ลิสาเป็นคนบอกยายหรือคะ ?” พิงกี้รู้สึก
ตื่นตะลึงมาก
เธอไม่คิดว่าจะได้คำตอบแบบนี้
เรื่องนี้เก็บซ่อนอยู่ในใจเธอมาหลายสัน เธอเคยคิดถึงความเป็นไปได้หลายรูปแบบ แต่กลับไม่คิดว่าเรื่องนี้ลิสาจะเป็นบอกกับ ยาย……ไม่ ที่จริงเธอเคยสงสัยว่ายายรู้เรื่อง ทั้งหมด แม้กระทั่งยังเคยสงสัยว่ายายร่วมมือ กับ สา
เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอสงสัยลิสา และท่าทางของยายก็ทำให้เธอรู้สึกน่าสงสัย ด้วย ดังนั้นภายในจิตใต้สำนึกความคิดนี้ของ เธอจึงไม่ค่อยชัดเจน แต่ว่าเรื่องนี้ก็พอทำให้เดา สถานการณ์ได้บ้าง แต่แค่หลายวันที่ผ่านมาเธอ จึงไม่กล้าคิดเข้าไปให้ลึกซึ้งกว่านี้ เพราะเธอไม่ กล้าที่จจะต้องเผชิญกับความจริง
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือหลังจากที่ถาม
คำถามนี้ไป นึกไม่ถึงว่ายายจะตอบตรงๆขนาดนี้ ตอบคําถามที่ทำให้เธอไม่สามารถสงสัยอีก ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติและง่ายดายแบบนี้ และยังพูด อของลิสาออกมาอย่างไม่ปิดบัง
เมื่อฟังจากค่าตอบ ก็เหมือนว่ายายจะไม่ได้ ถูกลิสาใช้ให้ทําเรื่องแบบนี้ และไม่ได้เสแสร้ง แกล้งจับคู่เธอกับณรงค์กร
เพราะแบบนี้ยายเลยไม่ได้รู้สึกกินปูนร้อน ท้องหรอ?
เมื่อคิดถึงจุดนี้ ทำให้พิงกี้มีอีกคำถามเกิด ขึ้นมาอีกหนึ่งคำถาม
“ยาย ลิสาเข้ามาเยี่ยมยายเมื่อไหร่เหรอ
คะ?”
ยายสมศรีกับลิสามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? แล้วทำไมเธอถึงไม่รู้?
ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองเหมือนกบในกะลา ที่ถูกหลอกจากคนใกล้ชิด ซึ่งความรู้สึกนี้มันไม่เอาเสียเลย
เธอไม่แครเรื่องที่ชาตรีและมาลา ดีต่อ สาได้ และไม่แคร์ที่สมคิดกับวันเพ็ญดีต่อลิสา ได้ แต่เธอแคร้ายสมศรี ต่อลิสาหรือเปล่า?
เธอไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น จึงไม่อยาก ปล่อยความรักที่ได้จากครอบครัวที่มีอยู่คน เดียวให้หลุดมือไป เธอหวังอย่างมากว่านี่เป็น ของเธอ และเป็นของเธอแค่คนเดียวด้วย!
แต่ว่า…
ในขณะที่เธอไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ก็ไม่ใช่ ของเธอไปแล้วงั้นเหรอ?
“ลิสาไม่ได้เข้ามาเยี่ยมยายหรอก แต่..แต่ แค่โทรเข้ามาหายายเท่านั้น” ยายสมศรีพูดกับ เธออย่างอึดอัดใจแล้วเอื้อมมือไปจับมือของ พิงกี้ สายตาฝ้าฟางของคนแก่ที่มองเธอและ พูดอย่างระมัดระวัง “พิงกี้ หลานไม่ชอบที่ยาย ติดต่อลิสาหรอ? ยาย…แต่ว่า ไม่ว่ายังไงลิสาก็เป็นหลานสาวแท้ๆของยาย เชอ…หลายปีที่ผ่าน มา ยายเองก็ไม่เคยทําหน้าที่ยายที่ดีต่อเธอเลย เธอโทรมาหายาย ยายไม่รับก็รู้สึกไม่ดี……..
