คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด – ตอนที่ 41.1 คนจากอาราม (1)

หลายวันต่อมา ฉินอวี้โม่และเสี่ยวโร่ก็ไม่ได้ออกไปจากโรงเตี๊ยมแสงจันทร์เลย

นักฆ่าสาวในร่างอดีตคุณหนูมุ่งเน้นการฝึกร่างกายของตนเองและขณะเดียวกันก็สอนทักษะการต่อสู้และการเคลื่อนไหวให้กับเสี่ยวโร่วไปด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ก็ทำให้สาวใช้ตัวน้อยได้ประโยชน์อย่างมาก

แม้ว่าพรสวรรค์ของเสี่ยวโร่วจะแสนธรรมดา ทว่านางเป็นเด็กฉลาดและมีไหวพริบ ภายใต้การชี้แนะของฉินอวี้โม่ เด็กสาวจึงก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว ภายในห้าวันนางไม่เพียงทำให้ระดับพลังที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ของตัวเองมั่นคงได้เท่านั้น แต่ยังเริ่มเห็นสัญญาณของการจะเลื่อนขึ้นสู่ขั้นถัดไปแล้วด้วย

เวลาผ่านไปรวดเร็วราวกับชั่วพริบตา ในตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งวันจะถึงวันอสูรล้อมเมืองแล้ว ช่วงค่ำของวันนี้จะมีการจัดเลี้ยงที่จวนเจ้าเมือง

ฉินอวี้โม่ที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยออกมาจากโรงเตี๊ยมพร้อมกับเสี่ยวโร่วเพื่อมุ่งไปยังจวนเจ้าเมือง พวกนางทั้งสองเตรียมตัวตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อให้ดูสุภาพและเป็นเกียรติแก่เจ้าภาพของงาน

หญิงสาวทั้งสองมิได้สวมชุดบุรุษเหมือนเช่นที่ผ่าน ๆ มาอีกแล้ว วันนี้พวกนางมาในชุดสตรีที่ดูเรียบร้อยและงดงาม

ฉินอวี้โม่สวมอาภรณ์ยาวสีขาวสะอาดตา ผมยาวสลวยและดำขลับถูกถักเปียและเก็บเป็นมวยไว้ครึ่งศีรษะอย่างประณีต และส่วนที่เหลือถูกปล่อยให้สยายยาวอยู่ด้านหลัง แม้จะไร้ซึ่งเครื่องประดับอย่างอิสตรีทั่วไปชื่นชอบสวมใส่ ทว่าด้วยใบหน้างดงาม เรือนร่างสมส่วน อีกทั้งผิวที่ผิวขาวเนียนละเอียดน่าทะนุถนอม เมื่ออยู่ในชุดกระโปรงยาวสีขาวสว่างเช่นนี้ก็ทำให้อดีตคุณหนูดูราวกับเป็นเทพธิดาลงมาจุติบนโลกมนุษย์

ส่วนเสี่ยวโร่ว วันนี้นางสวมสุดสีเขียวที่ดูน่ารักน่าชังเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อพวกนางเดินไปตามถนนก็เป็นที่สะดุดตาและเป็นจุดสนใจของคนไม่น้อย

…แม้นบุรุษใดในใต้หล้ามีวาสนายลโฉมนารี ดั่งมีมนต์สะกดต้อง จิตเลื่อนล่องหลุดลอย กาลเคลื่อนคล้อยมิล่วงรู้ ใจผูกอยู่เพียงขวัญตา แม้โลกาพินาศสิ้น แม้ชีวินล่วงลับดับหาย เพียงได้ใกล้นาถอนงค์ ใจปลดปลงลงแทบเท้านาง…

เหล่าบุรุษที่เดินผ่านถึงกับตกตะลึง พวกเขามองตามพวกนางจนเหลียวหลัง ความงดงามชวนให้หลงใหลจนหลงลืมไปสิ้นทุกสิ่งอย่าง ลืมแม้กระทั่งว่าตอนนี้ตนเองกำลังทำสิ่งใด เช่นว่า… ลืมมองทางข้างหน้า

— ตุบ ! —

เมื่อเห็นว่ามีบุรุษอีกคนแล้วที่เดินไปชนกับผู้อื่น เสี่ยวโร่วก็อดหัวเราะคิกคักออกมาไม่ได้

“คิกคิก คุณหนู ท่านช่างงดงามยิ่งนัก พอพวกเขาเห็นท่านก็แทบจะเดินต่อกันไม่ได้เลย นี่ก็คนที่สิบแล้วนะเจ้าคะ ที่เดินไม่ดูทางชนนู่นชนนี่จนล้มลงไปเช่นนั้น”

เสี่ยวโร่วหันไปมองฉินอวี้โม่ด้วยสายตาเทิดทูนราวกับกำลังมองเทพเซียนจากแดนสวรรค์

ในวันนี้คุณหนูของนางงดงามกว่าผู้ใด เป็นความงามด้วยรูปโฉมดั้งเดิมที่สวรรค์สรรค์สร้างอย่างจริงแท้ ก่อนหน้านี้คุณหนูสี่ของนางเคยแต่งหน้าและสวมใส่เครื่องประดับยามได้ออกนอกจวนอยู่บ้าง แม้ว่านั่นจะดูสวยงามไม่แพ้ใคร ทว่าสาวใช้ตัวน้อยกลับคิดว่ามันดูฉูดฉาดและจงใจปรุงแต่งเกินไปมากกว่า

ตอนนี้เมื่อไม่ได้สวมเครื่องประดับใด ๆ และไร้ซึ่งอาภรณ์ชั้นยอดกลับทำให้คุณหนูดูงดงามมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

เวลานี้ฉินอวี้โม่ดูมีสง่าราศีและน่าดึงดูดเป็นอย่างยิ่ง

“ไม่ต้องสนใจพวกเขา เดินต่อเถอะ”

ฉินอวี้โม่ยิ้มพลางส่ายศีรษะและบอกให้เสี่ยวโร่วเดินต่อ

ตัวเธอเองก็คิดอยู่เสมอว่า ร่างของคุณหนูสี่–ฉินอวี้โม่ผู้นี้นั้นสวยมาก สวยทั้งในแบบของดินแดนนี้และในโลกใบเดิมที่เธอจากมา แต่เธอก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่า รูปลักษณ์นี้จะเป็นที่ดึงดูดสายตาของคนได้มากขนาดนี้ แค่เดินถนนยังมีผู้ชายหลงจนเหลียวหลัง แบบนี้ก็ทำให้นักฆ่าสาวแอบตกใจและประหม่าอยู่บ้างเช่นกัน

เนื่องจากจวนเจ้าเมืองเยว่กวางนั้นมีขนาดใหญ่มาก อาณาเขตบริเวณภายในก็กว้างขวางใหญ่โตทำให้ถึงแม้กำแพงจวนจะติดต่อกับพื้นที่ส่วนต่างๆ ของเมืองอย่างหลากหลาย แต่การเดินไปให้ถึงยังประตูทางเข้าจะต้องใช้เวลากว่าครู่หนึ่ง

เมื่อเดินออกจากโรงเตี๊ยมมาตามถนนได้ไม่นานนัก ฉินอวี้โม่ก็พบกับสมาชิกของกองทหารรับจ้างชื่อเหยียน

เมื่อเห็นสหายใหม่ผู้แสนเก่งกล้า เหล่าสมาชิกของกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนก็มองดูอย่างตกตะลึง ก่อนจะหันมองหน้ากันไปมา และอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย พวกเขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก

ค่ำวานนี้ที่ป่าแสงจันทร์ เป็นเพราะว่าฉินอวี้โม่สวมใส่ชุดบุรุษและรวบผมตึงดูทะมัดทะแมงจึงทำให้รูปโฉมงดงามของนางไม่ได้เฉิดฉายเท่ากับวันนี้ อีกทั้งพวกเขาทั้งหมดก็กำลังสนใจและชื่นชมในความแข็งแกร่งของสตรีผู้นี้มากกว่า จึงไม่ได้ใส่ใจกับรูปลักษณ์ของสหายผู้แสนเก่งกล้ามากนัก

ทว่าวันนี้ราวกับว่าพวกเขาได้เห็นเทพธิดาลงมาเดินอยู่บนโลกมนุษย์ จู่ ๆ สมองของพวกเขาก็ว่างเปล่าและกล่าวอะไรไม่ออก ทหารรับจ้างหนุ่มทั้งหลายได้แต่นิ่งอึ้งไม่รู้ว่าควรจะพูดสิ่งใดออกไปดี

การได้อยู่ใกล้ ๆ ฉินอวี้โม่เช่นนี้นับว่าพวกเขาโชคดีมาก และพวกเขาเองก็มีความสุขมากแล้ว

เมื่อได้มองดูรูปลักษณ์ของฉินอวี้โม่ ชื่อเซียวก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นฉินอวี้โม่ที่บึงสายหมอกมาแล้ว ตอนนั้นเขาก็คิดว่านางงดงามมาก แต่เป็นเพราะเวลานั้นมีเรื่องราวมากมายหลายอย่างให้สนใจทำให้ไม่มีเวลาได้พินิจดูความงามของสตรีตรงหน้ามากนัก

ตอนนี้เมื่อได้มองดูชัด ๆ ใกล้ ๆ หัวใจของเขาก็อดที่จะสั่นไหวไม่ได้

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด – ตอนที่ 41.1 คนจากอาราม (1)

