เวลาต่อมา จู่ๆทั้งสองก็เงียบสงบลง
บรรยากาศในรถเงียบมาก แต่ก็ไม่ได้รู้สึก
อึดอัด
แต่งงาน……..
พิงกี้รู้สึกงุนงง ก่อนหน้านั้นทั้งสองไม่ เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อย ถึงเวลาที่โต้เถียงกัน รุนแรงก็แค่บอกว่าเขาแคร์ทั้งลิสาและหวังจะ รั้งเธอไว้ ไม่เพียงแต่ให้เธออยู่ข้างกายเขา แต่ เพื่อลิสาแล้วเขายังชอบให้เธอกล้ำกลืนฝืน
ทําไมจู่ๆถึงมาพูดเรื่องแต่งงานได้ล่ะ แม้ กระทั่งยังวู่วามขนาดนี้ด้วย เขากะจะขับรถไป ตรงดิ่งไปที่สำนักงานเลยหรอ?
พวกเขาจะได้แต่งงานกันจริงๆหรือเปล่า?
หลังจากแต่งงานจะทำยังไง? ทุกอย่างยัง ปกติเหมือนเดิม หรือว่าจะมีชีวิตใหม่?
ฟังคําพูดของเควินคือเขากับเธอแอบ แต่งงานกัน อยู่ข้างนอกก็จะไม่ยกเลิกงานแต่ง มลิสา ความเปิดเผยแบบนี้เหมือนไม่ชัดเจน เลย เธอจะยอมรับมันจริงๆหรือ?
ปัญหาหลายอย่างไม่มีคําตอบที่ชัดเจน แต่ ถึงอย่างนั้นก็เถอะเธอก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี ถึง เรื่องแปดปีก่อนจะมีความคลาดเคลื่อนไปจาก เดิม แต่เธอก็รักเขามาแปดปีเต็มๆเชียวนะ!
เคยนึกว่าเขามีบุญคุณช่วยชีวิตตนเองไว้ เธอถึงรู้สึกฝังใจรักผู้ชายคนนี้มาก รู้สึกว่าเขา เป็นเทพของเธอ เป็นเทพที่ช่วยเธอออกมาจาก สถานการณ์ที่สิ้นหวังและเจ็บปวด
เขาช่วยชีวิตเธอ เธอก็จะเอาชีวิตที่เหลือม อบให้เขาอย่างไม่เก็บไว้เลยแม้แต่นิด
ตอนนี้ถึงรู้ว่าคนที่ช่วยชีวิตเธอจริงๆ คือเจษฎา แต่เธอก็ไม่ได้เปลี่ยนใจไปรักคน
เธอรักเควินเพราะความซาบซึ้ง แต่รักมา จนถึงตอนนี้ความรักนั้นไม่ใช่เพียงแค่ซาบซึ้ง อย่างเดียวแล้ว
ส่วนเจษฎาเธอซาบซึ้งในน้ำใจเขา เธอเชื่อ ใจเขา แต่ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาเป็นแค่ความ รักที่มีต่อพี่ชายเท่านั้น ถึงความจริงจะมาวางอยู่ ตรงหน้า เธอก็ไม่มีทางรักเจษฎา เธอแค่ช็อกกับ การรู้ความจริงเท่านั้นเอง
แต่เควิน……หัวใจเธอถลําลึกเข้าไปทั้ง ดวงโดยไม่รู้ตัว จะดึงหัวใจดวงนั้นกลับมาก็ดึง ไม่กลับแล้ว
ในระหว่างห้วงเวลาที่ยาวนานนี้ เธอรักเขา อาจจะกลายเป็นความเคยชินอย่างนึงที่ลึกจน เข้ากระดูกดำไปแล้ว
พิงกี้หายใจลึกๆ หัวใจเธอเต้นแรงมาก เหมือนมีคนเอาค้อนทุบเบาๆอยู่ที่หัวใจเธอ ทําให้เธอละเลยการเต้นของหัวใจไม่ได้แต่ว่าหลังจากความตื่นเต้นที่มีในตอนแรก ผ่านพ้นไป จู่ๆเธอก็สงบลงอย่างช้าๆ
เธอไม่ต้องตื่นเต้นให้มันเข้าเกินไปก็ได้! เธอรู้สึกนี่น่าจะเป็นแผนการของเควินก็เป็นได้ แกล้งบอกว่าจะไปจดทะเบียนสมรส สร้างเรื่อง ใหญ่โตแบบนี้มาขู่เธอ แต่เสียดายเขาวางแผน ผิดไปแล้ว เธอถูกขู่ตั้งแต่เด็กจนโตมีเรื่อง นํามากอะไรที่เธอไม่เคยเจอมาบ้าง?