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ” พิงกี้พยายามที่ จะฝืนยิ้มออกมา ไม่รอช้าจึงค่อยๆดึงมือตัวเอง กลับ “ยายพักผ่อนเถอะนะ หนูก็จะกลับแล้ว ค่ะ”
จู่ๆเธอก็นึกขึ้นได้ว่าใต้หมอนของยาย รูปของลิสาซ่อนอยู่ ทำให้เธอรู้สึกว่าตอนนี้ ในหัวใจกลับถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ อย่างไม่มีที่ ให้ระบาย เหมือนมีความรู้สึกทรมานที่ยากจะ บรรยาย
ความสูญเสีย ความเศร้า หรือเป็นเพราะ
ความอิจฉากันแน่……………
ใช่ เธออิจฉาลิสามาก !
“พิงกี้…..….
“เอาล่ะค่ะ หนูจะกลับแล้ว ไว้จะมาเยี่ยม ยายใหม่นะ”
รีบวิ่งออกจากห้องคนไข้ พิงกี้วิ่งตรงไปยัง หัวมุมของบันได แอบหลบอยู่คนเดียวโดยไม่มี ใครผ่านมา ทันใดนั้นน้ำตาที่กลั้นไม่อยู่ก็หลั่ง
ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
หลังจากพิงกี้เดินออกไปจากห้องแล้ว ยาย สมศรีออกถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เธอที่ปกติจะเป็นคนอารมณ์ดีที่ใบหน้าที่ คอยเปื้อนยิ้มอยู่ตลอดเวลา แต่ในเวลานี้ ทั่วทั้ง ใบหน้ากลับยุ่งเหยิง และมีแววตาที่ดิ้นรน
หยิบมือถือรุ่นเก่าจากตู้ที่อยู่ข้างเตียง ยาย สมศรีก เปิดค้นหาไปยังสมุดรายชื่อ เมื่อหาสัก พักก็เจอเข้ากับชื่อที่ขึ้นว่า “พยาบาล จึงรีบกด โทรออกทันที
เห็นได้จากประวัติการโทรแล้ว มีการ ติดต่อกับยายสมศรีบ่อยครั้งมาก มากกว่าที่ฟัง โทรเข้ามาวันละรอบด้วยซ้ำ
หลังจากที่รอสายมานาน ในที่สุดก็มีคนรับ
สาย
น้ำเสียงที่รับสายกลับแย่มาก “ฮัลโหล? ทําไมยายถึงโทรเข้ามาอีกล่ะ? หรือว่าเกิดเรื่อง อะไรขึ้น? มีธุระอะไรก็รีบพูดมา หากไม่มีฉันจะ วางสายแล้ว ฉันกำลังยุ่งๆอยู่
ยายสมศรีก็ไม่ได้ถือสาเธอ
สายตาที่วุ่นวายของเธอมองไปทางประตู ห้องผู้ป่วยทีหนึ่ง เมื่อมั่นใจว่าพิงกี้เดินออกไป ไกลแล้ว เธอจึงเดินไปทางระเบียงแล้วถามออก มา “ลิสา เรื่องนั้นคงไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย? ใน ตอนแรกหลานไม่ได้บอกว่าณรงค์กรจะวางยา พิงกี้นี่นา นั่นเกือบทำลายชื่อเสียงของเธอจน ป่นปี้หมดเลยนะ ตอนนั้นหลานบอกแค่ว่าจะใช้ ณรงค์กรในการทําให้ชื่อเสียงของพิงกี้เสียหายนิดหน่อย ตระกูลภิรมย์ภักดีจะได้ไม่เลือกเธอ เป็นสะใภ้แค่นั้นเองไม่ใช่หรอ? ”
ลิสาที่ได้ฟังก็รู้สึกอึ้ง พูดด้วยเสียงต่ำที่ฟัง ดูน่าสงสาร ม “ยายกำลังโทษลิสาเหรอคะ? ยายรู้แต่แรกแล้วไม่ใช่หรอ? ทำไมตอนนี้ถึงมา พลิกหาบัญชีเก่าอีกแล้วล่ะคะ ?”