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด – ตอนที่ 41.1 คนจากอาราม (1)

หลายวันต่อมา ฉินอวี้โม่และเสี่ยวโร่ก็ไม่ได้ออกไปจากโรงเตี๊ยมแสงจันทร์เลย

นักฆ่าสาวในร่างอดีตคุณหนูมุ่งเน้นการฝึกร่างกายของตนเองและขณะเดียวกันก็สอนทักษะการต่อสู้และการเคลื่อนไหวให้กับเสี่ยวโร่วไปด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ก็ทำให้สาวใช้ตัวน้อยได้ประโยชน์อย่างมาก

แม้ว่าพรสวรรค์ของเสี่ยวโร่วจะแสนธรรมดา ทว่านางเป็นเด็กฉลาดและมีไหวพริบ ภายใต้การชี้แนะของฉินอวี้โม่ เด็กสาวจึงก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว ภายในห้าวันนางไม่เพียงทำให้ระดับพลังที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ของตัวเองมั่นคงได้เท่านั้น แต่ยังเริ่มเห็นสัญญาณของการจะเลื่อนขึ้นสู่ขั้นถัดไปแล้วด้วย

เวลาผ่านไปรวดเร็วราวกับชั่วพริบตา ในตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งวันจะถึงวันอสูรล้อมเมืองแล้ว ช่วงค่ำของวันนี้จะมีการจัดเลี้ยงที่จวนเจ้าเมือง

ฉินอวี้โม่ที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยออกมาจากโรงเตี๊ยมพร้อมกับเสี่ยวโร่วเพื่อมุ่งไปยังจวนเจ้าเมือง พวกนางทั้งสองเตรียมตัวตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อให้ดูสุภาพและเป็นเกียรติแก่เจ้าภาพของงาน

หญิงสาวทั้งสองมิได้สวมชุดบุรุษเหมือนเช่นที่ผ่าน ๆ มาอีกแล้ว วันนี้พวกนางมาในชุดสตรีที่ดูเรียบร้อยและงดงาม

ฉินอวี้โม่สวมอาภรณ์ยาวสีขาวสะอาดตา ผมยาวสลวยและดำขลับถูกถักเปียและเก็บเป็นมวยไว้ครึ่งศีรษะอย่างประณีต และส่วนที่เหลือถูกปล่อยให้สยายยาวอยู่ด้านหลัง แม้จะไร้ซึ่งเครื่องประดับอย่างอิสตรีทั่วไปชื่นชอบสวมใส่ ทว่าด้วยใบหน้างดงาม เรือนร่างสมส่วน อีกทั้งผิวที่ผิวขาวเนียนละเอียดน่าทะนุถนอม เมื่ออยู่ในชุดกระโปรงยาวสีขาวสว่างเช่นนี้ก็ทำให้อดีตคุณหนูดูราวกับเป็นเทพธิดาลงมาจุติบนโลกมนุษย์

ส่วนเสี่ยวโร่ว วันนี้นางสวมสุดสีเขียวที่ดูน่ารักน่าชังเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อพวกนางเดินไปตามถนนก็เป็นที่สะดุดตาและเป็นจุดสนใจของคนไม่น้อย

…แม้นบุรุษใดในใต้หล้ามีวาสนายลโฉมนารี ดั่งมีมนต์สะกดต้อง จิตเลื่อนล่องหลุดลอย กาลเคลื่อนคล้อยมิล่วงรู้ ใจผูกอยู่เพียงขวัญตา แม้โลกาพินาศสิ้น แม้ชีวินล่วงลับดับหาย เพียงได้ใกล้นาถอนงค์ ใจปลดปลงลงแทบเท้านาง…

เหล่าบุรุษที่เดินผ่านถึงกับตกตะลึง พวกเขามองตามพวกนางจนเหลียวหลัง ความงดงามชวนให้หลงใหลจนหลงลืมไปสิ้นทุกสิ่งอย่าง ลืมแม้กระทั่งว่าตอนนี้ตนเองกำลังทำสิ่งใด เช่นว่า… ลืมมองทางข้างหน้า

— ตุบ ! —

เมื่อเห็นว่ามีบุรุษอีกคนแล้วที่เดินไปชนกับผู้อื่น เสี่ยวโร่วก็อดหัวเราะคิกคักออกมาไม่ได้

“คิกคิก คุณหนู ท่านช่างงดงามยิ่งนัก พอพวกเขาเห็นท่านก็แทบจะเดินต่อกันไม่ได้เลย นี่ก็คนที่สิบแล้วนะเจ้าคะ ที่เดินไม่ดูทางชนนู่นชนนี่จนล้มลงไปเช่นนั้น”

