พูดจริงๆ พิงกี้เป็นคนที่เจียมเนื้อเจียมตัว มาก เธอรู้ถึงแม้ในสมองมีวิธีที่อยากแก้แค้นเอา คืนเป็นหมื่นๆวิธี
แต่ตามความสามารถของเธอในตอนนี้ สิ่ง ที่เธอทำได้คงจะแค่ทุบตีณรงค์กรยกนึง
แถมยังเป็นภายใต้ที่เควินให้คนมัดณรงค์ กรไว้นะ ไม่งั้นเธอยังสู้เขาไม่ได้หรอก ในเมื่อ แบบนี้
สู้เธอพึ่งพาอาศัยเควินยังจะดีกว่า ดูซิว่า เขาจะทำยังไง? ในเมื่อเขาถามเธออย่างนี้
ก็คงจะเข้ามาแจมด้วยอย่างแน่นอน เธอ แค่ไม่ต้องปฎิเสธก็พอแล้ว “สามารถมอบให้ฉัน จัดการได้”
ในใจคิดคำนวนวางแผนเรื่องเล็กน้อยอยู่ เควินพูดอย่างจริงจังและเคร่งขรึม
“เธอไม่มีเวลาและประสบการณ์ในการ
จัดการเรื่องแบบนี้
สู้มอบให้ฉันรับผิดชอบดีกว่ารอให้ฉัน จัดการเสร็จจะแจ้งผลให้เธอ เธอคิดว่ายังไง บ้าง?”
“โอเคค่ะ” พิงกี้แทบจะไม่ลังเลก็ตอบ
ตกลงเลย
“โอเค เรื่องนี้ก็เอาตามนี้นะ งั้นเรามาคุย ปัญหาด้านอื่นกัน”
สายตาที่คมเข้มจ้องพิงกี้ไว้ เอาการ์ดใบ สวยหรูยื่นไปที่มือเธอ “นี่คืออะไรคะ?” พิงกี้
ถาม
“รหัสที่เข้าวิลล่าหลังนี้
“ห้า?” พิงกี้ตาค้าง “แล้วคุณบอกให้ฉัน ทำไมคะ?”
“ฉันอยากให้เธอย้ายมาอยู่ที่นี่
“ฉัน……” ตกตะลึงมาก พิงกี้ชี้จมูกตนเองและถาม “จู่ๆทำไมถึงคุยเรื่องนี้คะ? ”
“อุบัติภัยต่างๆนาๆที่ชี้เป้าเจาะจงเธอเยอะ เกินไป เธอคิดว่ายังไงล่ะ? ”
รู้สึกว่าก็ใช่นะ” พิงกี้พยักหน้าอย่าง ไม่แน่ใจ ช่วงนี้เธอก็ซวยจริงๆ เกิดเรื่องอยู่ เรื่อยๆ
แต่ว่า……..ทั้งหมดนี้ต่างก็มีสาเหตุทั้งนั้น! คนที่บงการอยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้ หรือว่าไม่ใช่ ลิสาหรอกหรือ?
ด้วยความรู้สึกของผู้หญิง เธอรู้สึกครั้งนี้ที่ ณรงค์กรลงมือกับเธอ ก็เพราะเป็นวางแผนจัด ฉากของลิสาเหมือนกัน!
เธอตบลิสาไปสิบกว่าทีที่ห้างสตาร์ไลท์ ลิ สาก็เพื่อจะให้เธอได้เจอดี
ให้เธอใช้วิธีที่แย่จนทนดูไม่ได้มาทำลาย ชื่อเสียงของตนเอง…… ลองคิดดูสิ
เป็นถึงคุณหนูรองของตระกูลดำรงกูลถูก ไล่ตะเพิดออกจากบ้าน ยั่วสวาทพี่เขยตนเอง
ปฎิเสธผู้ชายที่เพอร์เฟคทั้งสองคนต่อหน้า สาธารณชน สุดท้ายไปขึ้นเตียงกับผู้ชายรัก ร่วมเพศ
เรื่องมันช่างพลิกผันไปมา เป็นเรื่องฮอต ระเบิดขนาดนี้ และดึงดูดสายตาผู้คนได้มาก ขนาดนี้!
