ณ คฤหาสน์ตระกูลถัง
ถังหมิ่นพ่อของถังเทียนหวา ได้รู้ว่าลูกชายของตัวเองตายแล้ว อีกทั้งตายอย่างน่าอนาถด้วย!
เขาโมโหมาก ขว้างโทรศัพท์จนแหลก แล้วรีบโทรศัพท์ไปหารองผู้บัญชาการตำรวจแห่งสถานีตำรวจประจำเมืองหยินโจวอย่างรวดเร็ว
“ผมไม่สนว่าคุณจะใช้วิธีไหน แต่ต้องสืบหาให้ได้ว่าใครเป็นคนฆ่าลูกชายของผม ผมต้องการสับศพมันให้เละเป็นชิ้น!”
ในฐานะที่เป็นผู้เสียภาษีรายใหญ่ของเมืองหยินโจว เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทางฝ่ายตำรวจของเมืองหยินโจวไม่มีทางทำเป็นเล่นแน่นอน
ถังหมิ่นสีหน้าถมึงทึงมาก บรรดาคนรับใช้และลูกน้องที่อยู่ภายในห้องโถงต่างพากันเงียบกริบ
จากนั้นเขาก็เรียกจ้างสงหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยของตระกูลถังมา แล้วสั่งให้เขาตรวจสอบให้ทั่ว ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน ก็ต้องสืบหาความจริงเรื่องการตายของถังเทียนหวาให้ได้
วันนี้ ทุกฝ่ายที่มีอำนาจทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของเมืองหยินโจวได้ออกมาเคลื่อนไหวกันเกือบหมด พายุกำลังจะพัดกระหน่ำทั้งเมืองหยินโจวแล้ว
ส่วนเรือยอชต์ Queen Anna ถูกฝ่ายตำรวจควบคุมไว้แล้ว ใครก็ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับของในนั้นได้ แขกทุกคนต้องได้รับการตรวจสอบจากทางตำรวจ
หลังจากตรวจสอบเสร็จแล้ว ทางฝ่ายตำรวจก็ต้องพบกับเรื่องน่าประหลาดใจ กล้องวงจรปิดทุกตัวที่อยู่บนเรือ ถูกทำลายจนเสียหายหมด แม้แต่หลักฐานเล็กน้อยก็หาไม่พบ
ทางฝ่ายตำรวจปวดหัวขึ้นมาทันที จึงได้แต่ตรวจสอบจากบรรดาแขกเหรื่อเหล่านั้นแทน
และแขกเหรื่อเหล่านี้ ล้วนเป็นคนใหญ่คนโตมีหน้ามีตาในสังคมทั้งนั้น จึงทำให้การสืบสวนไม่คืบหน้าเหมือนอย่างที่คิดไว้สักเท่าไหร่
ถังหมิ่นเองก็ไม่ได้นิ่งดูดาย ดึกดื่นค่อนคืนแทบไม่ได้หลับนอน แยกรายชื่อศัตรูของตระกูลถังทั้งหมดออกมา จากนั้นก็ให้ลูกน้องไปสืบดูว่าศัตรูเหล่านั้นช่วงนี้มีการเคลื่อนไหวยังไงบ้าง
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร คนพวกนี้อาจจะเป็นฆาตกรก็ได้ แต่ก็อาจจะไม่ใช่ฆาตกรเลยสักคนก็ได้
พวกเขาไม่ต้องลงมือลอบวางเพลิงด้วยตัวเอง เพียงแค่ส่งนักฆ่ามาก็พอแล้ว ฉะนั้นเรื่องตรวจสอบศัตรูไม่ใช่เรื่องที่จะรู้ผลได้ในเวลาอันสั้น
ความจริงไม่สามารถปิดบังไว้ได้ เช้าวันถัดมา ข่าวเรื่องการตายของถังเทียนหวาก็ถูกตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์และออกข่าวไปทั่ว
เย่หยันซูที่กำลังดูข่าวเช้าอยู่ในห้องทำงานก็เห็นข่าวนี้ เซียวหยางก็อยู่ด้วยพอดี
“คุณชายตระกูลถังถูกฆาตกรรมบนเรือยอชต์ บอดี้การ์ดประจำตัวก็เสียชีวิตอยู่ด้วยกัน สงสัยว่าถูกศัตรูสังหาร!”
“ไม่มีหลักฐานใด ๆ ในที่เกิดเหตุเลย ทางฝ่ายตำรวจของเมืองหยินโจวรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก ความคืบหน้าของคดีมีความล่าช้า!”
“ถังหมิ่นผู้คุมหางเสือของตระกูลถังโกรธมาก ตั้งรางวัลนำจับฆาตกรหลักสิบล้าน!
