เมื่อครู่หานอวี้และฉินเฟิงมีความหวังว่าตนเองจะคิดผิดไปและการลงทัณฑ์สายฟ้าขั้นที่เจ็ดจะไม่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านทัณฑ์สายฟ้าขั้นที่หก กลุ่มก้อนเมฆทะมึนกลับไม่หายไป แม้มันดูน่าประหลาดใจทว่านั่นก็หมายความว่าจะมีสายฟ้าสายที่เจ็ดอย่างแน่นอน ด้วยสภาพอาการของมารยาในเวลานี้ มันไม่มีทางรอดพ้นไปได้แน่
สีหน้าของทั้งฉินเฟิงและหานอวี้เหยเกทันที ทั้งสองไม่ทราบเลยว่าจะช่วยมารยาได้อย่างไร ต้องกล่าวเลยว่าหากมีการช่วยเหลือจากบุคคลภายนอก มันจะส่งผลให้ทัณฑ์สายฟ้าทรงพลังมากยิ่งขึ้น ต่อให้พวกเขาจะยินดีช่วย พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะหยุดมันได้
ใบหน้าของฉินอวี้โม่ก็บิดเบี้ยวเป็นอย่างมาก แน่นอนว่านางสัมผัสได้ถึงสภาวะพลังของมารยาในตอนนี้ การข้ามผ่านการลงทัณฑ์สายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวนี้ไม่ต่างจากความฝันที่เป็นไปไม่ได้ เพียงแต่นางไม่อาจปล่อยให้อสูรสาวต้องตายไปต่อหน้าต่อตา
ทันใดนั้น ฉินอวี้โม่ก็พุ่งตรงเข้าไปปรากฏกายข้างมารยา
“มารยา อดทนไว้ล่ะ ข้าเชื่อมั่นในตัวเจ้า”
ขณะพยุงร่างของมารยาที่ทรุดอยู่บนพื้นขึ้นมาอย่างแผ่วเบา ฉินอวี้โม่ก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ จากนั้นนางก็ไม่รอช้าและวางมือบนแขนของมารยาก่อนพลังมายาของนางจะหลั่งไหลเข้าสู่ร่างอสูรสาวเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
“นายหญิง ข้าจะอดทนอย่างสุดความสามารถ”
มารยาไม่ปฏิเสธและสบตาผู้เป็นนายพร้อมกล่าวอย่างหนักแน่น
อย่างไรก็ตาม แววตาของมันฉายแววความไม่มั่นใจและอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย ถึงแม้กล่าวว่าจะต้านทานไว้ ทว่าพลังของทัณฑ์สายฟ้าขั้นที่หกก็ทำให้มันต้องใช้พลังอย่างเต็มที่แล้ว บัดนี้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับทัณฑ์สายฟ้าขั้นที่เจ็ดซึ่งทรงพลังยิ่งกว่า อสูรสาวเป็นกังวลอย่างยิ่งว่ามันจะถูกผ่าทำลายจนกลายเป็นเถ้าถ่านภายในชั่วพริบตา
หลังจากมีโอกาสอยู่ร่วมกับฉินอวี้โม่ เสี่ยวเฮยและอสูรอื่นๆมานาน ถึงแม้ว่ามารยาจะเป็นอสูรที่เย็นชา ทว่ามันก็เกิดความรู้สึกที่ลึกซึ้งกับนายหญิงและสหายทั้งหลายเหล่านี้ เป็นธรรมดาที่มันจะรู้สึกไม่สบายใจนักเมื่อคิดว่าอาจมีโอกาสที่ต้องแยกจากพวกนาง
“พี่มารยา ท่านต้องอดทนไว้นะ พวกเราเชื่อในตัวท่าน พวกเรายังรอให้ท่านพาพวกเราไปต่อสู้กับพวกคนชั่วต่อไปในอนาคตข้างหน้า!”