“ยายก็ไม่อยากพูดหรอก แต่ว่าวันนี้พิงกี้ กลับถามยายเรื่องณรงค์กรว่าทำไมไม่เห็นพูด ถึงเลย ยายกลัวว่าพิงกี้จะสงสัยยายเข้าแล้วน่ะ สิ!” ยายสมศรีเต็มไปด้วยความลำบากใจ ได้ แต่ใช้มือที่แห้งเหี่ยวปิดไปที่ตาทั้งสอง “ยาย เลี้ยงพิงกี้มาตั้งแต่เด็ก ยายดูออกว่าเธอผิด สังเกตุ”
โง่จริงๆ!
ลิสาได้แต่แอบก่นด่าอยู่ในใจ กลับมีความ ดูถูกเหยียดหยามยายอยู่ภายในใจ
เธอก็ได้บอกไปแต่แรกแล้วว่าให้รับมือพิงยังไง เมื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็กลับทำให้ถูก เปิดเผย และยังโทรหาเธออย่างตื่นตระหนก แบบนี้ นี่ไม่เรียกว่าโง่แล้วเรียกอะไร?
ยังดีที่เธอตีตัวออกมาทําให้ไม่มีส่วน เกี่ยวข้อง หากเรื่องนี้เธอถูกนำมาให้เกี่ยวข้อง ด้วยล่ะก็ ปัญหาใหญ่ต้องตามมาแน่!
รู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก แต่ลิสากลับหลั่ง น้ำตาออกมาในทันที “ลิสาเองก็ไม่รู้ว่าเป็น แบบนี้ไปได้ยังไง ณรงค์กรนั่นรู้ๆกันอยู่ว่าชอบ ผู้ชายด้วยกัน ตอนนั้นหลานเองก็ถามอย่าง ชัดเจนแล้ว ยายคะ ยายคิดว่าลิสาจงใจที่จะ ทำร้ายพิงกี้ใช่มั้ยคะ? ลิสาจะไปกล้าทำได้ยังไง กัน?ลิสา แค่ไม่อยากเสียเควินไปก็เท่านั้น เรา คบกันมานานขนาดนั้น แต่พิงกี้กลับแย่งเขาไป ลิสา…….”
เสียงร้องไห้ที่ชัดเจนของลิสา เหมือนกับ คนที่ถูกกระทํามาตลอด
“ยาย ยายไม่ได้หมายความแบบนั้น หลานอย่าร้องไห้อีกเลยนะ…….. ” ในตอนนี้นายสมศรี เองก็เริ่มกระวนกระวายใจ “แต่ว่า ตอนนี้ฟัง กำลังสงสัยยาย ยายก็ไม่อยากทําร้ายจิตใจ ของพิงกี้! ยายที่ล้มป่วยกลับไม่มีใครสนใจว่าจะ เป็นหรือตาย จะมีก็แต่พิงกี้ที่คอยดูแล หากขาย ทําร้ายจิตใจของพิงกี้อีก นั่นก็เท่ากับว่ายาย ไม่ใช่คนแล้ว”
“แต่ก่อนยายก็ดีกับพิงกี้มาก และยังให้ เธอมีศักดิ์เป็นหลานคนหนึ่ง ทั้งยังช่วยชีวิตเธอ อีก แต่ในตอนนี้ที่เธอทำดีกับยายหน่อย มันคือ ความกตัญญูที่ควรตอบแทนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ คะ ?”