พาดหัวข่าวแต่ละข่าวสะดุดตามาก ข้อความซุบซิบต่าง ๆ ก็ส่งกันอย่างคึกคัก
ไม่ว่าข่าวไหน ก็มีเรื่องหนึ่งที่เป็นความจริง นั่นคือ ถังเทียนหวาตายแล้วจริง ๆ!
“ทำไมถังเทียนหวาถึงได้ตาย นี่……นี่มันเรื่องอะไรกัน?” เย่หยุนซูหน้าซีดขึ้นมาเล็กน้อย
เรื่องเมื่อคืน มีเพียงเธอและเซียวหยางสองคนที่รู้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา เย่หยุนซูได้เอ่ยปากร้องขอให้เซียวหยางไว้ชีวิต
“ถังเทียนหวาตายไม่ใช่เรื่องดีเหรอ? ไอ้หมอนี่มันโรคจิต ตายไปก็จะได้ไม่ต้องมาตอแยกับเธออีก” เซียวหยางเอ่ยพูด
เย่หยุนซูกลับหน้านิ่วคิ้วขมวด “ที่นายพูดก็ไม่ผิด ฉันน่าจะต้องขอบคุณฆาตกรที่ฆ่าถังเทียนหวาคนนั้น แต่ว่า……”
เย่หยุนซูหยุดพูดไป หากตรวจสอบอย่างละเอียดขึ้นมา ก็จะพบว่าคืนนั้นคนที่อยู่กับถังเทียนหวาเป็นคนสุดท้าย ก็คือเซียวหยางกับเธอสองคน พวกเขาจะตกเป็นผู้ตกสงสัยมากที่สุด!
เซียวหยางเพียงแค่ยักไหล่ ไม่ได้สนใจใยดีเรื่องนี้เลย
ถึงแม้เขารู้ว่าการแก้แค้นของตระกูลถังกำลังจะเริ่มขึ้น แต่เขาก็หวังว่าตระกูลถังจะไม่หาเรื่องให้ตัวเองพบกับจุดจบ
เซียวหยางเพลิดเพลินไปกับช่วงยามบ่ายที่แสนจะหายากอยู่ที่ฝ่ายขาย ดื่มกาแฟคาปูชิโน่ไปพลาง เล่นกมในคอมพิวเตอร์ไปพลาง
และในขณะนี้เอง จางเฉียงก็เดินเข้ามา ด้านหลังมีตำรวจสองคนตามมาด้วย หนึ่งในนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเจียงเซิ่งหนานนั่นเอง
“เซียวหยาง ตำรวจสองคนนี้มาหานาย บอกว่านายตกเป็นผู้ตกสงสัยในการฆาตกรรม ถ้าหากนายทำอะไรลงไปก็สารภาพกับฉันมาซะดี ๆ อย่าทำให้บริษัทแปดเปื้อนเข้าใจไหม?”
จางเฉียงอ้าปากกว้างจนจะถึงท้องฟ้าอยู่แล้ว สองวันมานี้เขาได้แต่ครุ่นคิดว่าจะจัดการไอ้หมอนี่ยังไงดี แต่คิดไม่ถึงว่า ไอ้หมอนี่จะถูกตำรวจตามตัว แถมยังเป็นคดีฆาตกรรมอีกด้วย!
“คุณคะ พูดจาอะไรระวังคำพูดหน่อยนะคะ พวกเราเพียงแค่มารับตัวเซียวหยางไปให้ปากคำเท่านั้นเอง ไม่ได้บอกว่าเขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าคน” เจียงเซิ่งหนานพูดอย่างเคร่งขรึม
จางเฉียงยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “ครับ ครับ ผมก็หมายความว่าแบบนั้นแหละครับ”
“เซียวหยาง มัวนั่งบื้ออยู่ทำไม ยังไม่ตามคุณตำรวจไปอีก ไม่เคยทำความดีความชอบอะไรให้บริษัท ดีแต่หาเรื่องไม่หยุดหย่อน!” จางเฉียงไม่กล้ายั่วโมโหตำรวจ แต่กับเซียวหยาง เขาไม่แยแสเลยสักนิด”
เซียวหยางไม่ได้สนใจเขา แล้วหันหน้าไปมองเจียงเซิ่งหนาน
“ไปกับพวกเราเถอะ จากคำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์บนเรือยอชต์ บอกว่านายได้ใกล้ชิดกับผู้ตายจริง ๆ พาตัวนายไปก็แค่ช่วยสืบสวนคดีเท่านั้น”
เซียวหยางก็รู้ดี ว่ายังไงเรื่องนี้ก็หนีไม่พ้น จึงได้ยืนขึ้น แล้วตามเจียงเซิ่งหนานกับคนอื่นออกไป
แต่หลังจากที่เซียวหยางออกไปได้ไม่นาน เย่หยุนซูก็รู้เรื่องนี้เข้า จึงรีบโทรศัพท์ไปบอกคุณปู่
เย่วั่นเหนียนขมวดคิ้วเป็นปม “หยุนซู หนูอย่าเพิ่งใจร้อนไป เรื่องเซียวหยางเดี๋ยวปู่จะคิดหาวิธีเอง หนูจัดการเรื่องที่บริษัทให้ดีก็พอ”
ไม่นาน เซียวหยางก็ถูกนำตัวมาที่สถานีตำรวจเขตเทียนซิน
เมื่อมาถึงสถานีตำรวจ เซียวหยางก็ถูกพาตัวไปในห้องสอบสวน เจียงเซิ่งหนานต้องการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามขั้นตอน แต่กลับถูกตำรวจร่างใหญ่สี่คนขวางเอาไว้
“ขอโทษด้วยนะคุณตำรวจเจียงเซิ่ง พวกเรามาจากสถานีตำรวจประจำเมือง คดีนี้สำคัญมากเป็นพิเศษ เซียวหยางตกเป็นผู้ต้องสงสัย พวกเราจึงต้องสอบปากด้วยตัวเอง”
“ไม่จำเป็นต้องหรอกมั้ง?” เจียงเซิ่งหนานขมวดคิ้วขึ้นมา
เซียวหยางเป็นคนในเขตเทียนซิน ก็ควรจะเป็นความรับผิดชอบของพวกเขา และเขาก็ไม่ใช่อาชญากร เพียงแค่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนเท่านั้น จำเป็นต้องให้ตำรวจจากสถานีตำรวจประจำเมืองถึงสี่คนมาสอบปากคำด้วยตัวเองเหรอ
แต่ว่าคิด ๆ ดูแล้วก็เข้าใจได้ ยังไงคนที่ตายก็เป็นถึงคุณชายใหญ่ตระกูลถัง ตำรวจทั้งเมืองหยินโจวตื่นตระหนกกันไปหมด ถูกกดดันจากตระกูลถังขนาดนี้ จึงทำให้คนพวกนี้กลัวจนนั่งไม่ติด
หม่าเจียเฉิงผู้บัญชาการสถานีตำรวจเขตเมืองหรี่ตาทั้งสองข้างลง แล้วพูดว่า“เซิ่งหนาน คุณมีอะไรทำก็ไปทำก่อนเถอะ ไม่ต้องยุ่งเรื่องนี้แล้ว”
“ค่ะ ท่าน”
เจียงเซิ่งหนานมองเซียวหยาง แล้วเดินออกมาจากห้องสอบสวน จากนั้นตำรวจทั้งสี่คนก็เข้าไปในห้องสอบสวนแล้วปิดประตูลงดังปัง
หม่าเจียเฉิงรู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลก ๆ เพราะครั้งก่อนผู้บัญชาการตำรวจจากสถานีตำรวจประจำเมืองโทรศัพท์หาเขา บอกว่าเซียวหยางคนนี้ ยิ่งใหญ่ไม่ธรรมดา อย่าไปหาเรื่องเด็ดขาด
แต่ตอนนี้ทำไมคนของสถานีตำรวจประจำเมืองถึงได้มาสอบสวนเซียวหยางด้วยตัวเองล่ะ ดูท่าทางไม่เหมือนล้อเล่นเลยสักนิด
จากนั้น เขาก็ล้วงโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรไปหาวางเชี่ยวฉู่ ผู้บัญชาการวางแห่งสถานีตำรวจประจำเมือง
“ฮัลโหล ผบช. วางครับ เรื่องคดีของถังเทียนหวา มีตำรวจสี่คนจากสถานีตำรวจประจำเมืองมาสอบปากคำเซียวหยางด้วยตัวเอง เรื่องนี้ท่านทราบหรือยังครับ?”
วางเชี่ยวฉู่เพิ่งรับสายจากเย่วั่นเหนียน ได้ยินว่าเซียวหยางถูกตำรวจพาตัวไปแล้ว ทันใดนั้นหม่าเจียเฉิงก็โทรศัพท์มาพอดี
“อะไรนะ สถานีตำรวจประจำเมืองส่งคนไปสอบปากคำผู้ต้องสงสัยที่สถานีตำรวจเขตเมืองงั้นเหรอ บ้าจริง ใครใช้ให้พวกเขาไป พวกเขาชื่ออะไร? ฉันจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้!”
เมื่อวางสายแล้ว วางเชี่ยวฉู่ก็มีหน้าเย็นชาขึ้นมา
“ตระกูลถังนี่โอหังอวดดีเกินไปหน่อยหรือเปล่า ลูกชายตายคนหนึ่ง กลไกของรัฐทั้งหมดต้องหมุนตามเขาไปด้วยหรือไง?”