ตูมมม !
คลื่นพลังอันแรงกล้าพุ่งลงไปที่มหาสมุทรจนผืนน้ำกระเซ็นไปทั่วบริเวณ พลังดังกล่าวทะลุผ่านน้ำทะเลตรงไปยังจุดที่ฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือยืนอยู่อย่างรวดเร็ว
ตูมมม !
ฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือจับตาดูการเคลื่อนไหวของทั้งสองคนกลางอากาศมาตลอดและสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของพลังดังกล่าวทันที พวกนางจึงไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อยขณะร่วมมือกันสร้างม่านป้องกันเพื่อขวางกั้นพลังอันแรงกล้านั้นไว้
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของทั้งสองก็ไม่เพียงพอที่จะต่อกรกับพลังมหาศาลนั้นได้ เพราะเหตุนั้น ฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือจึงถูกโจมตีจนกระเด็นออกไปและร่วงลงในน้ำทะเลอย่างแรงโดยที่ได้รับบาดเจ็บภายในการโจมตีครั้งเดียว
“ฮ่า ๆ ๆ พลังของพวกเจ้ายังอ่อนแอยิ่งนัก หากมีเวลาอีกสักสองสามปี พวกเจ้าก็อาจจะพอเทียบชั้นกับข้าผู้นี้ได้ น่าเสียดายที่ข้าจะไม่ให้โอกาสนั้นกับพวกเจ้าอย่างแน่นอน !”
วาจาเย้ยหยันดังขึ้นและแรงกดดันทรงพลังแผ่ตรงไปกดข่มทั้งสองทันที มหาสมุทรที่กว้างใหญ่ราวกับถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งซึ่งเผยให้เห็นเส้นทางทอดยาวไปถึงตัวฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือ
พลังมายาที่หนาแน่นก็ก่อตัวเป็นกระบี่เล่มใหญ่ที่ฟาดตรงไปที่ฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือพร้อมด้วยพลังอันมหาศาลซึ่งราวกับจะทำลายโลกทั้งใบได้
ตูมมม !
ในขณะที่ฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือกำลังจะป้องกันการโจมตีของอีกฝ่ายไว้ ร่างขนาดใหญ่ร่างหนึ่งก็ปรากฏตรงหน้าพวกนางอย่างกะทันหันและสะท้อนพลังรุนแรงนั้นกลับไป
ร่างขนาดใหญ่นั้นสั่นสะท้านเล็กน้อยก่อนที่จะทรงตัวได้อย่างมั่นคง
“พวกเจ้าไปก่อนเถอะ ข้าจะขวางพวกเขาไว้เอง !”
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นในหูของทั้งสองและมันคือเสียงของอสูรกลืนนภาที่ไม่ได้ออกมากับพวกตนก่อนหน้านี้นั่นเอง
เดิมทีหลังจากที่แยกกัน อสูรกลืนนภาก็เข้าไปฝึกวิชาในถ้ำต่อ ทว่าเมื่อสัมผัสได้ถึงการต่อสู้อย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นภายนอก มันก็ไม่อาจทนอยู่เฉยและรีบออกมาให้ความช่วยเหลือ
มันรู้สึกถูกชะตากับฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกัน มันก็ชิงชังพวกจอมยุทธ์ปีศาจเป็นที่สุด หากไข่มุกเลี่ยงวารีตกไปอยู่ในมือของคนชั่วเหล่านั้น มหาสมุทรทางเหนือจะเป็นพื้นที่แรกที่จะต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน เพราะเหตุนั้น มันจึงตัดสินใจที่จะช่วยฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือให้หนีออกไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย
“อสูรกลืนนภา นี่เจ้ายืนกรานที่จะเป็นศัตรูกับจอมยุทธ์ปีศาจของข้าให้ได้รึ ?”
น้ำเสียงราบเรียบดังมาจากร่างอวตารของผู้นำจอมยุทธ์ปีศาจและเต็มไปด้วยการข่มขู่อย่างชัดเจน
“ภายในอาณาเขตของข้า ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ทำร้ายพวกนางไม่ได้ !”
