ด้านล่างแนบรูปภาพสองรูป
รูปหนึ่งเป็นรูปที่ลั่วจื่อเย่ว์ยืนอยู่ริมทะเลสาบ สายลมพัดผมของเธอปลิวสยายเล็กน้อย
ส่วนอีกรูปเธอยืนใต้ต้นไม้ ชุดกระโปรงยาวสีแดงสดตัดกับกิ่งไม้สีเขียว สีสันตัดกันอย่างชัดเจน
ถึงแม้ลั่วจื่อเย่ว์จะไม่ได้ปรากฏตัวในเวยปั๋วมาเดือนกว่า แต่ทีมโปรโมตก็ยังคอยลงข่าวคราวให้เรื่อยๆ
ถ้าไม่แก่งแย่งชิงดีก็ต้องถูกเหยียบย่ำ ดาราหญิงดาราชายต่างหนีไม่พ้น
แต่ก็มีชาวเน็ตบางคนรู้ว่าการที่ลั่วจื่อเย่ว์เดบิวต์ในรายการวัยรุ่นสร้างฝัน หนึ่งศูนย์หนึ่ง ได้นั้นเป็นเพราะมีนายทุนหนุนหลัง แต่คนทั่วไปส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสนใจ
พวกเขาเข้าเวยปั๋วก็แค่อ่านข่าว หรือไม่ก็ตามกระแสเอาสนุกๆ
เหล่าแฟนคลับพากันมาคอมเมนต์ใต้โพสต์นี้
[โอ้โหๆ ฉันจะคลั่งตายแล้ว จื่อเย่ว์ใส่ชุดนี้สวยเกินไปแล้วหรือเปล่า!]
[ไม่เคยเห็นชุดสไตล์นี้มาก่อน จื่อเย่ว์จะไปร่วมงานเลี้ยงเหรอ]
[คนในแวดวงศิลปะอย่างฉันขอพูดหน่อย ชุดนี้เกี่ยวข้องกับหงส์แดงในตำนานสัตว์เทพโบราณด้วยใช่ไหม สวยสุดยอดมาก]
ชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างไม่รู้ว่าลั่วจื่อเย่ว์เป็นใคร แต่ก็ถูกสองรูปนี้ดึงดูดความสนใจ
ไม่นานก็ติดอันดับคำค้นหา
แอชแท็กลั่วจื่อเย่ว์ชุดหงส์แดง
แต่ก็ไม่ได้เป็นประเด็นร้อนมากเท่าไร อยู่แค่อันดับสิบแปด
แต่ได้หวาซิ่วช่วยดันกระแส ความนิยมจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เดิมทีหวาซิ่วอยากเชิญนางแบบมืออาชีพ แต่เพื่อเรียกชื่อเสียง จึงตัดสินใจเลือกลั่วจื่อเย่ว์
อย่างไรเสียดำแดงก็คือแดง พวกเขาไม่แคร์
พอเห็นเวยปั๋วโพสต์นี้ของลั่วจื่อเย่ว์ ความคิดแรกของเลขาสาวก็คือจะต้องมีคนในบริษัททำแบบชุดหลุดออกไปแน่นอน แต่เมื่อคิดดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้
แต่ถ้าแบบชุดไม่ได้หลุดออกไป ชุดที่ลั่วจื่อเย่ว์ใส่ทำไมถึงได้เหมือนชุดที่พวกเขาตัดออกมาได้ขนาดนี้ ทั้งยังเกี่ยวข้องกับหงส์แดง
“บอสคะ เรื่องชักไม่ชอบมาพากล” เลขาสาวเริ่มหน้าเครียด “อีกเดี๋ยวพวกเราก็จะมีโปรโมตเหมือนกัน แต่ไม่ว่ายังไงก็สายไปแล้ว ถ้าราชาภาพยนตร์ซังกับราชินีภาพยนตร์เซี่ยโพสต์ออกไปจะต้องถูกหาว่าลอกเลียนแบบผลงานแน่เลยค่ะ”
อิ๋งจื่อจินค่อยๆ หลับตาลง
ตรงหางตามีหมอกขาวจางๆ ปกคลุมแล้วจางหายไป
ผ่านไปสักพักเธอก็ลืมตาขึ้นแล้วพูด “ไม่ต้อง ดำเนินการไปตามแผน”
“ค่ะ” เลขาสาวพยักหน้า “ฝ่ายประชาสัมพันธ์พร้อมเสมอค่ะ”
