เฉินม่อเดินออกจากห้องน้ำกลับไปที่เตียงผ่านวงเวทมิติอย่างตื่นเต้น ไม่นานจากนั้นทั้งห้องก็กลายเป็นสถานที่ทดลองพลังเวทของเขาไปโดยปริยาย ผ่านไปที่โต๊ะแล้วก็ไปที่ตู้เสื้อผ้าโน่นนี่นั่น พอหลังจากเปิดประตูมากกว่าสิบครั้งเขาก็รู้สึกเหนื่อยจึงหยุดมือ
เอนกายบนเตียงเพื่อทำสมาธิสักพัก เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าพลังจิตของเขาจะฟื้นตัวภายในหนึ่งนาที ตอนนี้เฉินม่อรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นอัจฉริยะด้านเวทมนตร์จริงๆ เสียแล้ว หากต่อไปเขาไปตีกับใครสักคนแล้วล่ะก็ ประตูนี้จะไปหาศัตรูเขาแน่
ทีนี้หล่ะคงมันดีพิลึก จู่ๆ ก็มีเสียงปืนกลโผล่มาอยู่ข้างๆ มายิงกราดใส่ แตรดๆๆๆ หากยังไม่พอใจก็จัดระเบิดเวทมนตร์ชุดใหญ่ หุหุ หากพลังเวทมนตร์หมดก็กลับไปรอสักยี่สิบสามสิบวินาทีจากนั้นกลับไปจัดต่อ ดูซิใครมันจะทนได้
อีกอย่าง Kamar-Taj ยังมีคาถาโล่ป้องกันซึ่งขนาดปืนใหญ่ก็ทำอะไรไม่ได้นับประสาอะไรกับปืนธรรมดาทั่วไป พอคิดถึงเรื่องนี้เฉินม่อก็รู้สึกว่าชีวิตนี้ช่างสวยงาม…
ตอนนี้เขายังฝึกฝนธาตุไฟ ธาตุน้ำแข็ง ธาตุธรรมชาติ แถมเฉินม่อก็ยังเห็นเวทมนตร์ธาตุแสงแห่งการรักษา ลำแสงการฟื้นคืนชีพ ฮะ!! เขานี่เงิบไปแล้ว ฟื้นคืนชีพ? คาถาแบบนี้ก็มีด้วย? นี่มันคือการฝืนชะตาฟ้าอย่างแท้ทรู
เฉินม่อไม่ต้องทบทวนอะไรแล้ว เขาต้องได้เรียนรู้เทคนิคการคืนชีพนี้เขากับระบบในใจว่า ‘ฉันต้องการเรียนรู้เทคนิคการคืนชีพ’
ระบบนี้มาพร้อมกับวิธีการบ่มเพาะเทคนิคฟื้นคืนชีพ เฉินม่ออ่านไปเพียงครั้งเดียวเขาก็รู้ได้ทันทีว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด มันไม่ได้ฝึกฝนยาก แต่ต้องมีศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะเป็นสิ่งศักดิ์อะไรก็ได้ เฉินม่อไม่มีศาสนา อะไรคือเชื่อในศักดิ์สิทธิ์?
