คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด – ตอนที่ 39.2 มายารัตนะ (2)

แรงกดดันจากพลังของซิวทำให้มันขัดขืนและทำสิ่งอื่นใดที่เป็นการต่อต้านไม่ได้ เมื่ออยู่ต่อหน้าซิวหากขัดขืนจะมีเพียงผลลัพธ์เดียวที่รออยู่ นั่นก็คือความตาย

“โธ่ ถ้ารู้ว่าการทำพันธสัญญากับนายหญิงจะทำให้ข้าเลื่อนขั้นได้ ข้ายอมมอบผลหลิวหลีให้ท่านแต่โดยดีแล้วอยู่เฉย ๆ รอคอยให้ท่านทำพันธสัญญาจะดีกว่า ไม่น่าหาเรื่องเจ็บตัวเลย”

เหยี่ยวปีกทองกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มันยังคงกลัวจับจิตเมื่อคิดถึงตอนที่เผชิญหน้ากับเงาร่างของซิว

เดิมทีที่เหยี่ยวยักษ์ต้องการผลหลิวหลีนั้นก็เพื่อจะทำให้มันเลื่อนขั้นดาราขึ้นไป หากมันรู้แต่แรกว่าเพียงแค่ทำพันธสัญญากับนายหญิงก็สามารถบรรลุเป้าหมายได้แล้ว มันก็คงจะยอมก้มหัวสวามิภักดิ์และส่งผลหลิวหลีให้นางไปในทันที จะได้ไม่ต้องโดนเผากลายเป็นเหยี่ยวย่างแบบเมื่อครู่ แต่อย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่สามารถโทษมันได้ เพราะมีเพียงฉินอวี้โม่ผู้เดียวเท่านั้นที่มีความพิเศษเช่นนี้อยู่ ซึ่งเรื่องนี้แม้แต่เหยี่ยวระดับเทวะอย่างมันก็คาดไม่ถึงจริง ๆ

เมื่อได้ยินที่เหยี่ยวปีกทองพูด ฉินอวี้โม่และเสี่ยวเฮยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

“คุณหนู ท่านเป็นอะไรไหมเจ้าคะ? ”

เสี่ยวโร่วรีบวิ่งเข้ามาหาก่อนจะจับมือฉินอวี้โม่และมองสำรวจตัวนางขึ้น ๆ ลง ๆ เมื่อมองเห็นรอยเลือดที่เปื้อนอยู่บนอาภรณ์ของผู้เป็นนาย สาวใช้น้อยก็ร้องขึ้นอย่างตกใจ

“คุณหนูบาดเจ็บนี่ ขอข้าดูหน่อยว่าบาดเจ็บตรงไหน! ”

เสี่ยวโร่วจับแขนของฉินอวี้โม่และเอ่ยขึ้นด้วยความกระวนกระวาย

ฉินอวี้โม่เองก็เพิ่งสังเกตเห็นเลือดที่เปื้อนอยู่บนชุดยาวสีขาว มันคงจะเป็นรอยเลือดที่เกิดขึ้นตอนถูกเสือโคร่งสีประหลาดตัวนั้นเล่นงานจนได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตาม นางกลับไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดใด ๆ อยู่อีกแล้ว และบาดแผลทั่วทั้งร่างบางก็ดูเหมือนจะหายดีหมดแล้วด้วย ต้องบอกเลยว่ากายเทพมายาของนางนี้เป็นร่างกายที่มหัศจรรย์อย่างแท้จริง

อดีตคุณหนูสี่ลูบหัวเสี่ยวโร่วอย่างเอ็นดูและเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เสี่ยวโร่ว เจ้าไม่ต้องกังวลไป เลือดพวกนี้แค่บังเอิญกระเด็นมาเปื้อนชุดข้าตอนที่สู้กับอสูรมายาเท่านั้น ถ้าเจ้าไม่เชื่อก็ลองจับดูสิ”

