ในเวลานี้ บรรยากาศทั่วบริเวณกลายเป็นตึงเครียดไปทันที
จอมยุทธ์ปีศาจผู้นั้นยืนขึ้นและแผ่แรงกดดันตรงไปกดข่มฉินอวี้โม่ส่งผลให้นางแทบทรุดคุกเข่าลงบนพื้น
ต้องกล่าวเลยว่าพลังของบุรุษผู้นี้แกร่งกล้าอย่างยิ่งและเหนือกว่าเจ้าเมืองเทียนหยวนอย่างจ้าวเหลียงเสียอีก และบุรุษผู้นี้ก็ยังถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังที่สุดที่ฉินอวี้โม่เคยเผชิญหน้ามา
“แม่สาวน้อย เจ้าไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเสียแล้ว สาเหตุที่ข้ามาพบเจ้าเพื่อชวนให้ร่วมมือกันก็เพราะให้ความสำคัญกับศักยภาพของเจ้า ต่อให้เจ้าไม่ตอบรับก็ยังมีคนอีกมากมายในเมืองเทียนหยวนที่ยินดีจะร่วมมือกับพวกข้า ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าคิดว่าการปฏิเสธข้าผู้นี้จะลงเอยอย่างไร?”
คำข่มขู่ในวาจาของบุรุษชุดดำชัดเจนอย่างไม่คิดปิดบังและแววตาของเขาก็แสดงถึงจิตสังหารที่แรงกล้า
“ข้าไม่รู้หรอกว่าปฏิเสธเจ้าแล้วจะลงเอยอย่างไร ทว่าข้ามั่นใจว่าเมืองเทียนหยวนแห่งนี้มีบางสิ่งที่เจ้าต้องการแน่ ในเมื่ออยู่ที่นี่แล้ว บอกมาเถอะว่าที่นี่มีสิ่งใดกันแน่ สิ่งใดกันที่ทำให้พวกเจ้าจอมยุทธ์ปีศาจถึงขั้นต้องเสียเวลาและความพยายามมากมายเช่นนี้?”
ฉินอวี้โม่ต้านทานแรงกดดันจากฝ่ายตรงข้ามไว้และกล่าวตอบโต้ด้วยสีหน้าท่าทางใจเย็นไม่เปลี่ยนแปลง น้ำเสียงของนางกลายเป็นหนักแน่นมากขึ้น แม้ความแข็งแกร่งของจอมยุทธ์ปีศาจตรงหน้าจะเหนือกว่าตนมากนัก นางก็ไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย
“ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีจริง ๆ !”
จอมยุทธ์ปีศาจโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันทีและเหวี่ยงฝ่ามือออกไปหมายจะฟาดเข้าที่สตรีร่างบางตรงหน้า
“เหอะ เป็นเพียงจอมยุทธ์ปีศาจตัวคนเดียว ทว่าริอาจทำตัวบ้าบิ่นในเมืองเทียนหยวนของข้ารึ !”
ทันใดนั้น เสียงของจ้าวเหลียงก็ดังมาจากด้านนอกเรือน จากนั้นเขาก็ตรงเข้ามาหยุดตรงหน้าฉินอวี้โม่และป้องกันฝ่ามือจากจอมยุทธ์ปีศาจได้อย่างง่ายดาย
“เจ้าเมืองเทียนหยวน ?”