“แต่ว่า…”
“ยายต้องคิดว่าตัวเองเป็นผู้อาวุโสของ บ้าน พวกเราก็ต้องดีกับยายและให้ความ เคารพต่อยายอยู่แล้ว ในเมื่อพิงกี้ทำเรื่องที่ ผิด ถึงขนาดที่กล้าปีนขึ้นเตียงของพี่เขย หาก ยังปล่อยไว้แบบนี้ต่อไป ในไม่ช้าก็อาจถูก พวกนักเลงข้างนอกตีตายเอาได้ เรื่องที่ยายพยายามทำอยู่ตอนนี้ก็เพื่อช่วยเปลี่ยนเธอจาก คนร้ายเป็นคนดีเท่านั้นเอง แต่หากว่าเธอยังคง โทษยาย นั่นก็แปลว่าความคิดของเธอมีปัญหา แล้วจริงๆ ที่ยังไม่รู้ถึงความผิดของตัวเอง!
“จริงหรือ ?” ยายสมศรี ยังมีความลังเล
“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ”
“แต่ว่าครั้งนี้ ยายเกือบทำให้ชื่อเสียงของ เธอต้องเสียหายขนาดนั้น หากพิงกี้โกรธยาย ขึ้นมาจะทำยังไง?” ยายสมศรีเองก็รู้ดีว่าตอน นี้ค่ารักษาต่างๆล้วนเป็นพิงกี้ที่ช่วยออกค่าใช้ จ่าย หากพิงกี้ไม่ใกล้ชิดกับเธอแล้ว อีกหน่อยก็ เท่ากับว่าเธอได้แต่นอนรอความตาย
คนเราพอแก่แล้ว กลับยิ่งกลัวความตาย มากที่สุด เธอเองก็ไม่อยากแบกรับกับเรื่องไม่ คาดคิด!
“เธอจะโกรธยายได้ยังไงคะ? ถึงแม้ว่าเธอ จะโกรธก็โกรธคนที่ทำร้ายเธอ ไม่มีทางมาโทษถึงตัวยายหรอกค่ะ” ลิสาพูดอย่างมีความมั่นใจ มาก “ยายวางใจเถอะ ฉันเตรียมแพะรับบาป ไว้ตั้งนานแล้ว ขอแค่พวกเราไม่มีพิรุธ เรื่องไม่มี ทางสาวมาถึงตัวพวกเราหรอกค่ะ”
ลิสาเป็นคนบอกยายหรือคะ ?” พิงกี้รู้สึก
ตื่นตะลึงมาก
เธอไม่คิดว่าจะได้คำตอบแบบนี้
เรื่องนี้เก็บซ่อนอยู่ในใจเธอมาหลายสัน เธอเคยคิดถึงความเป็นไปได้หลายรูปแบบ แต่กลับไม่คิดว่าเรื่องนี้ลิสาจะเป็นบอกกับ ยาย……ไม่ ที่จริงเธอเคยสงสัยว่ายายรู้เรื่อง ทั้งหมด แม้กระทั่งยังเคยสงสัยว่ายายร่วมมือ กับ สา
เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอสงสัยลิสา และท่าทางของยายก็ทำให้เธอรู้สึกน่าสงสัย ด้วย ดังนั้นภายในจิตใต้สำนึกความคิดนี้ของ เธอจึงไม่ค่อยชัดเจน แต่ว่าเรื่องนี้ก็พอทำให้เดา สถานการณ์ได้บ้าง แต่แค่หลายวันที่ผ่านมาเธอ จึงไม่กล้าคิดเข้าไปให้ลึกซึ้งกว่านี้ เพราะเธอไม่ กล้าที่จจะต้องเผชิญกับความจริง
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือหลังจากที่ถาม
คำถามนี้ไป นึกไม่ถึงว่ายายจะตอบตรงๆขนาดนี้ ตอบคําถามที่ทำให้เธอไม่สามารถสงสัยอีก ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติและง่ายดายแบบนี้ และยังพูด อของลิสาออกมาอย่างไม่ปิดบัง
เมื่อฟังจากค่าตอบ ก็เหมือนว่ายายจะไม่ได้ ถูกลิสาใช้ให้ทําเรื่องแบบนี้ และไม่ได้เสแสร้ง แกล้งจับคู่เธอกับณรงค์กร
เพราะแบบนี้ยายเลยไม่ได้รู้สึกกินปูนร้อน ท้องหรอ?