เสียงของเสี่ยวเยี่ยดังขึ้นในหูของมารยาซึ่งเป็นน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อยและเห็นได้ชัดว่ามันไม่อาจควบคุมความรู้สึกไว้ได้
“ใช่แล้ว พี่มารยา ท่านต้องอดทนไว้ พวกเราเชื่อว่าท่านจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อข้ามผ่านการลงทัณฑ์สายฟ้านี่ไป เมื่อถึงตอนนั้น หากมีใครหน้าไหนกล้ารังแกนายหญิง ท่านต้องพาพวกเราไปจัดการคนเหล่านั้นให้หลาบจำ”
เสี่ยวม่านก็เอ่ยออกมาเช่นกัน มันสัมผัสได้ว่าสถานการณ์ของมารยาไม่สู้นักดีและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือไม่ต่างกัน
“มารยา เจ้าต้องสู้เข้าไว้ เราต่างก็ส่งกำลังให้เจ้าอยู่เงียบๆ เจ้าจะต้องผ่านพ้นทัณฑ์สายฟ้าขั้นที่เจ็ดไปให้ได้!”
หงส์แดงและอสูรอื่นๆกล่าวให้กำลังใจกับมารยา พวกมันใช้เวลาอยู่กับมารยามานานและย่อมมีความรู้สึกผูกพันแน่นแฟ้นต่อกัน ยิ่งไปกว่านั้น นอกเหนือจากซิวและหานอวี้ มารยาก็เป็นหนึ่งในอสูรที่ทรงพลังที่สุดในบรรดาพวกมัน บรรดาอสูรทั้งหลายต่างก็เคารพนับถือมันอย่างมาก เพียงคิดว่ามารยาอาจสลายกลายเป็นเพียงเถ้าถ่าน บรรดาอสูรจึงรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างยิ่ง
“เอาล่ะ พวกเจ้าวางใจเถอะ ข้าจะอดทนสู้อย่างเต็มที่”
หลังจากได้ยินคำพูดของอสูรมายาทั้งหลาย มารยาก็อดซาบซึ้งใจไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ทัณฑ์สายฟ้าขั้นที่เจ็ดก็น่าสะพรึงกลัวเกินไปจนมันไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด
“หากข้าไม่รอดพ้นจากการลงทัณฑ์สายฟ้าครานี้ ข้าฝากพวกเจ้าดูแลนายหญิงด้วย พวกเจ้าต้องปกป้องนางมิให้เศร้าเสียใจหรือเป็นอันตราย อย่าให้ใครมาทำร้ายนางได้ อีกอย่าง…นายตัวน้อยของเราในท้องของนายหญิงน่ะ พวกเจ้าก็ต้องดูแลอย่างสุดความสามารถเช่นกัน มิฉะนั้นข้าไม่มีวันให้อภัยพวกเจ้าแน่”
มารยาฝืนยิ้มออกไปและแสร้งทำเป็นไม่กังวลขณะย้ำเตือนอสูรทั้งหลาย
เมื่อได้ยินเช่นนั้น บรรดาอสูรตัวเมียซึ่งรวมถึงเสี่ยวเยี่ยและเสี่ยวม่านก็อดร่ำไห้ออกมาไม่ได้ สีหน้าของเสี่ยวเฮยและอสูรตัวอื่นๆก็บิดเบี้ยวเช่นกัน ทว่าพวกมันพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้
“ไม่ มารยา เจ้าจะยอมแพ้ไม่ได้ พวกเราจะรอเจ้ากลับมาและปกป้องนายหญิงไปพร้อมกับเรา อีกทั้งยังมีนายตัวน้อยที่รอให้เจ้ามาช่วยดูแลและเติบโตไปด้วยกัน นายหญิงยังไม่พบมารดาหรือนายท่านโม่ฉือด้วยซ้ำ เจ้าจะทิ้งพวกเราไปไม่ได้นะ”
หงส์แดงกล่าวตอบทันที ปกติแล้วมันเป็นอสูรมายาที่ใจแข็งอย่างมาก ทว่าครานี้ดวงตาของมันก็แดงก่ำและน้ำเสียงแหบพร่าอย่างชัดเจน
