ภายในห้องโถง ฉินอวี้โม่เริ่มหมดความอดทนมากขึ้นเรื่อย ๆ
มีความเป็นไปได้สูงว่าห้องโถงแห่งนี้คือศูนย์กลางของพระราชวังที่แปลงมาจากไข่มุกเลี่ยงวารี อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าฉินอวี้โม่จะพยายามสื่อสารมากเพียงใดก็ยังไม่มีการตอบสนองกลับมาแม้แต่น้อย ราวกับว่าไข่มุกเลี่ยงวารีหลับใหลไปโดยสมบูรณ์และไม่ได้ยินวาจาของนาง
หานโม่ฉือและอสูรอื่น ๆ ก็เริ่มหมดความอดทนแล้วเช่นกัน ทว่าในเวลานี้จู่ ๆ หานอวี้ก็กระโดดออกมาจากคฤหาสน์เฟิงหัวและกล่าววาจาข่มขู่อย่างเปิดเผย
“นี่มันมังกรทองห้าเล็บที่ปรากฏตัวก่อนหน้านี้ !”
อสูรกลืนนภาก็ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของหานอวี้ มันลืมไปเสียสนิทว่าฉินอวี้โม่ก็มีมังกรทองห้าเล็บที่ทรงพลังอยู่กับตัวเช่นกัน
อสูรกลืนนภาอย่างมันมีสายเลือดที่สูงส่งและมังกรทองห้าเล็บก็ไม่แตกต่างกันมากนัก ยิ่งไปกว่านั้น เผ่ามังกรคือเผ่าพันธุ์ที่หยิ่งผยองและวางตัวสูงส่งที่สุดในหมู่อสูรมายา โดยปกติแล้วพวกมันไม่ยอมก้มหัวให้กับผู้ใดด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับการยอมเป็นอสูรพันธสัญญาของมนุษย์
การที่มังกรทองห้าเล็บยอมศิโรราบและติดตามฉินอวี้โม่ก็แสดงให้เห็นถึงความเหนือธรรมชาติของนางได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้น อสูรกลืนนภาก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามังกรทองห้าเล็บตัวนี้ก็มิใช่อสูรแห่งโชคชะตาของฉินอวี้โม่ด้วยซ้ำ เพียงเท่านี้มันก็พอจะคาดเดาได้แล้วว่าอสูรแห่งโชคชะตาของนางจะแข็งแกร่งเพียงใด และมันอาจเป็นถึงสิ่งมีชีวิตในตำนานก็เป็นได้…
“ไข่มุกเลี่ยงวารี นายน้อยผู้นี้จะนับหนึ่งถึงสาม หากเจ้ายังไม่ตอบกลับมา ข้าจะทำลายพระราชวังแห่งนี้เสีย !”
หานอวี้ยืนตรงหน้าประตูของห้องโถงและมือเล็ก ๆ ของมันก็เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีขณะเริ่มนับอย่างช้า ๆ
“หนึ่ง !”
ยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดเกิดขึ้นและดูเหมือนไข่มุกเลี่ยงวารีไม่ได้ยินวาจาของมันด้วยซ้ำ หรือบางทีประสาทการรับรู้ของพวกมันอาจผิดพลาดไป
“สอง !”
ทว่าหานอวี้ก็ยังเชื่อว่าประสาทการรับรู้ของไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์และทุกคนไม่ผิดพลาดอย่างแน่นอน มันจึงคิดว่าไข่มุกเลี่ยงวารีได้ยินเสียงของพวกตนทั้งหมดแล้ว เพียงแต่ไม่ยอมตอบสนองก็เท่านั้น
“สาม !”
