ถ้าหากว่าทำได้ดี พี่หยางจะต้องรับตัวเองอย่างแน่นอน
“ไสหัวไป”
เจียงเซิ่งหนานตวัดขา เตะจูเจียนเฉียงไปอยู่อีกด้านหนึ่ง จากนั้นก็ยื่นมือไปจับข้อมือของเซียวหยางไว้
เซียวหยางนัยน์ตาแหลมคม มุมปากยกขึ้นอย่างหยอกล้อ ไม่ได้เลือกหลบหนี
เจียงเซิ่งหนานตาสว่างวาบ ท่าคว้าจับของเธอยอดเยี่ยมมาก กลับไม่หลบ อย่างนั้นก็อย่าโทษเธอแล้วกัน
เธอจับข้อมือของเซียวหยางแน่น กำลังจะพลิกกลับ ก็ได้ยินเสียงแกรกดังขึ้น!
เซียวหยางกลับอาศัยกุญแจมือที่ว่างเปล่าข้างหนึ่ง ล็อกข้อมือของเจียงเซิ่งหนานเอาไว้ อีกข้างหนึ่งก็ล็อกเอาไว้กับท่อฮีตเตอร์
เซียวหยางยิ้มน้อยๆ ปรบมือและลุกขึ้นยืน มองมาทางเจียงเซิ่งหนานเหมือนกับดูละครสนุกเรื่องหนึ่ง
“หัวหน้าทีมเจียง คุณไม่ระวังเกินไปแล้ว ถ้าหากพบกับอันธพาลล่ะก็ คุณก็อนาถแล้ว”
“คนเลว กุญแจมือของฉันไปอยู่ในมือคุณตั้งแต่ตอนไหนกัน”
เจียงเซิ่งหนานเพิ่งจะพบว่ากุญแจมือที่ห้อยอยู่บริเวณเอวหายไปอันหนึ่ง
น่ารังเกียจ!
เธอเคยคิดว่ากังฟูของเซียวหยางยอดเยี่ยมมาก แต่กลับคิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันจะเริ่มลงมือ ก็ถูกเจ้าหมอนี่จับเอาไว้เสียแล้ว
“มีความสามารถก็ปล่อยฉันสิ ผู้หญิงอย่างฉันสู้รบได้สามร้อยกระบวนท่า
เจียงเซิ่งหนานมีโทสะเต็มเปี่ยม แยกเขี้ยวยิงฟันใส่เซียวหยางอย่างดุร้าย ทว่ากระทั่งเสื้อผ้าของเซียวหยางก็แตะไม่ถึง
“พวกนายยังตะลึงค้างอะไรกันอีก รีบมาปล่อยฉันเร็วเข้า”
ได้ยินเสียงร้องให้ช่วยของหัวหน้าทีมเจียง นายตำรวจสองคนถึงได้รู้สึกตัวขึ้นมา รีบวิ่งเข้ามาใช้กุญแจไขกุญแจมือให้
เพิ่งจะปลดออก เจียงเซิ่งหนานก็นวดข้อมือที่มีรอยแดง ตำหนิด้วยความโมโหว่า “พวกนายสองคนมันคนไร้ประโยชน์ ฉันถูก ล็อกเอาไว้ก็ไม่ยอมเข้ามาช่วย!”
นายตำรวจสองคนพูดอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมว่า “หัวหน้าทีมเจียง ตอนที่คุณประลองเดี่ยว ไม่ใช่ว่าไม่ชอบให้คนอื่นสอดมือเข้าไปหรอกหรือครับ”
เจียงเซิ่งหนานเพิ่งจะตำหนิตำรวจสองนายนี้ไป ภายในสมองก็มีบางอย่างพาดผ่านไป
ไม่ถูกต้อง วัตถุประสงค์ในการจับเซียวหยางมาที่สถานีตำรวจ ก็เพื่อตรวจสอบคดีฆ่าคน ทำไมตอนนี้ถึงได้กลายสภาพเป็นแบบนี้ไปได้กัน
เธอเพิ่งจะรู้สึกตัวขึ้นมาว่า ตัวเองถูกเซียวหยางจูงจมูกเดินโดยไม่รู้ตัว
อย่าเห็นว่าเซียวหยางยิ้มตาหยี แต่ว่า นับตั้งแต่ที่เขาถูกนำตัวมาที่สถานีตำรวจก็เป็นฝ่ายนำมาตลอด
ดี นายเซียวหยาง เกือบจะถูกนายลากลงคลองไปแล้ว
เพียงแต่ว่า เจียงเซิ่งหนานยืนยันได้อีกครั้งว่า เซียวหยางคนนี้ ไม่ใช่คนขับรถตัวเล็กๆคนหนึ่งอย่างแน่นอน