จอมยุทธ์ปีศาจผู้นั้นชะงักไปเล็กน้อย เขามั่นใจว่าเขาหลบซ่อนตัวได้อย่างแนบเนียนและปรากฏตัวขึ้นที่นี่โดยที่ไม่มีใครรู้ เขาไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าสุดท้ายแล้วจ้าวเหลียงค้นพบตัวเขาได้อย่างไร
“รวมพวกเราไปด้วย”
เสียงของคนหลายคนดังขึ้นมาพร้อมกับร่างของซ่างสี่ซานและคนอื่น ๆ ที่ปรากฏตัวขึ้นมาที่นี่เช่นกัน
“โอ้ มากันเร็วจริง ๆ ดูเหมือนพวกเจ้าจะคาดเดาได้ล่วงหน้าว่าข้าจะมาที่นี่และมีวิธีการพิเศษในการติดต่อกันได้อย่างรวดเร็วสินะ”
จอมยุทธ์ปีศาจกวาดสายตามองผู้มาใหม่เหล่านั้นและหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ น้ำเสียงของเขาในตอนนี้ยังคงเรียบเฉยและไม่แสดงออกถึงความตื่นตระหนกใด จ้าวเหลียงและคนเหล่านี้มิใช่คู่ต่อสู้ที่จะเทียบชั้นกับเขาได้
“เจ้าตั้งใจลอบเข้ามาในเมืองเทียนหยวนของข้าและให้การสนับสนุนตระกูลเฝิงอย่างลับ ๆ การที่ก่อเรื่องวุ่นวายมากมายเช่นนั้นขึ้นมา สุดท้ายแล้วพวกเจ้ามีจุดประสงค์ใดกันแน่ ?”
จ้าวเหลียงจับจ้องไปที่จอมยุทธ์ปีศาจตาเขม็ง ในฐานะเจ้าเมืองของเมืองเทียนหยวน การที่จอมยุทธ์ปีศาจเหล่านี้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความวุ่นวายมากมายที่เกิดขึ้น เขาจึงรู้สึกโกรธแค้นอย่างที่สุด หากเป็นไปได้ เขาก็แทบอดใจรอไม่ไหวที่จะกำจัดจอมยุทธ์ปีศาจเหล่านี้ให้สิ้นซาก !
“เหอะ ตั้งใจงั้นรึ ? เมืองเล็ก ๆ อย่างเมืองเทียนหยวน พวกข้าไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามมากมายด้วยซ้ำ เจ้าจะวางมาดใหญ่โตเกินไปแล้ว !”
จอมยุทธ์ปีศาจผู้นั้นแค่นเสียงเย้ยหยันและกล่าวต่อ “ทำไมรึ ? การที่พวกเจ้ามารวมตัวกันมากมายเช่นนี้ พวกเจ้าวางแผนที่จะกำจัดข้าอย่างนั้นรึ ?”
เขาคาดเดาความคิดของฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ ได้ไม่ยาก คนเหล่านี้คาดการณ์แล้วว่าเขาจะปรากฏตัวอีกครั้งและเตรียมพร้อมรับมือมาโดยตลอด เห็นทีวันนี้เขาคงจะหนีออกไปไม่ง่ายนัก
“ในเมื่อคิดได้แล้ว เหตุใดเจ้ามิให้ความร่วมมือกับพวกเราแต่โดยดีล่ะ ?”
ฉินอวี้โม่ยกยิ้มมุมปากและพยักศีรษะให้กับซ่างสี่ซานเบา ๆ ก่อนที่พวกเขาจะมุ่งหน้าออกจากเรือนไปด้วยกัน
“หากข้าต้องการจะหนีออกไป ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในสามสำนักและเก้านิกายก็เหนี่ยวรั้งข้าไว้ไม่ได้ พวกเจ้าจะมั่นใจในความสามารถของตัวเองมากเกินไปแล้ว !”
จอมยุทธ์ปีศาจไม่แยแสและยังกล่าวตอบโต้ด้วยวาจาโอหัง
“ฉินอวี้โม่ ในเมื่อเจ้าไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยมก็แล้วกัน วันนี้ข้าจะกำจัดเจ้าไปเสียและสนับสนุนคนอื่นให้ขึ้นเป็นผู้ปกครองของเมืองเทียนหยวนแห่งนี้แทน !”
ทันทีที่สิ้นเสียงนั้น พลังที่แผ่ออกมาจากร่างของเขาก็พุ่งพรวดขึ้นทันที
“เหอะ ลองรับมือกับข่ายอาคมสายฟ้าพิฆาตของข้าดูก่อนเถอะ !”
