เซียวหยางพูดประโยคนี้จบ ก็คุกเข่าลง ตัดสินใจหยิบเข็มเงินสองเล่มออกมาจากถุงเข็มเงินของชายชรา ย้ายเข็มสองเล่มด้วยมือข้างเดียว เข็มบางและยาวคล้ายหนวดของรวงข้าวสองเล่มผ่านหน้าชายชราไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเขาก็พบสิ่งที่น่าประหลาดใจ เข็มเงินได้ถูกฝังเข้าไปในร่างกายของผู้ป่วยแล้ว
เทคนิคนี้……ชายชรามองเซียวหยางด้วยความประหลาดใจ เด็กหนุ่มคนนี้เพิ่งอายุเท่าไหร่เอง แต่กลับใช้เข็มเงินได้อย่างช่ำชองถึงเพียงนี้
ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น เพียงแค่เรื่องการย้ายเข็มสองเล่มด้วยมือข้างเดียว อย่างน้อยต้องสั่งสมทักษะเป็นสิบปี ลงเข็มได้อย่างรวดเร็ว หาจุดฝังเข็มได้อย่างแม่นยำ สามารถแยกแยะจุดฝังเข็มที่หมอฝังเข็มลงไปได้อย่างดีเยี่ยม จำเป็นต้องสั่งสมทักษะมาเป็นสิบปีเช่นกัน
แม้ว่าเซียวหยางจะเริ่มเรียนด้านการแพทย์มาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ก็ไม่น่าจะเชี่ยวชาญได้ขนาดนี้หรอก
เซียวหยางดึงเข็มออกไปพลาง เอ่ยพูดไปพลาง
“อาการป่วยแบบนี้ เมื่อผู้ป่วยเป็นลมหมดสติ สามารถเลือกจุดฝังเข็มที่จุดชี่ไห่ จุดเทียนทู จุดติ้งฉ่วน จุดเฟิงฉือ”
“ก่อนอื่นต้องเปิดทางให้เลือดไหลเวียนไปยังสมองของผู้ป่วย ให้เลือดไหลเวียนเข้าสมองอย่างราบรื่น เพื่อไปเลี้ยงสมอง จำไว้ให้ดีว่า จุดติ้งฉ่วนแทงเข็มใต้ผิวหนังสามนิ้ว ไม่มากไม่น้อย จุดเฟิงฉือแทงลงไปทั้งเข็ม จุดชี่ไห่ปั่นเข็มเล็กน้อยเพื่อให้อากาศผ่านเข้าไปได้ก็พอ”
“วิธีนี้ ทำให้เข็มไปกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ผู้ป่วยก็จะฟื้นขึ้นมา”
“หากทำแบบคุณ เพียงกระตุ้นเส้นประสาทสมอง ก็เหมือนกับปลาเน่าที่ถูกปิดมิดชิดไว้ในห้อง เมื่อพ่นอากาศบริสุทธิ์เข้าไปก็ได้แต่ทำให้ตัวเองสำลักเท่านั้น วิธีที่ถูกต้องควรเปิดประตูหน้าต่างออก เพื่อให้อากาศได้ถ่ายเท กลิ่นเหม็นเน่าจึงจะหายไป”
เซียวหยางพูดทีละคำทีละประโยค ด้วยภาษาที่เรียบง่ายแต่อธิบายได้อย่างลึกซึ้ง สุดท้ายก็ยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้ชัดเจนมาก อย่าว่าแต่ชายชราเลย แม้แต่ผู้คนที่อยู่โดยรอบก็ฟังเข้าใจเช่นกัน
เมื่อเสียงพูดหยุดลง ผู้ป่วยก็ไอออกมาหลายครั้งทันที จากนั้นก็กระอักเอาอากาศที่ไม่สะอาดออกมา
“ฟื้นแล้ว ฟื้นแล้วจริง ๆ ด้วย!”
ผู้คนต่างพากันร้องเรียกออกมาด้วยความดีใจ พวกเขาเห็นว่า ผู้ป่วยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นแล้ว
จากนั้นเซียวหยางถึงได้ลุกขึ้น แล้วยิ้มเล็กน้อยพลางพูดว่า “คุณมีทักษะพื้นฐานอยู่แล้ว เทคนิคการฝังเข็มก็ไม่เลว แค่คิดตรงทื่อเกินไปไม่รู้จักพลิกแพลง ความสำเร็จด้านการแพทย์ในชีวิตของคุณจึงไม่ได้มีมากแค่ไหน การฝังเข็มคือสิ่งที่ทำประโยชน์เพื่อผู้คน ไม่ใช่ผู้คนทำประโยชน์ให้การฝังเข็ม
เมื่อพูดทิ้งท้ายจบ เซียวหยางก็เดินไปทางฝูงชน แล้วหายไปในชั่วพริบตา
ชายชรายังคงตกตะลึงอยู่ตรงนั้น หวนนึกถึงคำพูดเหล่านั้นของเซียวหยางที่พูดเมื่อครู่นี้ ก็เหมือนได้ตรัสรู้ เข้าใจกระจ่างแจ้งขึ้นมาทันที
“อาจารย์ครับ อาจารย์ ทำไมถึงได้มาอยู่ตรงนี้ล่ะ!”