และเสี่ยวโร่วก็ลองสัมผัสดูจริง ๆ มือเล็ก ๆ แตะสำรวจจุดที่เปื้อนเลือดบนร่างคุณหนูของนางแล้วก็พบว่าไม่มีบาดแผลบนร่างกายนี้จริง ๆ สาวใช้ผู้ภักดีจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก ชีวิตนี้ของเสี่ยวโร่วไม่มีอะไรนอกจากคุณหนูและฮูหยิน นางเป็นเด็กผู้หญิงง่าย ๆ ไม่เคยอยากได้สิ่งใดทั้งนั้น ขอเพียงแต่นายหญิงทั้งสองของตัวเองปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว เวลานี้ฮูหยินหายไปก็ต้องเร่งตามหา ดังนั้นหากปล่อยให้คุณหนูเป็นอะไรไปนางคงยอมไม่ได้

“แม่นางฉิน ผู้อาวุโสที่ปรากฏตัวเมื่อครู่คือใครกัน? ”

ลั่วอวิ๋นเดินเข้ามาและเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย

แน่นอนว่าลั่วอวิ๋นคาดไม่ถึงว่าซิวจะเป็นอสูรมายาประจำกายของฉินอวี้โม่ เขาจึงคาดเดาเอาเองว่าอีกฝ่ายคงจะเป็นผู้พิทักษ์หรือองครักษ์ของแม่นางผู้งดงามผู้นี้ที่จะคอยปรากฏตัวเมื่อนางมีภัยมากกว่า

ในดินแดนหวนหลิงแห่งนี้ นับเป็นเรื่องปกติที่บรรดาลูกหลานของตระกูลใหญ่โตที่ออกมาหาประสบการณ์ภายนอกรั้วจวนจะมีผู้พิทักษ์คอยติดตามคุ้มกันอย่างเงียบ ๆ

ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นฉินอวี้โม่ ลั่วอวิ๋นก็คิดว่านางต้องเป็นคุณหนูจากตระกูลใหญ่เป็นแน่ เพราะตอนนั้นเขามองเห็นอสูรมายาระดับเทวะเกาะอยู่ที่ไหล่ของนางอย่างชัดเจน

“ใช่ คุณชายเดาได้ถูกแล้วล่ะ”

ฉินอวี้โม่พยักหน้า นางไม่ได้อธิบายสิ่งใดเพิ่ม อดีตนักฆ่าในร่างคุณหนูพอจะทราบว่าอีกฝ่ายกำลังสงสัยในตัวนางอยู่ แต่ก็ไม่คิดว่าลั่วอวิ๋นจะคาดเดาไปว่าซิวคือผู้พิทักษ์ของนาง อย่างไรก็ตามนี่ถือเป็นเรื่องดี

ลั่วอวิ๋นพยักหน้าและไม่ถามอะไรอีก

“แม่นางฉิน แม่นางเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรด้วยหรือนี่! ”

เสี้ยวฮังเดินเข้ามาพร้อมกับกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนและมองฉินอวี้โม่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมและเคารพยกย่อง ในดินแดนหวนหลิงนี้ ผู้ฝึกสัตว์อสูรจะเป็นอาชีพที่ได้รับความเคารพเป็นอย่างสูง

“ใช่แล้ว”

ฉินอวี้โม่พยักหน้า นางเพิ่งจะทำพันธสัญญากับเหยี่ยวปีกทอง ซึ่งทุกคนในที่แห่งนี้ก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ดังนั้นนางจึงยอมรับอย่างง่ายดายเพราะไม่มีคำอธิบายอย่างอื่นที่ดีกว่า

อีกด้านหนึ่ง กลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าปีศาจที่กำลังตกอยู่ในอันตรายก็ได้รับอานิสงส์จากการปรากฏตัวของซิวทำให้สามารถรอดไปได้

