เซียวหยางสวมใส่ชุดสูทน้ำเงินลายทางแนวตรง ราวกับถูกตัดเย็บมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ
หน้าอกที่แข็งแรงและมีกล้ามเนื้อของเขา กับเส้นรอบเอวที่สวยงามเผยให้เห็นอยู่ตรงหน้า
ดูดี มีสไตล์ มากกว่าดาราชายบนภาพโปสเตอร์ที่แขวนอยู่ตรงผนังเสียอีก
“ชุดที่ผมลองมาทั้งหมดนี้ผมเอาหมดเลย แล้ว เอาแว่นกันแดดให้ผมด้วย”
เอาทั้งหมดเลย ?
พนักงานสาวประหลาดใจจนยิ้มไม่หุบ ทั้งหมดนี้รวมกันก็น่าจะราวๆหนึ่งล้านได้
ยอดขายของวันนี้ มันมากกว่ายอดขายของพนักงานคนอื่นๆทั้งเดือนเลยด้วยซ้ำ
ดวงตากลมโตของเธอกะพริบปริบๆ แล้วคิดคำนวณค่าคอมว่าเธอจะได้รับมันเท่าไร
“ทำไม มีปัญหาเหรอ ? ”
เซียวหยางเห็นเธอเงียบไป จึงถามไปด้วยความสงสัย
“เอ่อ ไม่ค่ะ คุณผู้ชาย กรุณารอสักครู่ ฉันจะไปจัดการให้คุณเดี๋ยวนี้ ”
หลังจากนั้น พนักงานสาวก็จัดเก็บเสื้อผ้าทั้งหมด แล้วหยิบบัตรไดมอนด์การ์ดของเซียวหยางไปรูดเพื่อชำระเงิน
ติ๊กต๊อก……การรูดบัตรสำเร็จ !
พนักงานทั้งหลายต่างตะลึงกันจนตาค้าง โอ้แม่เจ้า ผู้ชายคนนี้เป็นคนรวยจริงๆ!
และมือของพนักงานสาวคนนั้นก็สั่นเทิ้ม ค่าคอมงวดนี้ มีไม่ต่ำกว่าหลักแสนแน่นอน!
และพนักงานอีกสี่คนที่เหลือ ราวกับถูกตบเข้าที่ใบหน้า โดยเฉพาะพนักงานชายคนนั้น ก็แทบไม่กล้ามองหน้าเซียวหยางเลย
“คุณผู้ชายค่ะ ทางเรามีบริการจัดส่งของให้ด้วย หากคุณไม่สะดวกถือกลับไปเอง ทางเราสามารถจัดส่งไปที่บ้านของคุณได้ ”พนักงานสาวพูดอย่างกระตือรือร้น
เซียวหยางพยักหน้าแล้วพูดว่า“ งั้นก็ดี ผมจะเขียนที่อยู่ให้”
หลังจากที่ทิ้งที่อยู่ให้แล้ว เซียวหยางก็หันหลัง เดินออกจากร้านเวอร์ซาเช่อย่างสบายอารมณ์
ในขณะที่เซียวหยางกำลังจะเดินออกจากห้างนั้น ในห้างก็มีเสียงตามสายดังขึ้น
“ประกาศเหตุฉุกเฉิน ประกาศเหตุฉุกเฉิน มีลูกค้าท่านใดที่เป็นหมอ โปรดรีบมายังประตูฝั่งทิศตะวันออกของห้างด่วน ที่นั่นมีผู้ป่วยฉุกเฉินที่ต้องการความช่วยเหลือ!”
“มีลูกค้าท่านใดที่เป็นหมอ โปรดรีบมายังประตูฝั่งทิศตะวันออกของห้างด่วน ที่นั่นมีผู้ป่วยฉุกเฉินที่ต้องการความช่วยเหลือ!”
เสียงตามสายดังก้องไม่หยุด และดังไปทั่วทั้งห้างสรรพสินค้า ในน้ำเสียงยังมีความร้อนรนแฝงอยู่
เซียวหยางเงยหน้าขึ้นมองไปยังป้ายบอกทาง กับตำแหน่งที่ตัวเองอยู่นั้นเป็นฝั่งทิศตะวันออกของห้างพอดี
ลงจากบันไดเลื่อน เซียวหยางก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งล้อมวงกันอยู่ หลบๆซ่อนๆชะเง้อมองเข้าไปข้างใน
ในตอนนั้น ท่ามกลางผู้คน มีชายชราผมหงอกคนหนึ่งนอนอยู่กับพื้น ใบหน้าซีดเซียวราวกับกระดาษ ริมฝีปากปิดแน่นสนิท สลบไม่รู้สึกตัว
“ทุกคนหลีกทางหน่อย ผมเป็นหมอ ขอผมดูหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น?”
