มังกรกระดูกดำสบถเสียงดังและจู่ ๆ ร่างของมันก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป เสื้อคลุมสีดำฉีกขาดออกจากกันอย่างรวดเร็วขณะมันกระโจนขึ้นกลางอากาศและกลายเป็นร่างมังกรขนาดมหึมา
อย่างไรก็ตาม มันเป็นเพียงโครงกระดูกที่ไร้เนื้อหนัง แม้แต่ศีรษะก็เป็นเพียงหัวกะโหลกเท่านั้นซึ่งดูน่าหวาดหวั่นอย่างยิ่ง
“วันนี้มดปลวกที่ต่ำต้อยอย่างพวกเจ้าจะต้องกลายเป็นอาหารของข้า !”
น้ำเสียงทรงพลังดังขึ้นกลางอากาศและแรงกดดันประหลาดทำให้ทุกคนขยับเขยื้อนไม่ได้ ในเวลานี้ร่างของมังกรกระดูกดำก็แผ่พลังความมืดออกมาอย่างมหาศาล ไม่ว่าตรงจุดใดที่พลังดังกล่าวผ่านไป ตรงจุดนั้นก็จะถูกกัดกร่อนไปในทันทีและกลายเป็นเถ้าถ่านที่สลายไปในอากาศ
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนแปลงไปทันที ฉินอวี้โม่ก็ไม่รอช้าขณะพุ่งตัวขึ้นสูงพร้อมกับเพลิงร้อนระอุที่ลุกโชนออกมา จากนั้นโล่พลังที่เกิดจากเพลิงทรงพลังก็ก่อตัวขึ้นกลางอากาศเพื่อขวางกั้นพลังความมืดที่แปลกประหลาดเหล่านั้น
ฉ่า~
พลังความมืดปะทะเข้ากับโล่เพลิงจนเกิดเสียงประหลาดและดูเหมือนว่าบางสิ่งบางอย่างจะถูกแผดเผาไปจะก่อนมีกลิ่นที่ไม่น่าอภิรมย์โชยออกมารอบ ๆ
ในเวลานี้ พลังมายาของทุกคนก็ฟื้นฟูกลับคืนมาเล็กน้อย พวกเขารีบพุ่งตัวหลบหลีกออกไปจากจุด ๆ เดิมที่ยืนอยู่อย่างรวดเร็วโดยที่มีสีหน้าที่เหยเกกันอย่างมาก
ความแข็งแกร่งของมังกรกระดูกดำตรงหน้าเหนือความคาดหมายของพวกเขาไปมาก หากสถานการณ์ที่ต่างฝ่ายต่างเอาชนะไม่ได้ยังยืดเยื้อต่อไปเช่นนี้ เกรงว่าพวกเขาคงจะกลายเป็นฝ่ายที่ถูกกวาดล้างไปอย่างสิ้นซาก…
“ส่งมันออกมา !”
มังกรกระดูกดำจ้องหน้าฉินอวี้โม่ด้วยแววตาฉุนเฉียว มนุษย์ตัวเล็ก ๆ พวกนี้ไม่ถือว่าอยู่ในสายตาของมันเลยสักนิด อย่างไรก็ตาม เจ้านั่นที่ถือครองเพลิงอันน่าสะพรึงกลัวนี้ทำให้มันหวาดหวั่นใจไม่น้อย หากอีกฝ่ายมีพลังอยู่ในสภาวะสูงสุด มันไม่มีทางที่จะเป็นคู่มือได้ และต่อให้จะไม่ได้อยู่ในสภาวะสูงสุด อีกฝ่ายก็ยังถือเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ต่อมันเช่นกัน
“เหอะ มังกรกระดูกดำ ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะปรากฏตัวอยู่ที่นี่ !”
