คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 16 ตระกูลอิ๋งไม่กล้า แต่ผมกล้า

เธอเกลียดลูกเลี้ยงตระกูลอิ๋งคนนี้มาก โดยเฉพาะหลังจากเกิดเรื่องนั้นเมื่อวานนี้

ไม่รักเรียน นิสัยแย่ ทั้งยังโกหกจนติดเป็นนิสัย

แม้แต่คนนิสัยดีอย่างอิ๋งลู่เวยยังถูกทำให้โมโหได้ เธอยังรู้สึกโมโหแทนเพื่อนสนิทคนนี้เลยด้วยซ้ำ

ลู่จื่อเองก็ได้ดูเวยปั๋ววันนี้แล้ว แต่นั่นมันจะพิสูจน์อะไรได้

เธอแน่ใจได้ว่า อิ๋งจื่อจินวาดฝันไปไกลในสิ่งที่ไม่ควรต่อเจียงมั่วหย่วนอย่างแน่นอน

ลู่จื่อครุ่นคิด วางแผนในใจ ดึงลู่ฟั่งให้ขยับมา “เสี่ยวฟั่ง นายกับพี่เข้าไปก่อน อีกเดี๋ยวมีคนมาเธอดูไปก่อนนะ”

ประโยคหลังพูดกับพนักงานคิดเงินในร้าน

“พี่จะทำอะไรน่ะ” ลู่ฟั่งงง “พวกเรายังต้องหลบเธอด้วยเหรอ”

ในชั้นเรียน มีแต่อิ๋งจื่อจินที่เอาแต่ก้มหน้าไม่กล้ามองคนอื่น เขาต้องยอมถอยให้เมื่อไรกัน

“หลบอะไรกัน” ลู่จื่อดึงลู่ฟั่งไปที่ห้องเก็บของด้านหลังอย่างไม่ยอมให้ขัดขืน “พี่จะทำให้นังนั่นขายหน้า พอถึงเวลาก็ต้องมาขอร้องพี่”

อยากซื้อยาไม่ใช่เหรอ

งั้นก็ลองดูแล้วกันว่าจะซื้อได้ไหม

ลู่ฟั่งอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นก็เข้าใจ อดหัวเราะไม่ได้ “พี่นี่ร้ายกาจจริงๆ พี่ว่าอีกเดี๋ยวเธอจะโมโหจนร้องไห้เลยไหม”

“แน่นอน” ลู่จื่อดูภาพกล้องวงจรปิดในคอมพิวเตอร์ “ไว้ถึงเวลาเอาภาพจากกล้องวงจรปิดส่งให้ลู่เวย ลู่เวยจะได้อารมณ์ดี”

“พี่ ขอผมด้วยสิ” ลู่ฟั่งรู้สึกว่าความคิดนี้ดี “เดี๋ยวพอเปิดเทอมผมจะเอาไปเปิดในห้องเรียน”

ใกล้ม.หกขึ้นมาทุก เรียนก็หนักขึ้น ต้องหาอะไรสนุกๆ คลายเครียดหน่อย

ไม่กี่วินาทีต่อมาเด็กสาวก็เปิดประตูเดินเข้ามา

เดิมทีเธอจะเดินไปตรงชั้นวางสินค้า แต่ทันใดนั้นกลับหยุดลง เงยหน้าขึ้น จ้องเขม็งไปทางหนึ่ง

ลู่ฟั่งสบตาอย่างไม่ทันตั้งตัว หยุดหายใจไปชั่วขณะอย่างควบคุมไม่ได้

หน้าสดริมฝีปากซีด ไม่มีการแต่งเติมใดๆ ทว่ากลับยากที่จะเบนสายตาออกไปได้

ดวงตาหงส์ดำขลับลุ่มลึก คล้ายหุบเหวลึกที่มองไม่เห็นก้นบึ้ง ราวกับสามารถดูดกลืนคนเข้าไปได้

ลู่ฟั่งสะดุ้งตกใจ “พี่ เธอคงไม่รู้ใช่ไหมว่าพวกเราดูอยู่อะ”

“จะเป็นไปได้ยังไง” ลู่จื่อไม่คิดแบบนั้น “นายคิดว่ายัยนั่นหยั่งรู้อนาคตได้งั้นเหรอ”

อิ๋งจื่อจินละสายตากลับมา สีหน้ายังคงเรียบเฉย

หลังจากตื่นขึ้นมา ความยุ่งยากที่มาเยือนก็มีมากจริงๆ เธอเหนื่อยเหลือเกิน

เธอไม่ใช่คนที่ชอบวางแผนอะไรเยอะแยะ จึงไม่รู้มาก่อนว่าที่นี่เป็นร้านของตระกูลลู่

เธอให้เลือดอิ๋งลู่เวยมาหนึ่งปี ร่างกายจึงอ่อนแอมาก จงมั่นหวาเลยหาหมอมาดูแลเธอโดยเฉพาะ