ในตอนนี้ ชายชราคนหนึ่งกับชายชราผมหงอกที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางฝูงชน
เมื่อทุกคนได้ยิน ก็ไม่กล้าที่จะรอช้า หลีกทางให้โดยทันที
ชายชราคนนี้ รูปร่างหน้าตาอายุอานามก็ราวๆเจ็ดสิบเห็นจะได้ อัธยาศัยดีกระฉับกระเฉง จิตวิญญาณเต็มเปี่ยม
ชายชราคุกเข่าลงกับพื้น วางมือลงบนชีพจรของคนป่วย
ชายชราคนนี้เป็นแพทย์แผนจีนอีกด้วย
วัดชีพจรเสร็จ ก็สำรวจอาการของคนป่วย เปิดเปลือกตาดู แล้วอ้าปากของผู้ป่วยเพื่อดูฝ้าที่ลิ้น จากนั้นก็โบกมือให้ทุกคน
“ทุกคนถอยออกไปก่อน อากาศไม่ถ่ายเทมีผลกระทบกับคนป่วยเป็นอย่างมาก อย่ามุงดูกันอีกเลย การช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า ”
ผู้คนต่างก็ทยอยถอยออกห่าง แต่ก็ไม่มีใครเดินจากไป ทำแค่มองดูอยู่ห่างๆแทนเท่านั้น
ชายชราหยิบถุงเข็มเงินในเสื้อจงซานที่มักพกติดตัวอยู่เป็นประจำออกมา พอเปิดออก ก็กางวางลงกับพื้น
เข็มเงินส่องแสงวิบวับปรากฏตรงหน้าทุกคน
ชายชราท่าทีมั่นใจ หยิบเข็มเงินออกมาเล่มหนึ่ง ปักเข็มไปบริเวณท้ายทอย แล้วขยับเลื่อนไปมา ก็จมลงไปเกือบครึ่ง
ซี๊ด!
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงร้องออกมา
แพทย์แผนจีนในประเทศจีน เป็นตำนานที่มีมายืนยาว โดยเฉพาะเทคนิคการฝังเข็ม คนที่เคยได้ยินมาก็มีไม่น้อย แต่คนที่เคยได้เห็นมันกับตา กลับมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
อีกทั้งยุคสมัยนี้ การรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบันเป็นที่นิยมมากกว่า การแพทย์แผนจีนก็แทบไม่ได้เกิด
เห็นเพียงเข็มเงินที่ยาวราวๆสิบเซนติเมตร ฝังลงไปยังสมองของผู้ป่วยจนมิด ทุกคนต่างก็ตกตะลึง
แต่ชายชราก็ไม่ได้หยุด หยิบเข็มเงินขึ้นอย่างมั่นใจ ระหว่างที่ขยับนิ้ว ก็ได้ฝังเข็มลงไปยังจุดต่างๆบนร่างกายของผู้ป่วยด้วย
จุดเหน่าหู้ จุดซ่างซิง จุดยิ่นถาง จุดซื่อเสินชง!
เข็มเงินทั้งสี่ ถูกฝังลงไปยังจุดต่างๆบนศีรษะของคนป่วย ครบชุดนี้แล้ว ชายชราก็เหงื่อตกอยู่เช่นกัน
แต่ผ่านไปสักพัก คนป่วยก็ไม่ได้รู้สึกตัวใดๆขึ้นมา
คิ้วของชายชราก็ขมวดกันแน่น เป็นไปไม่ได้ ?
เขาประกอบวิชาชีพแพทย์มาค่อนชีวิต คนป่วยแบบไหนก็เจอมาแล้ว และลมจับหมดสติแบบนี้ก็เจอมามาก ปรกติทั่วไป เมื่อจุดทั้งสี่จุดเส้นลมปราณไหลเวียน คนป่วยจะฟื้นขึ้นเอง แล้ววันนี้มันเป็นอะไรกัน ?