ช่างมัน ฉันจะเรียนรู้เทคนิคฟื้นคืนชีพนี่ไปก่อน บางทีอาจจะได้ใช้ก็ได้
เขาได้เรียนเทคนิคฟื้นคืนชีพแล้วแต่เจือกใช้ไม่ได้จะมีอะไรน่าอดสูกว่านี้อีกไหม? อย่างแรกพลังจิตเขาไม่เพียงพอที่จะใช้ อย่างที่สองเขาไม่เคยมีความเชื่อศักดิ์สิทธิ์ใดๆ เลย
จากนั้นเฉินม่อก็ฝึกฝนเวทน้ำแข็งและไฟอีกครั้งข้อดีของระบบนี้คือไม่มีคาถาตายตัวตราบใดที่เขาสามารถใช้มันได้อย่างชำนาญและมีพลังทางจิตเพียงพอ เขาก็สามารถใช้เวทมนตร์ที่เขารู้จักได้ทุกอย่าง ก็นะขนาดคืนชีพอยังมี
เขาสามารถเปลี่ยนเวทมนตร์น้ำแข็งให้เป็นเหมือนลูกฮ็อกกี้หรือเป็นเข็มน้ำแข็งได้หลายสิบอัน บนมือของเขามีเวทมนตร์น้ำแข็งเปลี่ยนแปลงรูปอยู่ตลอดเวลา เข็มน้ำแข็ง หอกน้ำแข็ง ลูกบอลน้ำแข็ง กุหลาบน้ำแข็ง
แม้ว่าเวทไฟกับไฟฟ้าจะไม่สามารถกลายเป็นของแข็งได้ แต่ก็สามารถเปลี่ยนเป็นรูปร่างต่างๆ บนฝ่ามือของเขาได้
และการใช้เวทมนตร์ของเขาก็ไม่มีผลกระทบอะไรจะมีก็เพียงแค่ความเหนื่อยล้าทางจิตใจเท่านั้น
เวทมนตร์ Kamar-Taj ของระบบนั้น สามารถฝึกฝนเวทมนตร์สแปเชี่ยลได้ เวทมนตร์สแปเชี่ยลสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งทางกายได้อย่างต่อเนื่อง ความแข็งแกร่งทางกายภาคของเหล่านักเวท Kamar-Taj นั้นสูงมาก ความสามารถโจมตีระยะประชิดก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน หรือเรียกได้ว่าเป็นนักเวทระยะประชิดดีๆ นี่เอง
เฉินม่อคิดไปว่าหอพักที่เขาอยู่นั้นมันเล็กเกินไปที่จะฝึกฝนคาถามากมายและคนในหอพักก็วุ่นวายเกินดูจะไม่สะดวก
หลังจากที่เฉินม่อเรียนคาถาโล่ป้องกันแล้ว วันนี้ก็พอแค่นี้นอนก่อนดีกว่า ต่อให้วันนี้จะไม่มีฝันดีๆ แต่ก็คงไม่มีอันตรายอะไรในสังคมสมัยใหม่นี่ ที่นี่คือประเทศอังกฤษการอยู่ในมหาวิทยาลัยจะปลอดภัย ไม่เหมือนสหรัฐอเมริกาที่การยิงกันในมหาวิทยาลัย ตลอดทั้งวัน ครูนักเรียนมักจะพกปืนไปมหาลัย (มหาลัยหรือดาวน์ทาวน์ฟร่ะ เถื่อนเกิ๊น)
เฉินม่อเข้านอนอย่างสงบ แต่เขาไม่รู้ว่าวันนี้มีใครบางคนนอนไม่หลับ
อเล็กซานเดอร์ แฮมเมอร์ นักศึกษาระดับแนวหน้าในแผนกการตลาดของมหาวิทยาลัยลอนดอน เขาไปพบเฉินม่อเพื่อไปรับแผ่นเกม 200 แผ่นและวิ่งกลับไปที่ชุมชนใกล้บ้านในตอนเที่ยงของวันนี้
ชุมชนของครอบครัวของเขาเป็นชุมชนระดับกลางในเขตที่สองของลอนดอน มีผู้คนหลายหมื่นคนอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง อเล็กซานเดอร์ แฮมเมอร์ นำแผ่นเกมกลับบ้านและทานอาหารกับแม่ของเขา หลังจากจู้จี้จุกจิกเสร็จ เขาก็ออกไปที่สนามบาสเก็ตบอลของชุมชน
สนามบาสเก็ตบอลในชุมชนมากกว่าหนึ่งโหลเต็มไปด้วยผู้คนที่เล่นบาสเก็ตบอล แม้ว่าจะมีคนวัยกลางคนจำนวนมาก แต่กว่า 90% ล้วนเป็นคนหนุ่มสาว
อเล็กซานเดอร์ แฮมเมอร์ เติบโตในชุมชนนี้ตั้งแต่เด็ก เขารู้จักผู้คนมากมาย วันนี้พ่อหนุ่มแฮมเมอร์นำแล็ปท็อปและแผ่นเกม 20 แผ่นมากับเขาด้วย แนวทางปัจจุบันของเขาคือการหาทุกคนที่เขารู้จักในสนามบาสเก็ตบอล แล้วปล่อยให้พวกเขาลองเล่น Plants vs. Zombies แล้วรอดูผล
อเล็กซานเดอร์ แฮมเมอร์ ทักทายผู้คนมากมายที่เขารู้จักทันทีที่เขาเข้ามาในสนามบาสเก็ตบอล ในที่สุดก็เจอเหล่าเพื่อนสนิทของเขาในสนาม
“เฮ้ อเล็กทำไมวันนี้นายกลับมาได้ล่ะ ปกติเห็นไม่เคยว่าง นายไม่ได้อยู่ที่ม.ลอนดอนหรือไงเพื่อน?”