แต่แท้จริงแล้วอิ๋งลู่เวยเป็นคนเสนอลู่จื่อให้

ลู่จื่อจบมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนตี้ตู เป็นแพทย์แผนจีนโดยเฉพาะ จงมั่นหวาเองก็พอใจมาก เชิญเธอมารักษาด้วยเงินเดือนที่สูงทีเดียว

ตระกูลลู่เป็นเพียงตระกูลเล็กๆ ในเมืองฮู่เฉิง สามารถใกล้ชิดกับตระกูลอิ๋งได้นับเป็นโอกาสที่หาได้ยาก

แต่นั่นก็ไม่เกี่ยวกับเธอ

อิ๋งจื่อจินมองยาแผนจีนที่อยู่บนชั้น ตกอยู่ในห้วงความคิด

สมุนไพรหลายชนิดหาไม่ได้อีกแล้วอย่างสิ้นเชิง ของที่พอทดแทนได้ก็หายากมาก

“พี่ ดูเหมือนเธอจะอยากซื้อยาจริงๆ นะ” พอเห็นแบบนี้ลู่ฟั่งก็ทำเสียงจึ๊ “เธอรู้จักเหรอ”

ขนาดศัพท์ภาษาอังกฤษยังท่องไม่ได้ แล้วจะรู้จักยาจีนเหรอ

ลู่จื่อหงุดหงิด “จะไปสนทำไมว่ายัยนั่นจะทำอะไร รอดูคนขายหน้าก็พอแล้ว”

ที่หน้าชั้นวางสินค้า

อิ๋งจื่อจินดูจนรอบแล้วก็พบว่าเธอประเมินคุณภาพสมุนไพรของที่นี่สูงเกินไป

ขนาดอยู่ในลิ้นชักไม้เธอยังได้กลิ่น สมุนไพรพวกนี้อย่างมากก็แค่ยี่สิบปีเท่านั้น

แต่อาการของเวินเฟิงเหมียนรอไม่ได้แล้ว พอใช้ไปก่อนได้ชั่วคราว อย่างไรอีกสองสามวันเธอค่อยขึ้นเขาไปขุดหาด้วยตัวเอง

“คุณผู้หญิง ไม่ทราบว่าต้องการซื้ออะไรคะ” พนักงานคิดเงินได้รับคำสั่งจากลู่จื่อ “ไม่สู้ลองบอกอาการมา เราจะได้ช่วยเลือกค่ะ”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ” อิ๋งจื่อจินพูดขึ้น “ชางซู่ อู่หลิงจือ วั่งเย่ว์ซา หลงเสียนเซียง…”

บอกชื่อสมุนไพรจีนไปทั้งหมดสามสิบชนิด สุดท้ายพูดว่า “เอาอย่างละห้ากิโล”

“อุ๊บ!” เดิมทีลู่ฟั่งยังตกใจที่เด็กเรียนแย่สามารถจำชื่อสมุนไพรจีนได้มากขนาดนี้ พอฟังถึงตอนสุดท้ายเขาก็หัวเราะออกมา พูดประชด “ห้ากิโลเหรอ คิดว่ากำลังซื้อผักอยู่หรือไง”

เป็นคนบ้านนอกที่ไม่รู้อะไรเลยตามคาด สมุนไพรจีนซื้อเป็นกิโลได้เหรอ

“ยังไงซะยัยนั่นก็ซื้อไม่ได้หรอก” ลู่จื่อขยิบตาให้พนักงานคิดเงินอีกครั้ง

พนักงานคิดเงินเข้าใจ จึงพูดขึ้นว่า “คุณผู้หญิงคะ คุณต้องการเยอะเกินไป จำเป็นต้องเตรียมของ รบกวนเปิดบิลไว้ก่อนนะคะ”

“ค่ะ” อิ๋งจื่อจินตอบ “ทั้งหมดเท่าไหร่คะ”

ลู่จื่อทำมือ ‘ห้า’

พนักงานคิดเงินยิ้ม “ห้าแสนค่ะ”

ลู่จื่อกับลู่ฟั่งกำลังรอเห็นอิ๋งจื่อจินไม่มีเงินหน้าเสียจนร้องไห้ ทว่า…

“ห้าแสนเหรอ” คิ้วของอิ๋งจื่อจินไม่ขยับ “นี่จัดยาถวายเง็กเซียนฮ่องเต้โดยเฉพาะเหรอ”

พนักงานคิดเงินยิ้มค้าง

“ถุย” ลู่จื่อเองก็สีหน้าแย่ลง “ต่อให้เป็นยาอายุวัฒนะแล้วไงล่ะ ไม่มีปัญญาซื้อยังไม่รีบไสหัวออกไปอีก”