ทันทีที่สิ้นเสียงดังกล่าว พลังงานที่ร้อนระอุก็แผ่ไปทั่วห้องโถงจนเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
“โอ๊ยยย ! แสบร้อนเหลือเกิน”
เสียงใสดังขึ้นในหูของทุกคนและพระราชวังรอบตัวก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป ภายในเวลาไม่นาน มันก็ก่อตัวเป็นไข่มุกสีฟ้าอ่อนซึ่งล่องลอยกลางอากาศและเปล่งแสงประหลาดออกมา
“คิดไว้ไม่มีผิด เป็นไข่มุกเลี่ยงวารีจริง ๆ ด้วย !”
เป็นจริงดังที่คิดไว้ พระราชวังหรูหรางดงามแห่งนี้คือสิ่งที่แปลงมาจากไข่มุกเลี่ยงวารีอย่างแท้จริง อีกทั้งสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ก็ถูกเปลี่ยนแปลงไปโดยไข่มุกวิเศษดังกล่าวเช่นกัน
“ใครกันที่รบกวนความฝันของข้า ไม่รู้หรือว่าข้ากำลังนอนหลับอยู่ ?!”
ไข่มุกเม็ดงามลอยกลางอากาศครู่หนึ่งก่อนสายตาของมันจะบรรจบลงที่ฉินอวี้โม่
“เฮ้ ไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ นี่เจ้าก็ตื่นแล้วรึ ?”
เมื่อเห็นไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ในมือของฉินอวี้โม่ มันก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาเล็กน้อย ไข่มุกทั้งสองมีการเชื่อมโยงต่อกัน แต่ในอดีตมันไม่เคยสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์และคิดไปว่าอีกฝ่ายก็คงจะหลับใหลอยู่เช่นเดียวกัน
“ไข่มุกเลี่ยงวารี เจ้าไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเราพูดกันก่อนหน้านี้เลยหรือ ?”
ไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ลอยไปอยู่ตรงหน้าไข่มุกเลี่ยงวารีและเอ่ยถามอย่างสงสัยใคร่รู้ “เหตุใดคลื่นพลังของเจ้าจึงแกร่งกล้ากว่าข้ามากนัก ? เห็นได้ชัดว่าข้าตื่นก่อนเจ้า แล้วเหตุใดเจ้าจึงมีพลังอำนาจมากกว่าข้าล่ะ ?”
ในเวลานี้ คลื่นพลังของไข่มุกเลี่ยงวารีแกร่งกล้ากว่าไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อย่างชัดเจนและมันก็สามารถแสดงพลังอำนาจได้มากกว่า
เดิมทีมันก็คิดว่าไข่มุกเลี่ยงวารีจะต้องอยู่ภายในคฤหาสน์เฟิงหัวตลอดเวลาเพื่อให้การพัฒนาปรับโฉมคฤหาสน์เสร็จสมบูรณ์ ทว่าตอนนี้มันตระหนักแล้วว่าไม่จำเป็นต้องยุ่งยากเช่นนั้น ตราบใดที่ได้รับพลังบางส่วนที่ถ่ายทอดมาจากไข่มุกเลี่ยงวารี มันก็เพียงพอสำหรับการพัฒนาคฤหาสน์เฟิงหัวของฉินอวี้โม่แล้ว
“นั่นเป็นเพราะข้าปิดผนึกพลังของข้าไว้ตลอดเวลาที่ผ่านมาและอัตราการสูญเสียพลังมายาก็ช้ากว่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม หากไม่พบบุคคลที่เฝ้ารอ ข้าก็จะกลายเป็นไข่มุกธรรมดา ๆ ในเวลาอีกไม่นาน”