“พวกเราตามหาคุณจนทั่วเลยนะอาจารย์!”
ทันใดนั้น มีเด็กวัยรุ่นสองคนวิ่งมาจากไกล ๆ แหวกฝูงชนออก แล้วมาหยุดตรงหน้าชายชรา
ชายชราตำหนิอย่างไม่พอใจ “ร้องโวยวายทำไม ไม่เห็นเหรอว่าฉันกำลังรักษาผู้ป่วยอยู่? ตามหาฉันมีเรื่องอะไร?”
วัยรุ่นสองคนคอหดลงทันที เด็กสาวหนึ่งในนั้นพูดว่า
“อาจารย์คะ ประธานสมาคมการแพทย์แห่งเมืองหยินโจวติดต่อหนูมาอีกแล้ว บอกว่าไม่ว่ายังไงก็ตาม ต้องเชิญคุณไปให้ได้”
ชายชราเผยสีหน้าหงุดหงิดรำคาญออกมา “ฉันปฏิเสธไปตั้งหลายครั้งแล้ว ทำไมเขาถึงไม่ยอมล้มเลิกอีกนะ”
ชายชราเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านแพทย์ของจีน เป็นแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่รู้ว่ามีสมาคมการแพทย์ตั้งกี่แห่งทั่วทั้งประเทศที่อยากเชิญชายชราไปเป็นวิทยากรบรรยายแต่ไม่ได้รับการตอบตกลง
“อาจารย์คะ หนูเจรจากับเขาแล้ว แต่เขาบอกว่า คุณอยู่ที่เมืองหยินโจวพอดี และครั้งนี้มีดาวดวงใหม่ที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมากมายในวงการแพทย์ ต่างก็อยากพบปะเยี่ยมเยียนคุณสักหน่อย”
ดาวดวงใหม่?
ชายชราอึ้งไปทันที นึกถึงเด็กหนุ่มเมื่อครู่นี้ คนคนนี้มีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมมาก สามารถเป็นดาวดวงใหม่ได้เลยทีเดียว
“เอาเถอะ เธอตอบตกลงแทนฉันแล้วกัน”
ในใจชายชรานึกเฝ้ารอ ว่าจะได้พบกับเด็กหนุ่มคนนั้นอีกครั้ง คำพูดเหล่านั้นเมื่อครู่นี้ ทำให้ชายชรารู้สึกว่าได้ฟังคำพูดประโยคนี้ยังมีประโยชน์มากกว่าอ่านหนังสือมาเป็นสิบปีเสียอีก
คนรู้ใจช่างหาได้ยากนัก แต่ครูที่ดีและเพื่อนแท้หาได้ยากยิ่งกว่า เมื่อมาถึงระดับเขาแล้ว หาคนที่สามารถแลกเปลี่ยนทักษะความรู้ทางการแพทย์กับเขาได้ยากมากเหลือเกิน เด็กหนุ่มคนนั้นนับเป็นคนหนึ่งเลยล่ะ
……
หลังจากที่เซียวหยางกลับไปก็ได้รับเสื้อผ้าที่ร้าน Versace ส่งมาให้ หลังจากเซียวหยางเตรียมอาหารมื้อค่ำเสร็จ ก็ขับรถไปรับเย่หยุนซูเลิกงาน
สองวันมานี้เหตุการณ์สงบนิ่งมาก ถังเทียนหวาไม่ได้มาหาเรื่องทั้งสองคนอีก
แต่หลังจากความสงบนิ่งผ่านพ้นไป มักจะมีพายุฝนโหมกระหน่ำ
บ่ายวันพฤหัสบดี ประมาณหกโมง
เซียวหยางและเย่หยุนซูเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าที่จะไปร่วมงานเลี้ยง เตรียมไปร่วมงานราตรีที่ถังเทียนหวาจัดขึ้น
“จากที่คุณปู่บอก งานราตรีครั้งนี้ มีนักธุรกิจชื่อดังของเมืองหยินโจวมาร่วมงานแทบจะทุกคน
เย่หยุนซูรู้สึกกระวนกระวายใจอยู่บ้าง เธอรู้สึกว่าจัดงานราตรีซะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ราวกับว่างานเลี้ยงนี้มีเลศนัยแอบแฝง
ภายนอก เหมือนจัดงานราตรีครั้งนี้ขึ้นเพื่อฉลองต้อนรับการกลับมาจากการไปเรียนต่างประเทศของถังเทียนหวา โชว์ความสามารถที่มีเพื่อเป็นการปูทางในเมืองหยินโจว
แต่ในความเป็นจริงเย่หยุนซูรู้ดีแก่ใจ ว่าในงานราตรีคืนนี้ เขาต้องทำอะไรสักอย่างแน่นอน
และถังเทียนหวาไม่ทำอะไรเหมือนคนปกติเขาทำกัน ใครก็นึกไม่ออกว่าตกลงเขาคิดจะทำอะไรกันแน่
