“ย๊ากกก”
“โฮกกกก”
— ตู้ม! —
เกิดเสียงดังขึ้น กองทหารรับจ้างชื่อเหยียนเข้าปะทะกับฝูงอสูรมายาที่กำลังเฝ้าอยู่ตรงทางเข้าถ้ำอย่างโกลาหล
“ระวังตัวกันด้วย!”
หลินจิ้งหงมองตามหานโม่ฉือและฉินอวี้โม่ที่เดินหลบเลี่ยงออกไปซุ่มรอเตรียมตัวเข้าถ้ำด้วยสายตาที่ขมขื่นอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่จะวิ่งเข้าไปร่วมการต่อสู้อันแสนชุลมุน
หานโม่ฉือเพิ่งจะบอกกับเขาผ่านการสื่อสารทางสายตาว่าการดึงความสนใจของเหล่าอสูรมายาก็ถือเป็นหัวใจสำคัญของแผนการนี้ แน่นอนว่าหลินจิ้งหงเข้าใจความหมายของหานโม่ฉือ แต่เขาก็ยังรู้สึกแย่อยู่ดีที่ไม่สามารถเข้าไปด้วยได้
ด้วยเหตุนั้นความโกรธและความอัดอั้นตันใจทั้งหมดของหลินจิ้งหงจึงไปลงกับอสูรมายาที่กระจัดกระจายกันอยู่หน้าถ้ำ
— ฟุบ ฟิ้ว~ —
— ตูม! ตูม! ตูม! —
หากไม่ใช่เพราะอสูรมายาโง่เง่าน่ารำคาญพวกนี้ เขาก็คงไม่ต้องมาเสียเวลารับมือกับพวกมัน ต้องมาคอยระวังภัยอยู่ข้างนอกเช่นนี้!
“โฮกปิ๊บ”
— ตู้ม!–
เดิมทีหลินจิ้งหงก็เป็นจอมยุทธ์ที่นับว่าแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว และยิ่งเมื่อเขากำลังอยู่ในอารมณ์ขุ่นเคืองเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้แต่ละกระบวนท่าที่เขาใช้โจมตีเป็นการจู่โจมในระดับถึงตาย! ซึ่งในทันทีที่ยอดฝีมือผู้โกรธแค้นเข้าถึงฝูงอสูรมายาได้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงไม่ต่างจากการปล่อยเสือดุร้ายให้เข้าไปถล่มฝูงแกะน้อย
— บึ้ม! —
….เหล่าอสูรมายาร่วงผล็อย ตายตกไปตามๆ กันทีละตัวสองตัวอย่างน่าเวทนา….
ภาพทั้งหมดอยู่ในสายตาของเหล่าบุรุษชุดรัดกุมจากกองทหารรับจ้างชื่อเหยียน ความบ้าคลั่งของหลินจิ้งหงสะกดสายตาของพวกเขาทุกคนจนต้องหันไปมองและอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง อ้าปากค้างไปตามๆ กัน แค่ได้มองดูแม้แต่พวกเขาเองก็ยังขนลุกซู่….. ‘คุณชายผู้นี้น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว’
โชคยังดีที่ตอนนี้ระหว่างพวกเขาและคุณชายน่ากลัวผู้นั้นไม่มีความแค้นเคืองหรือบาดหมางสิ่งใดต่อกันอีก และโชคดีกว่านั้นที่ก่อนหน้านี้หัวหน้าของพวกเขาช่วยห้ามทัพไว้ไม่ให้พวกเขาและฝ่ายนั้นมีเรื่องกัน หาไม่แล้วกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนอาจจะต้องสิ้นชื่อและไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้เป็นแน่
เมื่อตั้งสติได้ เหล่าชายชุดรัดกุมแห่งกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนนับสิบคนก็เข้าร่วมมือกับหลินจิ้งหงต่อสู้กับอสูรมายาอย่างดุเดือด ทำให้ในตอนนี้ไม่มีคนผู้ใดหรืออสูรมายาตัวใดมีเวลาพอจะสนใจฉินอวี้โม่และสมาชิกคณะสำรวจถ้ำคนอื่นๆ
“ตอนนี้แหละ! ไปได้!”
เมื่อเห็นว่าเริ่มมีช่องโหว่ให้วิ่งผ่านเข้าไปยังปากทางเข้าถ้ำได้ ชื่อเซียวก็เปล่งเสียงดังเป็นการให้สัญญาณและรีบพุ่งตรงไปอย่างรวดเร็ว
ฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือหันมองหน้ากันก่อนจะวิ่งตามหลังชื่อเซียวไปติดๆ
หลังจากวิ่งทะลุผ่านปากทางเข้าถ้ำมาได้ ฉินอวี้โม่และคนอื่นๆ ต่างก็ต้องตื่นตะลึงกับฉากอันงดงามภายในถ้ำ
หากมองจากด้านนอก ถ้ำแห่งนี้เป็นเพียงถ้ำมืดๆ ดูแสนธรรมดา ทว่าเมื่อพวกเขาเข้ามาแล้วกลับพบว่าข้างในนี้มีแสงไฟส่องสว่างไปตลอดทาง สองข้างทางเดินยาวที่ทอดลึกเข้าไปยังพื้นที่ด้านในถ้ำนั้นมีโคมไฟแขวนอยู่เรียงราย และทุกดวงถูกจุดให้แสงสว่างไสว
ถ้ำนี้ไม่กว้างเท่าไหร่นัก ทางเดินของถ้ำมีความกว้างเพียงพอแค่คนสองคนเดินเคียงคู่กันผ่านเข้าได้เท่านั้น แถมถ้ำก็มีความยาวมากเสียจนไม่สามารถมองเห็นสุดปลายทางได้
“หัวหน้าชื่อเซียว พวกท่านเข้ามาหาอะไรที่นี่อย่างนั้นหรือ?”
ฉินอวี้โม่เอ่ยถามชื่อเซียวขณะที่กำลังเดินตามอยู่ด้านหลัง
แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเกิดเรื่องคลางแคลงใจต่อกัน แต่ความรู้สึกของชื่อเซียวที่มีต่อฉินอวี้โม่ก็ยังถือว่าดีมาก
“พวกเราได้รับการจ้างวานจากตระกูลอู๋ให้เข้ามาค้นหาสมุนไพรในสถานที่ที่ยูนิคอร์นสีนิลอาศัยอยู่”
ชื่อเซียวไม่ได้คิดจะปิดบัง เขาบอกฉินอวี้โม่ถึงจุดประสงค์แท้จริงที่พวกเขามาที่นี่ออกไปตรงๆ
“ท่านถึงได้ขอให้ข้ายั้งมือ ไม่ให้ทำร้ายอู๋ชื่อสินะ?”
เมื่อได้ฟังสิ่งที่ชื่อเซียวบอก ฉินอวี้โม่ก็เข้าใจขึ้นมาได้ในตอนนั้นเองว่าเพราะเหตุใดชื่อเซียวถึงได้ออกหน้าปกป้องคุณชายรองตระกูลอู๋
“แม่นางฉินฉลาดจริงๆ”
ชื่อเซียวยิ้มจริงใจและไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้
ในระหว่างที่พวกเขากำลังสนทนากันอยู่ จู่ๆ ชายผู้เป็นหัวหน้าของหน่วยที่หนึ่งแห่งกองทหารรับจ้างก็เปล่งเสียงอุทานออกมา
“เกิดอะไรขึ้น?!”
เมื่อได้ยินเสียงของหัวหน้าหน่วยที่หนึ่ง ชื่อเซียวก็รีบพุ่งตัวเข้าไปหาเขาและกล่าวถามอย่างเร่งร้อน
“หัวหน้าชื่อ ข้างหน้ามีเส้นทางสองสาย พวกเราควรจะไปทางไหนกันดีขอรับ?”