อเล็กซานเดอร์ทักทายเพื่อนๆ รอบตัวเขาอย่างมีความสุขพลางพูดว่า : “ริกฉันมีเกมที่พัฒนาขึ้นใหม่โดยศิษย์เก่ามหาลัยของเรา เขากำลังทำโปรโมชั่นอยู่ นายก็รู้ว่าฉันกำลังเรียนการตลาด ฉันลองดูแล้วรู้สึกโคตรใช่ ตอนนี้ราคาแผ่นเกมก็แค่ 6 ปอนด์เอง ฉันเอาคอมฯ มาด้วย นายมาลองเล่นได้นะเพื่อน”
“ว้าวคุณไอ้อเล็กซานเดอร์เริ่มขายของตั้งแต่ปีสองเลยเฟ้ย พวก ฉันจะซัพพอร์ทนายเอง เอามาให้ฉันดูหน่อยว่าเกมเป็นไง สนุกพอที่จะคุยกันป่าว?” ริกกล่าว
อเล็กซานเดอร์พาริคกับคนอื่นๆ ไปที่บริเวณพักผ่อนข้างๆ ศาลา แล้วก็เปิดโน้ตบุ๊กกับเกมจากนั้นเขาก็ปล่อยให้ริคทดลองเล่น
ในตอนแรกก็มีเพื่อนไม่กี่คนที่ลองเล่นในพื้นที่พักผ่อน แฮมเมอร์ยังเงียบอยู่เพราะรู้ว่าพวกเขายังไม่คุ้นเคยกับเกม แต่หลังจากเล่นไปครึ่งชั่วโมง จากนั้นแฮมเมอร์ก็อธิบายวิธีเล่นจริงๆ คนเหล่านี้ก็เริ่มโต้เถียงเรื่องการจัดวางต้นไม้ ในขณะที่ฟิลกำลังจะมา พวกเพื่อนๆ ของคนเหล่านี้หลายคนเข้ามาดูอย่างอยากรู้อยากเห็น
หลังจากดูเกมในโน๊ตบุ๊คสักพักหลายคนก็เริ่มเถียงกัน
“ริกแกมันงี่เง่า คนเขาอุตส่าห์บอกนายก็ไม่ฟัง ช่างแม่ม ถึงเวลาที่ฉันเล่นแล้วเฟ้ย แกเล่นมันมานานแล้ว” ริคเริ่มเถียง ว่าใครกำลังเล่นอยู่
อเล็กซานเดอร์ แฮมเมอร์ ดีใจที่เห็นพวกเขาทะเลาะกันและดึงดูดทุกคนรอบตัวเข้ามา เมื่อเขาเริ่มเห็นว่าทุกคนจะไปโวยใส่ริค อเล็กซานเดอร์ แฮมเมอร์ ก็รีบเปิดตลาดทันที : “เฮ้พวก ฉันมีแผ่นเกม ราคาแค่ 6 ปอนด์ขายให้ไปเล่นเองที่บ้านได้เลย พวกนายไม่จำเป็นต้องไปแย่งกับริกมันหรอก “
มีคนไม่กี่คนที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็จริงถ้าคุณอยู่ที่นี่ คุณก็จะต้องหัวร้อนกับคนโง่อย่างริก ยิ่งไปกว่านั้น นายริกคนนี้ไม่ได้ขยับเลยตอนที่ครองคอมพิวเตอร์อยู่ จะดีกว่าถ้าจะซื้อไปเล่นที่บ้าน เล่นยังไงก็ได้ ตามที่คุณต้องการ
“ตกลงอเล็กฉันต้องการสักแผ่น”
“ฉันอยากได้แผ่นด้วยฉันไม่อยากอยู่กับไอ้ริคโง่นี่อีกสักนาที ฉันแทบจะคลั่งเพราะแม่มเนี่ย”
หากพวกนายต้องการแผ่นก็ต้องได้แผ่น ไม่ช้าแผ่นเกม 20 แผ่นที่ อเล็กซานเดอร์นำติดมาด้วยก็ถูกขายจนหมด อเล็กซานเดอร์ต้องรีบกลับบ้านเพื่อดึงแผ่นเกมที่เหลือภายในสองชั่วโมงขายหมด 200 แผ่น มีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ซื้อ เริ่มแหกปากโวยวายขอซื้อแผ่นเกม
อเล็กซานเดอร์ แฮมเมอร์ต้องสัญญาว่าจะนำแผ่นเกมกลับมาหลังเลิกเรียนในบ่ายวันพรุ่งนี้เพื่อปลอบใจทุกคน
หลายคนให้เงินก่อนเป็นค่าแผ่นเกมกับเขาโดยตรง แต่บางคนที่ไม่ได้นำเงินมาพอพบว่าไม่มีใครให้ยืมก็ดีดเป็นกุ้งเพราะกลัวว่าของจะหมดในวันพรุ่งนี้
อเล็กซานเดอร์บอกพวกเขาว่าเขาจะนำแผ่นเกมมาที่บริเวณพักผ่อนนี้ในเวลาบ่าย 4 โมง พรุ่งนี้เช้าใครที่จ่ายเงินก่อนจะได้ก่อน ตอนนั้นเองเหล่านักเรียนมัธยมต้นก็เลิกเรียนกลับมาแล้ว และมีเวลาที่จะขายให้พวกเขา
ในตอนนี้ริคซึ่งครอบครองโน็ตบุคของเขาอยู่ พอเห็นว่าทุกคนไปแล้วจึงลุกขึ้นยืนพูดกับแฮมเมอร์ว่า “เฮ้ การแสดงของฉันเป็นไง พวก ฮาๆ แฮมเมอร์ฉันบอกว่าฉันเป็นอัจฉริยะ ดูเหมือนว่าฉันอยู่ในมหาลัยการแสดงไม่ได้เรียนเสียเปล่านะ ดังนั้นฉันจึงไม่ทำอย่างที่พวกนั้นพูด ฉันแม่มอย่างเคือง ถ้าพวกเอ็งอยากเล่นไม่ซื้อเกมมาเล่นเองฟร่ะ”
แฮมเมอร์มองไปที่ริกด้วยความประหลาดใจพลางพูดว่า “พระเจ้าริค เอ็งแค่แกล้งทำหรอฟร่ะ เมื่อไหร่กันที่ทักษะการแสดงของนายดีขนาดนี้พวก ฉันหลงกลแกแล้ว พระเจ้าฉันต้องขอบคุณแกจริงๆ สำหรับเรื่องนี้ริค ถ้าวันนี้ไม่ใช่สำหรับนาย ก็คงมีไม่กี่คนหรอกที่อยากจะซื้อแผ่นไปเล่นด้วยตัวเอง วันนี้ใครๆ ก็หัวร้อนเพราะเอ็งพวก”
“งั้นเอางี้แฮมเมอร์ นายต้องชวนฉันไปดินเนอร์ ฉันเสียสละตัวเองเพื่อให้นายสมหวัง” ริคพูดด้วยใบหน้าแปลกๆ
“ไม่มีปัญหาไปฉันจะเชิญนายไปทานอาหารมื้อใหญ่” แฮมเมอร์ลูบไหล่ของริก (เอ๊ะ ยังไง) และทั้งสองก็ไปรับประทานอาหารมื้อใหญ่พูดคุยหัวเราะกัน ถึงพวกเขาจะบอกว่ามันเป็นอาหารมื้อใหญ่ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็คือร้านอาหารชุมชนราคาถูก ในอดีตเขากับเหล่าเพื่อนของริกจะมาที่ร้านอาหารแห่งนี้เพื่อเฉลิมฉลอง เมื่อพวกเขามีความสุข ทุกคนล้วนรู้จักครอบครัวของเพื่อนๆ แต่ละคนเป็นอย่างดีส่วนใหญ่ก็มักมาที่ร้านอาหารนี้
หลังจากที่อเล็กซานเดอร์ แฮมเมอร์ส่งริคกับพุงกลมๆ ไปแล้ว เขาก็กลับบ้านด้วยความร่าเริง หลังจากเห็นแม่ของเขาอเล็กซานเดอร์ก็ตะโกนบอกแม่อย่างมีความสุข : “แม่ เดาซิว่าวันนี้ผมได้เงินเท่าไหร่?”
แต่สถานการณ์ก็ไม่เป็นไปอย่างที่อเล็กซานเดอร์คาดหวัง แม่ของเขาไม่ได้ยกย่องเขาแต่รีบถามกลับมาว่า : “แกหาเงินที่นั่นได้ แกหาเงินแบบนี้ อเล็กแกไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไรใช่ไหม?”
อเล็กซานเดอร์มองไปที่สีหน้างงงวยของแม่แล้วตบหน้าผากตัวเอง ด้วยความไม่พอใจ “โถ่แม่ ผมเป็นนักศึกษาระดับท็อปของมหาวิทยาลัยลอนดอนนะ ผมจะต้องเป็นคนงี่เง่าขนาดไหนที่จะทำเรื่องเลวร้ายทั้งๆ ที่ผมก็มีอนาคตที่สดใสหน่ะแม่ก็”
“แล้วแกทำเงินได้มากขนาดนั้นได้ไง แกกลับบ้านมาพร้อมกับเงินมากขนาดนี้จะให้แม่คิดยังไง” แม่ของอเล็กซานเดอร์ถามอย่างสงสัย
“ฮ่าฮ่า แม่ไม่รู้ วันนี้เป็นวันโชคดีของผมจริงๆ ผมขายแผ่นเกมได้ 200 แผ่นที่สนามบาสเก็ตบอลของชุมชน ภายในเวลาแค่ 3 ชั่วโมงผมทำเงินได้ 400 ปอนด์”
อเล็กซานเดอร์มองดูแม่ของเขาที่ประหลาดใจอย่างมีความสุขเขามีความสุขที่ได้ช่วยพ่อแม่คลายความกดดันทางการเงินของครอบครัว
“เกมอะไรที่สามารถทำให้ลูกได้เงิน 400 ปอนด์” เสียงพ่อของอเล็กซานเดอร์ดังมาจากประตู
เมื่อเห็นพ่อของเขากลับมาอเล็กซานเดอร์พูดกับพ่ออย่างมีความสุขว่า “พ่อเกมนี้พัฒนาโดยศิษย์เก่าของมหาลัยของผมเอง นักศึกษาของเราหลายคนในมหาลัยคิดว่าเกมนี้ดีมาก ผมจึงซื้อแผ่นเกมของเขาราคาแผ่นละ 4 ปอนด์ วันนี้ผมไปที่สนามบาส ขายแผ่นเกมให้คนในชุมชน หลายคนยังไม่ได้ซื้อพรุ่งนี้ผมจะไปหาศิษย์เก่าเพื่อซื้อของแล้วมาขายหลังเลิกเรียน ดูจากสถานการณ์วันนี้ในชุมชนของเราและชุมชนโดยรอบ ผมรู้สึกว่าถ้าผมสามารถขายแผ่นเกมได้หลายพันแผ่นนะพ่อ ผมจะสามารถสร้างรายได้ด้วยตัวเองได้ทันที เพราะงั้นพ่อกับแม่จะได้ไม่เหนื่อยมากไงครับ”
พ่อแม่ของเขาดีใจมากที่ได้ยินว่าอเล็กซานเดอร์ค้นพบวิธีหาเงินอย่างจริงจังและฟังดูมีเหตุผลมาก
แม่ของอเล็กซานเดอร์กอดอเล็กซานเดอร์อย่างมีความสุขและพูดว่า “อเล็กลูกรักยอดเยี่ยมมากค่ะ คุณลูกทำได้ดีมาก ลูกไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อของลูกลำบากแค่ไหน ตอนนี้เขาทำงานสองกะเพื่อให้ ลูกไปเรียนที่มหาวิทยาลัย และก็นานมากแล้วที่ครอบครัวเราไม่ได้ซื้อของใหม่เข้าบ้าน”
“ครับแม่ผมรู้ดี แต่ทุกอย่างในบ้านกำลังจะดีขึ้น” อเล็กซานเดอร์พูดด้วยความมั่นใจ
จากการวิเคราะห์การขายในปัจจุบัน อเล็กซานเดอร์ก็ยิ่งมั่นใจเกี่ยวกับแนวโน้มการตลาดของเกมนี้ที่มี่ชื่อว่า Plants vs. Zombies
========================