เสียงของซิวดังขึ้นในอากาศก่อนที่ร่างของมันจะปรากฏตรงหน้ามังกรกระดูกดำ
“คิดไว้ไม่มีผิด เป็นเจ้าจริง ๆ ! น่าเสียดายที่ความแข็งแกร่งของเจ้าในตอนนี้อ่อนแอกว่าในอดีตมากนัก ตอนนี้เจ้ามิใช่คู่มือของข้าแน่ !”
มังกรกระดูกดำจดจำซิวได้ทันทีและสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายก่อนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเล็กน้อย
ความแข็งแกร่งของซิวในปัจจุบันและในช่วงที่มีพลังสูงสุดยังห่างไกลกันอีกมากนัก ตอนนี้ซิวมิใช่คู่มือของมันอย่างแน่นอน และแม้จะรวมพลังกับกลุ่มของมดปลวกเหล่านี้ มันก็แทบจะมีค่าเท่ากัน
“พลังของเจ้าในตอนนี้ก็ไม่มากเท่าในอดีตเช่นกัน อย่าลืมไปว่าในอดีตใครกันที่สามารถกำราบเจ้าได้อย่างง่ายดาย รอดูเถอะ โครงกระดูกเน่าเฟะพวกนี้ ข้าจะแผดเผาพวกมันให้กลายเป็นเถ้าถ่านเอง !”
ซิวยังคงหยิ่งทะนงและน่าเกรงขามไม่เปลี่ยนแปลง น้ำเสียงของมันในตอนนี้เจือความเย้ยหยันในขณะที่สีหน้าไม่แสดงความรู้สึกใด
“ยโสโอหังยิ่งนัก !”
มังกรกระดูกดำแสยะยิ้มเล็กน้อยและคำรามเสียงดัง จู่ ๆ เงามืดหลายสิบตนก็ปรากฏตัวขึ้นมาทั่วบริเวณ
“พวกเจ้าไม่สงสัยกันรึว่าพวกคนที่หายไปอยู่ที่ใด? ตอนนี้ข้าจะแสดงให้พวกเจ้าเห็นเอง !”
เงามืดเหล่านั้นถูกปกคลุมภายใต้เสื้อคลุมสีดำซึ่งไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้และรอบตัวก็รายล้อมไปด้วยพลังแห่งความตายที่หนาแน่น พวกมันล้วนเป็นมนุษย์ที่เคยถูกมังกรกระดูกดำฆ่าตายก่อนหน้านี้และถูกควบคุมด้วยวิธีการพิเศษบางอย่างจนกลายเป็นทาสรับใช้ของมัน
มันไม่เคยเรียกใช้ทาสรับใช้เหล่านี้มาก่อน ทว่าการประจันหน้ากับคู่ต่อสู้จำนวนมากในวันนี้ มังกรกระดูกดำก็ตระหนักได้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้เป็นปัญหาอยู่ไม่น้อย มันจึงต้องเรียกผีดิบรับใช้จำนวนมากออกมา
ทาสรับใช้เหล่านี้ไม่มีจิตวิญญาณเป็นของตัวเองและทันทีที่พวกมันปรากฏตัว พวกมันก็พุ่งตัวโจมตีทุกคนด้วยความเร็วสุดขีด
จอมยุทธ์ทุกคนไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อยและตอบโต้การโจมตีของเงามืดเหล่านั้นอย่างรวดเร็วทว่าท้ายที่สุดต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ตัวแทนจอมยุทธ์ที่เดินทางมาในวันนี้มีจำนวนไม่มากนักในขณะที่เงามืดเหล่านี้ก็แข็งแกร่งและไม่ด้อยไปกว่าพวกเขาเลย ทุกคนล้วนมีคู่ต่อสู้อย่างน้อยหนึ่งตน อีกทั้งยังมีหลายคนที่ต้องรับมือกับเงาทะมึนหลายตนในคราวเดียว
เวลานี้ ฉินอวี้โม่ไม่คิดปิดบังไพ่ตายอีกต่อไปและเรียกอสูรทรงพลังจำนวนหนึ่งของตนออกมาเพื่อช่วยจัดการกับผีดิบเหล่านั้นในขณะที่นางตรงเข้าไปปรากฏข้างกายซิวและประจันหน้ากับมังกรกระดูกดำด้วยกัน
“ซิว ในอดีตเจ้าเคยลั่นวาจาว่านอกจาก ‘คนผู้นั้น’ เจ้าจะไม่ยอมรับผู้ใดเป็นนายอีก แล้วเหตุใดตอนนี้เจ้าจึงมีสตรีที่อ่อนแอเช่นนี้เป็นนายกัน ?”