อสูรกลืนนภาตอบโต้ด้วยสีหน้าที่จริงจัง ความแข็งแกร่งของบุรุษผู้นี้เหนือกว่าสือโหลวมากนักและในการต่อสู้ซึ่ง ๆ หน้า มันก็มิใช่คู่มือของอีกฝ่ายอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น สือโหลวยังมีแส้ดูดวิญญาณอยู่ในมือ เพราะเหตุนั้นมันจึงทำได้เพียงถ่วงเวลาเพื่อให้ฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือหลบหนีออกไปได้อย่างปลอดภัยเท่านั้น จากนั้นตัวมันก็จะหาทางหลบหนีออกไปเช่นกัน เรียกได้ว่านี่เป็นเพียงหนทางเดียวที่จะทำได้ในตอนนี้
“ท่านมิใช่คู่มือของเขาหรอก พวกเรามาร่วมมือด้วยกันเถอะ”
ฉินอวี้โม่ไม่คิดที่จะหลบหนีเอาตัวรอดและแอบสั่งการให้มารยามุ่งหน้าไปหาฉินเทียนที่ชายฝั่งทางเหนือ จากนั้นนางก็เหาะขึ้นกลางอากาศพร้อมหานโม่ฉือและเรียกอสูรมายาทั้งหมดของตนออกมา
สือโหลวก็มองเห็นมารยาที่ปลีกตัวออกไปทว่าไม่ได้สนใจเท่าใดนัก แม้ชายฝั่งทางเหนือจะมีจอมยุทธ์รวมตัวกันเป็นจำนวนมากก็ไม่มีผู้ใดแข็งแกร่งมากพอที่จะอยู่ในสายตาของผู้นำจอมยุทธ์ปีศาจได้ ต่อให้คนเหล่านั้นมาที่นี่ได้ทันเวลา พวกเขาก็ไม่มีทางช่วยฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือได้อย่างแน่นอน
“ร่างอวตารของเขาคงจะดำรงอยู่ได้เพียงไม่นาน ตราบใดที่เราหาทางยืดเยื้อถ่วงเวลาไว้ เราก็จะปลอดภัย อย่าเข้าไปสู้กับเขาซึ่ง ๆ หน้าล่ะ เพียงถ่วงเวลาเขาไว้ก็พอ”
ฉินอวี้โม่ออกคำสั่งกับบรรดาอสูรมายาและพวกมันทั้งหมดก็เข้าโจมตีผู้นำของจอมยุทธ์ปีศาจอย่างรวดเร็ว
เสี่ยวเฮยและอสูรนับร้อยก่อตัวรวมกันกลายเป็นอสูรมหึมาและปลดปล่อยการโจมตีเข้าใส่ผู้นำของจอมยุทธ์ปีศาจด้วยพลังทั้งหมดที่มี
ฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือก็พุ่งโจมตีสือโหลวอย่างมีชั้นเชิงเพื่อป้องกันมิให้เขามีโอกาสใช้แส้ดูดวิญญาณ ส่วนอสูรกลืนนภาก็ติดพันกับผู้นำของจอมยุทธ์ปีศาจที่ถูกโจมตีโดยอสูรมายาและการแบ่งแยกกองกำลังในทั้งสองฝั่งก็ถือว่าชัดเจนอย่างยิ่ง
จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือดกลางอากาศ ทว่าภายในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งก้านธูป อสูรมายาของฉินอวี้โม่ก็เริ่มตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ผู้นำของจอมยุทธ์ปีศาจแสดงพลังที่น่าสะพรึงกลัวบางอย่างออกมาและทำลายการรวมพลังของเหล่าอสูรมายาได้อย่างง่ายดายส่งผลให้พวกมันไม่สามารถใช้ทักษะการรวมพลังได้อีกครั้ง
สำหรับกองทัพผีดิบ เมื่อเผชิญหน้ากับผู้นำของจอมยุทธ์ปีศาจ ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของพวกมันก็ลดน้อยลงไปมากและแทบจะไม่มีอิทธิพลใด ๆ ในการต่อสู้ครั้งนี้
อสูรกลืนนภาเองก็ต่อกรกับผู้นำของจอมยุทธ์ปีศาจได้อย่างจวนเจียนเท่านั้น ในตอนนี้มันก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกันและคลื่นพลังของมันก็อ่อนแอลงกว่าเดิมมาก
ในฝั่งของฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือ ทั้งสองก็ติดพันอยู่กับสือโหลวและตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายไม่ต่างกัน
ความแข็งแกร่งของสือโหลวพัฒนาขึ้นกว่าก่อนหน้านี้มากขณะรับมือกับการร่วมมือของทั้งสองคนได้อย่างไม่มีปัญหา
“เหอะ พวกเจ้าหยุดพวกข้าไม่ได้หรอก ส่งไข่มุกเลี่ยงวารีมาซะและเข้าร่วมกับจอมยุทธ์ปีศาจของเราเสียดีๆ ท่านผู้นำจะได้ไว้ชีวิตพวกเจ้า !”
เขาแค่นเสียงเย็นชาและกล่าววาจาข่มขู่ ในเวลานี้ฉินอวี้โม่ก็ถูกฝ่ามือฟาดจนกระเด็นออกไปทว่ายังไม่มีท่าทีหวาดหวั่นแม้แต่น้อย
“ฝันไปเถอะ !”
กระบี่เล่มยาวปรากฏในมือฉินอวี้โม่ขณะพลังมายาในร่างเพิ่มสูงขึ้นถึงระดับสูงสุดและโจมตีสือโหลวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
หานโม่ฉือก็ไม่ยั้งมือเช่นกันและมุ่งโจมตีจุดสำคัญของสือโหลวอย่างต่อเนื่อง หากสามารถทำให้บุรุษผู้นี้บาดเจ็บสาหัสได้ วิกฤตในครานี้ก็จะบรรเทาลงไปมาก
“เหอะ ฉินอวี้โม่ หานโม่ฉือ เป็นเกียรติของพวกเจ้าแท้ ๆ ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมจอมยุทธ์ปีศาจหลายครั้งหลายครา หากพวกเจ้าไม่เต็มใจ ก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากล่าวสิ่งใดอีก ถึงอย่างไรหลังจากที่พวกเจ้าตายไป พวกเจ้าก็จะกลายเป็นผีดิบของขุมกำลังเราและผลลัพธ์ก็จะไม่แตกต่างไปจากเดิม !”
