ภายในคฤหาสน์เฟิงหัว ฉินเทียน ฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ นั่งรวมตัวกันเพื่อหารือถึงวิธีการรับมือ
เกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยจอมยุทธ์ปีศาจที่ทรงพลังและการเอาชนะพวกเขามิใช่เรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นผีดิบที่ถูกควบคุมโดยจอมยุทธ์ปีศาจหรือสมาชิกเดิมของจอมยุทธ์ปีศาจก็ล้วนมีความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าฉินอวี้โม่และทุกคน
แม้มีกองทัพอสูรมายา หากต้องประจันหน้ากันอย่างซึ่ง ๆ หน้า ฉินอวี้โม่ก็ไม่มีโอกาสเอาชนะอีกฝ่ายได้เลย
ที่สำคัญหากต้องการช่วยเหลือผู้ที่ถูกจับตัวไว้ พวกนางก็ต้องคิดหาวิธีการที่เหมาะสมที่สุดเสียก่อน
“แม้คฤหาสน์เฟิงหัวจะล่องหนได้ มันก็อาจจะไม่รอดพ้นไปจากประสาทสัมผัสการรับรู้ของสือโหลว เพราะฉะนั้นการช่วยคนเหล่านั้นโดยใช้คฤหาสน์เฟิงหัวจึงมิใช่วิธีการที่เหมาะสมนัก ยิ่งไปกว่านั้น การที่วิกฤตของที่นี่ยังไม่ได้รับการสะสาง ต่อให้ช่วยคนเหล่านั้นได้สำเร็จ เราก็ไม่มีทางหนีรอดกลับไปได้อย่างปลอดภัย”
ข้อเสนอของฟู่อวิ๋นซิวถูกฉินอวี้โม่ปัดทิ้งไปทันที แน่นอนว่านางสามารถส่งคนเหล่านั้นเข้ามาในคฤหาสน์เฟิงหัวได้ ทว่ามันจะก่อให้เกิดความวุ่นวายเป็นอย่างมาก
พลังอำนาจของสือโหลวแกร่งกล้าเกินไปและแม้แต่ฮวาฟางเฟยก็อาจจะเอาชนะเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะเหตุนั้นฉินอวี้โม่จึงไม่อาจรับความเสี่ยงนั้นได้
“ท่านพ่อ พวกเขาเปิดเผยเรื่องใดกับท่านบ้างรึไม่เจ้าคะ ?”
ฉินอวี้โม่หันไปมองฉินเทียนและเอ่ยถาม
“ไม่เลย อย่างไรก็ตาม ทัศนคติของพวกเขาดูจะจริงใจมาก ดูเหมือนพวกเขาอยากให้ข้าเข้าร่วมกับจอมยุทธ์ปีศาจจริง ๆ เพียงแต่ข้ายังไม่เข้าใจนัก ข้าเป็นเพียงแค่จอมยุทธ์คนหนึ่งจากดินแดนระดับต่ำ แล้วเหตุใดพวกเขาจึงสนใจในตัวข้ามากถึงเพียงนี้ ?”
ฉินเทียนส่ายศีรษะและกล่าวข้อสงสัยของตน
นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่เข้าใจแม้แต่น้อย ต่อให้เขาได้ชื่อว่าเป็นรองจ้าวนิกายของนิกายกระบี่สายฟ้า มันก็ไม่คู่ควรกับการต้อนรับและการปฏิบัติอย่างดีจากสือโหลว จอมยุทธ์ปีศาจควรจะดูแคลนสถานะและความแข็งแกร่งของเขาด้วยซ้ำ
“เสี่ยวโม่เอ๋อร์ อย่าเพิ่งกังวลไปเลย พวกเขาให้เวลาข้าสามวัน ระหว่างนี้ข้าจะพยายามสืบข่าวและสืบความแข็งแกร่งโดยรวมของจอมยุทธ์ปีศาจเหล่านั้นดู ส่วนเจ้าไปตรวจดูลักษณะสภาพแวดล้อมของเกาะแห่งนี้ดูเถอะ เราจะหารือเตรียมการกันหลังจากนี้”
หลังจากหารือกันพักใหญ่ ฉินเทียนก็พิจารณาครู่หนึ่งเพื่อคิดหาหนทางที่เหมาะสมที่สุดในตอนนี้และกล่าวออกไป
“เจ้าค่ะ ตอนนี้เราคงทำได้เพียงแค่นี้”
ฉินอวี้โม่พยักศีรษะตอบรับทันที จากนั้นฉินเทียนก็กลับออกไปและปรากฏตัวในห้องอีกครั้ง
ภายในคฤหาสน์เฟิงหัว ฉินอวี้โม่และสหายหารือถึงวิธีการรับมือกับสถานการณ์โดยไม่ชายตามองบุรุษหนุ่มซึ่งเป็นสมาชิกของจอมยุทธ์ปีศาจด้วยซ้ำ
เขาก็ถึงกับพูดไม่ออกไปทันที คนเหล่านี้วางใจและไม่กังวลแม้แต่น้อยว่าเขาจะมีไพ่ตายใดที่จะแจ้งข่าวไปยังผู้อาวุโสสือโหลวได้…
ภายในโถงห้องประชุมในคฤหาสน์บนเกาะ สีหน้าของสือโหลวบิดเบี้ยวเล็กน้อย
แม้เกิดการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติอย่างชัดเจนเมื่อครู่ พวกเขาก็ยังไม่พบร่องรอยของฉินอวี้โม่และสหายแม้แต่น้อย เมื่อกลับมาย้อนคิดดูในตอนนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะประมาทคนเหล่านั้นมากเกินไปจริง ๆ
“จับตาดูในฝั่งของฉินเทียนไว้ให้ดี หากฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ มาที่นี่ พวกนางจะต้องไปหาเขาโดยเร็วที่สุดแน่ !”