น้ำเสียงของไข่มุกเลี่ยงวารีเจือด้วยความจนปัญญาเล็กน้อย แม้มีคลื่นพลังที่แกร่งกล้ากว่าไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ทว่าพลังของมันก็ยังคงสลายหายไปอย่างต่อเนื่อง
ในทางกลับกัน ในตอนนี้เมื่อไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ได้พบเจ้านายที่เฝ้ารอแล้ว พลังความแข็งแกร่งของมันก็จะค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับมาในอนาคต
หากไข่มุกเลี่ยงวารีไม่ได้พบบุคคลผู้นั้น มันจะสูญเสียพลังทั้งหมดไปอย่างสิ้นเชิงและกลายเป็นเพียงไข่มุกธรรมดา ๆ ที่ไม่สามารถเรียกใช้พลังของไข่มุกเลี่ยงวารีได้อีกต่อไป
ไม่เพียงเฉพาะไข่มุกเลี่ยงวารีเท่านั้น ทว่าสมบัติพลังฟ้าดินอื่น ๆ ก็ไม่ต่างกัน เมื่อปรากฏออกมา พวกมันล้วนมีผู้เป็นนายที่ถูกลิขิตไว้ หากไม่สามารถตามหาคนผู้นั้นจนพบภายในระยะเวลาหนึ่ง ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวของพวกมันก็คือการต้องสูญเสียพลังจนกลายเป็นเพียงไข่มุกธรรมดาเม็ดหนึ่ง
“ข้าโชคดีมาก อย่างไรก็ตาม เจ้าเองก็โชคดีเช่นกันที่ได้พบนายหญิงของข้า นายหญิงของข้ามีมิติที่สองและเจ้าสามารถเก็บตัวอยู่ข้างในนั้นเพื่อช่วยลดอัตราการสูญเสียพลังได้ อีกอย่าง…เจ้าก็ลองทดสอบดูได้ว่านายหญิงของข้าใช่เจ้านายที่เจ้ากำลังเฝ้ารอรึไม่ ถ้าหากว่าใช่ เจ้าก็จะเป็นเหมือนกับข้าและไม่จำเป็นต้องกังวลสิ่งใดอีกต่อไป”
ไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์กล่าวแนะนำฉินอวี้โม่กับไข่มุกเลี่ยงวารีอย่างมีความสุข
“เอาล่ะ ลองดูก็ไม่ได้เสียหายอะไร”
ไข่มุกเลี่ยงวารีไม่แสดงท่าทีต่อต้านขัดขืนใด ๆ อันที่จริง กลิ่นอายที่แผ่มาจากร่างของฉินอวี้โม่ก็ทำให้มันรู้สึกสบายใจอย่างมาก หากสตรีผู้นี้คือผู้เป็นนายที่มันเฝ้ารออยู่จริง นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น มันมีความสัมพันธ์อันดีกับไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ หากได้บ่มเพาะวิชาอยู่ร่วมกัน ในอนาคตข้างหน้า มันก็ไม่ต้องโดดเดี่ยวลำพังอีกต่อไป
เดิมทีฉินอวี้โม่ก็คิดว่าจะเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ขึ้น ไม่คิดเลยว่าไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จะโน้มน้าวใจไข่มุกเลี่ยงวารีได้ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำจนมันตัดสินใจที่จะลองทดสอบดูว่านางใช่ผู้ที่มันกำลังตามหาหรือไม่
“เราจะลองทดสอบอย่างไรรึ ?”