และในตอนนี้เอง ท่ามกลางผู้คน ก็มีเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นมา
“ผิดแล้ว!”
ชายชราเงยหน้าขึ้นมอง และเพียงชายหนุ่มที่แต่งตัวธรรมดาคนหนึ่ง มือกอดอก มองมาที่เขาอย่างสนอกสนใจ
“คุณหมายความว่ายังไง ?”ชายชรายิ่งขมวดคิ้วแน่นมากขึ้นไปอีก
“คุณใช้เข็มเงินฝังไปที่จุดเหน่าหู้ จุดซ่างซิง จุดยิ่นถาง จุดซื่อเสินชง ก็เพื่อต้องการให้ลมปราณหมุนเวียน กระตุ้นเส้นประสาทของเขา ให้เขาฟื้นจากการสลบ แต่คนคนนี้กลับอยู่ในสภาวะใหลตาย ไม่ว่าคุณจะฝังเข็มไปลึกแค่ไหน คนป่วยก็ไม่มีทางฟื้นแน่นอน ”
ชายชรามีท่าทีงุนงง ไม่ได้โต้แย้งอะไรกับเซียวหยาง เพราะเซียวหยางพูดจุดที่เขาฝังเข็มได้ถูกต้อง นั้นก็หมายความว่าเซียวหยางก็รู้เรื่องการแพทย์แผนจีนอยู่
“คุณรู้ได้ยังไงว่าเขาอยู่ในสภาวะใหลตาย เอาอะไรมายืนยัน ?”
เซียวหยางยิ้มบาง แล้วพูดว่า
“เมื่อกี้คุณตรวจชีพจร รูม่านตา และลิ้นของเขา ก็นับว่าเป็นการตรวจตามปกติ แต่คุณลืมคำพูดที่ว่าแพทย์แผนจีนนั้นส่งผลต่อทุกส่วนของร่างกายเสมอ”
“จากอาการโดยรวมของเขา เป็นลมหมดสติไปจริงๆ แต่คุณไม่พบสาเหตุการเป็นลมหมดสติที่แท้จริงของเขา คุณคิดว่าเป็นเพราะที่เส้นประสาทสมองเหรอ ? คุณไม่ลองดูที่นิ้วมือของเขาล่ะ”
เมื่อชายชราได้ยินที่เซียวหยางพูด ก็ก้มลงมองที่นิ้วคนป่วยทันที พบว่านิ้วมือซีดขาว นี่เป็นอาการผิดปกติของระบบหลอดเลือด
“คุณหมายความว่า……”
เซียวหยางหัวเราะ “สมองขาดออกซิเจน อยู่ในสภาวะใหลตาย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของชายชราก็ดูแย่ขึ้นทันที
อย่างนี้นี่เอง!
ทำไมเขาถึงคิดไม่ถึง!สะเพร่า ประมาทเลินเล่อจริงๆ !
เขาเสียใจที่ตัวเองสะเพร่า ไม่พบสาเหตุหลักของการขาดออกซิเจน และเสียเวลาไปตั้งนาน
นาทีชีวิตในการช่วยเหลือล่าช้าออกไป อาการคนป่วยในตอนนี้ก็ยิ่งย่ำแย่มากขึ้นไปอีก!
“120 ทำไมยังมาไม่ถึง ? เร็ว ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลให้เร็วที่สุด !”
เซียวหยางเดินเข้าไปใกล้ และพูดขึ้นว่า“ตอนนี้ส่งไปที่โรงพยาบาลก็ไม่ทันแล้ว รถพยาบาลที่ใกล้ที่สุดมาถึงที่นี่ก็ต้องใช้เวลาสิบห้านาที ไปกลับก็ครึ่งชั่วโมง ตอนนี้ระบบไหลเวียนเลือดของเขาผิดปกติ หลอดเลือดตีบตัน ”
“รอรถพยาบาลมาถึง เขาต้องเสียชีวิตเพราะภาวะขาดออกซิเจนในสมองนานเกินไป”
“อันนี่ผมรู้ แล้วจะทำยังไงได้ จะทนดูให้คนป่วยตายไปต่อหน้าต่อตาเหรอ !”ชายชราพูดอย่างร้อนรน
เซียวหยางมองไปที่ชายชราอย่างสงสัย และพูดขึ้นว่า“ ใครบอกว่าเขาจะตาย ”