“ข้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถ”
มารยาพยักหน้าโดยไม่กล้าฟังวาจาของสหายอสูรทั้งหลายอีกต่อไปขณะตัดการสื่อสารกับพวกมันทั้งหมด อสูรสาวไม่คิดที่จะยอมแพ้และหากยังพูดคุยกันต่อไป เกรงว่ามันคงกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้
แน่นอนว่าฉินอวี้โม่ก็ได้ยินบทสนทนาของอสูรมายาทั้งหมด นางพยายามอดกลั้นความเศร้าในหัวใจและยิ้มให้กับอสูรสาวผู้กำลังจะเผชิญกับทัณฑ์สายฟ้าที่ทรงพลังเป็นที่สุด
“มารยา ข้าเชื่อมั่นในตัวเจ้า การลงทัณฑ์สายฟ้าเจ็ดขั้นเล็กๆน้อยๆนี่หยุดพวกเราไม่ได้หรอก หากข้าไม่มีเจ้าอยู่ข้างกายในการฝ่าฟันอุปสรรคต่อไปในภายภาคหน้า ข้าก็คงทนไม่ได้จริงๆ”
เมื่อได้ยินวาจาของนายหญิงและเห็นรอยยิ้มกลั้นน้ำตาของนาง มารยาก็อดไม่ได้และยื่นแขนออกไปสวมกอดฉินอวี้โม่
มันจะทอดทิ้งนายหญิงผู้นี้-ฉินอวี้โม่-นายหญิงที่ดีที่สุดในผืนพิภพไปได้อย่างไร แม้มีศักดิ์เป็นนาย นางก็ปฏิบัติต่ออสูรมายาทั้งหมดดั่งญาติสนิทมิตรสหายของตน การได้เป็นอสูรมายาของฉินอวี้โม่ ติดตามอารักขานางไปทั่วทุกหนแห่ง ได้สั่งสมประสบการณ์และเติบโตไปด้วยกันถือเป็นความสุขที่สุดของมารยาตลอดชีวิตที่ผ่านมา
หยดน้ำตาใสชัดไหลรินจากดวงตาของมารยาและหยดลงบนไหล่ของฉินอวี้โม่
มารยาเป็นเพียงก้อนน้ำแข็งและไม่เคยมีสิ่งที่เรียกว่าหยาดน้ำตา อย่างไรก็ตาม ครานี้น้ำตาของมันกลับหลั่งริน เพียงแค่นี้ผู้คนก็สามารถเข้าใจได้แล้วว่าเวลานี้ความรู้สึกของมารยาเจ็บปวดและซับซ้อนเพียงใด
“นายหญิง อาการบาดเจ็บของข้าเกือบหายดีแล้ว ท่านออกไปก่อนเถอะ”
เมื่อเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ มารยาก็ผละออกจากฉินอวี้โม่พร้อมกล่าวบอกให้นางออกไปก่อน มันมีลางสังหรณ์ว่าทัณฑ์สายฟ้าขั้นที่เจ็ดกำลังจะมาถึงและจะปล่อยให้ฉินอวี้โม่อยู่ที่นี่ต่อไม่ได้อีก
“พวกเราจะรอเจ้า”
แม้ว่าไม่ต้องการยอมแพ้ ฉินอวี้โม่ก็พยักศีรษะก่อนร่างของนางพุ่งตรงออกไปอยู่ข้างหานอวี้และแอบภาวนาอยู่ในใจเงียบๆ
“เจ้าทัณฑ์สายฟ้าไร้น้ำยา มาเถอะ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าข้าจะต้านทานไว้ไม่ได้!”
มารยายืนขึ้นและเงยหน้าขึ้นมองกลางอากาศทันทีพร้อมเอ่ยวาจาด้วยน้ำเสียงและแววตามุ่งมั่น ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร หากว่ามันไม่อดทนอย่างสุดความสามารถ มันจะคู่ควรกับความคาดหวังของฉินอวี้โม่และสหายอสูรมายาทั้งหลายได้อย่างไร
ครืนนน ครืนนนน ครืนนนนน!