หวาซิ่วต้องการเอาชุดนี้ออกมาสร้างกระแสก่อนเข้าร่วมประกวด แต่ชูกวงมีเดียไม่ต้อง
หลังจากที่ลั่วจื่อเย่ว์สวมชุดนั้นก็ให้ความรู้สึกที่น่าตะลึงมาก
แต่เมื่อเทียบกับสี่ชุดที่ชูกวงมีเดียตัดออกมาก็คนละชั้น
ยิ่งไปกว่านั้นดาราที่เพิ่งเดบิวต์ได้ไม่นานจะเทียบกับราชาราชินีภาพยนตร์ได้อย่างไร
เลขาสาวออกจากห้องทำงานพร้อมความสงสัย
อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้ทำงาน หมุนปากกาเล่น กำลังคิดว่าเธอขี้เกียจเกินไป
ครั้งก่อนตอนที่ยังอยู่โลกมนุษย์เธอก็เคยเขียนตำราลับวิทยายุทธ์โบราณ เขียนเสร็จไม่พอใจก็โยนทิ้งถังขยะ ก็ไม่เห็นมีคนมาเก็บไป
อ่อ แบบชุดกับตำราลับวิทยายุทธ์ไม่เหมือนกัน
อย่างหลังเธอเขียนเรื่อยเปื่อยไม่มีใครเข้าใจ
ต่อไปเก็บเอาไว้ให้ตูตูหนุนนอนไม่ทิ้งแล้วดีกว่า
…
คลาสเด็กอัจฉริยะชิงจื้อ
จงจือหว่านอ่านข้อความที่มู่เฉินโจวส่งมา ในใจรู้สึกตื่นเต้นแบบที่ยากจะสงบได้
เธอพิมพ์ตอบทั้งที่นิ้วสั่น
[ฝากขอบคุณคุณน้าด้วยนะ ฉันจะไปตรงเวลาแน่นอน]
หนึ่งนาทีต่อมามู่เฉินโจวก็ส่งข้อความวีแชทมาอีก
[จือหว่าน ไม่ต้องตื่นเต้น แม่ฉันเตรียมชุดออกงานไว้ให้เธอแล้ว พอถึงเวลาเธอก็แค่ไปร่วมงานเข้าร่วมงานประกาศรางวัลเป็นพอ]
ลมหายใจของจงจือหว่านเริ่มไม่เป็นจังหวะแล้ว
คุณนายมู่จะต้องได้ข่าวอะไรจากวงในมาแน่นอน ถึงรู้ว่าจะได้รับรางวัล ความพยายามของเธอไม่สูญเปล่า จงจือหว่านเอาโทรศัพท์มือถือเก็บเข้าโต๊ะเรียน ลุกขึ้นเดินไปที่โพเดียมหน้าห้องแล้วเคาะ “ขอแจ้งให้ทุกคนทราบหน่อย ฉันจะลาหยุดหลายวัน ดังนั้นช่วงที่ฉันไม่อยู่มีอะไรก็ให้รองหัวหน้าจัดการแทน”
พอได้ยินแบบนี้เพื่อนร่วมห้องก็อดเกิดความสงสัยไม่ได้
จงจือหว่านไม่มีทางขาดเรียน ต่อให้ป่วยก็มาโรงเรียน
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอจะลาหยุด
“พวกเธอยังไม่รู้เรื่องใช่ไหมล่ะ” นักเรียนหญิงที่นั่งข้างจงจือหว่านตื่นเต้นมาก “เมื่อเช้าพวกเธอเห็นโพสต์เวยปั๋วของลั่วจื่อเย่ว์ไหม”
“ชุดนั้นที่ลั่วจื่อเย่ว์ใส่ จือหว่านเป็นคนออกแบบ อีกเดี๋ยวจือหว่านจะไปร่วมงานตัดสินรางวัลที่ยุโรป จือหว่านเป็นนักออกแบบก็ต้องไปอยู่แล้ว”
บรรดานักเรียนในห้องต่างตะลึง คนที่มาอยู่คลาสเด็กอัจฉริยะได้ล้วนเป็นเด็กหัวกะทิ แต่ช่วงก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกคนจะมุ่งความสนใจไปที่การเรียน พักสิ่งที่ตัวเองชอบเอาไว้ก่อน
นึกไม่ถึงว่าจงจือหว่านจะคว้าที่หนึ่งของชั้นปีไปพร้อมกับการได้รับรางวัลออกแบบเสื้อผ้าด้วย
“จือหว่านสุดยอดไปเลย นางฟ้าก็คือนางฟ้าอยู่วันยังค่ำ เก่งทุกอย่าง”
“รอบตัดสินมีถ่ายทอดสดไหม พวกเราจะได้ดูไปด้วยกัน เป็นกำลังใจให้จือหว่าน”
อิ๋งเย่ว์เซวียนที่กำลังขีดๆ เขียนๆ เงยหน้าขึ้น พูดด้วยความสงสัย “จือหว่าน เธอเรียนออกแบบตั้งแต่เมื่อไร เธอออกแบบไม่เป็นนี่ทำไมยังเข้าร่วมการประกวดด้วย”
เสียงภายในห้องค่อยๆ เงียบลง
ทุกคนต่างมองหน้ากัน
จงจือหว่านถึงกับสะอึก เริ่มไม่พอใจ
เธอเกลียดอิ๋งเย่ว์เซวียนตอนเป็นแบบนี้ที่สุด พูดจาไม่เป็น
จากนั้นสีหน้าของจงจือหว่านก็เย็นชาลง พูดด้วยน้ำเสียงประชด “ช่วงที่เธออยู่ยุโรปหนึ่งปีก็เริ่มทำวิจัยวิทยาศาสตร์ไม่ใช่เหรอ ไม่เข้าใจคำพูดที่ว่า ‘ไม่พบสามวันอย่าเอาสายตาแบบเดิมมองคนอื่น’ หรือไง”
“นั่นสิๆ” มีเพื่อนนักเรียนเห็นด้วย “จือหว่านออกแบบเป็น เย่ว์เซวียนวิจัยวิทยาศาสตร์ได้ ไม่เหมือนอิ๋งจื่อจินที่…”
‘เป็นทุกอย่าง’ คำนี้ไม่ได้พูดออกมาเพราะถูกอิ๋งเย่ว์เซวียนขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน พูดเสียงโกรธๆ
“สถานการณ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน น้องสาวฉันไม่เป็นอะไรสักอย่างแล้วอย่างไร เธอยังเด็กต่อไปยังมีโอกาสอีกเยอะ”
เธอยืนขึ้นหยิบหนังสือ “ฉันจะเอาของไปให้น้องสาวที่ห้องสิบเก้า”
…
อิ๋งจื่อจินไม่อยู่ที่ห้องสิบเก้า
เธอมีสิทธิพิเศษจากผู้อำนวยการโรงเรียน นักเรียนคนอื่นๆ ก็รู้
ผู้อำนวยการก็ใจกว้าง ใครที่สามารถทำข้อสอบของคลาสเด็กอัจฉริยะได้คะแนนเต็มในการสอบได้ อยากจะทำอะไรก็เชิญ
แต่หลังจากขึ้นชั้นมอหกก็จะเป็นการจำลองการสอบแบบเดียวกันหมดแล้ว แทบจะสอบอาทิตย์ละครั้ง พอรู้เรื่องนี้อิ๋งจื่อจินก็ยื่นเรื่องกับผู้อำนวยการว่าเธอรอสอบเข้ามหาวิทยาลัยเลยดีกว่า
อาทิตย์ละครั้งมือได้หักพอดี
ฮู่เฉิงมีถนนเก่าแก่อยู่เส้นหนึ่งที่อนุรักษ์อาคารโบราณเอาไว้ ตอนนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปแล้ว
แต่บ่ายของวันธรรมดา อีกทั้งยังแดดแรง คนไม่เยอะเท่าไร
ฟู่อวิ๋นเซินหันมามองเด็กสาวที่อยู่ข้างๆ ขนตาของเขาขยับ
“เยาเยา อีกสักระยะอยากออกไปเที่ยวไหม”
อิ๋งจื่อจินกินไอศกรีมโคน “ไปไหนเหรอ”
“อืม…” ฟู่อวิ๋นเซินเงียบไปชั่วครู่ เขายิ้ม “ถือว่าเป็นที่สนุก เธอน่าจะชอบ”
อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “งั้นก็ไปสิ”
ฟู่อวิ๋นเซินได้ฟังก็หางตาโค้งมน “รับปากเร็วขนาดนี้ไม่กลัวพี่ชายเอาไปขายเหรอ”
“ไม่กลัว ควรเป็นฉันที่ขายคุณมากกว่า”
“?”
อิ๋งจื่อจินหันหน้ามาพิจารณาเขาสองสามวินาที “หน้าตาดี รูปร่างดี นิสัยก็ใช้ได้ คุณหนูตั้งเยอะแยะอยากได้ เอาไปประมูลราคาคงสูงน่าดู”
เธอจะทำเงินได้มากทีเดียว
“เยาเยา ใจดำแล้วนะ” ฟู่อวิ๋นเซินพิงด้านหลัง หัวเราะเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น “พูดผิดไปหน่อยนะ นิสัยไม่ดีต่างหาก”
“ฉันว่าก็ดีออก” เหมือนอิ๋งจื่อจินนึกอะไรขึ้นได้ หยิบครีมกันแดดออกมาจากกระเป๋าเป้ “ฉันปรับปรุงใหม่ ยังไม่เคยให้ใครลอง”
ยังคงเป็นน้ำเสียงราบเรียบ โทนเสียงเย็นชา สีหน้าไร้ความรู้สึก แต่พอฟังแล้วกลับชวนให้หวั่นไหว
“พี่ชายลองไหม”
“…”
…
สถานที่จัดงานรอบตัดสินครั้งนี้อยู่ภายในหอประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัยศิลปะรอยัลแห่งยุโรป
รอบชิงชนะเลิศจัดขึ้นวันที่ยี่สิบสาม เดือนกรกฎาคม เริ่มเวลาหนึ่งทุ่ม
ดังนั้นช่วงบ่ายของวันนั้น หลังจากที่ชูกวงมีเดียหารือกับฝ่ายคณะกรรมการของมหาวิทยาลัยศิลปะรอยัลแห่งยุโรปแล้ว สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกโพสต์ภาพชุดของหญิงชายอย่างละชุด
แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ไม่ว่าชุดผู้ชายจะเป็นชุดไหน ชุดของผู้หญิงก็ต้องเป็น ‘หงส์แดง’ เท่านั้น
การที่หวาซิ่วโพสต์ชุดออกไปก่อน เดิมทีก็สร้างความไม่พอใจให้เหล่าคณะกรรมการมากแล้ว
โดยปกติถ้ายังประกวดไม่เสร็จจะห้ามเปิดเผยผลงานเข้าประกวดออกไป
แอทซังเย่าจือ : [เจอกันถ่ายทอดสดเย็นนี้นะครับ]
ไม่ถึงหนึ่งนาทีคอมเมนต์ทะลุหมื่น
[ต้องบอกเลยว่าทรัพยาการของชูกวงมีเดียมันดีจริงๆ พี่ฉันเพิ่งเข้าไปก็ได้ไปเมืองนอกแล้ว ซิงเฉินมันขยะ]
[ลูกจ๋า อย่าหาว่าแม่บ่นเลยนะ โพสต์รูปเยอะๆ หน่อยได้ไหม แม่ไม่มีรูปไปตัดต่อคลิปแล้ว]
[ลบซะๆ รีบลบเลยนะ ลืมแล้วเหรอว่าห้ามเรียกลูกจ๋า พวกเราเป็นแม่ยกกันแบบส่วนตัว ภายนอกพวกเราเป็นแฟนคลับสาวแฟนคลับรุ่นป้า อย่าให้เย่าจือรู้สิ]
ซังเย่าจือที่อ่อนไหวกับคำว่าลูกจ๋าเห็นคอมเมนต์นี้แล้ว “…” เหอๆ
ซังเย่าจือโพสต์เวยปั๋วเสร็จ เซี่ยมั่นอวี่ก็โพสต์บ้างตามแผนโปรโมตของชูกวงมีเดีย
แอทเซี่ยมั่นอวี่ : [รูปเก้าช่องไม่มี เจอกันถ่ายทอดสดเย็นนี้ค่ะ]
เซี่ยมั่นอวี่เป็นคนถ่อมตัวมาตลอด ถึงแม้จะความนิยมไม่สูง แต่แฟนคลับที่เหนียวแน่นก็มีเยอะพอสมควร
[เบบี๋อวี่ ในที่สุดก็จำพาสเวิร์ดเวยปั๋วได้แล้วเหรอลูก]
[พี่สาวฉันบุคลิกเอาอยู่ สายตาแบบนี้ รูปร่างแบบนี้ เลิศ!]
เวยปั๋วสองโพสต์นี้ไม่ต้องดันกระแสก็ติดชาร์ตคำค้นอย่างรวดเร็ว
[ถึงแม้แต่ว่า พวกเธอรู้สึกไหมว่าชุดนี้ของราชินีภาพยนตร์เซี่ยเหมือนกับจื่อเย่ว์ของพวกเรามาก ลายตรงนั้น เหมือนกันหรือเปล่า]
[มันเรื่องอะไรกัน เซี่ยมั่นอวี่เป็นราชินีภาพยนตร์ไม่ใช่เหรอ สองรางวัลตุ๊กตาทองไม่ใช่เหรอ โด่งดังขนาดนั้นแล้ว คงไม่ถึงกับโป๊ะแตกเพราะจื่อเย่ว์ของพวกเราหรอกนะ]
[น้ำเสียงอวดดีแบบนั้นมันอย่างไร ราชินีภาพยนตร์ก็ไม่ได้ทำตัวอวดดีขนาดนั้นหรือเปล่า]
[เซี่ยมั่นอวี่เป็นรุ่นพี่เป็นราชินีภาพยนตร์จื่อเย่ว์เป็นแค่เด็กใหม่ แต่ชุดนี้เธอโพสต์เมื่อห้าวันก่อน รุ่นพี่กรุณาอย่าลดตัวมาโป๊ะแตกนะคะ (อีโมชันยิ้ม)]