“สาวน้อยอะไร?” เควินเทเหล้าอีกหนึ่ง
แก้ว
เหล้าลงสู่ท้องไปหลายแก้ว แต่สติของเขา ยังตื่นตัวมาก แต่ปฎิกิริยาก็เชื่องช้าอยู่บ้าง และ เขาก็ไม่ได้คิดไปถึงเรื่องแปดปีก่อนหน้านั้น
“ก็เด็กสาวที่ฉันเคยช่วยชีวิตออกมาจาก โรงงานร้าง ที่ตอนนั้นร้องห่มร้องไห้จะแต่งงาน กับฉันคนนั้นไง นายจำไม่ได้แล้วหรือ?” เจษฎา ถอนหายใจเบาๆแล้วพูด “นึกไม่ถึงว่าเราจะมี วาสนาต่อกันขนาดนี้.…….…………..
เควินอึ้งเล็กน้อย ทันใดนั้นฤทธิ์ แอลกอฮอล์น้อยนิดที่อยู่บนร่างกายได้จาง หายไปทันที เขาหรี่ตาเล็กน้อยและถามกลับ “วาสนา?”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“เกิดอะไรขึ้น?”
“นึกไม่ถึงว่านายจะแปลกใจ?” เจษภารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
เขาไม่ได้ตั้งใจลีลาไม่พูดให้เควินฟัง แต่ เขารู้สึกแปลกใจจริงๆ
เพื่อนเขาคนนี้ที่ผ่านมาเป็นคนที่ไม่ว่าจะ สุขหรือทุกข์ก็ไม่แสดงออกมาให้เห็นทางสีหน้า เขาเป็นคนเรียบเฉยเย็นชากับเรื่องตัวเอง ถ้า เรื่องของคนอื่นยิ่งไม่ต้องพูดถึง……..คาดไม่ถึง เขากลายเป็นคนขี้สงสัยเรื่องคนอื่นตั้งแต่เมื่อ ไหร่?
แต่ว่าไปแล้ว สาวน้อยที่เขาว่ายังมีความ สัมพันธ์กับเพื่อนซี้คนนี้ด้วย
เผชิญกับการหยอกล้อของเจษฎา เควิน กลับเงียบสงบไม่พูดจา และดื่มเหล้าที่อยู่ในมือ จนหมดแก้ว ทำท่าเหมือนเจษฎาจะพูดหรือไม่ พูดก็ช่าง
“ฉันรู้ว่านายก็ต้องสีหน้าเย็นชาแบบนี้ ไม่ สนใจอะไรอยู่แล้ว” เจษฎายักคิ้ว เขาก็ไม่สนว่าเควินคิดยังไง เขาอยากพูด พูดเลย ก่อนหน้า นั้นฉันรู้จักน้องสาวคนนึงผ่านอินเตอร์เน็ต ฉัน เคยพูดกับนายอยู่ใช่มั้ย?
“อืม นายบอกว่าเธอเหมือนเจนนี่”
เจนนี่คือน้องสาวของเจษฎา หลายปีก่อน เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ
“ก็ไม่เชิงว่าหน้าตาเหมือนหรอก แค่ความ รู้สึกเหมือน ฉันนึกมาตลอดว่าฉันกับเธอจะ ติดต่อกันแค่ในเน็ต ในชีวิตจริงไม่มีทางมาเจอ กัน แต่คิดไม่ถึงว่าเธอถูกคนป้ายสีทำลายชื่อ เสียง เพื่อนของได้เธอติดต่อฉัน ให้ฉันช่วย สยบเรื่องนี้ ฉันถึงได้รู้ว่าเธอคือคุณหนูรองของ ตระกูลดำรงกูล”
มือที่ถือแก้วไว้ของเควินจับแน่นขึ้น “นาย จัดการยังไง?”
ไม่น่าเชื่อว่าคนๆนั้นจะเป็นเจษฎา?