เขาออกคำสั่งอย่างไม่ลังเลและรับรู้ได้ว่าฉินอวี้โม่และสหายจะต้องคิดมองหาฉินเทียนเป็นอันดับแรก
“รับทราบขอรับ !”
คนอื่น ๆ พยักศีรษะตอบรับและส่งกำลังคนออกไปคุ้มกันรอบ ๆ เรือนที่พักของฉินเทียนทันที
เมื่อคนเหล่านั้นส่งคนมาคุ้มกันที่นี่เพิ่ม ฉินอวี้โม่ก็ได้ขับเคลื่อนคฤหาสน์เฟิงหัวออกจากเรือนของฉินเทียนแล้วและกำลังออกสำรวจไปทั่วทั้งเกาะ
เกาะแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นจากพลังภายนอกบางอย่างซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่และลอยตัวบนผืนน้ำ อย่างไรก็ตาม ภายนอกมันดูไม่ต่างจากเกาะธรรมดาทั่วไปซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มและอัดแน่นไปด้วยสภาวะพลัง
ทั่วทั้งเกาะมีทหารลาดตระเว นอยู่ตลอด และเนื่องจากความวุ่นวายที่เกิดจากฝีมือของฉินอวี้โม่ก่อนหน้านี้ หน่วยลาดตระเวนจึงทำการออกสำรวจถี่มากขึ้น ในบางครั้งบางคราว ทหารเหล่านั้นก็จะเดินเฉี่ยวคฤหาสน์เฟิงหัวไปซึ่งทำให้บุรุษหนุ่มในคฤหาสน์ล่องหนถึงกับสะดุ้งโหยง
หลังจากเวลาผ่านไปครึ่งวัน ฉินอวี้โม่และสหายก็ทราบถึงสถานการณ์โดยรวมของเกาะแห่งนี้อย่างคร่าว ๆ แล้ว
ทั่วทั้งเกาะแห่งนี้มีเพียงหนึ่งในสามส่วนเท่านั้นที่เป็นจอมยุทธ์ปีศาจและส่วนใหญ่ล้วนเป็นผีดิบ ผีดิบส่วนหนึ่งเป็นโครงกระดูกของอสูรหลายชนิดที่ถูกทำฟื้นคืนชีพหลังจากตายไปนานนับพันปี อีกส่วนหนึ่งคือคนจากชายฝั่งทางเหนือที่ถูกสังหารและถูกปลุกขึ้นมาจากความตาย ซึ่งก็คือกองกำลังหลักบนเกาะแห่งนี้
เรียกได้ว่าผีดิบเหล่านี้เป็นตัวตนที่รับมือได้ยากกว่ามนุษย์เสียอีก เนื่องจากพวกมันไม่มีสตินึกคิดเป็นของตัวเองและไม่กลัวความเจ็บปวด เว้นแต่จะถูกกำจัดไปอย่างสิ้นซาก ไม่เช่นนั้นพวกมันก็จะเดินหน้าโจมตีต่อไปและไม่มีวันล่าถอย
กลุ่มของฉินอวี้โม่ในตอนนี้มีกันเพียงไม่กี่คนเท่านั้นและไม่มีทางเลยที่จะรับมือกับกองทัพผีดิบจำนวนมากเช่นนี้ได้
หลังจากหารือกันอย่างรวดเร็ว พวกนางก็ค้นพบวิธีหนึ่ง ตราบใดที่ทราบว่าจอมยุทธ์ปีศาจใช้วิธีใดในการควบคุมผีดิบเหล่านั้น พวกนางก็จะสามารถหาทางทำลายมันได้ หากจอมยุทธ์ปีศาจควบคุมผีดิบไม่ได้ ทั่วทั้งเกาะก็จะตกอยู่ในความวุ่นวายโกลาหลและนั่นจะทำให้พวกนางมีโอกาสมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น หากหาทางควบคุมกองทัพผีดิบเหล่านั้นได้ พวกนางก็อาจจะกวาดล้างจอมยุทธ์ปีศาจเหล่านี้ไปได้และคลี่คลายวิกฤตได้อย่างสมบูรณ์
“พวกเจ้าควบคุมพวกผีดิบด้วยวิธีใด ?”