เมื่อคิดถึงจุดนี้ ทำให้พิงกี้มีอีกคำถามเกิด ขึ้นมาอีกหนึ่งคำถาม
“ยาย ลิสาเข้ามาเยี่ยมยายเมื่อไหร่เหรอ
คะ?”
ยายสมศรีกับลิสามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? แล้วทำไมเธอถึงไม่รู้?
ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองเหมือนกบในกะลา ที่ถูกหลอกจากคนใกล้ชิด ซึ่งความรู้สึกนี้มันไม่เอาเสียเลย
เธอไม่แครเรื่องที่ชาตรีและมาลา ดีต่อ สาได้ และไม่แคร์ที่สมคิดกับวันเพ็ญดีต่อลิสา ได้ แต่เธอแคร้ายสมศรี ต่อลิสาหรือเปล่า?
เธอไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น จึงไม่อยาก ปล่อยความรักที่ได้จากครอบครัวที่มีอยู่คน เดียวให้หลุดมือไป เธอหวังอย่างมากว่านี่เป็น ของเธอ และเป็นของเธอแค่คนเดียวด้วย!
แต่ว่า…
ในขณะที่เธอไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ก็ไม่ใช่ ของเธอไปแล้วงั้นเหรอ?
“ลิสาไม่ได้เข้ามาเยี่ยมยายหรอก แต่..แต่ แค่โทรเข้ามาหายายเท่านั้น” ยายสมศรีพูดกับ เธออย่างอึดอัดใจแล้วเอื้อมมือไปจับมือของ พิงกี้ สายตาฝ้าฟางของคนแก่ที่มองเธอและ พูดอย่างระมัดระวัง “พิงกี้ หลานไม่ชอบที่ยาย ติดต่อลิสาหรอ? ยาย…แต่ว่า ไม่ว่ายังไงลิสาก็เป็นหลานสาวแท้ๆของยาย เชอ…หลายปีที่ผ่าน มา ยายเองก็ไม่เคยทําหน้าที่ยายที่ดีต่อเธอเลย เธอโทรมาหายาย ยายไม่รับก็รู้สึกไม่ดี……..
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ” พิงกี้พยายามที่ จะฝืนยิ้มออกมา ไม่รอช้าจึงค่อยๆดึงมือตัวเอง กลับ “ยายพักผ่อนเถอะนะ หนูก็จะกลับแล้ว ค่ะ”
จู่ๆเธอก็นึกขึ้นได้ว่าใต้หมอนของยาย รูปของลิสาซ่อนอยู่ ทำให้เธอรู้สึกว่าตอนนี้ ในหัวใจกลับถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ อย่างไม่มีที่ ให้ระบาย เหมือนมีความรู้สึกทรมานที่ยากจะ บรรยาย
ความสูญเสีย ความเศร้า หรือเป็นเพราะ
ความอิจฉากันแน่……………
ใช่ เธออิจฉาลิสามาก !
“พิงกี้…..….