ถึงว่าล่ะเขาตรวจสอบอยู่ตั้งนาน ที่ผ่าน มากลับไม่ได้เบาะแสอะไรเลย
เจษฎาตอบ “ฉันก็แฮกข้อมูลทุกเซิร์ฟเวอร์ ปัญหาจะได้จบสิ้นกันไป
“นายรู้ว่าเธอคือคุณหนูรองของตระกูล ดำรงกูล งั้นนายเคยดูคลิปและรูปเหล่านั้นของ เธอมั้ย?” เควินมีสีหน้าแปลกใจ
“ก็แค่เหลือบมองไปทีนึง…..ทําไมหรอ? ก่อนหน้านั้นฉันเคยวิดีโอคอลกับเธอและรู้ว่า เธอหน้าตายังไง ฉันไม่ได้แปลกใจเรื่องนี้เลยไม่ ได้ดู” เจษฎาสงสัย เขารู้สึกว่าเควินยิ่งอยู่ยิ่งผิด สังเกตุ
ตอนนั้นเขาช่วยพิงกี้สยบข่าวบนเน็ตก็รู้ว่า เธอคือใครแล้ว แต่ไม่ว่ายังไงคลิปเหล่านั้นก็ ไม่ใช่เรื่องดีอะไร เป็นคลิปส่วนตัวของเธอ เขา รู้สึกถ้าดูก็เท่ากับว่าไม่ให้เกียรติเธอ
อีกอย่างเขาเป็นลูกผู้ชาย เดิมทีก็ไม่สนใจข่าวโคมลอยเหล่านั้นและข่าวผู้หญิงตบตีกัน อยู่แล้ว สิ่งที่สงสัยที่สุดคือหน้าตาเธอ เขาก็ได้ เห็นตั้งนานแล้ว ดังนั้นรูปถ่ายเหล่านั้นเขาก็แค่ เหลือบมองไปทีนึง แม้แต่หัวข้อเนื้อเรื่องคือ อะไรก็ยังไม่ได้ไปดูเลย ยิ่งไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไร ขึ้น?
ตอนนี้เควินถามแบบนี้ เขากำลังคิดอยู่ว่า เขาพลาดอะไรหรือลืมติดตามเรื่องสำคัญอะไร ไปรึเปล่า?
“ฉันควรจะดูหรอ?” เขาถาม
เจษฎาไม่รู้ว่าตนเองพลาดอะไรไป เควินก็ ไม่มีทีท่าจะเตือนเขาเลย
“ไม่มีอะไร……” เขาก้มหน้าก้มตา และ เปิดปากพูดอย่างเย็นชา “นายอยากพูดก็พูด ต่อเถอะ”
สีหน้าเหมือนไม่เห็นด้วย ที่จริงไม่เปิดปาก ถาม เขาก็รู้และสารถเดาได้ถูก
ถ้าเจษฎาดูแล้ว ต่อหน้าเขาเจษฎาไม่มีทาง ใช้นํ้าเสียงแบบนี้คุยเรื่องนี้ เพราะเขาเองก็เป็น ตัวเอกในเรื่องนั้น ถึงรูปเหล่านั้นส่วนมากจะ เป็นเนื้อหาที่พิงกี้สั่งสอนลิสาอยู่หน้าบาร์ แต่ทุก เรื่องต่างก็มีเอ่ยถึงชื่อของเขา
เจษฎาไม่ได้ดูละเอียด ดังนั้นต่อหน้าเขา เจษฎาถึงพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าธรรมชาติขนาดนี้
ตอนนั้นเจษฎาไม่รู้สถานะของผู้หญิงที่เขา ช่วยชีวิตออกมา และเพราะความเคลื่อนไหว ของเขาไม่สามารถถูกเปิดเผยได้ เขาจึงไม่ สามารถส่งสาวน้อยคนนั้นไปโรงพยาบาล ดัง นั้นเจษฎาจึงมอบพิงกี้ไว้ให้กับเขา แต่ตนเอง กลับจากเมืองหลวงไป และบินไปที่อังกฤษ อย่างเร่งรีบ
เจษฎาในตอนนั้น เขาช่วยเหลือโดยไม่หวัง ผลตอบแทนใดๆทั้งสิ้น สถานะของสาวน้อยคน นั้นเขาก็ไม่สนใจ และไม่มีความคิดที่จะพัวพัน กันต่อไป แต่ตอนนี้เพราะพรหมลิขิตให้พวกเขา ติดต่อการมานานขนาดนี้ เขายังจะเพิกเฉยไม่แคร่ได้อีกหรือ?