มังกรกระดูกดำกล่าวขึ้นเบา ๆ เพราะทราบดีว่าซิวเป็นตัวตนที่โอหังและทะนงตนมากเพียงใด หากซิวไม่ยอมรับ ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่มีทางได้เป็นเจ้านายของมัน อีกทั้งในอดีตเมื่อนานมาแล้ว ซิวก็เคยลั่นวาจาไว้ว่าจะไม่มีทางยอมรับผู้ใดเป็นนายนอกเหนือจาก ‘คนผู้นั้น’ แล้วตอนนี้เหตุใดมันจึงเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา ?
แม้ฉินอวี้โม่จะมีพรสวรรค์ที่โดดเด่นในระดับหนึ่ง ทว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของนางก็อ่อนแอจนเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น กลิ่นอายที่แผ่มาจากร่างของนางก็ไม่เหมือนกับ ‘คนผู้นั้น’ จากในอดีตเลยสักนิด
“ต่อให้นายหญิงของข้าจะยังอ่อนแอ ทว่านางก็มีพลังมากพอที่จะจัดการกับเจ้าได้ มังกรกระดูกดำ…สิ่งมีชีวิตชั่วร้ายอย่างเจ้าไม่สมควรถือกำเนิดขึ้นมาด้วยซ้ำ วันนี้ข้าจะทำหน้าที่กำจัดเจ้าไปให้สิ้นซากเอง !”
ซิวกล่าวตอบโต้ด้วยสีหน้าที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ในอดีต มันเคยลั่นวาจาไว้เช่นนั้นจริงและก็ยังคงยึดตามวาจานั้นมาตลอด นอกเหนือจาก ‘คนผู้นั้น’ มันไม่คิดยอมรับใครอื่นเป็นนาย เดิมทีสาเหตุที่ฉินเฟยเหยียนได้กลายเป็นนายของมันก็เป็นเพราะ ‘คนผู้นั้น’ เช่นกัน ซิวจึงยอมติดตามเป็นอสูรประจำตัวของนางเป็นการชั่วคราว…
“ยโสโอหังนัก อยากเห็นจริง ๆ ว่าพวกเจ้าจะมีความสามารถเพียงใด ?!”
หมอกหนาสีดำถูกพ่นออกจากปากของมังกรกระดูกดำและปกคลุมทั่วทั้งร่างของฉินอวี้โม่และซิว หมอกดังกล่าวอัดแน่นไปด้วยพลังกลืนกินที่ไร้ที่สิ้นสุดราวกับต้องการจะกลืนกินทั้งฉินอวี้โม่และซิวให้สิ้นซาก
อย่างไรก็ตาม ซิวไม่หวาดหวั่นใจไม่แต่น้อยและเพลิงทรงพลังปรากฏที่ปลายนิ้วมือเพื่อปัดเป่าม่านหมอกทะมึนในอากาศ ส่งผลให้หมอกเหล่านั้นเข้าใกล้ทั้งสองไม่ได้เลย
เพลิงแห่งชีวิตของซิวยังคงมีผลยับยั้งต่อมังกรกระดูกดำเป็นอย่างมาก แม้ความแข็งแกร่งของมันในปัจจุบันจะอ่อนแอและด้อยกว่า มังกรกระดูกดำก็ยังไม่สามารถเล่นงานมันได้ง่าย ๆ
“เหอะ เมื่อข้าได้กลืนกินเจ้า พลังของข้าผู้นี้จะกลับคืนสู่สภาวะสูงสุดอย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้น ทั้งดินแดนมหาเทพและจอมยุทธ์ปีศาจจะต้องยอมก้มหัวศิโรราบให้กับข้าผู้นี้ แม้แต่โลกปีศาจและโลกแห่งเทพที่แกร่งกล้าก็ยังต้องหวาดหวั่นต่อข้าผู้นี้เช่นกัน !”
