น้ำผลไม้ที่หวานจนเลี่ยนสาดเต็มหน้าและ เต็มตัวของฟังกี้ ความเย็นทําให้เธอไม่สบายตัว เอาอย่างมาก!
เพราะน้ำผลไม้ไหลรินลงมาอย่างไม่หยุด แม้แต่ตาก็ลืมไม่ขึ้น ได้แต่ใช้มือเช็ดอย่างไม่ หยุด
พอเธอค่อยๆจัดการเสร็จแล้วลืมตาเห็นตัว เองในกระจก ทันใดนั้นไฟแห่งความโกรธได้ ปะทุขึ้นมาในใจ
แทบอยากจะฉีกผู้หญิงสองคนที่อยู่ตรง หน้าให้แหลกเป็นเสี่ยงๆไปเลย!
ทั้งตัวถูกน้ำผลไม้หกใส่จนเหนอะหนะตัว ไปหมด ผมที่เปียกซุ่มติดอยู่บนใบหน้า
เสื้อผ้าที่กลางอกก็เปียกชื้น เลอะคราบ เปื้อนไม่พอแถมเสื้อชั้นในก็ซับออกมาจนเห็น
เนินอก
ทั้งเนื้อทั้งตัวทรดโทรมอย่างมาก ทั้งหมดทั้งมวล สากับ รญาเป็นคนทําแท้ๆ
หยิบเสื้อผ้าที่เปื้อน ผลไม้จากราวแขวน ลงมาอย่างไม่ลังเล แม้แต่ห้องลองเสื้อพิงกี้ก็ไม่ ได้ไป
ก็เอาเสื้อมาคลุมใส่เพื่อปกปิดสภาพที่ทรุด โทรมของตัวเอง แล้วใช้เสื้ออีกตัวเช็ดผมกับ ใบหน้า
ทำให้ตัวเองสบายตัวขึ้นหน่อย
“พิงกี้ เธอคงไม่โทษตีรญาใช่ไหม?”ลิสา ออกมาคลี่คลายเป็นอันดับแรกเลย
เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและจนปัญญา “ที่ผ่านมาตีรญาก็เป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา และนิสัยบุ่มบ่าม อย่างนี้อยู่แล้ว พี่เคยว่าเธอไป หลายครั้งแล้ว แต่เธอก็แก้ไม่ได้สักที ไม่มีใคร อยากให้เกิดเรื่องอย่างวันนี้หรอก
เอางี้เถอะ ค่าเสื้อพี่เป็นคนจ่ายเอง เธออย่าโกรธเลยนะ?”
“พูดจาตรงไปตรงมางั้นหรอ? ความหมาย ของเธอคือ
ที่ตีรญาว่าฉันนอนกับผู้ชายเยอะจนเป็น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็เพราะพูดจาตรงไป ตรงมางั้นหรอ?”
พิงกี้ถามกลับด้วยสายตาเย็นชา “แต่ฉัน จําได้ว่าก่อนหน้านั้นตอนที่ฉันปวดท้องเมนส์จน ร้องไห้
เธอเป็นคนพาฉันไปหาหมอเองไม่ใช่หรอ? เธอไม่รู้สภาพร่างกายฉันเป็นยังไงหรอ?
ต่อมาทำไมก็มีข่าวลือออกมาว่าฉันมั่ว ผู้ชาย ไม่รักนวลสงวนตัว
และไปหาหมอเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศ สัมพันธ์คำพูดแบบนี้ออกมาได้ล่ะ? ”
“……..” สาสายหัวด้วยความลำบากใจ สายตาแฝงไปด้วยความกังวล “พิงกี้ พี่รู้ว่าเธอ สงสัย
แต่ว่า พี่ไม่ได้เป็นคนปล่อยข่าวลือพวกนั้น จริงๆนะ เธอมีแฟนอยู่ข้างนอกกี่คน ตอนที่อยู่ หอพักโรงเรียนกลางคืนได้ออกไปเที่ยวเตร่จน ไม่กลับหอหรือเปล่า พี่ก็ไม่เคยบอกคนอื่นจริงๆ
นะ!
เอาล่ะ เราอย่าพูดเรื่องพวกนี้ที่ข้างนอก เลยโอเคไหม?”
ไม่ได้ปฏิเสธนั่นก็แปลว่ายอมรับ ไม่เพียง แต่ยอมรับ แถมยังหลุดปากพูดออกมาเยอะซะ ขนาดนี้ !
ทีนี้แม้แต่สายตาที่พนักงานดูพิงกี้ก็เปลี่ยน ไปจากเดิม กลายเป็นสายตาที่รังเกียจและดูถูก อย่างมาก
ลิสา! พิงกี้โมโหจนตัวสั่น ลิสาไม่เคยพูดเรื่องพวกนี้จริงๆ นั่นก็เป็นเพราะว่าเธอไม่เคยมี แฟนมาก่อน
ไม่เคยออกไปเที่ยวเตรจนไม่กลับหอมเ ก่อน จะมีอะไรให้ลิสาน่าพูดล่ะ?
แต่นาทีนี้ลิสาพูดแบบนี้ขึ้นมา ราวกับว่าเธอ เคยทำเรื่องแบบนี้จริงๆ
แต่ลิสาเคยช่วยเธอปกปิดยังไงอย่างงั้น เลย! พิงกี้โมโหอยากหักล้างมาก
แต่ในขณะนี้เสียงที่นุ่มใสดังขึ้นมา และพูด อย่างมั่นใจ “พิงกี้ไม่ใช่คนแบบนี้ พวกคุณอย่า พูดเหลวไหล!
พูดจามั่วซั่วแบบนี้ถูกดำเนินคดีได้นะ ครับ!” ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งเข้ามาจากด้าน นอก เดินมาที่ข้างกายพิงกี้
ใช้กิริยาท่าทางที่ปกป้องดึงเธอไปข้างหลัง ราวกับว่าจะช่วยเธอบังแดดบังฝน
พิงกี้เงยหน้ามองไปแล้วอึ้ง “คุณณรงค์ กร?” เขามาอยู่นี่ได้ยังไง?
สีหน้า ณรงค์มองเธอเต็มไปด้วยความ กังวลใจพร้อมอธิบายอย่างอ่อนโยน “วันนี้ยาก ที่จะได้ออกมาทีนึง
คิดไม่ถึงว่าออกมาก็จะมาเจอกับ สถานการณ์แบบนี้เลย คุณไม่เป็นไรใช่ไหม ครับ?”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ” พิงกี้ส่ายหัว
“นายเป็นใครและโผล่มาจากไหนเนี่ย? ดู ท่าทางตื่นเต้นแทนพิงกี้ขนาดนี้
ไม่ชายผู้ชายใต้กระโปรงของพิงกี้หรอก หรือ?” ตีรญารีบปรับเปลี่ยนระดับความรุนแรง
ปิดปากเล็กน้อยแล้วมองไปที่ณรงค์กร สีหน้าแววตาเยาะเย้ยและประชดประชัน
“เมื่อกี้คุณหนูรองแห่งดำรงกูลยังบอกตัว เองเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่เลย แต่พอตอนนี้ธาตุแท้ โผล่ออกมาซะแล้ว!
“ผมเป็นเพื่อนของพิงกี้ครับ”ณรงค์กรเปิด ปากพูด
“เพื่อนอะไรกัน ฉันว่าเป็นคู่นอนซะมากว่า มั้ง?! ไม่ว่านายเป็นเพื่อนหรือเป็นแฟนเธอ
แม้แต่คนในครอบครัวเองก็ยังไม่กล้าบอก ว่าเข้าใจพิงกี้ดีเลย
แล้วทำไมนายถึงมั่นใจขนาดนี้ว่าเธอไม่ใช่ อย่างที่พวกเราพูดล่ะ?”
“ผม……” ณรงค์กรสีหน้าเริ่มแดง ชัดเจน ว่าไม่ถนัดต่อกลอนกับคนอื่น
“ตีรญาเธอเองก็บริสุทธิ์มากงั้นหรอ? ฉัน กล้าพูดอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมาว่าฉัน เคยมีแฟนแค่คนเดียว
แล้วเธอล่ะเธอกล้าไหม? ถ้าเธอยังบริสุทธิ์ จริง เธอกล้าไปตรวจที่โรงพยาบาลไหมล่ะ?”
พิงกี้ทนคูณรงค์กรลำบากใจเพราะตัวเอง ไม่ได้ จึงซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ฉันไม่กล้า เธอกล้างั้นหรอ? หรือว่า คุณ หนูรองแห่งดำรงกูลจะบอกว่าตัวเองยังเวอร์จิ้ นอยู่?”
ในขณะนี้ จูลี่ที่ดูอยู่ข้างๆมาตั้งนานเปิด
ปากพูด
“ตีรญา เธอไม่รู้หรอว่าคุณหนูรองแห่ง ดำรงกูลคนนี้ก็คือคนที่แย่งว่าที่สามีของลิสา
เธอกับพี่เขยตัวเอง……..อย่างนั้นแล้ว เธอ ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ไปตั้งนานแล้ว
ถึงไปตรวจที่โรงพยาบาลก็ไม่ สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้
หรอก…….
เธอไม่ชอบโจมตีเข้าไปโดยตรง แต่เต็มใจ ที่จะซ้ำเติมมาก
“อ้าวหรอ? นี่ฉันยังไม่รู้จริงๆนะ
เนี่ย….. * ตีรญาจ้องตาโต เดินวงรอบพิงกี้ ไปรอบนึง
“คิดไม่ถึงว่าคุณหนูรองแห่งดำรงกูลดู ภายนอกก็ไร้เดียงสา ที่แท้ก็ทำตัวต่ำขนาดนี้
ไม่น่าเชื่อว่าจะทำตัวแพศยานอนกับพี่เขย ตัวเองได้! ลิสา นังพิงกี้ทำกับเธอขนาดนี้แล้ว
ทำไมเธอยังช่วยเธอพูดอีก? เธอนี่ใจดีมี เมตตากับนังพิงกี้เกินไปแล้ว!
“ฉัน…..ไม่ว่ายังไงเราก็เป็นพี่น้อง กัน……… ลิสายิ้มขมขื่นพร้อมส่ายหัว สีหน้า ขมขื่นใจและจนปัญญานี้
แต่ต้องทนรับกับความไม่เป็นธรรมเพราะ น้องสาว ทําให้คนเห็นใจเธอเป็นอย่างมาก
ทะเลาะวิวาทอยู่ในร้านมานานขนาดนี้ ข้าง นอกมีคนมายืนวงล้อมดูตั้งนานแล้ว
ต่างก็มาดูเฮฮาวิพากษ์วิจารณ์กัน และพิงกี้ ที่ทรุดโทรมยิ่งเป็นที่โฟกัสของผู้คน
ณรงค์กรยืนขมวดคิ้วไว้ ทำท่าเหมือนจะ พูดแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร?
พิงกี้กลับไม่วู่วามเหมือนก่อนหน้านั้นแล้ว พอเผชิญหน้ากับการถูกใส่ร้ายที่มาเป็นระ ลอกๆ
กลับทำให้เธอใจเย็นลง เธอยืนสงบอยู่ อย่างนี้ ถึงสภาพร่างกายจะทรุดโทรม
แต่นัยน์ตาที่สว่างไสวกลับเหมือนเคยผ่าน การชำระล้างในน้ำแร่มาก่อน สายตาที่เย็นชาม องดูลิสา
บนตัวมีความรู้สึกเยือกเย็นกระจายอยู่ สายตาเธอลึกลับ ทำให้คนเดาไม่ออกว่าเธอคิดอะไรอยู่?
“ไม่ทราบว่าดิฉันไปเปิดบิลได้หรือยังคะ? พนักงานแค่อยากเคลียร์เรื่องตัวเองให้เสร็จ โดยเร็ว จึงถามลิสา
“คุณลิสาคะ คุณไปคนจ่ายเงินใช่ไหม
คะ?”
“ใช่ค่ะ” ลิสาพยักหน้า “ขอแค่น้องสาวไม่ โกรธฉัน ฉันจ่ายเงินก็สมควรแล้วค่ะ………
“เธอไม่โกรธ แต่ฉันโกรธ!” เสียงดังทรง พลังดังก้องขึ้นมา
จู่ๆ คนที่ล้อมรอบอยู่ข้างนอกถูกบอดี้การ์ด เสื้อดำที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี สั่งให้แยก ย้ายไป
ภายใต้การปกป้องที่หนาแน่น ชายรูปหล่อ สูงใหญ่เดินเข้ามาตามสายตาผู้คน เดินเข้าที่ ข้างกายพิงกี้
เขาโอบเธอเข้ามาในอ้อมอกโดยตรง ก็ไม่ รังเกียจว่าตอนนี้เธอจะตัวสกปรกอยู่
น้ำหนักครึ่งค่อนตัวทับบนตัวเธออย่างสนิท แนบแน่น นัยน์ตาที่มีเสน่ห์เต็มไปด้วยความเย็น
เขาใช้สายตาที่โหดเหี้ยมมองลิสา “คุณ ลิสา คุณ รักและเคารพในอาชีพมากเกินไป เปล่า?
ถึงเป็นแค่ดาราปลายแถว แต่เห็นคุณเอา ชีวิตจริงเป็นเวทีมาเล่นการแสดงอยู่นั่นแหล่ะ คุณไม่เหนื่อยหรือไง?