ฉินอวี้โม่เอ่ยถามด้วยความสงสัยและไม่ทราบถึงวิธีการของพวกมัน อย่างไรก็ตาม ต่อให้นางจะมิใช่ผู้ที่ถูกลิขิตไว้สำหรับไข่มุกเลี่ยงวารี การปล่อยให้มันบ่มเพาะพลังอยู่ในคฤหาสน์เฟิงหัวก็คงจะมิใช่ปัญหาอะไร ครานี้การเดินทางมาที่มหาสมุทรทางเหนือก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
“ง่ายมาก ตราบใดที่ใช้เลือดหยดเดียวของท่านก็เพียงพอที่จะทราบได้ว่าท่านใช่ผู้ที่ถูกลิขิตไว้หรือไม่”
ไข่มุกเลี่ยงวารียิ้มและลอยไปตรงหน้าฉินอวี้โม่เพื่อให้นางหยดเลือดลงบนตัวมัน
ฉินอวี้โม่ก็ไม่ลังเลและกรีดปลายนิ้วมือเล็กน้อยเพื่อให้เลือดหยดลงบนไข่มุกเลี่ยงวารีตรงหน้า
อย่างไรก็ตาม ไข่มุกเลี่ยงวารีกลับสงบนิ่งอย่างมากและไม่มีปฏิกิริยาใดเกิดขึ้นแม้แต่น้อยซึ่งแสดงให้เห็นว่าฉินอวี้โม่มิใช่คนที่มันเฝ้ารอ
ทว่าในขณะที่นางกำลังจะกล่าวบางอย่าง จู่ ๆ ไข่มุกเลี่ยงวารีก็ลอยขึ้นกลางอากาศด้วยท่าทางที่ตื่นเต้น
“ฮ่า ๆ ๆ เยี่ยมไปเลย ในที่สุดข้าก็ได้พบท่าน…นายหญิง !”
มันหัวเราะเสียงดังอย่างมีความสุขและกล่าววาจาที่ทำให้ฉินอวี้โม่ชะงักค้างไปเล็กน้อย
เมื่อครู่แทบไม่มีปฏิกิริยาใดเกิดขึ้น แล้วเหตุใดไข่มุกเลี่ยงวารีจึงมั่นใจนักว่านางคือเจ้านายที่มันเฝ้ารออยู่จริง ๆ ?
“ข้ารออยู่ที่นี่มานานนับพันปีแล้วและเคยคิดว่าไม่มีทางที่จะได้พบกับนายหญิงอีก ทว่าตอนนี้ในที่สุดข้าก็พบท่านและไม่ต้องเฝ้ารออยู่ที่นี่อีกต่อไป”
ไข่มุกสีฟ้างดงามลอยไปมาตรงหน้าฉินอวี้โม่และไม่รอให้นางตอบสนองแม้แต่น้อยขณะทำพันธสัญญากับนางโดยตรงซึ่งเป็นเหมือนกับกรณีของไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก่อนหน้านี้
การเชื่อมต่อทางวิญญาณใหม่ปรากฏขึ้นในความคิดของฉินอวี้โม่และมันก็คือการเชื่อมต่อกับไข่มุกเลี่ยงวารีนั่นเอง
“เกิดอะไรขึ้นหรือ ?”
อสูรกลืนนภาอดเอ่ยถามไม่ได้ มันไม่เห็นปฏิกิริยาใด ๆ ที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย แล้วไข่มุกเลี่ยงวารีใช้วิธีการใดในการระบุว่าฉินอวี้โม่คือนายหญิงที่แท้จริงของมัน ?
“ง่ายมาก เมื่อเลือดของนายหญิงแทรกซึมเข้าไปในร่างของพวกเรา มันจะมีการผันผวนพิเศษบางอย่าง หากมิใช่คนที่เราตามหา พลังของเราจะลบล้างเลือดหยดนั้นไปจนหมด ทว่าหากเป็นทางตรงกันข้าม มันจะผสมผสานเข้ากับเราโดยสมบูรณ์”
ไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อธิบายอย่างมีความสุข การทำพันธสัญญากับไข่มุกเลี่ยงวารีจะเป็นส่วนช่วยที่ยิ่งใหญ่ต่ออนาคตของฉินอวี้โม่
แน่นอนว่าหากสามารถรวบรวมสมบัติพลังฟ้าดินที่ล้ำค่าได้ครบทั้งแปดชิ้น มันจะเกิดผลประโยชน์ที่ไม่มีใครคาดคิด
น่าเสียดายที่ไม่อาจทราบเลยว่าไข่มุกที่เหลือกระจัดกระจายไปอยู่ที่ใด การรวบรวมพวกมันทั้งหมดมามิใช่เรื่องง่ายและในเวลานี้ก็ทำได้เพียงแค่จินตนาการไปก่อนเท่านั้น…