“ไม่ต้องกังวล ในงานราตรีมีคนมีชื่อเสียงมากขนาดนี้ เขาไม่น่าจะกล้าทำอะไรหรอก”
แม้จะพูดแบบนี้ก็ตาม แต่เซียวหยางก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเกินไป
ก่อนหน้านี้เซียวหยางลงมือสองครั้ง จนจัดการลูกน้องของถังเทียนหวาได้ราบคาบ ไอเด็กคนนี้ต้องรู้ถึงความเก่งกาจของตัวเองแน่นอน ถ้ามาหาเรื่องตัวเองอีก เขาก็น่าจะหายอดฝีมือมาสักจำนวนหนึ่ง
แต่ว่า ยอดฝีมือที่จะทำให้เซียวหยางให้ความสนใจได้นั้น มีไม่มากนัก นอกเสียจากถังเทียนหวาจะเชิญพวกที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ มา
ขณะพูด ทั้งสองคนก็มาถึงหน้าประตูคฤหาสน์แล้ว
คนที่เดินเข้ามากลับเป็นเย่วั่นเหนียน
คุณปู่กังวลว่างานเลี้ยงครั้งนี้จะมีปัญหาอะไร เลยตั้งใจมาพูดเตือนสักหน่อย
“คุณปู่คะ ปู่สุขภาพไม่ค่อยดี ไม่ต้องมาหรอกค่ะ” เย่หยุนซูเดินเข้าไปประคองคุณปู่
เย่วั่นเหนียนโบกปัดมือไปมา “ไม่ต้องห่วงเรื่องสุขภาพปู่หรอก ครั้งนี้พวกหนูต้องระวังกันไว้นะ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จำไว้ว่าให้รีบบอกปู่”
เย่หยุนซูยิ้มออกมา “คุณปู่คะ ก็แค่งานราตรีเท่านั้นเอง”
เย่วั่นเหนียนหันไปมองเซียวหยาง แล้วพูดว่า “เซียวหยาง ต้องปกป้องหยุนซูให้ดีนะ เธอเป็นภรรยาของนาย รู้ไหม?”
เซียวหยางยิ้มบาง ๆ ออกมา “คุณปู่ครับ ยังสงสัยในความสามารถของผมอีกเหรอ?”
เขาไม่ได้สงสัยในความสามารถของคิงดราก้อนหรอก เพียงแต่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ยังไงซะพวกเขาก็อยู่ในที่มืด ส่วนเซียวหยางกับเย่หยุนซูอยู่ในที่แจ้ง
“รีบกลับมานะ”
“ทราบแล้วครับคุณปู่”
เซียวหยางขับรถเบนซ์สปอร์ต พาเย่หยุนซูออกจากคฤหาสน์ไป
งานราตรีอยู่ที่ท่าเรือทิงเฟิงของเขตใต้ของเมืองหยินโจว จัดขึ้นบนเรือยอชต์ลำหนึ่งชื่อว่า Queen Anna
เรือยอชต์ Queen Anna เดิมทีเป็นเรือยอชต์ที่ราชวงศ์อังกฤษเอาไว้ใช้ โดยมีบริษัทต่อเรือกลไฟประเทศอังกฤษเป็นผู้ผลิตขึ้น ราคาอยู่ที่หนึ่งร้อยล้านปอนด์
หลังเกินระยะเวลาประจำการ เรือยอชต์ Queen Anna ก็ได้ปลดประจำการอย่างสมเกียรติ มีการประมูลแย่งกันอย่างดุเดือด จากนั้นตระกูลถังก็ซื้อมาได้ในราคาหนึ่งพันห้าร้อยล้านหยวน
เรือยอชต์ Queen Anna ลำนี้มีสืบเชื้อสายจากราชวงศ์ ดังนั้นปกติแล้วตระกูลถังจะใช้ต้อนรับแขกเหรื่อในงานสำคัญเท่านั้น
บรรดาคุณหนูคุณชายตระกูลใหญ่โตของเมืองหยินโจว ต่างรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ขึ้นเรือยอชต์ Queen Anna
เรือยอชต์ทั้งลำมีขนาด 388 เมตร แบ่งออกเป็นสามชั้น ประกอบไปด้วยห้องจัดงานเลี้ยง ไนต์คลับ สระว่ายน้ำ คาสิโน ห้องพัก Superior Room เป็นต้น สามารถพูดได้ว่ามีทุกอย่างครบครัน
เรือยอชต์ Queen Anna ไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชม ทุกปีมีค่าจอดเทียบท่าที่ต้องจ่ายอยู่ที่สองล้านหยวน
ใกล้ค่ำแล้ว แสงสุดท้ายของวันกำลังจะลับหายไป แสงไฟที่ท่าเรือก็ส่องสว่างขึ้น
รถเบนซ์สปอร์ตจอดอยู่ที่ลานจอดรถของท่าเรือ เซียวหยางและเย่หยุนซูเดินลงจากรถ