ทันทีที่ซิวปรากฏตัว อสูรมายาทุกตัวที่ล้อมพวกเขาอยู่ก็พากันหมอบลงกับพื้น กลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าปีศาจจึงใช้โอกาสนั้นหลบหนีออกไปได้

หลี่เปียวมองดูฉินอวี้โม่ด้วยความรู้สึกซับซ้อน สายตาโหดเหี้ยมของเขามีแววแห่งความเคียดแค้นและหวาดกลัวฉายอยู่อย่างชัดเจน

ในช่วงเวลาที่เห็นซิวปรากฏตัว เขาก็รู้สึกว่าสมองของตัวเองว่างเปล่าไปชั่วขณะ เขาย้อนกลับไปนึกถึงตอนที่เคยมีเรื่องกันที่สมาคมทหารรับจ้าง ถ้าในตอนนั้นผู้อาวุโสผู้นี้ปรากฏตัวออกมาเขาก็คงจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว

แม้ว่าฉินอวี้โม่จะเข้ามาแย่งชิงผลหลิวหลีจนทำให้ภารกิจของพวกเขาล้มเหลวและพลาดโอกาสที่จะเลื่อนขึ้นไปเป็นกลุ่มทหารรับจ้างระดับหนึ่ง แต่ความแค้นทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็ยังพ่ายแพ้ให้กับความกลัวที่มีต่อนาง

และที่สำคัญที่สุดคือ หากไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของซิว ทุกคนก็คงต้องตายอยู่ที่นี่กันหมด หากว่ากล่าวกันด้วยเหตุและผลแล้วพวกเขายังต้องเข้าไปขอบคุณสตรีผู้นั้นเสียด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม กลุ่มทหารรับจ้างที่หยิ่งทะนงและยิ่งใหญ่อย่างพวกเขาก็คงไม่บากหน้าเข้าไปอย่างแน่นอน

“ไปกันได้แล้ว! ”

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด – ตอนที่ 39.2 มายารัตนะ (2)

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด – ตอนที่ 39.2 มายารัตนะ (2)

แรงกดดันจากพลังของซิวทำให้มันขัดขืนและทำสิ่งอื่นใดที่เป็นการต่อต้านไม่ได้ เมื่ออยู่ต่อหน้าซิวหากขัดขืนจะมีเพียงผลลัพธ์เดียวที่รออยู่ นั่นก็คือความตาย

“โธ่ ถ้ารู้ว่าการทำพันธสัญญากับนายหญิงจะทำให้ข้าเลื่อนขั้นได้ ข้ายอมมอบผลหลิวหลีให้ท่านแต่โดยดีแล้วอยู่เฉย ๆ รอคอยให้ท่านทำพันธสัญญาจะดีกว่า ไม่น่าหาเรื่องเจ็บตัวเลย”

เหยี่ยวปีกทองกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มันยังคงกลัวจับจิตเมื่อคิดถึงตอนที่เผชิญหน้ากับเงาร่างของซิว

เดิมทีที่เหยี่ยวยักษ์ต้องการผลหลิวหลีนั้นก็เพื่อจะทำให้มันเลื่อนขั้นดาราขึ้นไป หากมันรู้แต่แรกว่าเพียงแค่ทำพันธสัญญากับนายหญิงก็สามารถบรรลุเป้าหมายได้แล้ว มันก็คงจะยอมก้มหัวสวามิภักดิ์และส่งผลหลิวหลีให้นางไปในทันที จะได้ไม่ต้องโดนเผากลายเป็นเหยี่ยวย่างแบบเมื่อครู่ แต่อย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่สามารถโทษมันได้ เพราะมีเพียงฉินอวี้โม่ผู้เดียวเท่านั้นที่มีความพิเศษเช่นนี้อยู่ ซึ่งเรื่องนี้แม้แต่เหยี่ยวระดับเทวะอย่างมันก็คาดไม่ถึงจริง ๆ