ฉินอวี้โม่แค่นเสียงเบา ๆ และโบกมือออกไปก่อนเสียงครืนจะดังขึ้นมา
อึดใจต่อมา ข่ายอาคมก็ปรากฏขึ้นรอบบริเวณเรือนและจอมยุทธ์ปีศาจถูกปิดล้อมไว้อย่างสมบูรณ์ ด้านบนเหนือข่ายอาคมดังกล่าวคือกลุ่มเมฆหนาและพายุฟ้าคะนองที่ก่อตัวขึ้นราวกับว่ากำลังจะเกิดทัณฑ์สายฟ้าที่น่าหวาดหวั่น
“ข่ายอาคมสายฟ้าพิฆาต…ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นผู้ใช้ข่ายอาคมระดับสูง !”
จอมยุทธ์ปีศาจชะงักไปเล็กน้อยทันที แม้พรสวรรค์และความแข็งแกร่งของฉินอวี้โม่จะไม่ถือว่ายอดเยี่ยมสำหรับเขา ทว่าการที่นางเป็นผู้ใช้ข่ายอาคมก็ทำให้เขาประหลาดใจขึ้นมา
ในสงครามครั้งใหญ่เมื่อหลายพันปีก่อน ศาสตร์การวางข่ายอาคมแทบจะหายสาบสูญไปจากดินแดนมหาเทพและมีเพียงน้อยคนเท่านั้นที่สามารถใช้ข่ายอาคมระดับสูงได้ ข่ายอาคมสายฟ้าพิฆาตนี้ก็เป็นข่ายอาคมที่อยู่ในระดับสูงพอสมควร มันสามารถกระตุ้นพลังของสายฟ้าเบื้องบนได้และทำให้ศัตรูในข่ายอาคมบาดเจ็บอย่างหนักหรือถึงขั้นถูกสังหารไป
แม้แต่ตัวเขาเองก็เคยสัมผัสกับข่ายอาคมสายฟ้าพิฆาตมาก่อนและตระหนักถึงความน่าสะพรึงกลัวของมันเป็นอย่างดี
เปรี้ยง !
เสียงที่ดังสนั่นปะทุขึ้นและแสงสว่างวาบปรากฏท่ามกลางกลุ่มเมฆหนาเหล่านั้น
จากนั้นสายฟ้าเส้นหนาเท่าถังน้ำก็ฟาดตรงไปที่จอมยุทธ์ปีศาจอย่างรุนแรง
ตูมม !
จอมยุทธ์ปีศาจไม่แสดงสีหน้าตื่นตระหนกขณะโล่พลังมายาสีดำขนาดใหญ่ปรากฏเหนือศีรษะของเขาและขวางสายฟ้าเส้นแรกได้อย่างง่ายดาย
สายฟ้าพิฆาตโจมตีลงที่โล่ป้องกันและหายไปหลังจากการปะทะราวกับไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน
“น่าเสียดายจริง ๆ แม้ว่าเจ้าจะมีความสามารถมากพอในการจัดตั้งข่ายอาคมสายฟ้าพิฆาตขึ้นมาได้ ทว่าพลังของเจ้าในตอนนี้ก็ยังอ่อนแอเกินไป หากเจ้ามีเวลาพัฒนาฝีมือมากกว่านี้ เกรงว่าแม้แต่ข้าเองก็คงจะต้านทานข่ายอาคมสายฟ้าพิฆาตนี้ไม่ได้ !”
บุรุษชุดดำกล่าวด้วยท่าทางผ่อนคลาย สายฟ้าพิฆาตเส้นแรกไม่ทำให้เขาสูญเสียพลังไปมากนัก
“ไม่ต้องห่วง นั่นก็แค่เส้นแรก”
สีหน้าของฉินอวี้โม่ยังคงเรียบเฉยไม่สะทกสะท้านและมุมปากยกเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย
ภายในเวลาเพียงเสี้ยวอึดใจ สายฟ้าอีกเส้นหนึ่งก็ก่อตัวขึ้นกลางอากาศอีกครั้ง
เปรี้ยง !
ตูมม !