บัดนี้ พื้นที่เบื้องหน้าของพวกเขาปรากฏเป็นทางแยกสองสายซ้ายและขวา ซึ่งพวกเขาเองก็ไม่ทราบเลยว่าควรจะมุ่งหน้าไปทางใด
ชื่อเซียวมองดูเส้นทางทั้งสองที่แทบไม่มีสิ่งใดแตกต่างกัน ทั้งสองทางมีความกว้างพอกัน มีแสงจากโคมไฟส่องสว่างอยู่สองข้างทางเช่นเดียวกัน และไม่มีทางสายไหนที่พวกเขาสามารถมองเห็นจนสุดปลายทางได้ ในตอนที่เขากำลังจะหันกลับไปเพื่อถามความเห็นของฉินอวี้โม่ สายลมวูบหนึ่งก็พัดมา!
“ระวัง!”
สิ่งที่มาพร้อมกับสายลมมิใช่สิ่งใดอื่น มันคือยูนิคอร์นสีนิลที่ปรากฏกายขึ้นตรงหน้าหัวหน้ากองทหารรับจ้างชื่อเหยียน อสูรมายาตัวใหญ่ใช้เขาแหลมยาวที่เป็นเกลียวของมันพุ่งแทงเข้าใส่ชื่อเซียวในทันที
ทว่าปฏิกิริยาตอบสนองของชื่อเซียวก็ต้องถือว่ารวดเร็วเพียงพอ เขาก้าวถอยหลังออกไปหลายก้าวในพริบตาเดียวและสามารถหลบหนีจากการโจมตีของเจ้ายูนิคอร์นดำมืดไปได้
“วู้~”
ยูนิคอร์นสีนิลที่ยืนอยู่ตรงทางแยกส่งเสียงขู่คำรามเข้าใส่กลุ่มมนุษย์ผู้บุกรุก
จากนั้นมันก็เบนสายตาไปหาสตรีเพียงผู้เดียวในกลุ่ม แววตาของอาชาสีดำมีร่องรอยแห่งความวิงวอนอยู่ในดวงตาสีนิลทั้งคู่ของมัน
ฉินอวี้โม่เองก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติของยูนิคอร์นสีนิลตัวนี้ ทว่านางเองก็ไม่เข้าใจความหมายของมัน ดังนั้นนางจึงไม่เร่งรีบบุ่มบ่ามลงมือหรือตอบสนองใดๆ
“วู้~….!”
ทันใดนั้น ยูนิคอร์นก็ส่งเสียงคำรามยาวออกมาครั้งหนึ่ง เรียกให้สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กหลายร้อยตัวบินออกมาจากทางแยกทั้งสองที่อยู่ด้านหลังมัน สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นพุ่งเข้าจู่โจมฉินอวี้โม่และเหล่าสมาชิกคณะสำรวจถ้ำในทันที!
ฉินอวี้โม่และคนอื่นๆ รีบตั้งรับอย่างรวดเร็ว ทว่าในตอนนั้นเองที่พวกเขามองเห็นยูนิคอร์นสีนิลพุ่งเข้าจู่โจมชื่อเซียวที่อยู่ใกล้มันที่สุด
หานโม่ฉือเกิดความลังเลเล็กน้อย ร่างของเขาหายไปจากจุดเดิมที่เคยอยู่และไปปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าชื่อเซียวอย่างรวดเร็วเพื่อคุ้มกันเขา
ทว่าจู่ๆ เหตุการณ์ก็เกิดพลิกผัน เมื่อยูนิคอร์นสีนิลหันหลังกลับอย่างกะทันหัน มันเปลี่ยนเป้าหมายกลายเป็นพุ่งเข้าหาฉินอวี้โม่ด้วยความเร็วสูง!