ราวกับโต้ตอบวาจาของอสูรสาว เสียงอื้ออึงดังขึ้นสนั่นกลางท้องฟ้าและคลื่นพลังมหาศาลที่แผ่ออกมาจากกลุ่มก้อนเมฆทะมึนก็ทำให้ผู้คนต้องสั่นสะท้าน
“ไม่นะ ข้าอยากช่วยมารยา ข้าจะปล่อยให้มันตายไปไม่ได้ เสี่ยวอวี้ ท่านเจ้าเมืองฉินเฟิง ในเมื่อทั้งสองทราบข้อมูลเกี่ยวกับมัน มันก็คงจะมีวิธีช่วยบางอย่างใช่รึไม่?”
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังที่รุนแรงจากกลุ่มก้อนเมฆ ราวกับสามารถทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าได้ ฉินอวี้โม่ก็ตวัดสายตาไปหาหานอวี้และฉินเฟิงที่อยู่ข้างกายพร้อมเอ่ยถามทันที
ฉินเฟิงและหานอวี้ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ท่านแม่ หากเป็นช่วงเวลาปกติ ในฐานะนายหญิงของมารยา ท่านสามารถช่วยมันต้านทานพลังของทัณฑ์สายฟ้าได้บางส่วนและอาจถึงขั้นช่วยให้มันรอดพ้นจากสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ได้ ทว่าในเวลานี้ท่านกำลังตั้งท้องอยู่ หากท่านช่วยมารยา เด็กในท้องของท่านจะตกอยู่ในอันตราย มันอาจได้รับผลกระทบจากพลังมหาศาลของทัณฑ์สายฟ้าจนต้องตายไป เพราะฉะนั้นต่อให้จะมีทางช่วย เราก็ไม่มีทางยอมให้ท่านทำเช่นนั้น”
หานอวี้กัดฟันเอ่ยตอบออกไป แม้มังกรน้อยทราบดีว่าควรปิดบังข้อมูลนี้จากฉินอวี้โม่ มันก็ไม่อาจทำเช่นนั้นได้ มันเพียงหวังว่ามารดาต่างเผ่าพันธุ์จะตัดสินใจด้วยตัวเองและไม่เลือกทางที่จะต้องเสียใจในภายหลัง
สีหน้าของฉินเฟิงก็ไม่สู้ดีนักเช่นกัน เขาเองก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าสตรีจอมยุทธ์ผู้นี้กำลังตั้งครรภ์ มิฉะนั้นเขาคงกล่าวข้อมูลทุกอย่างที่มีออกไปแล้ว
เมื่อได้ยินวาจาของหานอวี้ ฉินอวี้โม่ก็ชะงักค้างไปชั่วขณะและลูบท้องของตนเองโดยไม่รู้ตัว
เด็กในท้องคือบุตรของนางและหานโม่ฉือ เวลานี้หานโม่ฉือยังไม่ทราบเรื่องที่นางตั้งครรภ์ ทว่าหากได้ทราบ เขาก็คงจะมีความสุขจนเหลือล้น
เมื่อหันมองออกไปและเห็นสีหน้ามุ่งมั่นของมารยาที่กำลังรอการมาถึงของทัณฑ์สายฟ้า ฉินอวี้โม่ก็ตัดสินใจในทันที
“โม่ฉือ..ข้าขอโทษ ต่อให้ลูกของเราต้องจากไป ข้าก็ไม่เสียใจกับการกระทำในครั้งนี้ ข้าทนปล่อยให้มารยาตายไปไม่ได้จริงๆ!”