“เอาล่ะค่ะ หนูจะกลับแล้ว ไว้จะมาเยี่ยม ยายใหม่นะ”
รีบวิ่งออกจากห้องคนไข้ พิงกี้วิ่งตรงไปยัง หัวมุมของบันได แอบหลบอยู่คนเดียวโดยไม่มี ใครผ่านมา ทันใดนั้นน้ำตาที่กลั้นไม่อยู่ก็หลั่ง
ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
หลังจากพิงกี้เดินออกไปจากห้องแล้ว ยาย สมศรีออกถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เธอที่ปกติจะเป็นคนอารมณ์ดีที่ใบหน้าที่ คอยเปื้อนยิ้มอยู่ตลอดเวลา แต่ในเวลานี้ ทั่วทั้ง ใบหน้ากลับยุ่งเหยิง และมีแววตาที่ดิ้นรน
หยิบมือถือรุ่นเก่าจากตู้ที่อยู่ข้างเตียง ยาย สมศรีก เปิดค้นหาไปยังสมุดรายชื่อ เมื่อหาสัก พักก็เจอเข้ากับชื่อที่ขึ้นว่า “พยาบาล จึงรีบกด โทรออกทันที
เห็นได้จากประวัติการโทรแล้ว มีการ ติดต่อกับยายสมศรีบ่อยครั้งมาก มากกว่าที่ฟัง โทรเข้ามาวันละรอบด้วยซ้ำ
หลังจากที่รอสายมานาน ในที่สุดก็มีคนรับ
สาย
น้ำเสียงที่รับสายกลับแย่มาก “ฮัลโหล? ทําไมยายถึงโทรเข้ามาอีกล่ะ? หรือว่าเกิดเรื่อง อะไรขึ้น? มีธุระอะไรก็รีบพูดมา หากไม่มีฉันจะ วางสายแล้ว ฉันกำลังยุ่งๆอยู่
ยายสมศรีก็ไม่ได้ถือสาเธอ
สายตาที่วุ่นวายของเธอมองไปทางประตู ห้องผู้ป่วยทีหนึ่ง เมื่อมั่นใจว่าพิงกี้เดินออกไป ไกลแล้ว เธอจึงเดินไปทางระเบียงแล้วถามออก มา “ลิสา เรื่องนั้นคงไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย? ใน ตอนแรกหลานไม่ได้บอกว่าณรงค์กรจะวางยา พิงกี้นี่นา นั่นเกือบทำลายชื่อเสียงของเธอจน ป่นปี้หมดเลยนะ ตอนนั้นหลานบอกแค่ว่าจะใช้ ณรงค์กรในการทําให้ชื่อเสียงของพิงกี้เสียหายนิดหน่อย ตระกูลภิรมย์ภักดีจะได้ไม่เลือกเธอ เป็นสะใภ้แค่นั้นเองไม่ใช่หรอ? ”
ลิสาที่ได้ฟังก็รู้สึกอึ้ง พูดด้วยเสียงต่ำที่ฟัง ดูน่าสงสาร ม “ยายกำลังโทษลิสาเหรอคะ? ยายรู้แต่แรกแล้วไม่ใช่หรอ? ทำไมตอนนี้ถึงมา พลิกหาบัญชีเก่าอีกแล้วล่ะคะ ?”
“ยายก็ไม่อยากพูดหรอก แต่ว่าวันนี้พิงกี้ กลับถามยายเรื่องณรงค์กรว่าทำไมไม่เห็นพูด ถึงเลย ยายกลัวว่าพิงกี้จะสงสัยยายเข้าแล้วน่ะ สิ!” ยายสมศรีเต็มไปด้วยความลำบากใจ ได้ แต่ใช้มือที่แห้งเหี่ยวปิดไปที่ตาทั้งสอง “ยาย เลี้ยงพิงกี้มาตั้งแต่เด็ก ยายดูออกว่าเธอผิด สังเกตุ”
โง่จริงๆ!
ลิสาได้แต่แอบก่นด่าอยู่ในใจ กลับมีความ ดูถูกเหยียดหยามยายอยู่ภายในใจ
เธอก็ได้บอกไปแต่แรกแล้วว่าให้รับมือพิงยังไง เมื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็กลับทำให้ถูก เปิดเผย และยังโทรหาเธออย่างตื่นตระหนก แบบนี้ นี่ไม่เรียกว่าโง่แล้วเรียกอะไร?
ยังดีที่เธอตีตัวออกมาทําให้ไม่มีส่วน เกี่ยวข้อง หากเรื่องนี้เธอถูกนำมาให้เกี่ยวข้อง ด้วยล่ะก็ ปัญหาใหญ่ต้องตามมาแน่!
รู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก แต่ลิสากลับหลั่ง น้ำตาออกมาในทันที “ลิสาเองก็ไม่รู้ว่าเป็น แบบนี้ไปได้ยังไง ณรงค์กรนั่นรู้ๆกันอยู่ว่าชอบ ผู้ชายด้วยกัน ตอนนั้นหลานเองก็ถามอย่าง ชัดเจนแล้ว ยายคะ ยายคิดว่าลิสาจงใจที่จะ ทำร้ายพิงกี้ใช่มั้ยคะ? ลิสาจะไปกล้าทำได้ยังไง กัน?ลิสา แค่ไม่อยากเสียเควินไปก็เท่านั้น เรา คบกันมานานขนาดนั้น แต่พิงกี้กลับแย่งเขาไป ลิสา…….”
เสียงร้องไห้ที่ชัดเจนของลิสา เหมือนกับ คนที่ถูกกระทํามาตลอด
“ยาย ยายไม่ได้หมายความแบบนั้น หลานอย่าร้องไห้อีกเลยนะ…….. ” ในตอนนี้นายสมศรี เองก็เริ่มกระวนกระวายใจ “แต่ว่า ตอนนี้ฟัง กำลังสงสัยยาย ยายก็ไม่อยากทําร้ายจิตใจ ของพิงกี้! ยายที่ล้มป่วยกลับไม่มีใครสนใจว่าจะ เป็นหรือตาย จะมีก็แต่พิงกี้ที่คอยดูแล หากขาย ทําร้ายจิตใจของพิงกี้อีก นั่นก็เท่ากับว่ายาย ไม่ใช่คนแล้ว”
“แต่ก่อนยายก็ดีกับพิงกี้มาก และยังให้ เธอมีศักดิ์เป็นหลานคนหนึ่ง ทั้งยังช่วยชีวิตเธอ อีก แต่ในตอนนี้ที่เธอทำดีกับยายหน่อย มันคือ ความกตัญญูที่ควรตอบแทนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ คะ ?”
“แต่ว่า…”
“ยายต้องคิดว่าตัวเองเป็นผู้อาวุโสของ บ้าน พวกเราก็ต้องดีกับยายและให้ความ เคารพต่อยายอยู่แล้ว ในเมื่อพิงกี้ทำเรื่องที่ ผิด ถึงขนาดที่กล้าปีนขึ้นเตียงของพี่เขย หาก ยังปล่อยไว้แบบนี้ต่อไป ในไม่ช้าก็อาจถูก พวกนักเลงข้างนอกตีตายเอาได้ เรื่องที่ยายพยายามทำอยู่ตอนนี้ก็เพื่อช่วยเปลี่ยนเธอจาก คนร้ายเป็นคนดีเท่านั้นเอง แต่หากว่าเธอยังคง โทษยาย นั่นก็แปลว่าความคิดของเธอมีปัญหา แล้วจริงๆ ที่ยังไม่รู้ถึงความผิดของตัวเอง!
“จริงหรือ ?” ยายสมศรี ยังมีความลังเล
“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ”
“แต่ว่าครั้งนี้ ยายเกือบทำให้ชื่อเสียงของ เธอต้องเสียหายขนาดนั้น หากพิงกี้โกรธยาย ขึ้นมาจะทำยังไง?” ยายสมศรีเองก็รู้ดีว่าตอน นี้ค่ารักษาต่างๆล้วนเป็นพิงกี้ที่ช่วยออกค่าใช้ จ่าย หากพิงกี้ไม่ใกล้ชิดกับเธอแล้ว อีกหน่อยก็ เท่ากับว่าเธอได้แต่นอนรอความตาย
คนเราพอแก่แล้ว กลับยิ่งกลัวความตาย มากที่สุด เธอเองก็ไม่อยากแบกรับกับเรื่องไม่ คาดคิด!
“เธอจะโกรธยายได้ยังไงคะ? ถึงแม้ว่าเธอ จะโกรธก็โกรธคนที่ทำร้ายเธอ ไม่มีทางมาโทษถึงตัวยายหรอกค่ะ” ลิสาพูดอย่างมีความมั่นใจ มาก “ยายวางใจเถอะ ฉันเตรียมแพะรับบาป ไว้ตั้งนานแล้ว ขอแค่พวกเราไม่มีพิรุธ เรื่องไม่มี ทางสาวมาถึงตัวพวกเราหรอกค่ะ”