มังกรกระดูกดำแค่นเสียงเย็นชาและกล่าวด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม
หากกลืนกินซิวได้สำเร็จ ร่างของมันก็อาจฟื้นฟูกลับคืนสู่ร่างสมบูรณ์และมิใช่โครงกระดูกอัปลักษณ์เช่นนี้อีกต่อไป
ความแข็งแกร่งของมันในปัจจุบันถือว่าไร้เทียมทานในดินแดนมหาเทพแล้ว หากกลืนกินฉินอวี้โม่และซิวเข้าไปได้ เชื่อว่าพลังของมันจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว เมื่อถึงเวลานั้น คนจากทั้งโลกปีศาจและโลกแห่งเทพจะต้องหวาดกลัวมันไม่มากก็น้อย และนั่นหมายความว่ามันจะกลายเป็นผู้ปกครองของทั่วทั้งดินแดนมหาเทพนี้
ชะตากรรมของการที่ถูกพวกจอมยุทธ์ปีศาจควบคุมเป็นทาสก็จะต้องเปลี่ยนแปลงไป และไม่มีความจำเป็นที่มันจะต้องเกรงกลัวสิ่งใดอีกต่อไปในอนาคต
“เจ้าผีโครงกระดูก คิดจะกลืนกินพวกข้างั้นรึ ? ช่างเป็นความคิดที่เพ้อฝันสิ้นดี ! นายหญิง ลุยกันเถอะ !”
ซิวกล่าวก่อนพุ่งออกไปโจมตีมังกรกระดูกดำโดยตรง
ฉินอวี้โม่ก็กำลังจะลงมือเช่นกันทว่าจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากข้างหลังตน
“แม่สาวน้อย หลบไปก่อนเถอะ ข้าและอสูรพันธสัญญาของเจ้าจะร่วมมือกันจัดการกับเจ้านี่เอง !”
ลั่วเฟิงปรากฏตัวอย่างกะทันหันและปลดปล่อยการโจมตีตรงเข้าใส่มังกรกระดูกดำอย่างไม่ลังเล
“ตาเฒ่า ! คิดจะเข้ามาแส่เรื่องของข้างั้นรึ ?”
เมื่อเห็นว่าลั่วเฟิงปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันและเข้ามาร่วมมือกับคนเหล่านี้ สีหน้าของมังกรกระดูกดำก็เปลี่ยนไปอย่างมากและไม่ได้มีความมั่นใจเหมือนกับก่อนหน้านี้อีกต่อไป
“ข้าไม่สามารถปล่อยให้เจ้าทำลายความสงบสุขของภูเขาจันทราหรือสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองของเราได้อีกต่อไป เจ้าฆ่าคนบริสุทธิ์ไปมากมายนักและข้าไม่มีทางทนดูอยู่เฉย ๆ ได้ !”
ลั่วเฟิงกล่าวอย่างจริงจัง เขาเฝ้ารอโอกาสกำจัดมังกรกระดูกดำมานานเหลือเกิน
การปรากฏตัวของซิวทำให้เขามั่นใจขึ้นมาก หากร่วมมือกัน ไม่ว่ามังกรกระดูกดำจะทรงพลังเพียงใด ลั่วเฟิงก็มั่นใจว่าพวกตนจะเอาชนะอีกฝ่ายได้ !