พิงกี้ไม่มีหลักฐานใดๆทั้งสิ้น แต่ความรู้สึก ของเธอก็คือหลักฐาน! คำพูดเหล่านี้เธอไม่คิด จะบอกเควิน
ประสบการณ์ที่ผ่านมาบอกกับเธอว่าถึงพูด ไปก็ไม่มีประโยชน์
ร่างกายที่ย่ำแย่ของลิสานั้นก็คือเครื่องราง ของขลังของเธอ เธออย่าหาเรื่องใส่ตัวจะดีกว่า เห็นพิงกี้เงียบขรึม
เควินยังนึกว่าเธอกำลังลังเลว่าจะตอบตก ลงหรือปฏิเสธดี เขาพูดเกลี้ยกล่อมอีก
“ข้างกายเธอไม่ค่อยปลอดภัย นี่คือความ จริง! ในเมื่อเป็นแบบนี้
เธอก็ยิ่งต้องอยู่ในที่ๆมีการรักษาความ ปลอดภัยที่ดี อีกอย่างฉันอยากหาบอดี้การ์ด สองคนให้เธอ
ให้คอยติดตามเธอและคุ้มครองเธอ ตลอด24ชั่วโมง ฉันหวังว่าเธอจะไม่ปฏิเสธนะ”
“ห้า?” พิงกี้รู้สึกช็อกอีกแล้ว “เธอคงไม่ อยากถูกคนมอมยาแถมยังไม่มีปัญญาต่อต้านอี กมั้ง?
ครั้งนี้ฉันโชคดีที่หาเธอเจอได้ทัน แล้วครั้ง หน้าล่ะ? เธอสามารถรับประกันว่าพวกเราจะ โชคดีแบบนี้ทุกครั้งหรอ
ในตอนที่เธอต้องการความช่วยเหลือฉันจะมาทันทุกครั้งหรอ? ถึงเธอยินยอมที่จะพนัน แต่ ฉันไม่ยอม
ฉันทนไม่ได้ที่จะเห็นผู้หญิงของฉันถูก ผู้ชายคนอื่นแตะเนื้อต้องตัวถึงแม้จะแค่แป๊บ เดียวก็เถอะ!”
พูดถึงตรงนี้ แววตาของเควินเย็นชาลงมา
ทันที
พิงกี้ “……….….” ใบหน้าที่ขาวใสของเธอเริ่ม แดงก่ำขึ้นมาอย่างเงียบๆ
ก้มศรีษะไว้ก็สามารถเห็นติ่งหูก็แดงเหมือน กัน คำพูดที่ออกมาจากปากเควินมีความอาฆาต
มาก
แต่ว่าก็รู้สึกเร่าร้อนเกินไปหน่อย นี่แทบจะ วิเคราะห์ความคิดในใจของเขาออกมาให้เธอ
ฟังอย่างตรงๆเลย
เธอฟังแล้วรู้สึกว้าวุ่นและสับสน แอบหายใจลึกๆ นึง หลังจากคิดไตร่ตรองมาแล้วเธอก็ ยังส่ายหัว
“เรื่องบ้านฉันต้องปฎิเสธแน่นอน ขอโทษ ด้วยฉันอยู่ที่นี่ไม่สะดวก
ไกลจากตัวเมืองเยอะเกินไม่สะดวกกับการ ไปทำงานของฉัน เรื่องบอดี้การ์ดฉันก็ไม่เห็น ด้วย
ต่อไปฉันจะระวังตัวให้มากกว่านี้ แต่ฉัน ไม่อยากให้คนคอยตามฉัน นั่นจะทำให้ฉันไม่มี ความเป็นส่วนตัวเลย
ฉันรู้สึกไม่คุ้นชินค่ะ”
“ฉันเตรียมบ้านที่ตัวเมืองให้เธอหลังนึง ที่ วิมานเมฆเธอคิดว่ายังไง?