ฉินอวี้โม่สัมผัสท้องขณะพึมพำกับตัวเอง ทว่าหานอวี้และฉินเฟิงซึ่งอยู่ด้านข้างก็ได้ยินอย่างชัดเจน
“ท่านแม่ ท่านเสียสติไปแล้ว หากท่านต้องเสียลูกในท้องไปเพราะเหตุการณ์นี้ แม้แต่ตัวมารยาเองก็จะต้องนึกเสียใจและรู้สึกผิดไปตลอดทั้งชีวิต”
หานอวี้คาดไว้แล้วว่าฉินอวี้โม่อาจตัดสินใจเช่นนี้ ทว่ามันก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวโน้มน้าวให้นางเปลี่ยนใจ
มันเข้าใจความสำคัญของบุตรในครรภ์ของฉินอวี้โม่เป็นอย่างดีและความรักความหวงแหนที่ฉินอวี้โม่มีต่อเด็กคนนี้ตลอดช่วงที่ผ่านมา หากสูญเสียบุตรในครรภ์ไป ฉินอวี้โม่จะต้องเจ็บปวดอย่างที่สุด เพราะเหตุนั้นมันจึงไม่เคยกล่าวถึงเรื่องนี้ ทว่ามันก็เข้าใจนิสัยและตัวตนของฉินอวี้โม่เช่นกัน การตัดสินใจเช่นนี้คือตัวตนของนางอย่างแท้จริง
“เสี่ยวอวี้ เด็กคนนี้สำคัญกับข้ามาก ทว่ามารยาก็เป็นครอบครัวของข้าเช่นกัน ข้าทนเห็นมารยาดับสลายไปจากโลกใบนี้เพราะทัณฑ์สายฟ้าชั่วร้ายนี่ไม่ได้ วันนี้ไม่ว่าข้าจะตัดสินใจทำเพื่ออสูรตัวใด ข้าเชื่อว่าหากโม่ฉืออยู่ที่นี่ เขาจะสนับสนุนการตัดสินใจของข้าอย่างแน่นอน”
ฉินอวี้โม่เอ่ยอย่างไร้ความลังเลใดๆ ทั้งน้ำเสียงและแววตาของนางในตอนนี้เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นไม่หวั่นไหว
ราวกับได้ยินเสียงของหานโม่ฉือกระซิบข้างหู
“อวี้โม่.. ไปเถอะ ทำตามสิ่งที่ใจของเจ้าต้องการ อย่าทำสิ่งใดที่เจ้าจะนึกเสียใจในภายหลัง ส่วนลูกของเรา..การได้มาคือความโชคดีและการเสียไปก็คือโชคชะตา หากต้องสูญเสียไปจริงๆ เราก็มีลูกใหม่ได้ในอนาคต ยิ่งกว่านั้น ข้าก็เชื่อว่าลูกของเราจะไม่ทิ้งเราไปง่ายๆ”
หานโม่ฉือทราบดีว่านางต้องการสิ่งใด เขาสนับสนุนนางมาเสมอและปกป้องนางอย่างไร้เงื่อนไข
“ลูกเอ๋ย.. หากเจ้าแข็งแกร่งพอ ข้าเชื่อว่าทัณฑ์สายฟ้าเจ็ดขั้นนี้จะไม่พรากเจ้าไปจากข้า การที่เจ้ายังไม่ได้พบพ่อของเจ้า ยังไม่ได้พบหน้าข้า เจ้าจะจากไปง่ายๆไม่ได้”
ฉินอวี้โม่พึมพำกับตัวเองก่อนพุ่งตรงไปปรากฏข้างกายมารยาอีกครา
“มารยา ข้าจะช่วยเจ้าเอง”
ขณะเงยหน้าขึ้นมองสายฟ้าที่กำลังจะมาถึง ฉินอวี้โม่จับมืออสูรสาวและกล่าวด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
“นายหญิง รีบหนีไปเร็วเข้า การทำเช่นนี้เพื่อช่วยข้ามันไม่คุ้มค่าหรอก ท่านต้องปกป้องลูกในท้องไว้ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็จะไม่นึกเสียใจ”
มารยาซาบซึ้งใจอย่างที่สุดขณะผลักฉินอวี้โม่และบอกให้นางหนีไปโดยเร็ว
“มารยา เจ้ารู้จักข้าดี ข้าปล่อยเจ้าไปไม่ได้ ข้าเชื่อว่าลูกของข้าเข้าใจความคิดของข้าและจะสนับสนุนการตัดสินใจของผู้เป็นแม่อย่างแน่นอน”
ฉินอวี้โม่ไม่เปลี่ยนใจ สีหน้าของนางยังคงเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นเช่นเดิม
“โธ่ นายหญิง…”
มารยาถอนหายใจทว่าไม่คัดค้านอีกต่อไป เวลานี้แววตาของมันมีความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยมเช่นกัน
มันจะต้องอดทนข้ามผ่านทัณฑ์สายฟ้าอย่างปลอดภัยเพื่อปกป้องนายหญิงและนายตัวน้อยให้จงได้
.