เมื่อได้ยินที่เหยี่ยวปีกทองพูด ฉินอวี้โม่และเสี่ยวเฮยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

“คุณหนู ท่านเป็นอะไรไหมเจ้าคะ? ”

เสี่ยวโร่วรีบวิ่งเข้ามาหาก่อนจะจับมือฉินอวี้โม่และมองสำรวจตัวนางขึ้น ๆ ลง ๆ เมื่อมองเห็นรอยเลือดที่เปื้อนอยู่บนอาภรณ์ของผู้เป็นนาย สาวใช้น้อยก็ร้องขึ้นอย่างตกใจ

“คุณหนูบาดเจ็บนี่ ขอข้าดูหน่อยว่าบาดเจ็บตรงไหน! ”

เสี่ยวโร่วจับแขนของฉินอวี้โม่และเอ่ยขึ้นด้วยความกระวนกระวาย

ฉินอวี้โม่เองก็เพิ่งสังเกตเห็นเลือดที่เปื้อนอยู่บนชุดยาวสีขาว มันคงจะเป็นรอยเลือดที่เกิดขึ้นตอนถูกเสือโคร่งสีประหลาดตัวนั้นเล่นงานจนได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตาม นางกลับไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดใด ๆ อยู่อีกแล้ว และบาดแผลทั่วทั้งร่างบางก็ดูเหมือนจะหายดีหมดแล้วด้วย ต้องบอกเลยว่ากายเทพมายาของนางนี้เป็นร่างกายที่มหัศจรรย์อย่างแท้จริง

อดีตคุณหนูสี่ลูบหัวเสี่ยวโร่วอย่างเอ็นดูและเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เสี่ยวโร่ว เจ้าไม่ต้องกังวลไป เลือดพวกนี้แค่บังเอิญกระเด็นมาเปื้อนชุดข้าตอนที่สู้กับอสูรมายาเท่านั้น ถ้าเจ้าไม่เชื่อก็ลองจับดูสิ”

และเสี่ยวโร่วก็ลองสัมผัสดูจริง ๆ มือเล็ก ๆ แตะสำรวจจุดที่เปื้อนเลือดบนร่างคุณหนูของนางแล้วก็พบว่าไม่มีบาดแผลบนร่างกายนี้จริง ๆ สาวใช้ผู้ภักดีจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก ชีวิตนี้ของเสี่ยวโร่วไม่มีอะไรนอกจากคุณหนูและฮูหยิน นางเป็นเด็กผู้หญิงง่าย ๆ ไม่เคยอยากได้สิ่งใดทั้งนั้น ขอเพียงแต่นายหญิงทั้งสองของตัวเองปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว เวลานี้ฮูหยินหายไปก็ต้องเร่งตามหา ดังนั้นหากปล่อยให้คุณหนูเป็นอะไรไปนางคงยอมไม่ได้

“แม่นางฉิน ผู้อาวุโสที่ปรากฏตัวเมื่อครู่คือใครกัน? ”

ลั่วอวิ๋นเดินเข้ามาและเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย

แน่นอนว่าลั่วอวิ๋นคาดไม่ถึงว่าซิวจะเป็นอสูรมายาประจำกายของฉินอวี้โม่ เขาจึงคาดเดาเอาเองว่าอีกฝ่ายคงจะเป็นผู้พิทักษ์หรือองครักษ์ของแม่นางผู้งดงามผู้นี้ที่จะคอยปรากฏตัวเมื่อนางมีภัยมากกว่า

ในดินแดนหวนหลิงแห่งนี้ นับเป็นเรื่องปกติที่บรรดาลูกหลานของตระกูลใหญ่โตที่ออกมาหาประสบการณ์ภายนอกรั้วจวนจะมีผู้พิทักษ์คอยติดตามคุ้มกันอย่างเงียบ ๆ

ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นฉินอวี้โม่ ลั่วอวิ๋นก็คิดว่านางต้องเป็นคุณหนูจากตระกูลใหญ่เป็นแน่ เพราะตอนนั้นเขามองเห็นอสูรมายาระดับเทวะเกาะอยู่ที่ไหล่ของนางอย่างชัดเจน

“ใช่ คุณชายเดาได้ถูกแล้วล่ะ”

ฉินอวี้โม่พยักหน้า นางไม่ได้อธิบายสิ่งใดเพิ่ม อดีตนักฆ่าในร่างคุณหนูพอจะทราบว่าอีกฝ่ายกำลังสงสัยในตัวนางอยู่ แต่ก็ไม่คิดว่าลั่วอวิ๋นจะคาดเดาไปว่าซิวคือผู้พิทักษ์ของนาง อย่างไรก็ตามนี่ถือเป็นเรื่องดี

ลั่วอวิ๋นพยักหน้าและไม่ถามอะไรอีก

“แม่นางฉิน แม่นางเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรด้วยหรือนี่! ”

เสี้ยวฮังเดินเข้ามาพร้อมกับกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนและมองฉินอวี้โม่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมและเคารพยกย่อง ในดินแดนหวนหลิงนี้ ผู้ฝึกสัตว์อสูรจะเป็นอาชีพที่ได้รับความเคารพเป็นอย่างสูง

“ใช่แล้ว”

ฉินอวี้โม่พยักหน้า นางเพิ่งจะทำพันธสัญญากับเหยี่ยวปีกทอง ซึ่งทุกคนในที่แห่งนี้ก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ดังนั้นนางจึงยอมรับอย่างง่ายดายเพราะไม่มีคำอธิบายอย่างอื่นที่ดีกว่า

อีกด้านหนึ่ง กลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าปีศาจที่กำลังตกอยู่ในอันตรายก็ได้รับอานิสงส์จากการปรากฏตัวของซิวทำให้สามารถรอดไปได้

ทันทีที่ซิวปรากฏตัว อสูรมายาทุกตัวที่ล้อมพวกเขาอยู่ก็พากันหมอบลงกับพื้น กลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าปีศาจจึงใช้โอกาสนั้นหลบหนีออกไปได้

หลี่เปียวมองดูฉินอวี้โม่ด้วยความรู้สึกซับซ้อน สายตาโหดเหี้ยมของเขามีแววแห่งความเคียดแค้นและหวาดกลัวฉายอยู่อย่างชัดเจน

ในช่วงเวลาที่เห็นซิวปรากฏตัว เขาก็รู้สึกว่าสมองของตัวเองว่างเปล่าไปชั่วขณะ เขาย้อนกลับไปนึกถึงตอนที่เคยมีเรื่องกันที่สมาคมทหารรับจ้าง ถ้าในตอนนั้นผู้อาวุโสผู้นี้ปรากฏตัวออกมาเขาก็คงจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว

แม้ว่าฉินอวี้โม่จะเข้ามาแย่งชิงผลหลิวหลีจนทำให้ภารกิจของพวกเขาล้มเหลวและพลาดโอกาสที่จะเลื่อนขึ้นไปเป็นกลุ่มทหารรับจ้างระดับหนึ่ง แต่ความแค้นทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็ยังพ่ายแพ้ให้กับความกลัวที่มีต่อนาง

และที่สำคัญที่สุดคือ หากไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของซิว ทุกคนก็คงต้องตายอยู่ที่นี่กันหมด หากว่ากล่าวกันด้วยเหตุและผลแล้วพวกเขายังต้องเข้าไปขอบคุณสตรีผู้นั้นเสียด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม กลุ่มทหารรับจ้างที่หยิ่งทะนงและยิ่งใหญ่อย่างพวกเขาก็คงไม่บากหน้าเข้าไปอย่างแน่นอน

“ไปกันได้แล้ว! ”

Options

not work with dark mode
Reset