แววตาของสือโหลวฉายแววความมุ่งร้ายอย่างชัดเจนและคทาสีดำก็ปรากฏในมือก่อนฟาดโจมตีตรงไปยังทิศทางของฉินอวี้โม่
ฉินอวี้โม่หลบหลีกออกไปทันทีและไม่กล้าประจันหน้ากับมันอย่างซึ่ง ๆ หน้า คทาสีดำในมือของอีกฝ่ายอัดแน่นไปด้วยพลังบางอย่างที่ทำให้หัวใจของนางสั่นระรัวขึ้นมา อีกทั้งนางก็ยังรู้สึกได้ว่าพลังจากคทานั้นทำให้พลังลึกลับในร่างกายของตนตอบสนองขึ้นมาเช่นกัน
หานโม่ฉือก็โจมตีสือโหลวด้วยกระบี่เล่มคมที่ผสมผสานเข้ากับพลังมายาจนทำให้ร่างของอีกฝ่ายกระเด็นออกไป ทว่าในเวลานี้ ทั่วทั้งร่างของสือโหลวก็ปกคลุมไปด้วยชั้นพลังงานสีดำที่ปกป้องเขาไว้ซึ่งการทะลวงผ่านการป้องกันดังกล่าวก็มิใช่เรื่องง่ายเลย
“เหอะ เมื่อต่อสู้เคียงข้างท่านผู้นำ ความแข็งแกร่งของเราจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัว ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเจ้าในตอนนี้ พวกเจ้าไม่มีทางเอาชนะพวกเราได้หรอก”
น้ำเสียงของสือโหลวแสดงถึงความดูแคลนอย่างชัดเจนและจู่ ๆ คทาสีดำในมือของเขาก็ส่องแสงสีดำประหลาดออกมาก่อนที่ลำแสงสีดำนั้นจะพุ่งตรงไปที่ฉินอวี้โม่
ฉินอวี้โม่รีบหลบหลีกออกไปทันที ทว่าลำแสงดังกล่าวก็ยังเฉี่ยวไปที่หัวไหล่ของนางจนทำให้เกิดบาดแผลและเลือดสดไหลออกมาทันที
อย่างไรก็ตาม ฉินอวี้โม่ไม่สนใจบาดแผลนั้นและหันไปสบตาหานโม่ฉือพร้อมตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
หานโม่ฉือพุ่งตรงเข้าไปโจมตีสือโหลวอย่างรวดเร็วพร้อมกับปลดปล่อยคลื่นพลังอันแรงกล้าออกไปโดยที่ความอาฆาตมาดร้ายปรากฏในแววตาอย่างชัดเจน
“ช่างไม่รู้จักการประมาณตน !”
สือโหลวกล่าววาจาเย้ยหยันและคทาสีดำในมือของเขาก็เอ่อล้นไปด้วยพลังงานอีกครั้งก่อนตรงเข้าไปประจันหน้ากับหานโม่ฉือ
ตูมมม !
พลังของทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างจังจนเกิดแสงสว่างจ้าไปทั่วบริเวณ อึดใจต่อมา หานโม่ฉือก็ถูกกระแทกจนกระเด็นออกไปและกระอักเลือดคำโตออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บพอสมควร
สีหน้าของสือโหลวไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยและการโจมตีจากหานโม่ฉือเมื่อครู่ไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อเขา
“อ่อนแอชะมัด…”
เขาแสยะยิ้มและอ้าปากเพื่อจะกล่าวบางอย่างออกมา ทว่าจู่ ๆ เขาก็เปล่งเสียงออกมาไม่ได้อีก
บริเวณอกของเขาในตอนนี้คือกระบี่เล่มยาวที่ก่อตัวจากพลังมายาซึ่งแทงทะลุเข้าที่หัวใจและตัดสัญญาณชีพทั้งหมดของเขาในทันที
เมื่อครู่นี้หานโม่ฉือจงใจเบี่ยงเบนความสนใจของสือโหลวเพื่อทำให้เขาประมาทในขณะที่ฉินอวี้โม่ถือโอกาสนั้นโจมตีจุดสำคัญและปลิดชีวิตของเขาไปอย่างฉับพลัน
ทั้งสองร่วมมือกันได้อย่างสมบูรณ์แบบจนสือโหลวไม่มีโอกาสตอบสนองได้แม้แต่น้อย
“ระวัง !”
ก่อนที่จะมีโอกาสถอนหายใจด้วยความโล่งอก จู่ ๆ พลังมหาศาลก็ปกคลุมทั่วทั้งร่างของฉินอวี้โม่ สิ่งที่ปรากฏอยู่กลางอากาศในตอนนี้คือฝ่ามือพลังมายาขนาดใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งเหวี่ยงโจมตีเข้าใส่ฉินอวี้โม่โดยตรง