พนักงานคิดเงินรับสัญญาณ คืนสภาพรอยยิ้ม พูดอ้อมๆ “คุณผู้หญิงคะ สมุนไพรของเราเก็บมาจากภูเขาทั้งนั้น ก็เลยราคาค่อนข้างแพง ถ้าคุณผู้หญิงจ่ายไม่ไหว…”

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า “เปิดบิลมาสิ”

พอคำพูดนี้ออกมาทุกคนก็อึ้งกันหมด

“ยัยนั่นจะมาไม้ไหนกัน” ลู่จื่อสงสัย “กล้าจ่ายขนาดนี้เลยเหรอ”

ตระกูลอิ๋งไม่น่าให้เงินมากขนาดนั้นถึงจะถูก

ลู่ฟั่งวิเคราะห์ “เด็กบ้านนอก ไม่รู้จักราคาตลาด เธอซื้อ พวกเราก็กำไร”

สมุนไพรพวกนั้นมีของแพงก็จริง แต่ทั้งหมดรวมกันก็ไม่ถึงห้าหมื่น ห้าแสน กำไรสิบเท่า คนโง่เท่านั้นแหละถึงจะซื้อ

พอได้ยินแบบนี้ลู่จื่อก็วางใจ พยักหน้าให้พนักงานคิดเงิน

เมื่อได้รับอนุญาต พนักงานจึงรีบพิมพ์บิลออกมา

อิ๋งจื่อจินกวาดตามอง รับมา แต่ไม่ได้เซ็นชื่อ กลับหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดเบอร์อย่างใจเย็น

หลังจากดังสามครั้งก็มีคนรับสาย เธอกดเปิดลำโพง

น้ำเสียงของเธอเย็นชา ไม่รีบร้อนอะไร “ฉันต้องการร้องเรียนค่ะ บ้านเลขที่หนึ่งสี่แปด ถนนจงซานใต้ สมุนไพรที่ร้านนี้ขายราคาสูงกว่าตลาดสิบเท่า ค่ะ ใช่ค่ะ”

“…”

ลู่จื่ออึ้ง

เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอิ๋งจื่อจินจะกล้าโทรร้องเรียน

“พี่ เธอแผนสูงมาก!” ลู่ฟั่งพูด “มิน่าถึงยอมเปิดบิล เธอกำลังเล่นงานพวกเรา!”

ตระกูลลู่ไม่เหมือนสี่ตระกูลไฮโซที่มีอิทธิพลมาก นี่ถ้าถูกร้องเรียนจริงๆ…

ลู่จื่อลนลาน รีบวิ่งออกไปด่าอย่างไม่ไว้หน้า “อยากตายหรือไง”

เด็กสาวเงยหน้าขึ้น ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

ลู่จื่อเอาเรื่อง “เธอกล้าร้องเรียนเลยเหรอ ฉันจะไปถามคุณนายอิ๋งดูว่า ตระกูลอิ๋งกล้าปล่อยให้ลูกเลี้ยงมาเหยียบหัวตระกูลลู่ของเราตั้งแต่เมื่อไรกัน”

ขณะพูดก็ทำท่าจะกดเบอร์ ท่าทางเหมือนกำลังจะฟ้อง

อิ๋งจื่อจินรู้สึกง่วง “ไม่โทรเดี๋ยวฉันช่วยโทรแทนนะ”

“เธอ…” ลู่จื่อโมโห ง้างมือขึ้นด้วยความเดือดดาล เหวี่ยงไปทางหน้าของเด็กสาว

แต่เพิ่งจะเหวี่ยงไปกลับถูกจับไว้

กร๊อบ!

เกิดเสียงกระดูกหักที่เบามาก

ลู่จื่อเจ็บ ประคองตัวไม่ได้ ล้มเซไปบนเก้าอี้ ‘โครม’

สองมือของอิ๋งจื่อจินล้วงกระเป๋า ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

อ่า ลืมตัว ลืมเพลามือไปเลย

ต่อไปเธอต้องระวังหน่อย เดี๋ยวจะทำคนพิการเข้า

ลู่จื่อเจ็บจนหายใจหอบ เงยหน้าขึ้นทันที ขณะที่กำลังจะด่า สีหน้ากลับซีดลง

ตรงประตูมีชายหนุ่มยืนพิง ขาเรียวยาวหย่อนเล็กน้อย

ท่าทางเหนื่อยหน่าย สีหน้าก็เหมือนไม่ใส่ใจ

แต่คำที่พูดออกมากลับทำให้เย็นวาบไปทั้งตัว

เขายิ้มพลางพูด “ตระกูลอิ๋งไม่กล้า แต่ผมกล้า”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset