ในฐานะที่เป็นสมบัติพลังฟ้าดินเหมือน ๆ กัน ไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์และไข่มุกเลี่ยงวารีจึงสามารถฟื้นฟูพลังของไข่มุกวิญญาณวายุขึ้นมาได้ อย่างมากภายในเวลาหกเดือน พวกมันจะปลุกสติรับรู้ของไข่มุกวิญญาณวายุกลับคืนมาและฟื้นฟูพลังของมันได้บางส่วนอย่างแน่นอน
เมื่อมีไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ทั้งสาม ความแข็งแกร่งของฉินอวี้โม่จะพัฒนาขึ้นและมีไพ่ตายสำหรับเอาตัวรอดที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
“ไข่มุกวิญญาณวายุจะช่วยพัฒนาความเร็วของนายหญิงได้เป็นอย่างมาก หากเก็บไว้ในคฤหาสน์เฟิงหัว มันก็จะช่วยเพิ่มความเร็วของคฤหาสน์เฟิงหัวได้ ในอนาคตหากท่านเผชิญภยันตรายใด มันก็จะช่วยให้ท่านหลบหนีได้ง่ายมากขึ้น”
ไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก็เปิดเผยหนึ่งในพลังวิเศษของไข่มุกวิญญาณวายุซึ่งทำให้ฉินอวี้โม่มีความคาดหวังขึ้นมาทันที
ความแข็งแกร่งโดยพื้นฐานของนางในตอนนี้อยู่ที่ขอบเขตราชาเซียนขั้นกลาง หากเผชิญหน้ากับคนในระดับฮวาหรง นางยังพอมีพลังที่จะต่อสู้ได้ ทว่าหากต้องประจันหน้ากับจอมยุทธ์ยอดฝีมือเช่นฮวาฟางเฟย นางจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบและอาจถึงขั้นตกอยู่ในอันตราย
จนถึงปัจจุบันนี้ นางยังไม่รู้สึกถึงโอกาสในการทะลวงพลัง อย่างไรก็ตาม หากสามารถปลุกสติรับรู้ของไข่มุกวิญญาณวายุขึ้นมาได้สำเร็จและสามารถพึ่งพาพลังอำนาจของมัน ต่อให้ต้องประจันหน้ากับฮวาฟางเฟย นางก็ยังมีพลังมากพอที่จะรับมือ
เมื่อนางโยนไข่มุกวิญญาณวายุเข้าไปในคฤหาสน์เฟิงหัว งานประมูลก็ได้ดำเนินต่อไปและสิ่งของสองรายการได้ถูกปิดประมูลไปแล้ว
ของประมูลทั้งสองชิ้นเป็นสิ่งที่ล้ำค่าอย่างมากซึ่งอยู่ในระดับสูงและถือว่าเป็นของที่หายากในดินแดนมหาเทพ ท้ายที่สุดมันก็ขายได้ในราคาที่สูงมากเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมิใช่สมบัติที่อยู่ในระดับของไข่มุกวิญญาณวายุ การแข่งขันประมูลมันจึงไม่ดุเดือดเข้มข้นมากนัก สิ่งของเหล่านั้นถูกประมูลไปโดยขุมกำลังเล็ก ๆ ซึ่งไม่สลักสำคัญเท่าใดนัก
งานประมูลดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ และมีสิ่งของที่ถูกประมูลออกไปทีละชิ้น ทว่าบางส่วนก็เป็นของดีและน่าสนใจ ของประมูลบางชิ้นก็ดึงดูดใจให้คนของสามสำนักและเก้านิกายบางคนเข้าร่วมประมูลและได้มันไปครอง
หลังจากเวลาผ่านไปมากกว่าครึ่งชั่วยามและตอนนี้ก็เป็นเวลาค่ำแล้ว งานประมูลในครานี้ก็เหลือของประมูลอีกเพียงรายการเดียวและนั่นคือสมบัติลึกลับชิ้นที่ห้า
เวลานี้ทุกคนต่างก็เหนื่อยเมื่อยล้าจากการประมูลตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตาม เมื่อโป๋หย่ากล่าวว่าเป็นสมบัติลึกลับชิ้นสุดท้าย ราวกับทุกคนมีเรี่ยวแรงฮึกเหิมและพลังงานฟื้นฟูกลับมาอย่างเต็มเปี่ยม
“ไม่อาจทราบได้เลยว่าสมบัติลึกลับชิ้นสุดท้ายคือสิ่งใดกัน…”
หลายคนเริ่มพูดคุยกันและตั้งตารอชมสมบัติลึกลับชิ้นสุดท้ายในวันนี้อย่างใจจดใจจ่อ
ไม่ว่าจะเป็นวารีรวมจิต หุ่นเชิดตัวตายตัวแทน โอสถทะลวงสวรรค์หรือไข่มุกวิญญาณวายุที่ไร้พลัง ของประมูลลึกลับทั้งสี่ชิ้นก่อนหน้านี้ล้วนเป็นสมบัติล้ำค่าของดินแดนมหาเทพ สำหรับชิ้นที่ห้าซึ่งถูกจัดไว้ในอันดับสุดท้าย มันจะต้องไม่ด้อยไปกว่าไข่มุกวิญญาณวายุอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อดูจากพลังอำนาจและอิทธิพลของศูนย์การค้าจ้าวสมุทร ของลึกลับชิ้นที่ห้าจะต้องเป็นสมบัติที่ล้ำค่ามากที่สุดเป็นแน่
ฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ ก็ตั้งตารอคอยด้วยความใจจดใจจ่อเช่นกันและต่างก็สงสัยว่าครานี้ศูนย์การค้าจ้าวสมุทรจะนำสมบัติหายากชิ้นใดออกมา…
เสี่ยวอ้ายโม่ไม่สนใจสถานการณ์เหล่านั้นเท่าใดนัก ก่อนหน้านี้นางประมูลสมบัติงดงามชิ้นหนึ่งมาได้และกำลังเล่นกับมันในมือเล็ก ๆ ของตน สิ่งนั้นคือเตาหลอมประณีตงดงามขนาดเล็กซึ่งมีรูปมังกรเก้าตัวที่ดูเสมือนจริงสลักไว้อย่างพิถีพิถัน
เสี่ยวอ้ายโม่แสดงความสนใจในด้านการหลอมโอสถมาตั้งแต่ยังแบเบาะและต้องการเติบโตเป็นปรมาจารย์ผู้หลอมโอสถฝีมือดี เพราะเหตุนั้นนางจึงชื่นชอบเตาหลอมใบเล็กนี้ยิ่งนัก
“ทุกคน รอประเดี๋ยวนะเจ้าคะ สมบัติลึกลับชิ้นสุดท้ายแตกต่างจากสมบัติอื่นและต้องใช้เวลาเตรียมความพร้อมสักครู่”
โป๋หย่ายิ้มให้กับทุกคนและกล่าวด้วยวาจาที่เพิ่มความลึกลับน่าค้นหาให้กับมันได้อย่างมาก
สมบัติทั้งหมดในงานประมูลก่อนหน้านี้ถูกนำออกมาแสดงต่อสายตาทุกคนโดยตรง ทว่าสมบัติลึกลับชิ้นสุดท้ายต้องใช้เวลาเตรียมความพร้อมเป็นเวลานาน เพียงเท่านี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามันไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
“หลานเผิง สมบัติชิ้นสุดท้ายคือสิ่งใดกันแน่ ?”
ภายในห้อง เหมียวเจินเจินเอ่ยถามอย่างสงสัยใคร่รู้และต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับสมบัติลึกลับนั้นจากปากของหลานเผิง
“ข้าก็ไม่ทราบเช่นกัน งานประมูลครานี้ บิดาของข้าเป็นคนจัดการดูแลทุกอย่างและข้าไม่ได้สนใจมากนัก สำหรับสมบัติลึกลับทั้งห้าชิ้น ก่อนที่จะนำออกมาแสดง ข้าก็ไม่เคยทราบเกี่ยวกับพวกมันด้วยซ้ำ ส่วนสมบัติชิ้นสุดท้ายนี้ เกรงว่านอกจากบิดาของข้าก็คงจะไม่มีใครรู้”
หลานเผิงส่ายศีรษะเบา ๆ และกล่าวตามความจริงว่าเขาไม่ทราบเกี่ยวกับสมบัติดังกล่าวแม้แต่น้อย
สาเหตุประการแรกเป็นเพราะเขาไม่ได้ให้ความสนใจกับงานประมูลครานี้มากนัก และประการที่สองคือโรงประมูลเก็บข้อมูลเกี่ยวกับรายการสิ่งของทั้งหมดเป็นความลับเพื่อมิให้เกิดการรั่วไหลของข้อมูล แม้แต่นายน้อยของตระกูลหลานอย่างเขาก็มิอาจล่วงรู้ได้ แม้ในทั่วทั้งตระกูลหลาน เกรงว่านอกเหนือจากไม่กี่คนที่เป็นผู้ดำเนินการและดูแลความเรียบร้อยของงานก็คงไม่มีใครทราบด้วยซ้ำ
“รอดูต่อไปเถอะ อีกไม่นานเราก็จะได้เห็นว่ามันคือสิ่งใด อย่างไรก็ตาม ข้าคงไม่ประมูลสมบัติชิ้นสุดท้ายนี้”
ฉินอวี้โม่ยิ้มและกล่าวการตัดสินใจของตน ไม่ว่าสมบัติลึกลับชิ้นสุดท้ายคือสิ่งใด นางวางแผนที่จะไม่เข้าร่วมการประมูลมัน นางได้ลงทุนกับของประมูลก่อนหน้านี้ไปมากแล้วและตอนนี้เหลือแก่นหินวิญญาณอยู่กับตัวเพียงไม่มาก
ยิ่งไปกว่านั้น นางรู้สึกได้ว่าสมบัติลึกลับชิ้นสุดท้ายไม่ธรรมดาอย่างที่จินตนาการไว้แน่นอน ต่อให้ชนะการประมูลและได้มันมาครอง มันก็อาจไม่สามารถใช้งานได้ในตอนนี้
หลานเผิงไม่กล่าวสิ่งใดต่อและทราบดีว่าฉินอวี้โม่มีความคิดการตัดสินใจเป็นของตัวเอง ในเมื่อนางไม่ต้องการประมูล นางก็ย่อมมีเหตุผลของตนเองและพวกเขาไม่จำเป็นต้องโน้มน้าวใจ
เสียงกระซิบกระซาบหารือกันดังขึ้นทั่วห้องโถง ทว่าบรรยากาศในห้องพิเศษบนชั้นที่สองกลับเงียบเชียบอย่างยิ่ง
หลังจากรอเวลาครู่ใหญ่ กล่องไม้ขนาดใหญ่ก็ถูกยกขึ้นมาบนเวที
กล่องไม้ใบนี้ดูเก่าแก่และส่งกลิ่นอ่อน ๆ โชยออกมา
“นี่มันไม้จันทน์พันปีมิใช่รึ ?”
ใครคนหนึ่งสำรวจมันอย่างละเอียดและจู่ ๆ เขาก็ลุกพรวดพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
‘ไม้จันทน์พันปี’ คือพฤกษาหายากอย่างที่สุดซึ่งมักปรากฏในสถานที่ที่มีผู้คนอยู่น้อยนิดและเต็มไปด้วยวิกฤตอันตรายเท่านั้น
ไม้จันทน์พันปีมีคุณสมบัติที่พิเศษอย่างยิ่ง มันไม่เพียงแต่สามารถต้านพิษได้กว่าหลายร้อยชนิดเท่านั้น ทว่ามันสามารถยังช่วยให้จอมยุทธ์เข้าสู่สภาวะพิเศษซึ่งช่วยในการฝึกฝนบ่มเพาะวิชาได้ดีอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม การเข้าสู่สภาวะพิเศษดังกล่าวมิใช่เรื่องง่ายและจะต้องอาศัยโอกาสมากพอสมควร
ถึงแม้กล่องใบนี้จะดูเก่าแก่ยิ่งนัก ทว่ากลิ่นอ่อน ๆ ที่แผ่ออกมาก็เป็นของไม้จันทร์พันปีไม่ผิดแน่
ไม้จันทร์พันปีมีกลิ่นอ่อนที่จะคงอยู่ได้นานถึงหลายหมื่นปี ต่อให้ถูกแปรรูปกลายเป็นสิ่งอื่น กลิ่นดังกล่าวก็จะไม่จางหายไป
“มันคือไม้จันทร์พันปีจริง ๆ!”
หลายคนเริ่มจดจำวัสดุของกล่องดังกล่าวได้และตะโกนด้วยความตื่นเต้น
“สวรรค์ ! กล่องที่ทำมาจากไม้จันทร์พันปีนั่นเป็นเพียงกล่องที่ใช้บรรจุสิ่งของอื่นเท่านั้น สมบัติลึกลับชิ้นสุดท้ายคือสิ่งใดกันแน่ ?!”
เสียงอุทานดังมาจากห้องหนึ่งบนชั้นที่สองและเขาสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับสิ่งที่ถูกบรรจุภายในกล่องใบนั้นมากยิ่งขึ้น
สำหรับสิ่งที่บรรจุในกล่องที่ทำมาจากวัสดุหายากอย่างไม้จันทร์พันปี คุณค่าของมันก็มากเกินจะจินตนาการได้ มันไม่ด้อยไปกว่าสมบัติลึกลับทั้งสี่ชิ้นก่อนหน้านี้อย่างแน่นอนและคาดว่าล้ำค่ายิ่งกว่าพวกมันทั้งหมด
“สมบัติลึกลับชิ้นสุดท้ายคือสมบัติจากบรรพบุรุษของตระกูลหลาน นี่เป็นครั้งแรกที่มันถูกเปิดเผยต่อสาธารณะและมันก็เพียงเฝ้ารอผู้ที่ถูกโชคชะตาฟ้าลิขิตไว้”
ผู้อาวุโสของตระกูลหลานก้าวขึ้นบนเวทีและรับช่วงต่อการประมูลสำหรับสมบัติชิ้นสุดท้ายด้วยตัวเอง
สมบัติลึกลับชิ้นสุดท้ายมิใช่สิ่งที่ผู้ใดส่งมาเข้าร่วมงานประมูล หากแต่เป็นสมบัติดั้งเดิมของตระกูลหลาน
สิ่งล้ำค่านี้ถูกสืบทอดมาจากบรรพบุรุษของตระกูลหลานซึ่งออกตามหาผู้ถูกเลือกมาตลอดหลายปี ทว่ายังไม่เคยพบคนผู้นั้น
สถานการณ์ของดินแดนมหาเทพในปัจจุบันนี้ก็วุ่นวายมากขึ้นเรื่อย ๆ หากใครสักคนได้ครอบครองและเป็นผู้ถูกเลือกสำหรับสมบัติชิ้นนี้ มันจะช่วยขุมกำลังในดินแดนมหาเทพได้เป็นอย่างมาก
“หรือว่ามันจะเป็นสิ่งนั้น ?!”
หลานเผิงลุกพรวดอย่างอดไม่ได้ หากกล่าวว่าเป็นสมบัติตกทอดจากบรรพบุรุษของตระกูลหลาน เขาก็พอจะคาดเดาได้ในใจแล้ว
การที่ ‘สิ่งนั้น’ ถูกจัดเป็นของประมูลรายการสุดท้าย มันก็ถือว่าสมเหตุสมผลดี