สายตาของฉินอวี้โม่เลื่อนไปหยุดที่บุรุษหนุ่มจากจอมยุทธ์ปีศาจทันที ตอนนี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้ว่าจอมยุทธ์ปีศาจใช้วิธีการใดในการควบคุมพวกผีดิบ
“ผู้อาวุโสมอบสิ่งนี้ให้เรา ตราบใดที่พกมันติดตัว เราก็จะควบคุมพวกผีดิบได้”
บุรุษหนุ่มตอบตามความจริงและทราบดีว่าต่อให้ตนไม่กล่าวสิ่งใด ฉินอวี้โม่และคนเหล่านี้ก็หาคำตอบได้อยู่ดี เขาจึงไม่คิดปิดบัง
จากนั้นเศษไม้สีดำเข้มชิ้นหนึ่งก็ปรากฏในมือของเขาก่อนยื่นให้กับฉินอวี้โม่
ฉินอวี้โม่รับมันไปและสำรวจอย่างพินิจพิจารณาก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
แท้จริงแล้วเศษไม้สีดำชิ้นนี้คือไม้มรณะ
ไม้มรณะคือพฤกษาชนิดหนึ่งที่เติบโตรอบสุสานขนาดใหญ่และมีความสูงเต็มที่หลายร้อยฉื่อซึ่งมีกิ่งก้านสาขามากมายและมีกลิ่นอายของความตายที่หนาแน่น มันเป็นพฤกษาระดับสูงที่หายากอย่างที่สุด
(ฉื่อ = ประมาณ 1 ฟุต)
ในตำราที่นางเคยอ่านมาก็ระบุไว้ว่านอกเหนือจากสถานที่ที่พิเศษเพียงแค่ไม่กี่แห่ง มันก็ไม่มีที่ใดอีกเลยที่จะมีร่องรอยของไม้มรณะเหล่านี้อยู่ เห็นได้ชัดว่ามันหายากเพียงใด
ไม่คิดเลยว่าวิธีการควบคุมผีดิบของจอมยุทธ์ปีศาจจะเป็นไม้มรณะนี้
“เจ้ารู้จักมันด้วยรึ ?”
บุรุษหนุ่มคาดไม่ถึงเลยว่าฉินอวี้โม่จะรับรู้ว่ามันเป็นไม้มรณะได้ตั้งแต่แวบแรกซึ่งเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจไม่น้อย
มีเพียงน้อยคนเท่านั้นที่ทราบว่าชิ้นไม้ดังกล่าวคือสิ่งใด พวกเขาส่วนใหญ่ไม่รู้จักมันด้วยซ้ำโดยทราบเพียงว่ามันมีพลังแห่งความตายที่แรงกล้าและมีส่วนช่วยในการฝึกพลังของพวกตนเป็นอย่างมาก
“ข้าพอจะเข้าใจแล้ว”
เมื่อทราบว่ามันคือไม้มรณะ ฉินอวี้โม่ก็พอจะคาดเดาบางอย่างขึ้นมาได้
พลังมายาของจอมยุทธ์ปีศาจมีความพิเศษเป็นอย่างยิ่ง แม้นางจะไม่ทราบว่าวิธีการที่ใช้เพื่อฟื้นคืนชีพสิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้วคือสิ่งใด ทว่าสำหรับการใช้ไม้มรณะเพื่อควบคุมผีดิบเหล่านี้ นางก็พอจะคาดเดาบางอย่างได้
พวกเขาคงจะเติมพลังพิเศษบางอย่างลงไปในไม้มรณะซึ่งทำให้มีความสามารถในการควบคุมผีดิบได้ ตราบใดที่พลังเหล่านั้นหายไป พวกผีดิบก็จะไม่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขาอีก
“หากเราแย่งชิงไม้มรณะมาจากคนพวกนั้น เราก็จะควบคุมพวกผีดิบได้มิใช่รึ ?”
เซิ่งเซียวเอ่ยถามด้วยสีหน้ากระตือรือร้น
“นั่นก็เป็นวิธีที่เข้าท่าทีเดียว ทว่ามันไม่ปลอดภัยนัก”
ฉินอวี้โม่ยิ้มและกล่าวว่าวิธีการของเซิ่งเซียวมีความเป็นไปได้สูงเช่นกัน เพียงแต่ไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยได้ พวกนางยังไม่ทราบถึงไพ่ตายของสือโหลว หากเขามีสิ่งที่ทรงพลังมากกว่าอยู่ในมือซึ่งสามารถทำให้ไม้มรณะเหล่านั้นไร้ประสิทธิภาพไปอย่างสิ้นเชิงและสามารถควบคุมผีดิบได้ตามเดิม เมื่อถึงตอนนั้น ไม้มรณะที่พวกนางช่วงชิงมาก็จะไร้ประโยชน์และจะกลับกลายมาเป็นอันตรายต่อพวกตนเสียเอง
“ทางที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือการใช้ให้ผีดิบพวกนั้นทำงานแทนเรา”
หานโม่ฉือคาดเดาความคิดของฉินอวี้โม่ได้และเขาเองก็กำลังคิดเช่นเดียวกัน
“ใช้ให้พวกมันทำงานแทนเรารึ ?”
ทุกคนชะงักไปและใช้ความคิดกันอย่างหนักทันที