เสี่ยวโร่วหันไปมองฉินอวี้โม่ด้วยสายตาเทิดทูนราวกับกำลังมองเทพเซียนจากแดนสวรรค์

ในวันนี้คุณหนูของนางงดงามกว่าผู้ใด เป็นความงามด้วยรูปโฉมดั้งเดิมที่สวรรค์สรรค์สร้างอย่างจริงแท้ ก่อนหน้านี้คุณหนูสี่ของนางเคยแต่งหน้าและสวมใส่เครื่องประดับยามได้ออกนอกจวนอยู่บ้าง แม้ว่านั่นจะดูสวยงามไม่แพ้ใคร ทว่าสาวใช้ตัวน้อยกลับคิดว่ามันดูฉูดฉาดและจงใจปรุงแต่งเกินไปมากกว่า

ตอนนี้เมื่อไม่ได้สวมเครื่องประดับใด ๆ และไร้ซึ่งอาภรณ์ชั้นยอดกลับทำให้คุณหนูดูงดงามมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

เวลานี้ฉินอวี้โม่ดูมีสง่าราศีและน่าดึงดูดเป็นอย่างยิ่ง

“ไม่ต้องสนใจพวกเขา เดินต่อเถอะ”

ฉินอวี้โม่ยิ้มพลางส่ายศีรษะและบอกให้เสี่ยวโร่วเดินต่อ

ตัวเธอเองก็คิดอยู่เสมอว่า ร่างของคุณหนูสี่–ฉินอวี้โม่ผู้นี้นั้นสวยมาก สวยทั้งในแบบของดินแดนนี้และในโลกใบเดิมที่เธอจากมา แต่เธอก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่า รูปลักษณ์นี้จะเป็นที่ดึงดูดสายตาของคนได้มากขนาดนี้ แค่เดินถนนยังมีผู้ชายหลงจนเหลียวหลัง แบบนี้ก็ทำให้นักฆ่าสาวแอบตกใจและประหม่าอยู่บ้างเช่นกัน

เนื่องจากจวนเจ้าเมืองเยว่กวางนั้นมีขนาดใหญ่มาก อาณาเขตบริเวณภายในก็กว้างขวางใหญ่โตทำให้ถึงแม้กำแพงจวนจะติดต่อกับพื้นที่ส่วนต่างๆ ของเมืองอย่างหลากหลาย แต่การเดินไปให้ถึงยังประตูทางเข้าจะต้องใช้เวลากว่าครู่หนึ่ง

เมื่อเดินออกจากโรงเตี๊ยมมาตามถนนได้ไม่นานนัก ฉินอวี้โม่ก็พบกับสมาชิกของกองทหารรับจ้างชื่อเหยียน

เมื่อเห็นสหายใหม่ผู้แสนเก่งกล้า เหล่าสมาชิกของกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนก็มองดูอย่างตกตะลึง ก่อนจะหันมองหน้ากันไปมา และอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย พวกเขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก

ค่ำวานนี้ที่ป่าแสงจันทร์ เป็นเพราะว่าฉินอวี้โม่สวมใส่ชุดบุรุษและรวบผมตึงดูทะมัดทะแมงจึงทำให้รูปโฉมงดงามของนางไม่ได้เฉิดฉายเท่ากับวันนี้ อีกทั้งพวกเขาทั้งหมดก็กำลังสนใจและชื่นชมในความแข็งแกร่งของสตรีผู้นี้มากกว่า จึงไม่ได้ใส่ใจกับรูปลักษณ์ของสหายผู้แสนเก่งกล้ามากนัก

ทว่าวันนี้ราวกับว่าพวกเขาได้เห็นเทพธิดาลงมาเดินอยู่บนโลกมนุษย์ จู่ ๆ สมองของพวกเขาก็ว่างเปล่าและกล่าวอะไรไม่ออก ทหารรับจ้างหนุ่มทั้งหลายได้แต่นิ่งอึ้งไม่รู้ว่าควรจะพูดสิ่งใดออกไปดี

การได้อยู่ใกล้ ๆ ฉินอวี้โม่เช่นนี้นับว่าพวกเขาโชคดีมาก และพวกเขาเองก็มีความสุขมากแล้ว

เมื่อได้มองดูรูปลักษณ์ของฉินอวี้โม่ ชื่อเซียวก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นฉินอวี้โม่ที่บึงสายหมอกมาแล้ว ตอนนั้นเขาก็คิดว่านางงดงามมาก แต่เป็นเพราะเวลานั้นมีเรื่องราวมากมายหลายอย่างให้สนใจทำให้ไม่มีเวลาได้พินิจดูความงามของสตรีตรงหน้ามากนัก

ตอนนี้เมื่อได้มองดูชัด ๆ ใกล้ ๆ หัวใจของเขาก็อดที่จะสั่นไหวไม่ได้

Options

not work with dark mode
Reset