อย่างไรก็ตาม จอมยุทธ์ปีศาจก็เพียงสร้างโล่ป้องกันขึ้นมาอีกครั้งและขวางกั้นพลังสายฟ้าดังกล่าวได้อย่างง่ายดายเช่นเดิม
“ไม่มีประโยชน์ เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หรอก !”
เขาแสยะยิ้มเย้ยหยันและปล่อยการโจมตีตรงไปที่ม่านป้องกันที่ฉินอวี้โม่วางไว้
เป็นจริงดังที่คาดไว้ ม่านป้องกันไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ พลังของเขาจมหายเข้าไปในม่านป้องกันของฉินอวี้โม่ราวกับดินโคลนที่ถูกดูดซึมลงในท้องทะเลโดยที่ไม่ส่งผลกระทบใด ๆ แม้แต่น้อย
“ฮ่า ๆ ๆ ข่ายอาคมที่ข้าใช้เวลาเตรียมนานหลายวันไม่มีทางถูกทำลายไปง่าย ๆ หรอก !”
ฉินอวี้โม่ยิ้มอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม นับตั้งแต่กลับมาในวันนั้น นางก็เริ่มจัดวางข่ายอาคมสายฟ้าพิฆาตมาเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการใช้มันเป็นครั้งแรก นางก็ทราบถึงรายละเอียดและคุณสมบัติในแต่ละส่วนของมันเป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้น นางก็ใช้วัสดุระดับสูงจำนวนมากเพื่อเสริมพลังของข่ายอาคมสายฟ้าพิฆาตนี้ให้อยู่ในระดับสูงสุดและแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่
แม้ด้วยความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าของจอมยุทธ์ปีศาจผู้นี้ เขาก็ไม่มีทางฝ่าทำลายมันได้ง่าย ๆ
“ทุกคนพร้อมรึยัง ?”
ฉินอวี้โม่ไม่สนใจจอมยุทธ์ปีศาจตรงหน้าอีกต่อไปขณะกล่าวถามซ่างสี่ซานและคนอื่น ๆ
“เสี่ยวอวี้โม่ พวกเราเพียงรอเจ้าให้สัญญาณ”
ซ่างสี่ซานและทุกคนพยักศีรษะอย่างพร้อมเพรียงกันซึ่งเป็นการยืนยันว่าพวกเขาพร้อมแล้ว
เปรี้ยง !
สายฟ้าพิฆาตเส้นที่สามฟาดลงมาอย่างแรงและโล่ป้องกันของจอมยุทธ์ปีศาจก็สั่นสะเทือนอย่างเห็นได้ชัด
ซ่างสี่ซานและคนอื่น ๆ จึงฉวยโอกาสในขณะที่คู่ต่อสู้กำลังต้านทานสายฟ้าในการตรงเข้าไปโจมตีพร้อม ๆ กัน
พวกเขาไม่ยั้งมือแม้แต่น้อยและแสดงกระบวนท่าที่ทรงพลังที่สุดของตนออกมาทันที
ตูมมม !
กระบวนท่าโจมตีของทุกคนพุ่งกระทบเข้ากับร่างของบุรุษผู้นั้นจนเกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
แสงสว่างจ้าส่องวาบขึ้นจนฉินอวี้โม่และทุกคนต้องหรี่ตาชั่วขณะ
“บัดซบ !”
น้ำเสียงไม่พอใจดังขึ้นและบุรุษชุดดำที่ทุกคนมองไม่เห็นชั่วครู่ก็เริ่มมีอาการบาดเจ็บปรากฏให้เห็นในที่สุด
“พวกเจ้ารนหาที่ตายกันเสียแล้ว !”
เขาตะโกนกร้าวอย่างเยือกเย็นและคลื่นพลังในร่างแผ่ออกมาอีกครั้ง จากนั้นก้อนแสงสีดำทะมึนก็ปรากฏขึ้นในมือของเขาและดูจะอัดแน่นไปด้วยพลังมหาศาลที่มากพอจะทำลายล้างผืนพิภพได้ !