“ไม่ ก็ไม่ต้องเหมือนกันค่ะ” พิงกี้ส่ายหัว “ฉันเพิ่งเช่าห้องเดี่ยวที่ใช้ได้ห้องนึง
และอยู่ในโซนที่มีการรักษาความปลอดภัย ที่โอเค แค่ห้องเล็กไปหน่อยเฉยๆ ตอนนี้ฉันยัง ไม่อยากย้ายห้องค่ะ”
ย้ายบ้านก็เป็นเรื่องวุ่นวาย พิงกี้ก็ไม่อยาก
ล้มลุกคลุกคลานแล้ว
เควินไม่ได้พูดเกลี้ยกล่อมอีก เขารู้นิสัย ของพิงกี้ ยัยผู้หญิงคนนี้ภายนอกดูอ่อนโยน
แต่แท้จริงแล้วนิสัยดื้อรั้นมาก เป็นคนมี
ความคิดของตนเอง
ตอนที่เธอชอบใครแล้วสามารถเห็นคนๆ นั้นสำคัญกว่าตัวเอง ตอนที่ไม่ชอบก็จะปฎิเสธ อย่างเด็ดขาด
แทบอยากจะหนีไปให้ไกลสุดขอบฟ้าเลย เมื่อก่อนตอนที่เขาได้ครอบครองใจเธอเขากลับ ไม่ค่อยสนใจเธอ
ตอนนี้ถ้าอยากได้ใจเธอใหม่ เขายังต้องพยายามอีกเยอะ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกวุ่นวายและ ไม่ได้ท้อแท้ด้วย
อย่างน้อย เมื่อคืนพวกเขาก็ได้มีการพัฒนา ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นอีกขั้นแล้ว ไม่ใช่หรอ?
เรื่องของบอดี้การ์ดก็จัดการง่ายอยู่แล้ว ใน เมื่อเธอไม่ยอมให้คนติดตามเธออย่างเปิดเผย
งั้นก็คุ้มครองเธออยู่ลับๆเหมือนเมื่อก่อน ก็ได้แล้ว เรื่องที่เบอร์หนึ่งกับเบอร์สองถูกคน วางยาสลบครั้งนี้
เขาก็จะตรวจสอบดูดีๆ ดูซิว่ามีลับลมคมใน อะไรกันแน่?!–
พิงกี้ทึ่งมาก นึกไม่ถึงว่าเธอจะพูดโน้มน้าว เควินได้ง่ายๆแบบนี้ แต่ว่าเธอก็ไม่ใช่คนที่จะ ยอมถูกคนทารุณ
เควินยอมให้เกียรติกับความคิดเธอ เธอก็ ยังรู้สึกดีใจมาก ถูกเควินส่งมาถึงใต้ตึกคอนโด
พิงกี้ลงจากรถและโบกมือให้เขา “ลาก่อน
นะคะ”
“อืมๆ ลาก่อน” เควินพยักหน้าเล็กน้อย จู่ๆ เขารู้สึกชอบคำว่า “ลาก่อน มาก
ยังไงคำนี้ก็ดีกว่าคำว่าอย่าเจอกันอีกเยอะ เพราะความรื่นรมย์ที่โผล่มาในใจอย่างกระทัน
หัน
พิงกี้เดินไปหลายก้าวแล้ว เขากลับพูด เสียงสูงเพิ่มเติมอีกคำ “กลับไปพักผ่อนดีๆ อย่า หักโหมเกินไปนะ”
ที่มาผ่านเขาเป็นคนเงียบขรึม จะให้พูด คำพูดที่เอาใจใส่แบบนี้ยากมาก พิงกี้หันหลัง โบกมือให้เขาอีกรอบ
เธอยิ้มจนตาหยี รอยยิ้มเธอร่าเริงและ สวยงามเหมือนพระอาทิตย์ที่ส่องแสงเจิดจ้า
กลับถึงห้องเช่าเล็กๆของ ตนเอง พิงกี้เอาตัวเองล้มไปบนเตียง
เสื้อผ้าไม่ได้ถอดก็หลับไปแบบนี้เฉยเลย หลับยาวจนถึงวันรุ่งขึ้น เธอถูกความหิวและ ท้องร้องกร๊อกๆปลุกจนตีน
ออกไปทานอาหารเช้าเสร็จ เธอก็แวะไป จ่ายตลาด ตั้งใจเลือกกระดูกหมูและแครอทที่ สด
กะจะตุ้นน้ำซุปไปให้ยายสมศรี ขอแค่เธอมี เวลา เธอก็จะทำแบบนี้ทุกครั้ง
นี่แทบจะกลายเป็นความเคยชินอย่างนึง ของเธอไปแล้ว พิงกี้ไม่ได้ไปติดตามเรื่องของ ณรงค์ต่อ
ด้านนึงคือไม่อยากเพิ่มปัญหาให้ตนเอง อีก ด้านนึงก็เป็นเพราะว่าเชื่อใจเควิน
เธอรู้สึกเควินสามารถจัดการเรื่องนี้ให้ดีแน่นอน ไม่ทําให้ชื่อเสียงเธอได้รับผลกระทบ
และไม่ทำให้เกิดผลที่ร้ายแรงตามมาภัย หลัง แน่นอน ต่อมาเธอกลับรู้สึกเสียใจ