คอยดูว่าเขาจะเล่นลูกไม้อะไรอีก?!
พิงกี้คิดแบบนี้ก็รู้สึกผ่อนคลายลงตั้งเยอะ ถึงแม้เธอไม่ยอมรับ แต่ในใจก็รู้สึกความผิดหวัง อยู่ไม่น้อย
พิงกี้นึกว่าตนเองซ่อนความคิดในใจได้ดี มาก แต่การเปลี่ยนแปลงของสีหน้าเธอแม้แต่ เศษเสี้ยวเดียว ก็ถูกผู้ชายที่อยู่ข้างกายมองไว้ ในสายตาหมด
เขาอารมณ์ดีมาก ยาก จะยับยั้ง ถ้า ไม่เพราะใช้ความสามารถที่มีทั้งหมดควบคุม อารมณ์ไว้ เพื่อไม่อยากแสดงความเป็นหนุ่มที่ เพิ่งได้ลิ้มรสความรักออกมาล่ะก็ เขาอาจจะส่ง เสียงหัวเราะออกมาก็ได้ เพราะมีแต่แบบนี้ถึงจะ แสดงออกถึงอารมณ์ที่ดีอกดีใจ โล่งอก ปลอด โปร่งของเขาได้
เมื่อก่อนเขาไม่เข้าใจความคิดของผู้หญิง จึงไม่ได้คิดไปถึงเรื่องแต่งงาน
วันนี้สาวน้อยของเขาอาละวาดใส่เขาชุด ใหญ่ เขาแหลมคมหาประโยคสำคัญได้จากใน คำพูดนั้นหนึ่งประโยค “ทะเบียนสมรส” ทันใด นั้นเขาเห็นแสงสว่างขึ้นมาในทันที เขาคิดและ หาแนวทางดีๆที่แก้ไขปัญหาได้
เรื่องบางเรื่องเขาต้องทำให้ได้ และไม่ สามารถพูดกับใครได้ แต่เขาก็พยายามลด ความขัดแย้งให้มันเหลือน้อยที่สุด ใช้การกระ ทําจริงๆให้การรับประกันกับเธอ
พอถึงแถวสํานักงาน พิงกี้นึกว่าเควินจะขับ ตรงดิ่งเข้าไป คิดไม่ถึงเขากลับหักพวงมาลัยไป ทางขวา และจอดรถในร้านอาหาร
เขาพาพิงกี้เข้าไปในร้านอาหาร และเปิด ห้องที่นั่งชั้นพิเศษห้องนึง
“ทําไมไม่ไปจดทะเบียนสมรสแล้วหรอ?” พิงกี้นั่งลงที่เก้าอี้ ดวงตาคู่โตจ้องผู้ชายสูงใหญ่ ที่อยู่ตรงหน้า
น้ำเสียงแฝงด้วยการเยาะเย้ย ในใจบอกไม่ ถูกว่าผิดหวังหรือโล่งอกไปที
เควินกลับไม่ปริปากพูดว่าใช่หรือไม่ใช่? ดวงตาที่คมเข้มมองเธอ และพูดบางเบา “อดทนรออีกหน่อย อย่าเพิ่งใจร้อนหงุดหงิด
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ร้อนใจนะ ที่จริงแล้วเขาร้อน ใจมากกว่าเธอเสียอีก ถ้าเวลาล่าช้า สาวน้อย คนนี้ไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกับเขาจะทำยังไง?
แต่ว่าพอเขาสงบลงมา เขาพบว่าตนเอง พาพิงกี้เข้าไปจดทะเบียนสมรสที่สํานักงาน โดยตรงเลยมันไม่ฉลาดเอาซะเลย
โจ่งแจ้งซะขนาดนั้น เท่ากับว่าเขาป่าว ประกาศให้คนทั้งโลกรู้เลยว่าเขาได้แต่งงาน แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ตระกูลดำรงกูลต้องรู้แน่ๆ ทีนี้ จะมีผลเสียต่อแผนการของเขาอย่างมหาศาล น เป็นเรื่องที่เขาจะให้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด
ถ้าเขาอยากปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ ก็จะทําแบบ นั้นไม่ได้
เดินออกจากห้องอาหาร เควินโทรหาคนๆ นึงและสั่งการด้วยเสียงทุ้มต่ำ “นี่ผมเควินนะ คุณรีบพาเจ้าหน้าที่มาทำเรื่องจดทะเบียนให้ผม ด่วน”
“คุณ คุณเควิน? เป็นคุณจริงๆ? คุณหาผม ไม่ทราบว่าจะให้จดทะเบียนอะไรครับ ………
“คุณเป็นนายทะเบียน ผมหาคุณ ต้อง จดทะบียนสมรสน่ะสิ หรือว่าจะหาคุณเพื่อจด ทะเบียนขอมีลูกยังไง? อย่าพูดไร้สาระ รีบมา เร็วๆ!”
นายทะเบียนผู้น่าสงสารมีความรู้สึกเหมือน เส้นประสาทวุ่นวายไปหมดยังไงไม่รู้ เขาก็คงไม่ โง่ถึงขั้นที่ไปแนะนำคุณเควินว่าที่สำนักงานเขา ยังมีจดทะเบียนหย่ารายการนี้ด้วย เขาได้แต่ ถามอย่างป้าๆเป๋อๆ คุณเควินครับ ผม….ผมฟัง ไม่ผิดใช่มั้ยครับ?”
“ใช่ คุณฟังไม่ผิด!”
“ยังถามอีก ผมรู้สึกว่าตำแหน่งนาย ทะเบียนของคุณนี่ควรจะเปลี่ยนคนใหม่ได้แล้ว คุณคิดว่าไง?”
ไม่ๆๆครับ คุณเควินโปรดรอสักครู่ นะครับ ผมจะมาเดี๋ยวนี้เลย!”
“ให้เวลาคุณสิบนาทีมาถึงที่อยู่ที่ผมส่งให้ เตรียมของทุกอย่างมาให้พร้อมด้วย ระมัดระวัง ตัวอย่าเป็นที่สังเกตุของคนอื่น ได้ยินรึเปล่า?!
“ครับ!”
หลังจากวางสาย เควินกลับห้องอาหาร
อย่างอารมณ์ดีมาก
พิงกี้เข้ามาในห้องอาหารก็สั่งอาหารเสร็จ เรียบร้อยแล้ว ตอนที่เขายุ่งอยู่ เธอก็เริ่มทาน อาหารแล้ว
ร้านอาหารร้านนี้เป็นร้านอาหารจีนดั้งเดิม ไม่ได้มีอะไรพิเศษมาก แต่รสชาติถือว่าไม่เลว พิงกี้เดิมทีก็ไม่ใช่คนเรื่องมากอยู่แล้ว เธอทาน อย่างมีความสุข เห็นเควินเดินเข้ามาเธอยังมี อารมณ์เรียกเขา “คุณก็ทานหน่อยซิคะ” เควินนั่งลงอย่างอย่างมีความสุข มองดูเธอ มัวแต่ทานข้าวแต่ไม่ดื่มน้ําซุป เขายังตักน้ําซุป ให้เธอถ้วยนึ่ง และวางข้างๆมือเธอ
“..” พิงกี้ไม่เคยได้เสพสุขกับการถูก ปรนนิบัติแบบนี้ เธอเงยหน้าขึ้นมองอย่างช็อก ทันใดนั้นเธอเกือบถูกการโอจนเสียคนของ ผู้ชายทําเอาตกใจหมด เธอรู้สึกขนลุกซู่เลย
“ดื่มน้ําซุปหน่อย”
“…ค่ะ” พิงกี้ยกน้ําซุปขึ้นมาซดคํานึง สังเกตุเห็นว่าเควินยังมองเธออยู่ ทันใดนั้นเธอ อดเปิดปากถามไม่ได้ “คุณเควิน วันนี้ตื่นเช้ามา คุณลืมทานยารึเปล่า?