ถ้าพิงกี้ก็รู้เรื่องนี้แล้วด้วยล่ะ?
เจษฎาไปก็ไปแปดปีรวดเลย พิงกี้นึกว่าคน ที่ช่วยเธอคือเขา จึงดื้อด้านจีบเขามาแปดปี
แปดปีนี้…
หัวใจของเควินทรมานเหมือนถูกไฟเผา จากนั้นเขาก็ดื่มอีกแก้วนึง
เหล้าผ่านลำคอ ไฟในใจยิ่งลุกท่วมเข้าไป
ใหญ่
“ต่อไปก็ไม่มีอะไรแล้ว ก็แค่หลังจากนั้นได้ เจอหน้ากับเธอไปครั้งนึง พบว่าตัวจริงของเธอ เหมือนคนๆนั้นก็เลยถามเธอดู คิดไม่ถึงว่าจะ เป็นเธอจริงๆด้วย
“คนๆนั้นที่ว่าคือใคร?” เควินมึนงงเล็ก
น้อย
“ก๊สาวน้อยที่ฉันช่วยออกมาจากเพลิงไฟ ยังไงล่ะ” เจษฎาหัวเราะเบาๆและพูดกลับมา ที่ประเด็นก่อนหน้านั้น “จะว่าไปแล้วเรื่องมันก็ เซอร์ไพรส์มากเลยนะ คิดไม่ถึงว่าวนไปวนมา ฉันกับเธอจะมีวาสนาต่อกันขนาดนี้”
ที่จริง เดิมทีเขาสามารถรู้ไวกว่านี้อีก แต่ เพราะพิงกี้ยัยตัวแสบตอนที่วิดีโอคอลกับเขา ก็ ไม่รู้ว่าเพราะเธออยากปกปิดใบหน้าที่แท้จริง หรือเปล่า? ทุกครั้งเธอชอบแต่งหน้าเข้ม ถึงดู แล้วไม่ได้ทำให้คนเกลียด แต่ก็ทำให้เขาดูไม่ ออกว่าเธอก็คือสาวน้อยคนนั้น
เจษฎาคิดถึงตรงนี้ก็อดขำไม่ได้ เขา หัวเราะอยู่เบาๆ แต่เควินที่เงียบขรึมกลับ อารมณ์แย่สุดขีด
ดื่มไปอีกไม่รู้กี่แก้ว ความคิดของเขาค่อยๆ เชื่องช้าลง
“เควิน! ” ในที่สุดเจษฎาก็สังเกตุเห็นความ ผิดปกติของเขา ดึงมือที่เขายกแก้วจะดื่มเหล้าอีก เจษฎาขมวดคิ้วและถาม “วันนี้นายเป็น อะไรกันแน่? เราไม่ได้เจอกันมาหลายปี กว่าจะ ได้สังสรรค์ด้วยกันไม่ใช่ง่ายๆ ทำไมนายทำหน้า เหมือนมีเรื่องทุกข์ใจขนาดนี้ ห้า?”
เจษฎานั่งย้อนคิด เดิมทีตอนแรกเขายัง เงียบสงบมาก แต่ผิดสังเกตุขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อ ไหร่?
หลังจากที่คุยเรื่องของพิงกี้หรือ?
หรือว่าระหว่างเขากับพิงกี้เคยมีความเกี่ยว พันอะไรกัน? แต่ว่าเขาไม่ใช่หมั้นแล้วหรอ แถม คู่หมั้นก็ยังเป็นพี่สาวของพิงกี้? ถ้าไม่ใช่เพราะ ความบังเอิญในเรื่องนี้ เขาก็ไม่เอาเรื่องนี้มาพูด ล้อเล่นหรอก เขานึกว่าเควินจะยิ้มได้เพราะเรื่อง บังเอิญนี้
“ฉันไม่เป็นไร” เควินยิ้มมุมปากขึ้นเล็ก น้อย “นายถามเธอเมื่อไหร่?
“สาวน้อยอะไร?” เควินเทเหล้าอีกหนึ่ง
แก้ว
เหล้าลงสู่ท้องไปหลายแก้ว แต่สติของเขา ยังตื่นตัวมาก แต่ปฎิกิริยาก็เชื่องช้าอยู่บ้าง และ เขาก็ไม่ได้คิดไปถึงเรื่องแปดปีก่อนหน้านั้น
“ก็เด็กสาวที่ฉันเคยช่วยชีวิตออกมาจาก โรงงานร้าง ที่ตอนนั้นร้องห่มร้องไห้จะแต่งงาน กับฉันคนนั้นไง นายจำไม่ได้แล้วหรือ?” เจษฎา ถอนหายใจเบาๆแล้วพูด “นึกไม่ถึงว่าเราจะมี วาสนาต่อกันขนาดนี้.…….…………..
เควินอึ้งเล็กน้อย ทันใดนั้นฤทธิ์ แอลกอฮอล์น้อยนิดที่อยู่บนร่างกายได้จาง หายไปทันที เขาหรี่ตาเล็กน้อยและถามกลับ “วาสนา?”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“เกิดอะไรขึ้น?”
“นึกไม่ถึงว่านายจะแปลกใจ?” เจษภารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
เขาไม่ได้ตั้งใจลีลาไม่พูดให้เควินฟัง แต่ เขารู้สึกแปลกใจจริงๆ
เพื่อนเขาคนนี้ที่ผ่านมาเป็นคนที่ไม่ว่าจะ สุขหรือทุกข์ก็ไม่แสดงออกมาให้เห็นทางสีหน้า เขาเป็นคนเรียบเฉยเย็นชากับเรื่องตัวเอง ถ้า เรื่องของคนอื่นยิ่งไม่ต้องพูดถึง……..คาดไม่ถึง เขากลายเป็นคนขี้สงสัยเรื่องคนอื่นตั้งแต่เมื่อ ไหร่?
แต่ว่าไปแล้ว สาวน้อยที่เขาว่ายังมีความ สัมพันธ์กับเพื่อนซี้คนนี้ด้วย
เผชิญกับการหยอกล้อของเจษฎา เควิน กลับเงียบสงบไม่พูดจา และดื่มเหล้าที่อยู่ในมือ จนหมดแก้ว ทำท่าเหมือนเจษฎาจะพูดหรือไม่ พูดก็ช่าง
“ฉันรู้ว่านายก็ต้องสีหน้าเย็นชาแบบนี้ ไม่ สนใจอะไรอยู่แล้ว” เจษฎายักคิ้ว เขาก็ไม่สนว่าเควินคิดยังไง เขาอยากพูด พูดเลย ก่อนหน้า นั้นฉันรู้จักน้องสาวคนนึงผ่านอินเตอร์เน็ต ฉัน เคยพูดกับนายอยู่ใช่มั้ย?
“อืม นายบอกว่าเธอเหมือนเจนนี่”
เจนนี่คือน้องสาวของเจษฎา หลายปีก่อน เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ
“ก็ไม่เชิงว่าหน้าตาเหมือนหรอก แค่ความ รู้สึกเหมือน ฉันนึกมาตลอดว่าฉันกับเธอจะ ติดต่อกันแค่ในเน็ต ในชีวิตจริงไม่มีทางมาเจอ กัน แต่คิดไม่ถึงว่าเธอถูกคนป้ายสีทำลายชื่อ เสียง เพื่อนของได้เธอติดต่อฉัน ให้ฉันช่วย สยบเรื่องนี้ ฉันถึงได้รู้ว่าเธอคือคุณหนูรองของ ตระกูลดำรงกูล”
มือที่ถือแก้วไว้ของเควินจับแน่นขึ้น “นาย จัดการยังไง?”
ไม่น่าเชื่อว่าคนๆนั้นจะเป็นเจษฎา?
ถึงว่าล่ะเขาตรวจสอบอยู่ตั้งนาน ที่ผ่าน มากลับไม่ได้เบาะแสอะไรเลย
เจษฎาตอบ “ฉันก็แฮกข้อมูลทุกเซิร์ฟเวอร์ ปัญหาจะได้จบสิ้นกันไป
“นายรู้ว่าเธอคือคุณหนูรองของตระกูล ดำรงกูล งั้นนายเคยดูคลิปและรูปเหล่านั้นของ เธอมั้ย?” เควินมีสีหน้าแปลกใจ
“ก็แค่เหลือบมองไปทีนึง…..ทําไมหรอ? ก่อนหน้านั้นฉันเคยวิดีโอคอลกับเธอและรู้ว่า เธอหน้าตายังไง ฉันไม่ได้แปลกใจเรื่องนี้เลยไม่ ได้ดู” เจษฎาสงสัย เขารู้สึกว่าเควินยิ่งอยู่ยิ่งผิด สังเกตุ
ตอนนั้นเขาช่วยพิงกี้สยบข่าวบนเน็ตก็รู้ว่า เธอคือใครแล้ว แต่ไม่ว่ายังไงคลิปเหล่านั้นก็ ไม่ใช่เรื่องดีอะไร เป็นคลิปส่วนตัวของเธอ เขา รู้สึกถ้าดูก็เท่ากับว่าไม่ให้เกียรติเธอ
อีกอย่างเขาเป็นลูกผู้ชาย เดิมทีก็ไม่สนใจข่าวโคมลอยเหล่านั้นและข่าวผู้หญิงตบตีกัน อยู่แล้ว สิ่งที่สงสัยที่สุดคือหน้าตาเธอ เขาก็ได้ เห็นตั้งนานแล้ว ดังนั้นรูปถ่ายเหล่านั้นเขาก็แค่ เหลือบมองไปทีนึง แม้แต่หัวข้อเนื้อเรื่องคือ อะไรก็ยังไม่ได้ไปดูเลย ยิ่งไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไร ขึ้น?
ตอนนี้เควินถามแบบนี้ เขากำลังคิดอยู่ว่า เขาพลาดอะไรหรือลืมติดตามเรื่องสำคัญอะไร ไปรึเปล่า?
“ฉันควรจะดูหรอ?” เขาถาม
เจษฎาไม่รู้ว่าตนเองพลาดอะไรไป เควินก็ ไม่มีทีท่าจะเตือนเขาเลย
“ไม่มีอะไร……” เขาก้มหน้าก้มตา และ เปิดปากพูดอย่างเย็นชา “นายอยากพูดก็พูด ต่อเถอะ”
สีหน้าเหมือนไม่เห็นด้วย ที่จริงไม่เปิดปาก ถาม เขาก็รู้และสารถเดาได้ถูก
ถ้าเจษฎาดูแล้ว ต่อหน้าเขาเจษฎาไม่มีทาง ใช้นํ้าเสียงแบบนี้คุยเรื่องนี้ เพราะเขาเองก็เป็น ตัวเอกในเรื่องนั้น ถึงรูปเหล่านั้นส่วนมากจะ เป็นเนื้อหาที่พิงกี้สั่งสอนลิสาอยู่หน้าบาร์ แต่ทุก เรื่องต่างก็มีเอ่ยถึงชื่อของเขา
เจษฎาไม่ได้ดูละเอียด ดังนั้นต่อหน้าเขา เจษฎาถึงพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าธรรมชาติขนาดนี้
ตอนนั้นเจษฎาไม่รู้สถานะของผู้หญิงที่เขา ช่วยชีวิตออกมา และเพราะความเคลื่อนไหว ของเขาไม่สามารถถูกเปิดเผยได้ เขาจึงไม่ สามารถส่งสาวน้อยคนนั้นไปโรงพยาบาล ดัง นั้นเจษฎาจึงมอบพิงกี้ไว้ให้กับเขา แต่ตนเอง กลับจากเมืองหลวงไป และบินไปที่อังกฤษ อย่างเร่งรีบ
เจษฎาในตอนนั้น เขาช่วยเหลือโดยไม่หวัง ผลตอบแทนใดๆทั้งสิ้น สถานะของสาวน้อยคน นั้นเขาก็ไม่สนใจ และไม่มีความคิดที่จะพัวพัน กันต่อไป แต่ตอนนี้เพราะพรหมลิขิตให้พวกเขา ติดต่อการมานานขนาดนี้ เขายังจะเพิกเฉยไม่แคร่ได้อีกหรือ?
ถ้าพิงกี้ก็รู้เรื่องนี้แล้วด้วยล่ะ?
เจษฎาไปก็ไปแปดปีรวดเลย พิงกี้นึกว่าคน ที่ช่วยเธอคือเขา จึงดื้อด้านจีบเขามาแปดปี
แปดปีนี้…
หัวใจของเควินทรมานเหมือนถูกไฟเผา จากนั้นเขาก็ดื่มอีกแก้วนึง
เหล้าผ่านลำคอ ไฟในใจยิ่งลุกท่วมเข้าไป
ใหญ่
“ต่อไปก็ไม่มีอะไรแล้ว ก็แค่หลังจากนั้นได้ เจอหน้ากับเธอไปครั้งนึง พบว่าตัวจริงของเธอ เหมือนคนๆนั้นก็เลยถามเธอดู คิดไม่ถึงว่าจะ เป็นเธอจริงๆด้วย
“คนๆนั้นที่ว่าคือใคร?” เควินมึนงงเล็ก
น้อย
“ก๊สาวน้อยที่ฉันช่วยออกมาจากเพลิงไฟ ยังไงล่ะ” เจษฎาหัวเราะเบาๆและพูดกลับมา ที่ประเด็นก่อนหน้านั้น “จะว่าไปแล้วเรื่องมันก็ เซอร์ไพรส์มากเลยนะ คิดไม่ถึงว่าวนไปวนมา ฉันกับเธอจะมีวาสนาต่อกันขนาดนี้”
ที่จริง เดิมทีเขาสามารถรู้ไวกว่านี้อีก แต่ เพราะพิงกี้ยัยตัวแสบตอนที่วิดีโอคอลกับเขา ก็ ไม่รู้ว่าเพราะเธออยากปกปิดใบหน้าที่แท้จริง หรือเปล่า? ทุกครั้งเธอชอบแต่งหน้าเข้ม ถึงดู แล้วไม่ได้ทำให้คนเกลียด แต่ก็ทำให้เขาดูไม่ ออกว่าเธอก็คือสาวน้อยคนนั้น
เจษฎาคิดถึงตรงนี้ก็อดขำไม่ได้ เขา หัวเราะอยู่เบาๆ แต่เควินที่เงียบขรึมกลับ อารมณ์แย่สุดขีด
ดื่มไปอีกไม่รู้กี่แก้ว ความคิดของเขาค่อยๆ เชื่องช้าลง
“เควิน! ” ในที่สุดเจษฎาก็สังเกตุเห็นความ ผิดปกติของเขา ดึงมือที่เขายกแก้วจะดื่มเหล้าอีก เจษฎาขมวดคิ้วและถาม “วันนี้นายเป็น อะไรกันแน่? เราไม่ได้เจอกันมาหลายปี กว่าจะ ได้สังสรรค์ด้วยกันไม่ใช่ง่ายๆ ทำไมนายทำหน้า เหมือนมีเรื่องทุกข์ใจขนาดนี้ ห้า?”
เจษฎานั่งย้อนคิด เดิมทีตอนแรกเขายัง เงียบสงบมาก แต่ผิดสังเกตุขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อ ไหร่?
หลังจากที่คุยเรื่องของพิงกี้หรือ?
หรือว่าระหว่างเขากับพิงกี้เคยมีความเกี่ยว พันอะไรกัน? แต่ว่าเขาไม่ใช่หมั้นแล้วหรอ แถม คู่หมั้นก็ยังเป็นพี่สาวของพิงกี้? ถ้าไม่ใช่เพราะ ความบังเอิญในเรื่องนี้ เขาก็ไม่เอาเรื่องนี้มาพูด ล้อเล่นหรอก เขานึกว่าเควินจะยิ้มได้เพราะเรื่อง บังเอิญนี้
“ฉันไม่เป็นไร” เควินยิ้มมุมปากขึ้นเล็ก น้อย “นายถามเธอเมื่อไหร่?